ในแต่ละปี มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อให้ตอบสนองกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้คน อำนวยความสะดวกสบาย ให้สามารถใช้ชีวิตได้ง่ายและดีขึ้น รวมไปถึงในส่วนภาคธุรกิจ อัตราการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้น ก็เป็นตัวเร่งที่ผลักดันให้มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด
และเมื่อพูดถึงเทรนด์เทคโนโลยีทางฝั่งของ 'สมาร์ตโฟน' อย่างที่เราทราบกันดีว่า แม้ภาพรวมทางด้านเศรษฐกิจจะหดตัวลงในช่วงระยะ 2 - 3 ปีนี้ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่เบื้องหลังด้านการพัฒนาเทคโนโลยีนั้นยังคงก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดนิ่ง เรียกได้ว่าบรรดาผู้ผลิตสมาร์ตโฟนต่างต้องเจอกับความท้าทายใหม่ ๆ หลายอย่าง ทั้งความต้องการที่เพิ่มขึ้นและมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอของผู้ใช้งาน ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง และที่สำคัญคือเรื่องของวิวัฒนาการเทคโนโลยีที่เริ่มจะเหมือนกับว่าไม่รู้จะไปต่อที่ตรงไหนดี
อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่ติดตามข่าวคราวความคืบหน้าของเทรนด์เทคโนโลยีอยู่เสมอ จะเห็นได้ว่าเทรนด์สมาร์ตโฟนใหม่ ๆ ก็ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง บางครั้งแม้จะไม่ใช่แบบ All New แต่เป็นการผสมผสานเข้ากับส่วนอื่น ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ใช้งาน ตามมาดูกันค่ะว่าในปีนี้มีเทรนด์เทคโนโลยีสมาร์ตโฟนเด่น ๆ ที่เราจะได้เห็นและสัมผัสกันบ้าง
1. มือถือหน้าจอพับ Flip / Fold
หลังจากปล่อยให้ Samsung ทำตลาดอยู่เจ้าเดียวมาพักใหญ่ กับสมาร์ตโฟนจอพับได้อย่าง Galaxy Z Flip และ Galaxy Z Fold ส่วนแบรนด์อื่น ๆ ก็ไม่ได้หยุดนิ่ง เพราะต่างก็มีการพัฒนา 'จอพับ' ของตัวเอง ทั้ง HUAWEI, Xiaomi, Honor, OPPO แต่ยังมีการวางขายเฉพาะ Local เท่านั้น และล่าสุดกับการเปิดให้ผู้สนใจในไทยได้ทดลองสัมผัสกับ Find N2 สมาร์ตโฟนจอพับของ OPPO เมื่อช่วงปลายปี 2022 ที่ผ่านมา แถมยังมีข่าวแว่วมาว่าปีนี้จะได้สัมผัสกับ OPPO Find N2 Flip แน่ ๆ (เพราะมีรายชื่อผ่าน กสทช. เรียบร้อยแล้ว) ทำให้กระแสของสมาร์ตโฟนจอพับคึกคักและได้รับความสนใจอีกระลอกใหญ่ เรียกว่าเทรนด์สมาร์ตโฟนจอพับจะยังคงอยู่กับเราในปีนี้
หน้าจอ Samsung 'Flex Hybrid'
นอกจากนี้ ในอนาคตเราจะยังมีโอกาสได้สัมผัสกับ 'จอพับ' ในรูปแบบอื่น ๆ เพิ่มขึ้นด้วย อย่างเช่น หน้าจอของ Samsung ที่นำออกมาโชว์ที่งาน CES 2023 ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแบบพับได้ 2 หน้า ทั้งด้านในและด้านนอกแบบ 360 องศา หรือหน้าจอ Samsung Flex Hybrid OLED หน้าจอแบบพับและเลื่อนขยายขนาดได้ หรือจะเป็น Slidable Flex Solo และ Slidable Flex Duet ที่สามารถดึงขยายหน้าจอออกมาจากด้านข้างได้ ล้ำสุด ๆ
2. กล้องคุณภาพสูงใกล้เคียง DSLR
