Jabra Elite 5 เป็นหูฟัง True Wireless ที่ผมได้มาหลายเดือนแล้วครับ แต่ไม่มีจังหวะเอามาเขียนรีวิวเลย จนถึงตอนนี้จากราคาเปิดตัว 5,290 บาท มาถึงวันนี้ราคาปรับลงมาได้น่าสนใจมากๆครับ เหลือ 4,990 บาท เท่านั้น ผมยกให้เป็นหูฟัง True Wireless ที่คุ้มค่า คุ้มราคามากๆเลยครับ (จริงๆตั้งแต่ตอนเปิดตัวผมก็ว่ามันคุ้มมากๆแล้วนะ) สำหรับ Jabra Elite 5 จะมาพร้อมไมค์ 6 ตัวเท่าตัวท๊อปเลยครับ ทำให้เสียงสนทนามีความชัดเจน และมีมิติของเสียงสนทนาที่ดีมากๆ ใครหาหูฟังสำหรับการสนทนารุ่นนี้ตอบโจทย์คุณอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวนคุณภาพสูง Hybrid Active Noise Cancellation (ANC) ที่เงียบมากจริงๆครับ ไม่ได้ยินเสียงภายนอกเลย และยังมีระบบ Hearthrough ที่ช่วยให้เราได้ยินเสียงรอบข้างโดยที่ไม่ต้องถอดหูฟังออก รวมทั้งรองรับมาตรฐานกันน้ำและฝุ่นระดับ IP55 ทำให้เหมาะในการสวมใส่ออกกำลังกาย
Jabra Elite 5 มาพร้อมกล่องที่ดูดีมากครับ ดูพรีเมี่ยม สวยงาม ภายในประกอบด้วย
- หูฟัง Jabra Elite 5
- Charging Case
- Silicone Ear Tip มาให้ 5 ชุด (รวมที่ติดอยู่ในหูฟังด้วย)
- สาย USB-C
- คู่มือ
Jabra Elite 5 จะมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Gold Beige และ Titanium Black ซึ่งสวยงามทั้งสองสีเลยครับ สำหรับที่ผมนำมารีวิวจะเป็นสีดำ Titanium Black ตัวเคสชาร์จและตัวหูฟังของรุ่นนี้มีขนาดกะทัดรัด และเบามากๆ รวมทั้งเลือกใช้วัสดุที่ดี ทำให้ใส่แล้วรู้สึกสบาย ไม่ระคายเคือง สามารถใส่ฟังเพลงต่อเนื่องเป็นเวลานานๆได้อย่างไม่อึดอัดเลย สำหรับดีไซน์เห็นครั้งแรกอาจจะไม่รู้สึกว้าว เพราะออกแบบเรียบๆ แต่ยิ่งดูยิ่งสวยนะครับ ดูเท่ และผิววัสดุดีมากๆ ด้านหน้าจะมีไฟแสดงสถานะ, ด้านหลังมีพอร์ท USB-C และด้านล่างจะมีสัญลักษณ์ QI ชาร์จไร้สาย การเชื่อมต่อทำได้อย่างรวดเร็วมาก มาพร้อม Bluetooth 5.2 รองรับ Google Fast Pair
Jabra Elite 5 รองรับ CODEC SBC, AAC, aptX มาพร้อมไดร์เวอร์ ขนาด 6 มม. สามารถฟังเพลงได้หลากหลายแนว ไม่เน้นเบสมากเกินไป เสียงกลางขับได้ดีมาก เสียงใสสะอาดๆ และเสียงเบสนุ่มนวล ระบบตัดเสียงรบกวน Hybrid Active Noise Cancellation (ANC) ควบคุมการทำงานโดยชิป Qualcomm QCC3050 เป็นระบบตัดเสียงที่เงียบสนิตจริงๆ รองรับทั้งตอนสนทนา และฟังเพลง รวมทั้งรองรับ Hearthrough ที่ช่วยให้เราได้ยินเสียงรอบข้างโดยที่ไม่ต้องถอดหูฟังออก นอกจากนี้ยังมีไมค์ 6 ตัว เสียงสนทนาคมชัด เทียบเท่ารุ่นท๊อปเลยทีเดียว
Jabra Elite 5 ตามสเปคเมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จ จะสามารถใช้งานได้นานถึง 36 ชั่วโมง (ถ้าเปิด ANC จะเป็น 28 ชั่วโมง) และใช้งานต่อครั้งฟังเพลงแล้วเปิด ANC จะสามารถใช้งานได้นาน 7 ชั่วโมง โดยถ้าปิด ANC จะสามารถใช้งานได้นานขึ้นเป็น 9 ชั่วโมง ถือว่าใช้งานได้นานมากทีเดียวนะครับ พร้อมรองรับการชาร์จเร็ว โดยชาร์จเพียงแค่ 10 นาที สามารถฟังเพลงได้นานถึง 1 ชั่วโมงเลยครับ จากการทดสอบใช้งานจริงก็สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานอย่างประทับใจทีเดียว
