ใครที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนเครื่องใหม่ในงบประมาณ 15,000 บาท ภายในงาน Mobile Expo 2022 รอบส่งท้ายปี 2565 อยู่ มาถูกที่แล้วล่ะครับ เพราะบทความนี้จะพาไปส่องตัวเลือกสมาร์ตโฟนที่น่าสนใจในช่วงราคานี้กัน กับโจทย์การใช้งาน เล่นเกม ทำงาน ถ่ายรูป เอาให้จบครบในรุ่นเดียว จะมีรุ่นไหนที่น่าซื้อในงานรอบนี้บ้างไปส่องพร้อมกันได้เลยครับ!!
1. iPhone SE (2022) | ราคาเริ่มต้น 17,900 บาท
iPhone SE (2022) | เปิดด้วยสมาร์ตโฟนที่เกินงบราคาของหัวข้อบทความนี้ไปพอสมควร เพราะล่าสุด Apple พึ่งปรับราคา iPhone SE (2022) ขึ้นอีกประมาณ 2,000 บาท ทำให้ราคาหลุดออกจากโซนงบ 15,000 บาท ไป แต่ด้วยจุดเด่นของ iPhone SE (2022) อยู่ที่เรื่องของชิปประมวลผล Apple Bionic A15 ที่จัดว่ามีประสิทธิภาพการทำงานที่ดี แรง และฉลาด
จึงทำให้เป็นอีกหนึ่งสมาร์ตโฟนน่าใช้มากที่สุดอีกรุ่นในช่วงราคา 15,000 บาท ซึ่งถ้าใครชอบ iOS และอยากได้สมาร์ตโฟน 5G ที่เด่นในเรื่องของการประมวลผล บริหารทรัพยากรบนเครื่องดีเยี่ยมก็ต้องยกให้รุ่นนี้เลย
| สเปกตัวเครื่อง
- หน้าจอแสดงผล IPS LCD Retina HD ขนาด 4.7 นิ้ว ความละเอียด 1334x750 พิกเซล (326PPI) รองรับการปรับสีตามสภาพแวดล้อม True Tone, Color P3
- CPU Apple Bionic A15
- GPU Apple GPU 4 Core
- หน่วยความจำ RAM 4GB
- หน่วยความจำ ROM 64GB / 128GB /256GB
- iOS 15 (Up to iOS16)
- กล้องหลังความละเอียด 12MP (F1.8) / Resolution Max VDO 4K 60fps
- กล้องหน้าความละเอียด 7MP (F2.2)
- ปลดล็อคด้วย TouchID
- รองรับ SIM Card คู่ (Nano SIM & eSIM)
- การเชื่อมต่อ
-- Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, 2.4/ 5GHz -- GPS, Glonass, BeiDou, Galileo, QZSS -- ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. -- พอร์ต Ligthning - กันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP67 (ความลึกไม่เกิน 1 เมตร ภายใน 30 นาที)
- แบตเตอรี่ 2018mAh
|
2. OnePlus Nord 2T 5G | ราคาเปิดตัว 14,990 บาท
OnePlus Nord 2T 5G | เป็นสมาร์ตโฟนที่ครบเครื่องในทุกไลฟ์สไตล์เลยจริง ๆ สำหรับในงบประมาณนี้ เพราะสเปกตัวเครื่องที่ทาง OnePlus ประเทศไทย จัดมาให้ทำเอานึกถึงสมัยที่ยังใช้นิยามแบรนด์เป็น Flagship Killer เลยทีเดียวครับ จุดเด่นของสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ นอกจากรองรับ 5G ในตัวแล้ว ยังเป็นสมาร์ตโฟนที่มีหน้าจอ AMOLED 90Hz, ชิป Dimensity 1300 ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดี และสามารถเล่นเกมที่ต้องการการประมวลด้านกราฟฟิกขั้นสูงได้
มีกล้องหน้า 32MP และกล้องหลักที่ใช้เซ็นเซอร์ Flagship อย่าง SONY IMX766 พร้อมระบบกันสั่น OIS ในตัว ยังไม่พอ! ยังใส่เทคโนโลยีชาร์จไว SUPERVOOC 80W พร้อมกับการันตีการอัปเดตทั้งเวอร์ชั่น Android OS และแพตความปลอดภัยตลอดการใช้งานอย่างน้อย 3 ปี มาให้ด้วย
| สเปกตัวเครื่อง
- หน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด 2400x1080 พิกเซล (409PPI) มีค่า Refresh rate 90Hz, รองรับ sRGB, P3 และ HDR10+
- CPU MediaTek Dimensity 1300
- GPU Mali G77 MC9
- หน่วยความจำ RAM 8GB / 12GB (LPDDR4x)
- หน่วยความจำ ROM 128GB / 256GB (UFS3.1)
- กล้องถ่ายรูปหลัก Triple Camera ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50MP (IMX766, F1.8, OIS)
