วันนี้เรามากันกับ
vivo Y15s (2021) สมาร์ตโฟนรุ่นเล็กของทางค่ายวีโว่ ที่มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ 6.51 นิ้ว แบตเตอรี่ขนาดจุใจ 5,000 mAh รองรับฟีเจอร์ Reverse Charging และระบบสแกนลายนิ้วมือบนปุ่มพาวเวอร์ เสริมทัพการใช้งานด้วยกล้องหลัง AI Dual Camera ที่ให้ฟีเจอร์ถ่ายภาพมาครบ พร้อมระบบปฏิบัติการ
Android 11 (Go Edition) ที่ถูกออกแบบมาให้ประหยัดพื้นที่และมีประสิทธิภาพเหมาะกับการทำงานในสมาร์ตโฟนราคาประหยัด ถือเป็นสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้นที่ให้สเปคมาน่าสนใจเลยทีเดียว
ราคาและการวางจำหน่าย
vivo Y15s เปิดตัวที่ราคา 4,999 บาท
เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยวันที่ 27 พฤศจิกายน 2564 ที่ vivo Brand Shop ทุกสาขา, ช่องทางออนไลน์ และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
เรียกว่าเป็นราคาที่สมเหตุสมผลกับสเปคที่ได้ แต่สิ่งสำคัญที่จะบอกได้ว่าเจ้า vivo Y15s นี้คุ้มค่าน่าซื้อหรือไม่ คือประสิทธิภาพจากการได้ลองใช้งานจริง ซึ่งจะได้ผลลัพธ์อย่างไรบ้างนั้น เราจะมาตอบให้ในรีวิวนี้เลยค่ะ
การเชื่อมต่อ และรายละเอียดสเปคของ vivo Y15s (2021)
- รองรับ 2 ซิม (Nano-SIM, dual stand-by) แบบถาด Triple Slot
- เครือข่ายรองรับ
- 2G (GSM 850 / 900 / 1800 / 1900 - SIM 1 & SIM 2)
- 3G (HSDPA 850 / 900 / 2100)
- 4G LTE (1, 3, 5, 7, 8, 20, 28, 38, 39, 40, 41)
- Wi-Fi 802.11 b/g/n, Wi-Fi Direct, hotspot
- Bluetooth 5.0, A2DP, LE
- GPS, A-GPS, GLONASS, GALILEO, BDS
- พอร์ต microUSB 2.0, USB On-The-Go
- ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
- หน้าจอสัมผัส IPS LCD ขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียด 1600 x 720 พิกเซล (HD+), อัตราส่วน 20:9
- ชิปเซ็ต Mediatek MT6765 Helio P35
- CPU Octa-core (4x2.3 GHz Cortex-A53 & 4x1.8 GHz Cortex-A53)
- GPU PowerVR GE8320
- ระบบปฎิบัติการ Funtouch 11.1 (บนพื้นฐาน Android 11 Go edition)
- หน่วยความจำ RAM 3GB / ROM 32GB
- รองรับ microSDXC
- ระบบเซ็นเซอร์ สแกนลายนิ้วมือ (ด้านข้างตัวเครื่อง), accelerometer, proximity, compass
- กล้องหลัง 2 เลนส์
- กล้องหลัก (wide) ความละเอียด 12 MP (f/2.2)
- เลนส์ Super Macro ความละเอียด 2 MP (f/2.4)
- กล้องหน้า ความละเอียด 8 MP (f/2.0)
- รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ HD 1080P ที่ 30fps
- แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh รองรับ Reverse charging
- ขนาด : 163.96×75.2×8.28 มม.
