จะซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ทั้งที ยุคนี้ยังไงก็ต้องเลือกที่มี 5G อยู่แล้ว! เมื่อช่วงปีสองปีก่อน เราอาจจะยังรู้สึกว่า 5G เป็นอะไรที่ไกลตัวและจับต้องได้ยาก ด้วยราคาที่ค่อนข้างแรงเอาเรื่องบวกกับที่ว่าถึงซื้อรุ่นที่รองรับ 5G ไป พื้นที่ส่วนใหญ่ก็ดันไม่มีคลื่นสัญญาณครอบคลุมให้ใช้งานซะอย่างนั้น แต่ในปัจจุบัน หลังจากเริ่มมีการขยายคลื่นสัญญาณเพิ่มขึ้น รวมทั้งแบรนด์ทั้งหลายต่างก็พร้อมใจกันส่งมือถือรุ่นที่รองรับ 5G ได้เข้ามาชิงส่วนแบ่งในตลาดนี้กันอย่างคึกคัก พูดได้เลยว่าในตอนนี้... มีงบไม่ถึงหมื่นก็ได้สัมผัสประสบการณ์ความเร็วแรงระดับ 5G กันแล้ว
มือถือรองรับ 5G ในเรทราคาไม่ถึงหมื่นบาทนี้ แม้ว่าจะมีการลดทอนสเปกและฟีเจอร์บางอย่างออกไป เพื่อให้แมทช์กับราคาที่ตั้งไว้สำหรับขายในตลาดบ้านเรา แต่ถ้าเลือกได้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้งานของตัวเองได้พอดี บอกเลยว่างานนี้มีแต่คุ้มกับคุ้ม เพราะบางรุ่นอาจจะเลือกตัดฟีเจอร์กล้องบางอย่างออกไป ซึ่งถ้าเราไม่ได้ใช้ฟีเจอร์นั้นบ่อย ๆ อยู่แล้ว การตัดออกไปแล้วใส่ 5G มาให้แทน ยิ่งถ้าเราจำเป็นต้องใช้งานที่เน้นความเร็วในการอัปโหลด ดาวน์โหลดด้วยแล้ว ยังไงก็ถือว่า Win-win นอกจากนี้ งาน Thialand Mobile EXPO งานแรกของปีก็กำลังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ แล้ว วันนี้ Mobile GURU Thailand จึงขอสรุปรวม "รวมมือถือ 5G รุ่นเด่นปี 2022 งบไม่ถึงหมื่น ก็ยืนหนึ่งเรื่องความเร็วแรงได้ Mobile EXPO ปีนี้ ยังไงก็ต้องช้อป!" มาให้ลองหยั่งเชิงกันดูก่อน สนใจตัวไหนรุ่นไหนก็ตามไปจับไปชมตัวจริงกันได้ที่งาน ในวันที่ 12 - 15 พฤษภาคม 2565 ที่ไบเทค บางนา (ฮอลล์ EH98 - EH99) กันได้เลย รับรองว่าของแจกของแถมเพียบ! ดีไม่ดีจะได้ราคาดีกว่าเดิมด้วยนะ
1. moto G51 5G (ราคาเปิดตัว 7,499 บาท)
moto G51 5G สมาร์ตโฟน 5G ฟีเจอร์ระดับพรีเมียมจากโมโตโรล่า ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานที่แตกต่างกันได้อย่างลงตัวในราคาที่เข้าถึงได้ ชูจุดเด่นรองรับเทคโนโลยีความเร็วระดับ 5G หน้าจอ Ultrawide ขนาด 6.8 นิ้ว ความคมชัดระดับ Full HD+ แสดงภาพสีสันสดใสสมจริง พร้อมอัตรารีเฟรชเรทหน้าจอมากถึง 120Hz ลื่นไหลไม่สะดุดไปกับหน่วยประมวลผล Snapdragon 480 Plus ที่เร็วและแรงเต็มขีดพลัง และกล้องถ่ายภาพ 3 ตัว ความละเอียดสูงสุด 50MP เก็บทุกภาพความทรงจำได้อย่างละเอียด
เสพความบันเทิงแบบเต็มอรรถรสด้วยระบบเสียงจากเทคโนโลยี Dolby Atmos พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน รองรับทุกการใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพด้วยระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย My UX ที่สามารถใช้งานได้ง่าย โดย moto G51 5G มีให้เลือกเพียงสีเดียว คือ สีน้ำเงิน Indigo Blue ในรุ่นความจำ RAM 4GB + ROM 128GB เปิดตัววางจำหน่ายในราคาเพียง 7,499 บาท