- กล้องเลนส์ Ultrawide ความละเอียด 8MP (FOV 120 องศา, F2.2)
- กล้อง MonoChrome ความละเอียด 2MP (F2.2)
- Flash Dual LED
- กล้องหน้าความละเอียด 32MP (IMX615, F2.4)
- OxygenOS Base on Android 12
- รองรับซิมการ์ดคู่ (Nano SIM)
- การเชื่อมต่อ
-- 5G (SA & NSA) -- Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, 2.4/5GHz, 2x2MIMO -- Bluetooth 5.2 -- GPS, GLONASS, GALILEO, Beidou, NavlC -- พอร์ต USB Type-C (USB2.0) - ระบบปลดล็อกผ่านการสแกนนิ้วมือบนหน้าจอ
- แบตเตอรี่ 4,500mAh รองรับชาร์จไว 80W SUPERVOOC
|
3. vivo V25 (256GB) | ราคาเปิดตัว 14,999 บาท
VIVO V25 (256GB) | สมาร์ตโฟน V Series รุ่นล่าสุดจาก VIVO Thailand กับจุดเด่นหลัก 3 ด้านที่เป็นเอกลักษณ์ ประกอบด้วยการถ่ายภาพพอร์ตเทรตด้วยกล้องถ่ายรูปความละเอียดสูง 64MP พร้อมระบบกันสั่น OIS ขั้นเทพของวีโว่, งานออกแบบ Color Changing ที่ฝาหลังตัวเครื่องสามารถเปลี่ยนเฉดสีได้หลากหลายเมื่อมีสีมากระทบ และระบบชาร์จไว 44W FlashCharge
นอกจากนี้ VIVO V25 ยังมาพร้อมกล้องหน้าความละเอียดสูง 50MP สามารถขยายหน่วยความจำ RAM เพิ่มได้อีกสูงสุด 8GB จากการไปเอาพื้นที่ ROM มาใช้งานด้วยฟีเจอร์ Extended RAM ทำให้ตัวเครื่องสามารถตอบสนองในการทำงานได้เร็วขึ้นอีก เมื่อต้องใช้งานในระดับขั้นสูงขึ้น
ดังนั้นใครที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเป็นเมนหลัก VIVO V25 จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกับคุณแน่นอนครับ โดยทาง VIVO วางจำหน่าย VIVO V25 ด้วยกันสองรุ่นแบ่งตามขนาดความจุ ROM ถ้าใครต้องการลดงบลงอีกหน่อยก็สามมารถเลือกซื้อรุ่น ROM 128GB ที่ราคา 13,999 บาท ได้เช่นกัน
| สเปกตัวเครื่อง
- หน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด 2404x1080 พิกเซล
- CPU MediaTek Dimensity 900
- GPU Mali G68 MC4
- หน่วยความจำ RAM 8GB (LPDDR4x) + 8GB RAM Expansion
- หน่วยความจำ ROM 128GB / 256GB
- รองรับการเพิ่มหน่วยความจำด้วย MicroSD Card สูงสุด 1TB
- กล้องถ่ายรูปหลัก Triple Camera ประกอบด้วย
- กล้องถ่ายรูปหลักความละเอียด 64MP (OIS, F1.79)
- กล้องถ่ายรูปเลนส์ Ultrawide ความละเอียด 8MP (F2.2)
- กล้องถ่ายรูปเลนส์ Macro ความละเอียด 2MP (F2.4)
- กล้องหน้าความละเอียด 50MP (AF, F2.0)
- การเชื่อมต่อ
-- 5G (Dual SIM 5G) -- Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, 2.4/5GHz -- Bluetooth 5.2 -- GPS, GLONASS, GALILEO, QZSS, BEIDOU -- พอร์ต USB Type-C - Funtouch OS 12 Base on Android 12
- แบตเตอรี่ 4,500mAh รองรับชาร์จไว 44W FLASHCharge
|
4. MOTOROLA Edge 30 | ราคาเปิดตัว 12,999 บาท
Motorola Edge 30 | อาจบอกได้ว่าเป็นสมาร์ตโฟนแบรนด์นอกกระแสสักหน่อย เพราะหลายคนน่าจะลืมแบรนด์ "Hello Moto" กันไปแล้ว แต่อยากบอกตอนนี้เขายังทำตลาดมือถือในประเทศไทยอยู่นะครับ กลับมาลุยได้ 4-5 ปีแล้ว โดย Motorola Edge 30 เป็นสมาร์ตโฟนที่ให้สเปกตัวเครื่องมาน่าสนใจมาก จนผมต้องหยิบมาแนะนำกันในบทความนี้เลย กับจุดเด่นหลายด้านประกอบด้วย
จอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว มีค่า Refresh rate 144Hz, กล้องถ่ายรูป Triple Camera ความละเอียดสูง 50MP + 50MP + 2MP และมีกล้องหน้าความละเอียด 32MP ตัวเครื่องรองรับการใช้งานเครือข่าย 5G, WiFi 6E และรองรับซิมคู่ แถมยังใส่เทคโนโลยีชาร์จไว 33W TurboPower มาให้ด้วย