- น้ำหนัก : 178 กรัม
- วางจำหน่ายใน 2 สี ได้แก่ สีเขียว Wave Green และสีฟ้า Mystic Blue
การออกแบบ (Design)
vivo Y15s มีให้เลือกด้วยกัน 2 สี ได้แก่ สีเขียว Wave Green และสีฟ้า Mystic Blue ซึ่งสีที่เรานำมารีวิวในวันนี้คือสีฟ้า Mystic Blue ค่ะ ความรู้สึกแรกที่ได้จับตัวเครื่องต้องบอกว่าให้สัมผัสที่ดีมาก ๆ ตัวสมาร์ตโฟนมีความบาง ไม่เทอะทะ ขอบข้างไปจนถึงฝาหลังมีความโค้งมนแบบสามมิติรับกับฝ่ามือ ทำให้ได้การจับที่ถนัด วัสดุตัวเครื่องทำจากพลาสติกที่ค่อนข้างแข็งแรงเลยทีเดียวค่ะ เคาะแล้วไม่เปราะ ไม่ก้องแก้ง ดูพรีเมียมไม่แพ้รุ่นใหญ่ ๆ เลย
ตัวฝาหลังดูด้วยตาจะให้สีออกน้ำเงินไปทางครามมีประกายมุกจาง ๆ ออกแบบเป็นลายคลื่นเวลาเล่นกับแสงค่อนข้างสวย ฝาหลังมีผิวสัมผัสเรียบ วัสดุเป็นเนื้อด้าน ทำให้ไม่ติดลายนิ้วมือเลยแม้แต่น้อย ถือเป็นข้อดีอย่างหนึ่งเลยค่ะ ตัวกล้องหลังคู่ AI พร้อมแฟลชถูกวางไว้ด้านบนเยื่องไปทางซ้าย บนฐานกล้องที่นูนออกมาเพียงเล็กน้อย ใส่เคสที่แถมมาด้วยก็คลุมปิดไปพอดีค่ะ
ในส่วนของจอภาพ vivo Y15s มาพร้อมกับหน้าจอ Halo FullView ขนาด 6.51 นิ้ว อัตราส่วน 20:9 ได้มุมมองที่กว้างสบายตา เหมาะกับการชมคอนเทนต์ กล้องหน้าถูกวางไว้ตรงกลางระหว่างหยดที่ขอบด้านบนของจอ ซึ่งถัดขึ้นไปเล็กน้อยจะเป็นช่องสำหรับลำโพงสนทนา
ถัดไปทางด้านบนตัวเครื่องจะเป็นช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slot นั่นคือสามารถใส่สองซิม และ microSD Card ได้พร้อมกัน ไม่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ถือว่าสะดวกมาก ซึ่งรุ่นนี้ให้การรองรับ microSDXC และสามารถเพิ่มความจุได้สูงสุดถึง 1TB
สำหรับด้านล่างจะเป็นลำโพงหลัก, พอร์ตชาร์จ microUSB, ไมโครโฟน, และพอร์ตสำหรับเสียบหูฟัง 3.5 มม. ซึ่งถือว่าน่าเสียดายที่รุ่นนี้ยังไม่ได้เปลี่ยนพอร์ตชาร์จเป็นแบบ USB Type-C
ในส่วนปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power จะอยู่ทางขวามือของตัวเครื่อง ซึ่งปุ่ม Power นี้ใช้เป็นเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือในตัวด้วย ส่วนทางด้านซ้ายเป็นขอบเปล่าไม่มีอะไรค่ะ
สำหรับดีไซน์รอบตัวเครื่อง ถือว่าทำออกมาได้ดีมากเลยทีเดียวทั้งในเรื่องความบางและน้ำหนัก ทั้งที่มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ แต่สามารถออกแบบให้ตัวเครื่องบางเพียง 8.28 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 178 กรัมได้ ทำให้เวลาจับถือใช้งานเป็นเวลานานก็ยังรู้สึกสบายมือไม่เมื่อย ถือว่าผ่านค่ะ
อุปกรณ์ภายในกล่อง
