HUAWEI FreeBuds SE เป็นหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุดที่ทาง หัวเว่ย นำเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยค่ะ สำหรับรุ่นนี้ มาพร้อมกับจุดเด่นหลักทางด้านการออกแบบ ในดีไซน์แบบกึ่งอินเอียร์ (Semi In-ear) ให้การสวมใส่ที่สบายต่อหูเป็นพิเศษ พร้อมคุณภาพเสียงใส คมชัด "Crystal Clear Sound Quality" และแบตเตอรี่ที่รองรับการใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 24 ชั่วโมง เติมอรรถรสผ่านการรับฟังได้ในราคาสุดคุ้มค่าเพียง 1,899 บาทเท่านั้น
ในครั้งนี้ ต้องขอชื่นชมในเรื่องของการออกแบบมาก ๆ เพราะการดีไซน์แบบกึ่งอินเอียร์นั้น ทำให้การสวมใส่ชุดหูฟังกระชับและสบายขึ้นกว่าแบบอื่น ๆ มากค่ะ ซึ่งเชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยประสบกับปัญหาที่ว่าพอใส่หูฟังแบบ Open-fit ก็รู้สึกหลวมเกินไป หรือพอเลือกเป็นแบบ In-ear พอใช้งานไปนาน ๆ บางครั้งก็รู้สึกอึดอัด ซึ่งหัวเว่ยเลือกพัฒนา 'ทางสายกลาง' นี้ขึ้นมาได้แบบถูกจุด แถมในเรื่องของคุณภาพเสียงเองก็ไม่ได้น้อยหน้ากัน ขอยกให้ HUAWEI FreeBuds SE เป็นหูฟังไร้สายอีกหนึ่งรุ่นในตลาดตอนนี้ที่น่าซื้อมาไว้ใช้งาน เมื่อเทียบคุณภาพกับราคาแล้ว บอกเลยว่าคุ้มเกินคุ้ม!
แกะกล่อง (Unbox)
แพ็กเกจของ HUAWEI FreeBuds SE มาในรูปแบบกล่องทรงสี่เหลี่ยมสีขาวเช่นเดียวกับกล่องหูฟังรุ่นอื่น ๆ ของแบรนด์เลยค่ะ โดยผิวสัมผัสของตัวกล่องจะเป็นแบบด้าน ส่วนโลโก้และตัวอักษรต่าง ๆ จะใช้เป็นสีทอง พร้อมมีรูปของผลิตภัณฑ์ให้เห็นอย่างชัดเจน และเมื่อแกะกล่องออกมา ก็จะพบกับพื้นที่ภายในที่ถูกแบ่งออกเป็น 2 โซน ซึ่งแยกการจัดวางอุปกรณ์ต่าง ๆ ไว้อย่างมีระเบียบ ทำให้สามารถหยิบออกมาใช้งานได้อย่างสะดวก
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- หูฟัง HUAWEI FreeBuds SE
- เคสชาร์จ
- สายชาร์จ USB-C
- จุกหูฟังสำหรับเปลี่ยน 3 คู่ (ขนาดใหญ่ กลาง และเล็ก โดยขนาดกลางจะถูกติดตั้งมาแล้วบนหูฟัง)
- คู่มือเริ่มต้นใช้งาน ข้อมูลความปลอดภัย และบัตรรับประกัน
การออกแบบ (Design)
หูฟังไร้สาย HUAWEI FreeBuds SE ถูกออกแบบมาในสไตล์ของหูฟังแบบ Semi In-ear ซึ่งทางหัวเว่ยได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ตอบรับกับคนที่ยังคงรู้สึกขาด ๆ เกิน ๆ กับการใช้หูฟังไร้สายทั้งแบบ Open-fit และ In-ear สำหรับดีไซน์แบบ Semi In-ear หรือกึ่งอินเอียร์นี้ ทางแบรนด์ได้บอกเล่าเอาไว้ว่าเป็นการปรับเพื่อหาจุดตรงกลาง มอบความสมดุลที่สมบูรณ์แบบ เพื่อให้มีความพอดีกับผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น ซึ่งจุดนี้ต้องขอชมว่าทำได้ดีจริงสมคำบอกเล่าค่ะ
HUAWEI FreeBuds SE มีให้เลือกด้วยกัน 2 สี 2 สไตล์ คือ สีฟ้า (Blue) และสีขาว (White) อันเป็นเฉดสีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความไร้น้ำหนักของเมฆและท้องฟ้ายามพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตก แสงของพระอาทิตย์ที่สาดส่องริมฝั่งแม่น้ำ มอบเสน่ห์ของสีขาวที่มาพร้อมกับแสงสะท้อนของแสงแดด และสีฟ้าที่ชวนให้หลงใหล