ในด้านของขุมพลังชิปประมวลผลเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ๆ ที่หยิบมาแนะนำอาจจะดูเด่นน้อยกว่า แต่ถ้าใครที่ชื่นชอบสมาร์ตโฟนที่ให้ความเอ็นเตอร์เทรนเวลารับชมคอนเทนท์หรือเกมได้เต็มอรรถรส พร้อมกับการรับรองสัญญาณไร้สายมาตรฐานล่าสุดของโลก ในเรทราคานี้ทาง Motorola เป็นแบรนด์หนึ่งเดียวที่จัดสเปกมาให้ครบทุกอย่าง
| สเปกตัวเครื่อง
- หน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 2400x1080 พิกเซล (Refresh rate 144Hz, Color 10Bits, HDR10+, DCI-P3)
- CPU Snapdragon 778G 5G
- GPU Adreno 642L
- RAM 8GB
- ROM 128GB
- Android 12 with MyUX
- กล้องถ่ายรูป Triple Camera ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50MP (F1.8, OIS)
- กล้องเลนส์ Ultrawide ความละเอียด 50MP (F1.5, FOV 118 องศา)
- กล้อง Macro ความละเอียด 2MP (F2.4)
- กล้องหน้าความละเอียด 32MP (F2.25)
- ลำโพงสเตอริโอ
- ไมโครโฟนคู่
- การเชื่อมต่อ
-- 5G -- Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, 2.4/5GHz/6E -- Bluetooth 5.2 -- GPS, A-GPS, GLONASS, GALILEO, LTEPP, SUPL -- พอร์ต USB Type-C - กันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP52 (กระเซ็น)
- แบตเตอรี่ 4,020mAh รองรับชาร์จไว 33W TurboCharge
|
5. OPPO Reno8 Z 5G | ราคาเปิดตัว 12,990 บาท
OPPO Reno8 Z 5G | สมาร์ตโฟนน้องเล็กสุดท้องของ Reno8 Series จาก OPPO ประเทศไทย เป็นสมาร์ตโฟนที่มาพร้อมนิยาม "The Portrait Expert" ซึ่งบ่งบอกถึงจุดเด่นของรุ่นนี้เป็นอย่างดี กับเรื่องของการถ่ายภาพพอร์ตเทรต โดยทางออปโป้ได้ใส่ลูกเล่นหรือฟีเจอร์ช่วยถ่ายภาพพอร์ตเทรตเข้ามาบนเครื่องหลากหลายมาก
ทำให้ภาพถ่ายพอร์ตเทรตที่ผ่านกล้องของ OPPO Reno 8 Z 5G ออกมาดูมืออาชีพ สวยคมชัด หรือจะใส่ไอเดียลงไป เพื่อทำให้ภาพดูแหวกแนวไปเลยก็สามารถทำได้ นอกจากนี้ดีไซน์ตัวเครื่องก็เป็นอีกจุดเด่นของรุ่นนี้ที่ทางออปโป้รังสรรค์ออกมาได้สวยไม่แพ้รุ่นพี่เลยทีเดียว ดังนั้นใครที่มองหาสมาร์ตโฟนที่เน้นถ่ายภาพพอร์ตเทรตให้ดูแปลก ด้วยลูกเล่นต่าง ๆ บอกได้เลยว่า OPPO Reno8 Z 5G จะเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นที่ตอบโจทย์ให้มากที่สุดในช่วงราคานี้
| สเปกตัวเครื่อง
- หน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.43นิ้ว ความละเอียด 2400x1080 พิกเซล (DCI-P3, sRGB, 10bits)
- CPU Snapdragon 695
- GPU Adreno 619
- RAM 8GB (LPDDR4x)
- ROM 128GB (UFS 2.2)
- Android 12 with MyUX
- กล้องถ่ายรูป Triple Camera ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 64MP (F1.7)
- กล้อง MonoChrome ความละเอียด 52MP (F2.4, FOV 89 องศา)
- กล้อง Macro ความละเอียด 2MP (F2.4)
- กล้องหน้าความละเอียด 16MP (F2.4)
- รองรับการปลดล็อคด้วยสแกนลายนิ้วมือ
- ColorOS 12.1 Base on Android 12
- การเชื่อมต่อ
-- 5G (Dual SIM 5G) -- Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, 2.4/5GHz -- Bluetooth 5.1 -- GPS, A-GPS, BeiDou, GLONASS, Galileo, และ QZSS -- พอร์ต USB Type-C - แบตเตอรี่ 4,500mAh รองรับชาร์จไว 33W SUPERVOOC
|
อ่านบทความเกี่ยวกับงาน Mobile Expo 2022