vivo Y15s มาพร้อมกับกล่องสีขาวตัดด้วยตัวหนังสือสีน้ำเงินเป็นเอกลักษณ์ของทางวีโว่ที่เราคุ้นเคยกันดี สำหรับอุปกรณ์ที่ให้มาภายในกล่องจะประกอบไปด้วย
- สมาร์ทโฟน vivo Y15s (พร้อมแบตเตอรี่ในตัว)
- ฟิล์มกันรอยหน้าจอ (ติดมากับตัวเครื่อง)
- อะแดปเตอร์รองรับการชาร์จ 10 วัตต์
- สายเคเบิล microUSB 2.0
- เคสใสกันกระแทก
- เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
- คู่มือการใช้งาน
- คู่มือการรับประกัน
หน้าจอและอินเตอร์เฟส (Display interface)
vivo Y15s มากับหน้าจอสัมผัส IPS ขนาด 6.51 นิ้ว อัตราส่วนที่ 20:9 จึงทำให้ได้จอภาพที่กว้าง ใช้งานได้อย่างเต็มตา บนความละเอียด 1600 x 720 พิกเซล (HD+) ที่บอกตามตรงว่าให้ผลลัพธ์ในภาพรวมที่ดีเกินสเปคจริง ๆ ค่ะ เพราะได้ทั้งความคมชัดและสีสันที่สดใส ติดอยู่นิดเดียวที่จอไม่ได้สู้แสงมากนัก แต่ไม่เป็นปัญหาในการใช้งานสักเท่าไหร่ค่ะ
นอกจากนี้ vivo Y15s ยังมากับฟีเจอร์ Eye Protection Mode ซึ่งจะช่วยในเรื่องการกรองแสงสีฟ้าจากหน้าจอที่อาจเป็นอันตรายต่อสายตา ทำให้เราสามารถใช้งานสมาร์ตโฟนเป็นเวลานาน ๆ ได้โดยไม่ต้องห่วงเรื่องตาล้า
vivo Y15s ทำงานบน Android 11 (Go Edition) ครอบทับด้วย Funtouch OS 11.1 จึงได้เป็นหน้าตาอินเตอร์เฟสที่สวยงามสบายตาอย่างที่เราคุ้นเคยกันดีบนสมาร์ตโฟนวีโว่ ซึ่งก็ให้การทัชได้ลื่นไหลกลาง ๆ ตามสเปคค่ะ นั่นคือไม่ได้ลื่นปรื้ดตามมือได้ดั่งใจแบบเรือธง มีหน่วงบ้างในบางจังหวะ แต่อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ไม่ได้กระทบการใช้งานมากค่ะ มีโหมดการแสดงผลใช้งานทั้งธีมมืด (Dark mode) และโหมดการป้องกันดวงตา (Blue Light Filter mode)
ในส่วนของการปรับแต่งการแสดงผล สามารถทำได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นขนาด/ลักษณะตัวอักษร, ธีม, ไอคอน และวอลเปเปอร์ที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย รวมไปถึงการปรับแต่งการนำทางด้วย เชื่อว่าถูกใจสายชอบแต่งหน้าโฮมสมาร์ตโฟนแน่นอน
ซึ่ง Funtouch OS 11.1 ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ iManager ที่จะช่วยในเรื่องการจัดระเบียบทรัพยากรภายในเครื่อง ซึ่งเราสามารถตั้งค่าให้ลบแคชหรือสแกนปัญหาอัตโนมัติระหว่างที่เราหลับหรือไม่ได้ใช้มือถือ เป็นอีกฟีเจอร์หนึ่งที่อำนวยความสะดวกและยืดอายุการใช้งานของเครื่อง
ทั้งนี้ เจ้า vivo Y15s ไม่ได้ให้การรองรับการแบ่งหน้าจอ หรือการใช้งานแอปพลิเคชันหลายหน้าต่าง สำหรับใครที่จำเป็นหรือต้องการใช้งานในฟีเจอร์ดังกล่าว อาจต้องโน้ตตรงนี้ไว้เป็นข้อพิจารณาค่ะ
ประสิทธิภาพ และการใช้งาน (Performance)