เคสชาร์จทรงรีที่ถูกออกแบบมาให้มีขนาดกะทัดรัด พอดีมือ หยิบจับและพกพาสะดวกสบาย มาพร้อมพื้นผิวมันวาวที่มีความสวยงามและหรูหราในเวลาเดียวกัน ด้านบนของฝามีโลโก้ HUAWEI เมื่อเปิดฝาก็จะพบกับแป้นวางและชุดหูฟัง โดยบริเวณแป้นวางจะมีปุ่มกดสำหรับการเชื่อมต่อ Blutooth และแป้นวางมีแม่เหล็กในการดูดหูฟังเพื่อไม่หลุดร่วงออกจากกล่องเคสได้ง่าย ส่วนด้านหน้ามีไฟแสดงสถานะ และเมื่อพลิกไปที่ตลับด้านหลังก็จะเป็นพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB-C สำหรับชาร์จ
สวมใส่สบายด้วยน้ำหนักของตัวหูฟังที่เบาเพียง 5.1 กรัมเท่านั้น พร้อมเพิ่มความพอดีให้กับรูหูด้วยซิลิโคนครอบหูที่ทำจากวัสดุน้ำหนักเบา ยืดหยุ่น และเป็นมิตรกับผิวหนัง โดยมีให้เลือก 3 ขนาด (ใหญ่ - กลาง - เล็ก) ที่สามารถเลือกใช้งานขนาดของจุกซิลิโคนได้ตามความต้องการ
ด้านบนของหูฟังเป็นตำแหน่งของลำโพงเสียง และบนหูฟังจะมีไมโครโฟนข้างละ 2 ตัว ด้านบนเป็นไมค์ตัดเสียงรบกวน (Noise Reduction MIC) ที่จะทำหน้าที่ตรวจจับและจัดการเสียงรบกวนในระหว่างการโทรให้ลดน้อยลง
ส่วนด้านล่างของก้านหูฟังเป็นตำแหน่งของไมค์สนทนา (Talk MIC) และตำแหน่งของ Touch Sensor สำหรับใช้แตะเพื่อสั่งการผ่านหูฟัง จะอยู่บริเวณก้านของตัวหูฟัง ถัดลงมาจากไมค์ตัดเสียงรบกวน
การใช้งาน (Usage)
HUAWEI FreeBuds SE สามารถเชื่อมต่อได้ง่าย รวดเร็ว และเสถียร ขอยกนิ้วให้กับคำว่า 'เชื่อมต่อง่าย' ที่ใช้ได้จริง โดย FreeBuds SE รองรับการใช้งานได้ทั้งบนพีซี โน้ตบุ๊ก สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต ทั้งในระบบ Android และ iOS ด้วย Bluetooth 5.2 พร้อมระบบตรวจจับการเชื่อมต่ออัตโนมัติ Pop-up Pair (สำหรับสมาร์ตโฟน HUAWEI ที่ใช้ EMUI 10 ขึ้นไป) เพียงเปิดฝาเคสชาร์จ หน้าต่าง Pop-up ก็เพื่อให้จับคู่สมาร์ตโฟนให้ทันที
ขั้นตอนการเชื่อมต่อ (Pairing)
- เปิดฝาเคสชาร์จ วางหูฟังไว้ด้านใน และกดปุ่มฟังก์ชันค้างไว้ 2 วินาที จนกระทั่งไฟแสดงสถานะกะพริบเป็นสีขาว เพื่อให้หูฟังเริ่มการจับคู่
- เปิดใช้งานบลูทูธบนอุปกรณ์ที่ต้องการจะจับคู่กับหูฟัง จากนั้นค้นหาและเชื่อมต่อกับหูฟัง (หูฟังจะเข้าสู่โหมดการจับคู่โดยอัตโนมัติเมื่อเปิดเคสเป็นครั้งแรก)
การควบคุมหูฟัง (Shortcut Controls)
หูฟัง HUAWEI FreebBuds SE สามารถควบคุมการใช้งานได้จากตัวหูฟังทั้งสองข้างด้วยระบบสัมผัส โดยรองรับคำสั่งดังนี้
-- การแตะ 2 ครั้ง เพื่อ
- เล่น / หยุดชั่วคราว
- รับสาย / วางสาย
- เพลงต่อไป
- เพลงก่อนหน้า
- ปลุกผู้ช่วยสั่งการด้วยเสียง
-- สไลด์ขึ้น-ลง เพื่อปรับระดับเสียง
โดยสามารถเลือกตั้งค่าคำสั่งควบคุมการใช้งานหูฟังเพิ่มเติมผ่านแอปพลิเคชัน HUAWEI AI Life ได้ตามความต้องการ รองรับทั้งบน HarmonyOS, Android และ iOS เลย