ในเรื่องของประสิทธิภาพทางด้านกล้องถ่ายภาพ เรียกได้ว่าแต่ละแบรนด์ต่างงัดความสามารถล้ำ ๆ ออกมาสู้ไม่ถอย ที่เห็นได้ชัดช่วงก่อนหน้านี้กับสมาร์ตโฟนกล้องเลนส์ซูม ที่แข่งกันระยะซูมกันแบบดุเดือด หรือจะเป็นการไฮไลท์ลูกเล่นใหม่ ๆ ที่คู่แข่งยังไม่มี อย่างเช่น โหมด Microscope บน
OPPO Find X3 Pro รวมไปถึงการจับมือร่วมกับแบรนด์กล้องชื่อดัง เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพด้านการถ่ายภาพให้เหนือขึ้นไปอีกขั้น เช่น OnePlus x Hasselblad, OPPO x Hasselblad, vivo x ZEISS, Xiaomi x Leica เป็นต้น
สำหรับเทรนด์ของปีนี้ กล้องถ่ายภาพของสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ที่วางจำหน่ายในปี 2023 จะแข่งกันในเรื่องของ 'รายละเอียด' ที่จะใส่ใจในคุณภาพของไฟล์ภาพมากขึ้น และเมื่อพูดถึงรายละเอียด ก็ต้องพูดถึงความละเอียดด้วยเช่นกัน โดยความละเอียดสูงสุดของกล้องสมาร์ตโฟนในตลาดตอนนี้อยู่ที่ 200MP หรือจะเรียกว่าเรากำลังอยู่ในยุคความละเอียด 200MP ก็ว่าได้ จริง ๆ แล้ว เทรนด์นี้เริ่มขยับมาตั้งแต่เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว เริ่มต้นด้วยการเปิดตัว Motorola X30 Pro สมาร์ตโฟนกล้อง 200 ล้านพิกเซล รุ่นแรกของโลก ตามมาด้วย
Xiaomi 12T Pro สมาร์ตโฟนที่มาพร้อมกล้อง 200 ล้านพิกเซล รุ่นแรกในไทย และล่าสุดในปี 2023 นี้ กับ
Samsung Galaxy S23 Ultra สมาร์ตโฟนกล้อง 200 ล้านพิกเซล ในขณะที่สมาร์ตโฟนระดับ Entry - Mid Range ก็จะมีการใช้เซนเซอร์ภาพและเลนส์กล้องขั้นสูง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของภาพถ่ายที่มีรายละเอียดและความคมชัดที่ดีขึ้นด้วยเช่นกัน
3. การชาร์จที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
ทางด้านของเทคโนโลยีชาร์จเร็ว ต้องบอกว่ามีมาให้เห็นกันเรื่อย ๆ อยู่แล้ว ซึ่งเทรนด์ในปีนี้ ก็น่าจะยังอยู่กันที่เรื่องของความเร็วแรงในการชาร์จ จากแต่ก่อนที่เราจะได้สัมผัสกับเทคโนโลยีชาร์จเร็วเฉพาะในมือถือรุ่นเรือธงเท่านั้น เพราะสมาร์ตโฟนในรุ่นต่ำลงมาก็จะเพิ่มประสิทธิภาพทางด้านการชาร์จให้รวดเร็วขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งตอนนี้สมาร์ตโฟนรุ่นท็อปก็พัฒนาความแรงขยับไปจนถึง 240W แล้ว อย่าง realme GT Neo 5 ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้วในประเทศจีน หรือชื่อ realme GT3 ในเวอร์ชัน Global ที่เปิดตัวอย่างทางการในงาน Mobile World Congress (MWC) 2023 คาดว่าบ้านเราก็น่าจะมีโอกาสได้สัมผัสกันด้วย ซึ่งนอกจากการชาร์จที่รวดเร็วขึ้นแล้ว สมาร์ตโฟนที่ออกใหม่ในปีนี้ก็จะมีรุ่นที่สามารถรองรับการชาร์จไร้สายได้เพิ่มมากขึ้นด้วย
4. เทคโนโลยี LPDDR5X และ UFS 4.0