vivo Y15s มาพร้อมกับชิปเซ็ต Mediatek MT6765 Helio P35 ทำงานร่วมกับ RAM 3GB และ ROM 32GB บนพื้นฐาน Android 11 (Go edition) ทำให้ได้ผลลัพธ์การทำงานที่ลื่นไหลในระดับที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียวสำหรับสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้น
การทำงานบนพื้นฐานของ Android 11 (GO Edition)
ทั้งนี้ประสิทธิภาพการทำงานที่ไหลลื่นของ vivo Y15s ต้องเรียกว่าเป็นผลพวงจากการเลือกใช้ Android (GO Edition) ซึ่งมีพื้นฐานการทำงานแบบเดียวกันกับระบบ Android เวอร์ชันปกติ แต่ถูกปรับแต่งประสิทธิภาพการทำงานและความเสถียรให้เหมาะกับการทำงานบนตัวสมาร์ตโฟนที่สเปคไม่ได้แรงมากนัก โดยจุดขายของ Android 11 (Go Edition) คือสามารถเปิดแอปฯ ได้ไวกว่าเวอร์ชันก่อนถึง 20% โดยการเปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่ เป็นการยกเอาความสามารถของ Android 11 มาใส่เพิ่มเติม รวมถึงฟีเจอร์ gesture navigation (การปัดนิ้วด้วยท่าทางต่าง ๆ เพื่อสั่งการ) ด้วย ซึ่งความพิเศษอีกอย่างของ Android Go คือการมีแอปพลิเคชั่นของกูลเกิลขนาดเล็กที่ทำออกมาเพื่อซัพพอร์ตโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น YouTube Go, Google Go, Maps Go, Gmail Go และ Files Go
สำหรับแอปพลิเคชั่นใช้งานโซเชียลมีเดียที่ส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องขนาดของแอปฯ ที่กินพื้นที่เยอะ ทางต้นสังกัดของแอปพลิเคชั่นก็ได้มีการปล่อยเวอร์ชัน "Lite" ออกมา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของแอปพลิเคชั่นที่กินพื้นที่น้อยลง เช่น Facebook Lite, Messenger Lite, Line Lite, Twitter Lite, Instagram Lite เป็นต้น
จากการลองใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ ทั้งจากฝั่ง GO และฝั่ง Lite ยังไม่เจอปัญหาอะไรนะคะ สามารถใช้งานได้ดี ลื่นไหลในระดับกลาง ๆ มีหน่วงบ้าง หนืดบ้าง แต่ไม่ได้ถึงขนาดทำให้เสียอารมณ์ ซึ่งนอกจากนี้ยังสามารถใช้งานแอปฯ ธนาคารต่าง ๆ แอปฯ เดลิเวอรี่ และแอปฯ เป๋าตังค์ ได้เช่นกันค่ะ
ทั้งนี้ vivo Y15s ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ Virtual RAM ที่จะนำเอาพื้นที่หน่วยความจำ (ROM) มาใช้งานเป็น RAM เพิ่มได้อีก 1GB เพื่อช่วยในการสลับใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ ให้การทำงานที่ราบลื่นมากยิ่งขึ้น
คะแนนทดสอบประสิทธิภาพการใช้งาน
- ทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ทำไปได้ 95,377 คะแนน
- ทดสอบ MultiTouch รองรับ 10 จุด
- ทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AndroBench ทำความเร็ว Storage ในการอ่านอยู่ที่ 270.97 MB/s และการเขียน 85.08 MB/s ทำความเร็ว RAM ในการอ่านอยู่ที่ 56.19 MB/s และการเขียน 37.78 MB/s
- ทดสอบการจับสัญญาณ GPS ภาคพื้นดินด้วยแอปพลิเคชัน GPS Tester พบว่าจับสัญญาณได้ 17 ดวงจาก 51 ดวง
- รองรับ DRM L3 จึงไม่รองรับการรับชม Netflix ระดับ FHD
ตัวเลขที่ได้อาจจะดูไม่หวือหวา แต่ถือว่าทำคะแนนได้ดีในระดับของสมาร์ตโฟนราคาประหยัดเลยค่ะ
การเล่นเกม (Gaming)
vivo Y15s ให้การรองรับ Multi-Turbo 3.0 ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่จะเข้ามารีดประสิทธิภาพการทำงานของ CPU ช่วยลดความหน่วงและอาการกระตุกระหว่างเล่นเกม จากการทดลองเล่น ROV และ PUBG MOBILE ต้องบอกตามตรงว่าทำได้ดีเกินคาดจนเซอร์ไพรส์เลยค่ะ สามารถเล่นทั้งสองเกมได้อย่างลื่น ๆ ไม่มีกระตุก ติดเล็กน้อยตรงที่จะมีบางจังหวะที่ทัชไม่ค่อยตามมือสักเท่าไหร่ สามารถปรับกราฟฟิกบนเกม PUBG MOBILE ได้สูงสุดที่ Balance (สมดุล) เฟรมเรทได้ถึง Medium (ปานกลาง) ซึ่งส่วนตัวมองว่าไม่ได้ให้การแสดงผลภาพในเกมสวยมากนัก แต่ถือว่าทำผลลัพธ์โดยรวมได้ดีเลยค่ะ
การรับชมความบันเทิง (Entertainment)
สำหรับการรับชมความบันเทิง ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 6.51 นิ้วของ vivo Y15s ทำให้ได้การชมคอนเทนต์ที่จุใจสบายตา สามารถชมคอนเทนต์จากแอปพลิเคชันสตรีมมิ่งชั้นนำในความละเอียดสูงสุดที่ 1080p ได้สบาย ๆ การแสดงผลภาพถือว่าอยู่ในระดับดีแต่ไม่ได้ให้สีสันที่สดใสมากนัก ในส่วนของลำโพง ให้เสียงที่ค่อนข้างดัง คุณภาพเสียงระดับกลาง ๆ แต่ยังได้ในเรื่องความคมชัดอยู่ โดยรวมถือว่าโอเคเลยค่ะ
การรักษาความปลอดภัย (Security)
vivo Y15s รองรับการปลดล็อกอุปกรณ์มาทั้งหมด 4 รูปแบบ ได้แก่
- การล็อกหน้าจอ สามารถตั้งค่าได้ทั้ง การเลื่อน, รูปแบบการลากเส้น, PIN 4 หลัก, PIN 6 หลัก และตั้งรหัสผ่านด้วยตัวเอง
- ลายนิ้วมือ ซึ่งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือจะอยู่รวมที่ปุ่ม Power โดยสามารถปลดล็อกหน้าจอได้ในระยะเวลาเพียง 0.232 วินาทีเท่านั้น ซึ่งยืนยันเลยว่าทำได้จริงค่ะ ปลดล็อกได้รวดเร็วมากและเซ็นเซอร์มีความแม่นยำสูง เพียงแค่แตะก็สามารถเข้าใช้งานได้แล้ว
- สแกนใบหน้า ผ่านเซนเซอร์บนหน้าจอ ซึ่งสามารถทำงานได้รวดเร็วและเสถียรเช่นกัน
- Smart Lock หรือการปลดล็อกผ่านอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เชื่อมต่อกัน