นอกจากนี้ HUAWEI FreeBuds SE ยังมีเซ็นเซอร์อินฟราเรดความไวสูงในตัว เมื่อถอดหูฟังออกจากหู ระบบจะตรวจจับ และหยุดเล่นเพลงโดยอัตโนมัติ ซึ่งตรงนี้เราสามารถเข้าไปตั้งค่าเปิดปิดได้ในแอปฯ HUAWEI AI Life เช่นกัน (สำหรับใน iOS จะไม่เห็นคำสั่งนี้นะคะ) ในขณะเดียวกันเรายังสามารถตรวจสอบสถานะ % แบตเตอรี่ของทั้งหูฟังและเคสชาร์จบนหน้าจอได้เลยค่ะ
คุณภาพเสียง (Sound Quality)
ทางด้านของคุณภาเสียง ถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียวค่ะ ด้วยไดนามิกไดร์เวอร์ขนาด 10 มิลลิเมตร ให้เสียงที่ไพเราะ มีมิติเสียงโอบล้อมในระดับดี เสียงเบสหนักแน่น แต่อาจจะไม่ถึงระดับคนที่ฟังแนว Rock หนัก ๆ หรือ Heavy Metal แต่ก็จัดว่าพอให้สนุกไปด้วยกันได้ เสียงของ HUAWEI FreeBuds SE จะออกแนวสว่าง ๆ เสียงร้องและรายละเอียดของเสียงเครื่องดนตรีเก็บได้ครบถ้วนทุกมิติเสียง ส่วนเรื่องความหน่วงของเสียง โดยภาพรวมแล้วไม่มีปัญหาค่ะ เปิดวิดีโอ เล่นเกม ถือว่าผ่านทั้งหมด
แบตเตอรี่ (Battery)
ทางด้านพลังงาน HUAWEI FreeBuds SE มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 37 mAh สำหรับตัวหูฟัง และ 410 mAh สำหรับเคสชาร์จ โดยสามารถเล่นเพลงต่อเนื่องได้นานสูงสุด 6 ชั่วโมง หรือโทรได้นาน 4 ชั่วโมง ซึ่งเมื่อใช้งานร่วมกับเคสชาร์จที่ชาร์จเต็มแล้ว สามารถเล่นเพลงได้นานสูงสุดถึง 24 ชั่วโมง ซึ่งนั่นหมายความว่า ในตลอดหนึ่งวันเราสามารถใช้งานได้ยาว ๆ โดยที่ไม่ต้องชาร์จใหม่เลยค่ะ
สำหรับการชาร์จจนเต็ม จะใช้เวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมง ส่วนการชาร์จเคสแบบไม่มีตังหูฟังอยู่ข้างในจะใช้เวลาที่ประมาณ 2 ชั่วโมง เรียกว่าใช้งานได้ต่อเนื่อง ไม่ขาดตอน ไม่ต้องคอยกังวลว่าแบตฯ จะหมดระหว่างวัน
บทสรุป (Wrap-up)
สำหรับหูฟังไร้สาย HUAWEI FreeBuds SE รุ่นนี้ เป็นหูฟังที่มาพร้อมกับความโดดเด่นทางด้านการออกแบบที่เน้นให้การสวมใส่เข้ากับหูของมนุษย์มีความสมดุลที่สุด น้ำหนักเบา และระบายอากาศได้ดี ทำให้การใช้งานในแต่ละครั้งเราจะรู้สึกได้ถึงความพอเหมาะพอดี รับประกันเลยว่าถ้าได้ลองแล้วจะต้องประทับใจเหมือนเจนแน่นอนค่ะ นอกจากนี้ในเรื่องของความสวยงามภายนอก และคุณภาพเสียงก็ทำได้ดี เสียงใส เคลียร์ชัด เบสแน่น รายละเอียดเสียงดี คอเพลง Pop หรือ R&B น่าจะถูกใจสิ่งนี้ ส่วนเสียงสนทนาเวลาคุยโทรศัพท์และการตัดเสียงรบกวนก็ทำได้ดีเช่นกัน
เซ็นเซอร์ควบคุมระบบสัมผัสที่ก้านหูฟัง ส่วนตัวคิดว่าค่อนข้างจะแตะยากไปสักนิด อาจจะด้วยการแตะไม่โดนจุดเซ็นเซอร์หรือตัวหูฟังอาจจะมีดีเลย์เล็กน้อย จึงทำให้รู้สึกว่าควบคุมลำบากอยู่นิด ๆ เหมือนกันนะ ส่วนเรื่องของแบตเตอรี่เอาไปเลยเต็มสิบ เพราะใช้งานได้นานจริง ราคาเปิดตัว 1,899 บาท แค่ใส่แล้วไม่เจ็บหู เสียงดี ๆ หรู ๆ หน่อย ก็ว่าคุ้มสุดแล้ว ตัวนี้ป้ายยาเลยว่าต้องซื้อ!