ในปีนี้คาดว่าเราจะได้เห็นการยกระดับไปใช้หน่วยความจำแบบใหม่ล่าสุด LPDDR5X RAM และ UFS 4.0 ROM มากขึ้น โดย LPDDR5X RAM ที่ใช้ในสมาร์ตโฟน รองรับความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงถึง 8.5Gbps ซึ่งเมื่อเทียบกับ LPDDR5 ที่มีความเร็ว 6.4Gbps ถึง 1.3 เท่า และยังใช้พลังงานน้อยกว่า 20% ในขณะที่ UFS 4.0 ROM มีความเร็วในการอ่านข้อมูลสูงสุด 4200MB/s และความเร็วการเขียนข้อมูลสูงสุด 2800MB/s ซึ่งเร็วกว่าแบบ UFS 3.1 ถึง 2 เท่า ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะช่วยทางด้านการประมวลผล ทำให้สมาร์ตโฟนสามารถตอบสนองได้รวดเร็ว เปิดแอปพลิเคชันได้พร้อมกัน หลายแอปฯ เรียกดูไฟล์ ลบไฟล์ต่าง ๆ ได้รวดเร็วขึ้น
สำหรับสมาร์ตโฟนที่มีการเปิดตัวใช้ชิป LPDDR5X RAM และ UFS 4.0 ROM แล้ว ได้แก่ realme GT2 Explorer Master Edition ที่มาพร้อมกับ LPDDR5X RAM ในขณะที่ ROM ยังใช้เป็นแบบ UFS 3.1 ต่อด้วย Samsung Galaxy S23 Series และ OnePlus 11 5G กับการใช้ทั้ง LPDDR5X RAM และ UFS 4.0 ROM ซึ่งเปิดตัววางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทยเรียบร้อยแล้ว ตามมาด้วย Xiaomi 13 Series ที่แม้จะยังไม่มีกำหนดการเปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าแฟนชาวไทยจะได้สัมผัสกันเร็ว ๆ นี้ (เพราะพี่เขามีรายชื่อผ่าน กสทช. เรียบร้อยแล้ว) ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่จะมาพร้อมกับ LPDDR5X RAM และ UFS 4.0 ROM เช่นเดียวกัน
5. การรักษาความปลอดภัย (Cyber Security)
จากหลายข่าวที่เป็นกระแสในช่วงนี้ กับการโดนโจมตีทางไซเบอร์ การรั่วไหลของข้อมูล และไวรัสต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนสมาร์ตโฟน ทำให้แต่ละภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าเป็นทางฝั่งของผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน รวมทั้งแบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ตโฟน ต่างให้ความสำคัญและใส่ใจกับเรื่องของระบบรักษาความปลอดภัยมากขึ้น จึงถือได้ว่า 'เทรนด์เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว' จะถูกยกขึ้นมาได้เห็นกันมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น Samsung ที่ถึงแม้ว่าผู้ใช้งานส่วนใหญ่จะรู้จักกับ SAMSUNG Knox ฟีเจอร์ความปลอดภัยของซัมซุงกันดีอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ ภายในงาน Thailand Mobile Expo 2023 ทางแบรนด์ก็ยังได้มีการตอกย้ำว่าผู้ใช้งานสมาร์ตโฟน Samsung Galaxy จะได้รับความปลอดภัยและความมั่นใจในการใช้งาน สามารถทำงานหรือธุรกรรมส่วนตัวผ่านสมาร์ตโฟนได้อย่างสบายใจ
และนี่คือ 5 เทรนด์เทคโนโลยีบนสมาร์ตโฟนเด่น ๆ ของปี 2023 ที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งค่ะ บางอย่างเราก็ได้สัมผัสกันแล้ว แต่บางอย่างที่ยังไม่ได้เอ่ยถึง ทั้งเทคโนโลยีที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา กำลังจดสิทธิบัตรหรือที่มีการจดสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการ ก็น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ต้องบอกว่าน่าตื่นเต้นมาก ๆ ที่ในอนาคตอันใกล้เรามีโอกาสจะได้สัมผัสกับเทคโนโลยีอันน่าทึ่งเหล่านี้