ทั้งนี้ เราสามารถเลือกได้ว่าจะให้หน้าจอล็อกแสดงรูปแบบเนื้อหาการแจ้งเตือนอย่างไร ระหว่างที่หน้าจอสมาร์ตโฟนล็อกอยู่ ซึ่งมีทั้งการแสดงเนื้อหาการแจ้งเตือนทั้งหมด, แสดงเนื้อหาที่ละเอียดอ่อนเฉพาะเมื่อปลดล็อก หรือไม่ต้องแสดงการแจ้งเตือนเลย นอกจากนี้การยืนยันตัวตนยังสามารถใช้ในการล็อก/ปลดล็อกแอปพลิเคชันที่เราตั้งค่าความเป็นส่วนตัวไว้อีกด้วย
กล้องถ่ายรูป (Camera)
กล้องหลัง
vivo Y15s มาพร้อมกล้องหลัง AI ทั้งหมด 2 ตัว (AI Dual Camera) ประกอบด้วย กล้องหลัก (wide) ความละเอียด 12 MP (f/2.2) และเลนส์ Super Macro ความละเอียด 2 MP (f/2.4) รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ HD (1080P) ที่ 30fps พร้อมโหมดการถ่ายภาพพื้นฐานที่ให้มาแบบครบครัน ได้แก่
- โหมดภาพถ่าย (Auto)
- โหมดความงาม (Beauty)
- โหมดฟิลเตอร์ (Filter)
- โหมดโบเก้ (Bokeh - หน้าชัดหลังเบลอ)
- โหมดซุปเปอร์มาโคร (Super Macro)
นอกจากนี้ยังมีโหมดอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น พาโน (Panorama), ไลฟ์โฟโต้, ไทม์แลปส์, โหมดถ่ายภาพเอกสาร และโหมดโปร (Pro)
จากการทดสอบการใช้งานกล้องหลัง ได้ผลลัพธ์ภาพถ่ายของเจ้า vivo Y15s อยู่ในระดับกลาง ๆ ตามสเปคเลยค่ะ ให้ความคมชัดในระดับหนึ่ง แต่ไม่ได้ให้สีสันของภาพที่สดใสนัก มองว่าการประมวลผลของ AI ยังทำงานได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ และต้องใช้ความมือนิ่งประมาณหนึ่งเลยในการถ่ายภาพให้ได้คมชัดสมบูรณ์ ส่วนตัวชื่นชอบโหมดฟิลเตอร์ (Filter) เป็นพิเศษ รู้สึกว่าฟิลเตอร์ของทางวีโว่ปรับสีออกมาได้สวยกำลังดีเลย สร้างลูกเล่นให้การถ่ายภาพได้อีกเยอะ ในส่วนของโหมดโบเก้ (Bokeh - หน้าชัดหลังเบลอ) เห็นชัดเลยว่ายังให้การตัดขอบได้ไม่คม แต่ทำออกมาได้ดีในส่วนของการเกลี่ยละลายฉากหลัง สำหรับโหมดซุปเปอร์มาโคร (Super Macro) สามารถถ่ายภาพระยะใกล้ได้คมชัดในระดับหนึ่ง แต่ต้องอาศัยความมือนิ่งและแสงมากสักหน่อยค่ะ โดยรวมถือว่าทำได้ไม่แย่เลย
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดต่าง ๆ จากกล้องหลัง vivo Y15s
- โหมดโบเก้ (Bokeh - หน้าชัดหลังเบลอ)
- โหมดซุปเปอร์มาโคร (Super Macro)
กล้องหน้า
vivo Y15s มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 8 MP (f/2.0) รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ HD (1080P) ที่ 30fps เช่นกัน พร้อมโหมดการถ่ายภาพเซลฟี่ดังนี้
- โหมดภาพถ่าย (Auto)
- โหมดความงาม (Beauty)
- โหมดโบเก้ (Bokeh - หน้าชัดหลังเบลอ)
- โหมดพาโน (Panorama)