จุดเด่น HUAWEI FreeBuds SE - ดีไซน์เรียบง่าย สวยงาม มี 2 สี 2 สไตล์ให้เลือกตามความชอบ
- ดีไซน์แบบ Semi In-ear สวมใส่สบาย ไม่เจ็บหู ใช้งานได้ตลอดวัน
- ไดนามิกไดร์เวอร์ขนาดใหญ่ 10 มม. ให้คุณภาพเสียงดี เบสแน่น คมชัด
- มีระบบตัดเสียงรบกวนจากสิ่งแวดล้อม (Environmental Noise Cancellation) ให้เสียงที่ชัดเจนระหว่างการโทร
- เชื่อมต่อกับสมาร์ตดีไวซ์ต่างๆ ได้ง่ายและรวดเร็ว
- รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2 สามารถใช้งานได้ทั้ง Android และ iOS
- ใช้งานได้นานสูงสุดถึง 24 ชั่วโมง
- ราคาสบายกระเป๋าเพียง 1,899 บาท
|
รายละเอียดสเปกของ HUAWEI FreeBuds SE
- ขนาด :
-- หูฟัง กว้าง 20.0 x ยาว 20.6 x สูง 38.1 มิลลิเมตร
-- เคสชาร์จ กว้าง 35.5 x ยาว 70.0 x สูง 27.5 มิลลิเมตร - น้ำหนัก :
-- หูฟัง 5.1 กรัม (1 ชิ้น)
-- เคสชาร์จ 35.6 กรัม (ไม่รวมหูฟัง) - ลำโพง / ไดรเวอร์ : ไดรเวอร์ยูนิตไดนามิกเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 มิลลิเมตร
- ไมโครโฟน : ไมโครโฟนซิลิโคน 2 ตัว (บน - ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน / ล่าง - ไมโครโฟนสนทนา)
- ความถี่ไมโครโฟน : 20Hz – 20,000Hz
- ความจุแบตเตอรี่ :
-- หูฟัง 37 mAh
-- เคสชาร์จ 410 mAh - ระยะเวลาเล่น :
-- เล่นเพลงต่อเนื่องสูงสุด 6 ชั่วโมง / รวมเคสชาร์จสูงสุด 24 ชั่วโมง - ระยะเวลาพูดคุย :
-- สนทนาด้วยเสียงสูงสุด 4 ชั่วโมง / รวมเคสชาร์จสูงสุด 16 ชั่วโมง - การชาร์จ :
-- รองรับการชาร์จแบบมีสาย 5W (5V/1A)
-- การชาร์จเต็มสำหรับหูฟัง ประมาณ 1.5 ชั่วโมง / การชาร์จเต็มสำหรับเคสชาร์จ (ไม่มีหูฟังข้างใน) ประมาณ 2 ชั่วโมง
-- ชาร์จ 10 นาที เล่นเพลงได้ 80 นาที - การเชื่อมต่อ :
-- Bluetooth® 5.2
-- Pop-up Pair (สำหรับสมาร์ตโฟน HUAWEI ที่ใช้ EMUI 10 ขึ้นไป) - เซ็นเซอร์ : G-sensor, Vibration Sensor
- สี : สีขาว (White), สีฟ้า (Blue)
ราคาและการวางจำหน่าย (Price & Availability)
หูฟังไร้สาย
HUAWEI FreeBuds SE มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี คือ สีฟ้า (Blue) และสีขาว (White) วางจำหน่ายในราคาเปิดตัวเพียง 1,899 บาท สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้พร้อมกันตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป เฉพาะบนช่องทางออนไลน์เท่านั้น! หรือคลิกสั่งซื้อที่นี่ได้เลยค่ะ
https://bit.ly/3PiJ4CA พร้อมโปรโมชัน Pre-order ตั้งแต่วันที่ 18 - 27 พฤษภาคม 2565
- HUAWEI Store : ชำระค่ามัดจำ 100 บาท รับ Code ส่วนลดมูลค่า 800 บาท (สามารถใช้ Code ส่วนลดได้ในระหว่างวันที่ 22 - 27 พฤษภาคม 2565)
- Lazada / Shopee : สามารถ Pre-order ได้ในราคาพิเศษเพียง 1,099 บาท