โดย moto G51 5G มีให้เลือกเพียงสีเดียว คือ สีน้ำเงิน Indigo Blue ในรุ่นความจำ RAM 4GB + ROM 128GB (รองรับการเพิ่มพื้นที่ด้วย Micro SD Card สูงสุด 512GB) เปิดตัววางจำหน่ายในราคาเพียง 7,499 บาท
2. Tecno Pova 5G (ราคาเปิดตัว 9,999 บาท)
Tecno Pova 5G เป็นสมาร์ตโฟน 5G รุ่นแรกของแบรนด์ Tecno Mobile ที่มาพร้อมจุดเด่นหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่พิเศษ 6.9 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ รองรับอัตรารีเฟรชเรทไหลลื่นสูงสุด 120Hz รองรับทุกการใช้งาน จัดเต็มความเร็วแรงด้วยชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 900 5G ร่วมกับ RAM ขนาด 8GB แบบ LPDDR5 พร้อมฟีเจอร์เพิ่ม RAM เสมือนได้อีก 3GB และ ROM ขนาด 128GB แบบ UFS 3.1
ถ่ายภาพกล้องหลัง 3 เลนส์ ระบบภาพความละเอียดสูงระดับ 50MP พร้อมไฟแฟลชในตัว ให้ผลงานภาพถ่ายที่สวยงามคมชัด แบตเตอรี่ขนาดใหญ่จุใจถึง 6,000 mAh ทำให้สามารถสแตนด์บายได้นานถึง 32 วัน* รองรับชาร์จไว Flash Charge 18W แกะกล่องพร้อมทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย HiOS ในดีไซน์ตัวเครื่องล้ำสมัย ไม่เหมือนใคร
Tecno Pova 5G เปิดประสบการณ์การใช้งาน 5G ระดับพรีเมียม ในตัวเครื่องสีดำ Aether Black และมีเพียงตัวเลือกรุ่นความจุเดียว คือ RAM 8GB + ROM 128GB พร้อม
ราคาที่สมเหตุสมผลเพียง 9,999 บาท
3. realme 9 Pro (ราคาเปิดตัวเริ่มต้น 8,999 บาท)
realme 9 Pro 5G กับการเปิดตัวเป็นสมาร์ตโฟนชิปเซ็ต 5G ตัวแรงสุดในเซกเมนต์ ณ ขณะนั้น ด้วยหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 695 5G ที่สามารถเพิ่มหน่วยความจำ Dynamic RAM ที่สามารถเลือกเซ็ตได้ 2GB, 3GB และสูงสุดที่ 5GB ให้ประสิทธิภาพการทำงานเร็วแรง ไม่สะดุด และยังมาพร้อมดีไซน์ใหม่แปลกตา สวยงามกว่าด้วยงานออกแบบ Light Shift Design เปลี่ยนสีได้เมื่อโดนแสงแดด (เฉพาะสีฟ้า Sunrise Blue) หน้าจอแสดงผล 120Hz Ultra Smooth Display แบบ IPS LCD ขนาด 6.6 นิ้ว พร้อมเติมเต็มไลฟ์สไตล์การถ่ายภาพด้วยกล้องหลัง 3 เลนส์ 64MP Nightscape Camera ความละเอียดสูงสุด 64MP มาพร้อมโหมดยอดฮิต Street Mode 2.0 พ่วงด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000 mAh ใช้งานได้ยาวนาน ทั้งดูหนัง ฟังเพลง และเล่นเกม พร้อมรองรับชาร์จไว 33W Dart Charge ไม่สะดุดทุกการใช้งาน (อ่านบทความ >>
รีวิว realme 9 Pro 5G | 9 Pro+ 5G สมาร์ตโฟนเซนเซอร์กล้องระดับเรือธงรุ่นแรกในกลุ่ม Mid-range พร้อมความแรง 5G แบบเต็มขั้น และดีไซน์ฝาหลังเปลี่ยนสีได้สุดล้ำ!)