จากการทดสอบการใช้งานกล้องหน้า ต้องชื่นชมในส่วนของโหมดความงาม (Beauty) เลยค่ะ ว่าสามารถให้งานผิวที่เนียนสวย แต่ยังคงสีสันของภาพไว้ได้ด้วย คิดว่าสายเซลฟี่ต้องถูกใจกล้องของเจ้าตัวนี้แน่ ๆ สำหรับโหมดโบเก้ (Bokeh - หน้าชัดหลังเบลอ) ให้ผลลัพธ์ที่คล้ายกับกล้องหลัง นั่นคือยังให้การตัดขอบที่ไม่คมนักแต่ยังพอถูไถได้อยู่ เรียกว่าทำได้ดีตามสเปคนั่นล่ะค่ะ
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดต่าง ๆ จากกล้องหน้า (Selfie) vivo Y15s
- โหมดโบเก้ (Bokeh - หน้าชัดหลังเบลอ)
- เทียบผลลัพธ์ระหว่าง โหมดออโต้ กับ โหมดโบเก้
การใช้พลังงานแบตเตอรี่ (Battery)
จุดเด่นอย่างหนึ่งของ vivo Y15s คือการมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000 mAh ซึ่งนอกจากปริมาณแล้ว ยังได้ในเรื่องของแบตฯที่อึดอย่างเหลือเชื่อเลยค่ะ สามารถใช้งานได้ทั้งวันแบบสบาย ๆ ไม่ต้องห่วงเรื่องการชาร์จระหว่างวันแน่นอน หลายคนอาจติดในเรื่องของพอร์ตชาร์จที่ยังเป็น microUSB และรองรับการชาร์จไวที่ 10 วัตต์เท่านั้น แต่ส่วนตัวมองว่าจุดนี้ไม่เป็นปัญหาสักเท่าไหร่ค่ะ เมื่อแบตเตอรี่สามารถอยู่ได้ทั้งวัน เราก็เพียงแค่ชาร์จไว้ก่อนนอนเท่านั้น ตื่นมาก็พร้อมใช้งานอีกครั้งแล้ว
นอกจากนี้ vivo Y15s ยังให้การรองรับ Reverse charging หรือก็คือสามารถใช้งานเป็นพาวเวอร์แบงค์ชาร์จไฟให้กับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้อีกด้วย
บทสรุป (Wrap up)
ต้องบอกตามตรงว่า vivo Y15s เป็นสมาร์ตโฟนที่ตัดสินด้วยข้อมูลสเปคไม่ได้จริง ๆ ค่ะ เพราะมีหลายอย่างที่ทำให้ว้าวได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการแสดงผลของหน้าจอที่สามารถทำได้ดีเกินคาด ประสิทธิภาพการเล่นเกมที่ลื่นไหล ฟีเจอร์การถ่ายภาพที่ให้มาอย่างครบครันเกินราคา และแบตเตอรี่ที่อึดสุดใจสามารถใช้งานได้ทั้งวันอย่างไม่เป็นปัญหา ถือว่าเป็นสมาร์ตโฟนที่ทำได้ดีในการจัดการทรัพยากรภายในเครื่องและรีดประสิทธิภาพออกมาใช้งานได้อย่างเต็มที่ ในส่วนที่ติดเล็ก ๆ น้อย ๆ มองว่าเป็นเพียงข้อพิจารณาเท่านั้น อย่างไรมันก็ทำได้ดีในฐานะสมาร์ตโฟนราคาประหยัดแล้ว
ก็เรียกว่าเป็นสมาร์ตโฟนที่ให้สเปคมาครบและเพียงพอสำหรับการใช้งานในหลากหลายรูปแบบ ส่วนตัวมองว่า vivo Y15s น่าจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการซื้อหรือเปลี่ยนสมาร์ตโฟนในงบที่จำกัด หรือผู้ที่ต้องการเปลี่ยนจากฟีเจอร์โฟนมาเริ่มต้นใช้สมาร์ตโฟนครั้งแรก รวมไปถึงใครที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนสำหรับใช้ในร้านค้า ค้าขายออนไลน์ หรือใช้สำหรับรับออเดอร์เดลิเวอรี่ vivo Y15s ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมและน่าสนใจไม่น้อยเลยค่ะ