Sennheiser Momentum 4 Wireless หูฟังแบบ Full-Size รุ่นใหม่จากเซนไฮเซอร์ มาพร้อมดีไซน์สวยงามดูพรีเมี่ยม และเป็นการออกแบบใหม่หมดจดอีกด้วย คุณภาพเสียงทรงพลังและครอบคลุมได้ทุกแนว กับไดร์เวอร์ขนาด 42 มม. โดดเด่นด้วยระบบตัดเสียงรบกวน Adaptive Noise Cancellation (ANC) แบบอัตโนมัติ และมีโหมด Transparency ช่วยให้ได้ยินเสียงจากภายนอก โดยไม่ต้องถอดหูฟัง พร้อมไมโครโฟนบีมฟอร์มมิ่ง 4 ตัว จัดเต็มทุกการสนทนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รองรับการสั่งงานด้วยเสียง Siri และ Google Assistant พร้อมแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานานถึง 60 ชั่วโมง (แล้วแต่การใช้งานแต่ละบุคคล) มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ และสีขาว กับราคาที่น่าสนใจมากๆ 12,990 บาท เป็นหูฟังที่ผมสนใจตั้งแต่ได้ลองในงานเปิดตัวที่ผ่านมาเลยละครับ
ดีไซน์พรีเมี่ยมทุกรายละเอียด
Sennheiser Momentum 4 Wireless มาพร้อมกล่องที่ดูดีตามแบบฉบับของเซนไฮเซอร์ เปิดออกมาจะพบกระเป๋าใส่หูฟัง และแผ่นกระดาษแข็งเขียนว่า "Inspired by Music"
เปิดกระเป๋าจะพบกับตัวหูฟัง Sennheiser Momentum 4 Wireless, สายชาร์จ USB-C, สายหูฟัง 2.5 มม. แปลง 3.5 มม., หัวแจ็คสำหรับบนเครื่องบิน (Airplane Headphone Adapter) และคู่มือ เรียกได้ว่ามีมาให้ครบเลยครับ และจัดเป็นสัดส่วนพกพาสะดวก
Sennheiser Momentum 4 Wireless มีดีไซน์ที่ดูเรียบหรูพรีเมี่ยม วัสดุดูแข็งแรง ที่คาดด้านบนหุ้มด้วยผ้าให้ความรู้สึกที่ดีมากเวลาสัมผัส ฟองน้ำตรงหูฟังและด้านบนหนานุ่ม สวมใส่ได้อย่างสบาย ออกแบบให้สามารถสวมใส่ได้อย่างยาวนาน โดยไม่รู้สึกอึดอัด โดยด้านบนจะมีรอยบุ๋มเล็กน้อยซึ่งเป้นส่วนสำคัญในการออกแบบลดแรงกด เพื่อความสบายในการสวมใส่ครับ สำหรับฟองน้ำตรงหูฟังจะหุ้มด้วยหนัง PU นะครับ เวลาจะเปลี่ยนต้องส่งศูนย์ครับ ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้
ตัวหูฟังจะมีพอร์ท USB-C, แจ็คหูฟัง 2.5 มม. (มาพร้อมสายหูฟัง 2.5 มม. แปลง 3.5 มม.) รุ่นนี้สามารถใช้งานได้ทั้งไร้สาย และมีสายเลยนะครับ, ไฟ LED แสดงสถานะ, ปุ่ม Power, ไมโครโฟนทั้ง 2 ข้าง
การสวมใส่ เบา สบายกว่าที่คิด
Sennheiser Momentum 4 Wireless มีน้ำหนักเพียงแค่ 293 กรัม มีน้ำหนักเบามากเมื่อเทียบกับหูฟัง Full-Size ทั่วไป วัสดุและดีไซน์พรีเมี่ยม มอบสัมผัสที่ดีทั้งการจับถือ และสวมใส่ ผมเองใส่ฟังเพลงยาวๆประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง ก็ไม่รู้สึกระคาย หรือบีบรัดอะไรเลยครับ ใส่ได้สบายมากๆ และแน่นอนด้วยความเป็นหูฟังแบบ Full-Size ควรใส่ในห้องแอร์นะครับ ใส่เดินข้างนอกผมว่ามันจะร้อนหูไปซักหน่อย
การใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชั่น Sennheiser Smart Control
Sennheiser Momentum 4 Wireless ทำงานร่วมกับแอปพลิเคชั่น Sennheiser Smart Control ซึ่งรองรับทั้งบนระบบ Android และ iOS รองรับฟังก์ชั่นการปรับแต่ง EQ (Equalizer) สามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระตามใจชอบ 3 ย่านเสียง Bass, Mid, Treble หรือจะเลือกจากรูปแบบสำเร็จรูปที่มีมาให้ 6 รูปแบบก็ได้นะครับ ได้แก่ Rock, Pop, Dance, Hip Hop, Classical หรือ Movie ซึ่งจริงๆแล้วผมว่า Sennheiser Momentum 4 Wireless จูนเสียงมาดีมากๆเลยนะครับ เดิมๆสำหรับผมเพราะที่สุดแล้ว นอกจากนี้จะมีการปรับตั้งค่า Sound Check , Sound Zones , ANC และ Sidetone
ในส่วนการปรับแต่ง Adaptive Noise Cancellation (ANC) ตัวหูฟัง Sennheiser Momentum 4 Wireless ตัดเสียงรบกวนได้อย่างยอดเยี่ยมครับ เหมือนหลุดเข้าไปในโลกส่วนตัวจริงๆเลย และนอกจากนี้ยังมีโหมด Transparency ที่ช่วยให้เราได้ยินเสียงภายนอก แม้ในขณะที่เราใส่หูฟังอยู่ ช่วยให้ไม่ต้องถอดเข้าถอดออก โดยสามารถเลือกให้ทำงานแบบอัตโนมัติได้ด้วยนะครับ และในส่วนของการรับสายสนทนายังทำได้อย่างน่าประทับใจ เสียงสนทนาคมชัดทั้งทางฝั่งเรา และปลายสาย ด้วยไมโครโฟน Beamforming ใส่มาให้ที่หูฟังข้างละ 2 ตัว
รองรับการควบคุมด้วยระบบสัมผัส Touch Gestures
Sennheiser Momentum 4 Wireless รองรับการควบคุมด้วยระบบสัมผัส Touch Gestures การควบคุมการทำงานของหูฟังทำได้แม่นยำดีมากครับ ใช้งานง่าย และสามารถปรับค่าได้ที่แอปพลิเคชั่น Sennheiser Smart Control
คุณภาพเสียงน่าประทับใจ มาตรฐาน Sennheiser
สำหรับหูฟัง Sennheiser Momentum 4 Wireless รุ่นนี้มองเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของ Sennheiser ได้อย่างน่าประทับใจครับ เสียงโทนกลางที่อบอุ่นมีน้ำหนัก แต่มีความกว้างฟังแล้วไม่อึดอัด ช่วงเสียงสูงมีความชัดเจน รวมไปถึงรายละเอียดเสียงต่างๆแยกแยะได้ดีมากครับ มีลูกละเอียดที่เก็บได้ดีกว่ามาตรฐานปกติ สำหรับเบสรุ่นนี้ทำได้ดีครับ รู้สึกถึงมวลเบสที่มาเป็นลูกๆแต่ไม่กระแทกกระทั้น เป็นเบสที่สะอาด โดยรวมผมชื่นชอบหูฟังรุ่นนี้เป็นการส่วนตัวเลยครับ ยิ่งราคาเปิดตัว 12,990 บาท ทำราคามาได้ดีมากๆ ตอนที่เปิดราคามาผมนี่ร้องว้าวเลย ตอนแรกนึกว่าจะเปิดราคามาสูงกว่านี้ครับ ใครที่สนใจอยู่ต้องบอกว่าคุ้มค่าแน่นอน สามารถหาซื้อได้ที่ Sennheiser Web Shop และ Munkong Gadget นะครับ