realme 9 Pro 5G วางจำหน่ายใน 2 เฉดสีสวยงาม ได้แก่ สีฟ้า Sunrise Blue และสีเขียว Arora Green พร้อมความจุรุ่นย่อยให้เลือกตามความต้องการใช้งาน 2 รุ่น คือ รุ่น RAM 6GB + ROM 128GB ราคา 8,999 บาท และ รุ่น RAM 8GB + ROM 128GB ราคา 9,999 บาท
4. Samsung Galaxy M23 5G (ราคาเปิดตัว 8,999 บาท)
Samsung Galaxy M23 5G สมาร์ตโฟนระดับกลางรุ่นคุ้มค่าคุ้มราคาจากซัมซุง ที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพคับเครื่อง มาพร้อมหน้าจอ Infinity-V Display ขนาด 6.4 นิ้ว อัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz และชิปประมวลผล Snapdragon750G สามารถเชื่อมต่อ 5G ได้อย่างรวดเร็ว ทำงานร่วมกับ ROM ขนาด 6GB + RAM ขนาด 128GB ที่สามารถเพิ่มหน่วยความจำผ่าน MicroSD Card ได้สูงสุดถึง 1TB และยังมาพร้อมด้วยระบบเสียง Dolby Atmos ให้พลังเสียงคมชัด สมจริงทุกรายละเอียด
Galaxy M23 5G ติดตั้งกล้องหลัง 3 เลนส์ ความคมชัดสูงสุด 50MP เก็บภาพสวยงามคมชัดตามสไตล์ของซัมซุง และยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000 mAh ที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องตลอดทั้งวัน และมีการชาร์จไว 25W เสียบชาร์จแค่ 30 นาที ได้ถึง 50% รวมทั้ง AI Adaptive Power Saving ที่ช่วยยืดเวลาการใช้งานให้นานขึ้นอีกด้วย
Samsung Galaxy M23 5G มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีเขียวเข้ม Deep Green, สีฟ้า Light Blue และสีส้มทองแดง Orange Copper ในรุ่นความจำ RAM 6GB + ROM 128GB เปิดตัววางจำหน่ายในราคา 8,999 บาท
5. Infinix Zero 5G (ราคาเปิดตัว 7,999 บาท)
Infinix Zero 5G สมาร์ตโฟน 5G รุ่นแรกจากแบรนด์
Infinix ดีไซน์สวยมีเอกลักษณ์ พร้อมด้วยหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ และอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz และอัตรา Touch Sampling Rate สูงสุด 240Hz จัดเต็มครอบคลุมทุกการใช้งาน โดดเด่นด้วยชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 900 เชื่อมต่อ 5G รวดเร็วพิเศษ รองรับแอปพลิเคชันที่มีปริมาณการรับและการส่งข้อมูลสูงๆ ลื่นไหลแบบไม่มีสะดุด จับคู่ทำงานร่วมกับ RAM ขนาด 8GB และที่เก็บข้อมูล ROM ขนาด 128GB พร้อมการันตีความแรงด้วยคะแนน Antutu ที่ทำได้สูงถึง 486,136 คะแนน
คุณภาพกล้องถ่ายรูปความละเอียดสูงสุด 48MP มาพร้อมระบบซูมได้ 30 เท่า ให้การบันทึกทุกช่วงเวลาได้อย่างสนุกสนานและเป็นมืออาชีพ พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ให้การใช้งานที่ยาวนาน และรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W ที่สามารถชาร์จพลังงานเต็ม 100% ได้ภายในเวลาไม่นาน สแตนด์บายการใช้งานได้ตลอดทั้งวัน
Infinix ZERO 5G เปิดตัวและวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในราคา 7,999 บาท มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีดำ Cosmic Black, สีเหลือง Skylight Orange และสีฟ้า Horizon Blue ในตัวเลือกความจุรุ่นเดียว คือ RAM 8GB + ROM 128GB
สำหรับใครที่เล็งจะซื้อมือถือเครื่องใหม่ในงาน Thailand Mobile EXPO รอบนี้ บอกเลยว่ารุ่นที่รองรับการใช้งาน 5G ได้ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เก็บไว้พิจารณาสุด ๆ เพราะนอกจากจะได้ 5G ไปใช้งานกันแบบฟิน ๆ แล้ว เช่นเคยที่งานนี้ มักจะมีของแจก ของแถม ลิสต์ยาวออกมาเต็มหน้ากระดาษ แถมราคายังน่าจับต้องมากกว่าปกติ ดังนั้นวันงานจึงมักจะมีคนเยอะกว่าปกติ ทางที่ดีที่สุดคือลองหาข้อมูลไปก่อนคร่าว ๆ คัดรุ่นที่สนใจออกมาสัก 5 รุ่น แล้ววันจริงก็ไปเดินจับตัวจริงกันอีกที จะช่วยประหยัดเวลาไปได้มากเลยนะ แต่ถ้าเดิน ๆ ไปแล้วโดนอย่างอื่นตกกลับมาด้วยก็ยังถือว่าได้กำไรอยู่
ร่วมสัสผัสสมาร์ตโฟนและแก็ดเจ็ตใหม่ ๆ ได้ในงาน Thailand Mobile EXPO 2022 (ไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป 2022) ครั้งที่ 1 ในระหว่างวันที่ 12 - 15 พฤษภาคม 2565 นี้ ที่ศูนย์ประชุม ไบเทค บางนา (ฮอลล์ EH98 - EH99) นะคะ