ด้วยเทรนด์สุขภาพที่มาแรง ทำให้หลายคนตัดสินใจซื้อสมาร์ทวอทช์รุ่นที่ออกมาใหม่ๆ อย่าง HUAWEI WATCH GT 3 Series ไว้เป็นผู้ช่วยดูแลสุขภาพ แต่เอาเข้าจริงน้อยคนที่จะใช้ฟีเจอร์ที่อัดแน่นมาในสมาร์ทวอทช์อย่างเต็มที่ และขาดความเข้าใจเรื่องค่าสถิติต่างๆ บนแอปพลิเคชัน บทความนี้จะแชร์เทคนิคการใช้งานแอปพลิเคชัน HUAWEI Health รวมถึงแอปฯ ติดตามการออกกำลังกายอื่นๆ ที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้ หรือรู้แต่ไม่เคยได้ใช้อย่างเต็มที่ เพื่อให้ออกกำลังกายได้อย่างมือโปรโดยไม่ต้องพึ่งเทรนเนอร์ วันนี้เราจึงมีไกด์ไลน์มาให้แบบคำต่อคำ เพื่อให้เข้าใจร่างกายของเราและสร้างเป้าหมายในการออกกำลังกายได้ดีขึ้น
1. Pace คือเวลาที่เราใช้ในการวิ่งเป็นระยะทาง 1 กิโลเมตร โดยบอกหน่วยเป็นนาที เช่น เวลาคนวิ่งเก่งๆ เขาคุยกันว่า “เธอวิ่งเพซเท่าไหร่ เราวิ่งเพซ 6 นะ” ก็จะเข้าใจได้โดยทันทีว่าเขาคนนั้นใช้เวลา 6 นาทีสำหรับการวิ่ง 1 กิโลเมตร หรือถ้าเราเพิ่งเริ่มวิ่งวันแรกแล้วยังกึ่งเดินกึ่งวิ่งจนได้เพซ 12 เราก็รู้ตัวแล้วว่าเราใช้เวลา 12 นาทีกว่าจะได้ระยะ 1 กิโลเมตร
2. Cadence แปลตรงตัวคือจังหวะ แต่พอมาเป็นศัพท์วิ่งแล้วหมายถึง “รอบขา” หรืออัตราการก้าวเท้าต่อนาที ซึ่งฟังดูคล้ายกับเพซ แต่ต่างกันตรงที่ Cadence จะมีหน่วยเป็น SPM หรือ steps per minute คือจำนวนก้าวต่อนาทีนั่นเอง โดยนับจากการก้าวขาทั้งสองขา ทำให้เรารู้ตัวว่าไม่ได้แช่เท้านาน หลีกเลี่ยงการบาดเจ็บของข้อเท้าได้
3. Stride คือระยะการก้าวขา ซึ่งใช้หน่วยเป็นเซนติเมตร (cm) เป็นตัวบ่งบอกว่าเราก้าวขาสั้นยาวอย่างไร ซึ่งสัมพันธ์กันกับ Cadence โดยมีข้อแนะนำให้ก้าวในระยะที่เหมาะสม ไม่ควรก้าวให้ยาวเกินไปเพราะจะทำให้บาดเจ็บได้
4. Heart Rate คำนี้อาจคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว นั่นก็คืออัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งใช้หน่วยเป็น BPM หรือ beat per minute เวลาทั่วไปที่ไม่ได้ออกกำลังกายอัตราเฉลี่ยควรจะอยู่ที่ 60-100 BPM แต่ในเวลาออกกำลังกายหัวใจก็จะเต้นเร็วขึ้น มากน้อยก็ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน รวมถึงความหนักเบาของการออกกำลังกาย และหากจะออกกำลังกายให้ได้เต็มประสิทธิภาพ ก็ควรลองทำความเข้าใจ Heart Rate Zone หรือการระบุช่วง Heart rate ไว้ด้วย ซึ่งการแบ่งโซนนี้จะแตกต่างกันไปตามช่วงอายุ แต่โดยหลักแล้วสามารถแบ่งเป็น 5 โซนดังนี้
- Zone 1: Warm-upหรือ Basic Zone คืออัตราการเต้นของหัวใจประมาณ 50-60% ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด มักอยู่ในช่วงวอร์มอัปหรือคูลดาวน์
- Zone 2: Fat Burning หมายถึงอัตราการเต้นของหัวใจประมาณ 60-70% ซึ่งร่างกายเริ่มเผาผลาญไขมันแล้ว
- Zone 3: Aerobic หรือ Intense คืออัตราการเต้นของหัวใจประมาณ 70-80% เราจะเริ่มรู้สึกว่าหายใจหนักหน่วงขึ้น เป็นโซนที่เผาผลาญไขมันได้ดี เหมาะกับการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