Jabra Elite 5 จะทำงานร่วมกับแอป Jabra Sound+ รองรับทั้งบน iOS และ Android สามารถปรับแต่ง EQ, การตัดเสียงรบกวน, การควบคุมหูฟังได้อย่างละเอียด รวมทั้งสามารถไปลงทะเบียนรับประกันสินค้าผ่านแอปตัวนี้ได้เลยครับ สำหรับรุ่นนี้รับประกันยาวนาน 2 ปี สำหรับแอป Jabra Sound+ จะมีในส่วนของการปรับแต่งให้ดังต่อไปนี้ครับ
- สามารถตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ของตัวหูฟังแต่ละข้าง รวมทั้งเคสชาร์จได้
- โหมดเสียง สามารถเลือกเปิด-ปิด Hybrid Active Noise Cancellation (ANC) และ Hearthrough จากตรงนี้ได้
- ปรับแต่งอีควอไลเซอร์ (Equalizer) สามารถปรับแต่งอย่างละเอียดได้ด้วยตัวเอง หรือเลือกพรีเซ็ตแนวเสียงแบบสำเร็จรูปที่ทางแอปใส่มาให้ก็ได้ จะมีด้วยกัน 6 แบบ
- Soundscape เป็นเสียงที่ชวนให้เราผ่อนคลาย โดยจะมีให้เลือก 3 หัวข้อใหญ่ และมีเสียงให้เราฟังทั้งสิ้น 12 รูปแบบ
นอกจากนี้ยังสามารถเลือกการสั่งงานด้วยเสียง โดยจะรองรับทั้ง Siri, Google Assistant และ Alexa พร้อมการอัพเดตเฟิร์มแวร์ชุดหูฟัง, การตั้งค่าพื้นฐาน, ฟีเจอร์ Spotify Tab สายแตะที่หูฟัง 2 ครั้งเพื่อเข้าใช้งานแอป Spotify ได้ทันที รวมทั้งมีลูกเล่นค้นหาหูฟังผ่าน Apple Map ได้ด้วย ความแม่นยำดีมากครับ รวมทั้งการลงทะเบียนรับประกันหูฟังผ่านแอป คู่มือใมช้งาน และอื่นๆ ครบเครื่องและใช้งานได้ง่ายสมกับเป็นแบรนด์อย่าง Jabra จริงๆ
สำหรับการควบคุมหูฟัง (MyControls) จะมีลูกเล่นดังนี้ครับ
เพลงและสื่อ
- สำหรับหูฟังข้างขวา กดหนึ่งที เป็นการเล่น/หยุด, กดสองที เป็นการเล่นแท็กต่อไป, กดสามที เป็นการข้ามเล่นแท็กใหม่
- สำหรับหูฟังข้างซ้าย กดหนึ่งที เป็นการเปิดฟังก์ชั่น ANC/Hearthrough, กดสองที เป็นการเปิดแนะนำเสียง
สายเรียกเข้า
- สามารถเลือกกดหูฟังทั้งข้างขวาและข้างซ้าย กดหนึ่งที เป็นการเลือกรับสายเรียกเข้า, กดสองที เป็นการไม่รับสาย/วางสาย
สายที่กำลังคุยอยู่
- สามารถเลือกกดหูฟังทั้งข้างขวาและข้างซ้าย กดหนึ่งที ปิด-เปิดเสียงของสายที่เรากำลังคุยอยู่, กดสองที เป็นการวางสาย
Jabra Elite 5 จากที่ผมใช้งานมาประมาณ 3 เดือน ผมชอบมากนะครับ กลายเป็นหูฟัง True Wireless คู่ใจผมแทนตัวก่อนเลย ใครที่มองหาหูฟังที่เก่งรอบด้าน ทั้งเรื่องฟังเพลง (เสียงถูกจริตผมมากๆเลย) และการสนทนา ผมว่ารุ่นนี้คือคำตอบที่ดีมากๆเลยครับ ดีไซน์สวยพรีเมี่ยม วัสดุคุณภาพสูง ใส่สบาย น้ำหนักเบา แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน แถมราคายังน่าสนใจด้วยนะครับ ตอนนี้เหลือเพียงแค่ 4,990 บาท เท่านั้น เวลาจัดโปร Online ผมว่าราคาจะยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่เลยนะครับ