- Zone 4: Anaerobic หรือ Tempo Exercise Zone หมายถึงอัตราการเต้นของหัวใจประมาณ 80-90% ซึ่งจะออกอาการเหนื่อยหอบ แต่จะทำให้วิ่งได้อึดขึ้น เหมาะกับคนที่ต้องการทำความเร็ว
- Zone 5: Extreme หรือ Red Line Zone หมายถึงอัตราการเต้นของหัวใจประมาณ 90-100% ปกติแล้วคนที่วิ่งในโซนนี้ได้ควรจะเป็นมืออาชีพและต้องการความเร็วสูงในระยะสั้น เช่น การวิ่งแข่ง 100-400 เมตร
5. Elevation คือค่าความชัน ซึ่งส่วนมากจะปรากฏชัดเจนในโหมดวิ่งเทรล แต่หลายแอปพลิเคชันรวมถึง HUAWEI Health แม้เป็นการวิ่งกลางแจ้งตามปกติจะก็แสดงค่า Elevation gain และ Elevation loss ให้อยู่เสมอทั้งในรูปแบบกราฟและตัวเลข
6. Calories คืออัตราการเผาผลาญจากการออกกำลังกาย โดยมีหน่วยเป็น kcal หรือกิโลแคลอรีนั่นเอง
7. VO2Max คือ วิธีการวัดศักยภาพของร่ายกายในการใช้ออกซิเจน หากค่า VO2Max มากเท่าไหร่ ก็หมายความว่าประสิทธิภาพการออกกำลังกายก็ดีขึ้นเท่านั้น
ทั้งนี้ ใครที่กำลังอยากเริ่มฟิตร่างกายเพื่อสุขภาพ แนะนำให้มองหาสมาร์ทวอทช์ที่มีความแม่นยำสูงไว้ติดตามการออกกำลังกาย ดูค่าสถิติเพื่อกำหนดเป้าหมายของตัวเอง อย่างรุ่นใหม่ที่เพิ่งออกมาปีนี้ก็มี HUAWEI WATCH GT 3 Series ที่โดดเด่นเรื่องระบบเซ็นเซอร์วัดค่าต่างๆ ของร่างกายและการเก็บสถิติที่แม่นยำ เพราะใช้เทคโนโลยี HUAWEI TruseenTM 5.0+ ที่มาพร้อมโฟโตไดโอด 8 ตัวจัดเรียงเป็นวงกลม ลดอัตราการสูญเสียสัญญาณ ยกระดับประสิทธิภาพการประมวลผลและความแม่นยำในการมอนิเตอร์อัตราการเต้นของหัวใจ โดยเฉพาะการวัดระหว่างออกกำลังกาย ลองเลือกหาไว้พร้อมใช้คำศัพท์วิ่งที่กล่าวมาข้างบนประกอบ แล้วเริ่มออกกำลังกายอย่างมีวินัย รับรองว่าสักสองสามสัปดาห์ก็ต้องเห็นพัฒนาการกันบ้างละ!
Tips: HUAWEI WATCH GT 3 Series รองรับการดาวน์โหลดแอปฯ เพิ่มเติมได้เยอะแยะ เพื่อการใช้งานที่สะดวกและครอบคลุม
สมาร์ทวอทช์แต่ละค่ายก็จะมีแอปฯ สำหรับติดตามการออกกำลังกายของตัวเอง อย่างแอปพลิเคชัน HUAWEI Health ก็ได้รับการพัฒนามาเพื่อใช้งานกับอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะของหัวเว่ย เช่น HUAWEI WATCH GT 3 Series ที่สามารถติดตามการออกกำลังกายได้มากกว่า 100 โหมด แถมยังดูค่าต่างๆ ได้ละเอียดยิ่งขึ้นผ่านแอปพลิเคชัน HUAWEI Health รวมถึงสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเสริมเพิ่มเติมได้ถึง 30 แอปฯ
หากใครสนใจสมาร์ทวอทช์ที่ติดตามการออกกำลังกายได้อย่างละเอียดและแม่นยำเพื่อไปเริ่มต้นชีวิตฟิตๆ สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมของ HUAWEI WATCH GT 3 Series ได้ที่นี่ หรือสั่งจองได้แล้วตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 ถึง 3 ธันวาคม 2564 ที่เว็บไซต์ HUAWEI Store และร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการของหัวเว่ยใน Shopee, Lazada และ JD Central ในราคาเริ่มต้นเพียง 7,990 บาทเท่านั้น