Fitbit Luxe ฟิตเนสแทรคเกอร์รุ่นใหม่ล่าสุดของฟิตบิท มาพร้อมดีไซน์และวัสดุระดับพรีเมี่ยมสมชื่อ "Luxe" ที่แปลว่า "ความหรูหรา" มีดีไซน์ที่สวยงามจนเหมือนกำลังใส่เครื่องประดับอยู่เลยครับ มีให้เลือกหลายสี เหมาะกับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย โดยในชุดจำหน่ายจะมีสายเส้นยาวแถมมาให้ด้วย มาพร้อมฟีเจอร์ด้านสุขภาพครบๆ ไม่ว่าจะเป็น ฟีเจอร์การจัดการความเครียด การแทรคกิจกรรมประจำวัน การแทรคกิจกรรมออกกำลังกาย และการนอนหลับ สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจ และความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด (SpO2) และสามารถสมัครบริการ "Fitbit Premium" เพื่อถึงบริการดูแลสุขภาพระดับสูงได้อีกด้วย และแน่นอนครับว่าสามารถกันน้ำได้ลึกสูงสุด 50 เมตร ใส่ว่ายน้ำได้เลยพร้อมโหมด กิจกรรม/ออกกำลังกาย กว่า 20 ชนิด พร้อม SmartTrack ติดตามออกกำลังกายอัตโนมัติ (มีว่ายน้ำด้วยนะครับ) รองรับการใช้งานทั้งกับ Android และ iOS (Android 8.0 และ iOS 13.3 ขึ้นไป จะรองรับฟีเจอร์ Fast Pair)
และแน่นอนครับว่าจุดขายของรุ่นนี้คือความหรูหรา ทางฟิตบิทจึงได้จับมือกับแบรนด์ชั้นนำต่างๆ เพื่อพัฒนาอุปกรณ์เสริมเพื่อการสวมใส่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น gorjana Jewelry แบรนด์เครื่องประดับชื่อดังกับสายฟิตเนสแทรคเกอร์สุดหรู gorjana Parker Link Bracelet ซึ่งสามารถนำมาประกบเป็นกำไรข้อมือสวยๆได้ด้วยครับ เวลาที่ไม่ประกอบเข้ากับ Fitbit Luxe เรียกได้ว่าใช้งานได้ถึง 2 รูปแบบเลย นอกจากนี้ยังจับมือกับ Horween Leather Co. แบรนด์เครื่องหนังชื่อดัง เก่าแก่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา กับสายหนังแท้ระดับพรีเมี่ยม Luxe Premium Horween Leather Double Wrap และยังมีสายแบบอื่นๆให้เลือกเปลี่ยนได้อีกมากมายเลยครับ หรูหราสมชื่อจริงๆ
gorjana for Luxe Parker Link Bracelet
Luxe Premium Horween Leather Double Wrap
Fitbit Luxe มาพร้อมกล่องที่ดูหรูหราสมเป็นแบรนด์ฟิตบิท อุปกรณ์ในกล่องประกอบด้วย Fitbit Luxe, สาย 2 ขนาด (small & large), Charging Cable และคู่มือ
Fitbit Luxe มีขนาดเล็กกะทัดรัด ทำให้เวลาสวมใส่ไม่รู้สึกรำคาญเลยครับ แม้แต่คนที่ไม่ชอบใส่นาฬิกาก้สามารถสวมใส่ได้สบายๆเลย เหมือนกำลังใส่ริสแบนด์ วัสดุตัวเลือกจะเป็นโลหะ Stainless Steel เงาวับสีทอง (มีให้เลือกหลายสีครับ มีทั้งสีทอง สีเงิน และสีดำด้าน) สำหรับสายสิริโคนจะมีมาให้ 2 ขนาด (small & large) ใส่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง
วิธีเปลี่ยนสายก็แค่ดันสลักตัวล็อคด้านหลังแล้วดึงสายออกมาครับ เวลาใส่กลับก็แค่ดันเข้าไปจนมีเสียงล็อคเท่านั้นเอง สามารถเปลี่ยนสายได้หลากหลายรูปแบบตามใจชอบเลย และทางฟิตบิทก็มีวางจำหน่ายสายให้เลือกเปลี่ยนหลายแบบมากๆครับ สมกับแนวคิดฟิตเนสแทรคเกอร์ที่เป็นเครื่องประดับ
Fitbit Luxe มาพร้อมหน้าจอ AMOLED สีสันสวยงามมากครับ หน้าจออาจจะดูเล็กไปซักหน่อย 0.76 นิ้ว แต่ความคมชัดยอดเยี่ยมมากครับ เพราะความละเอียดสูงถึง 326 ppi และความสว่างสูงใช้งานกลางแจ้งได้สบายๆเลย รองรับปรับแสงสว่างอัตโนมัติ และมาพร้อมกระจกหน้าจอคุณภาพสูงป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีมากๆ
Fitbit Luxe มาพร้อมหน้าจอสัมผัส และสเปคที่น่าใช้มากๆครับ ความเร็วและความลื่นไหลทำได้น่าประทับใจ และมาพร้อมฟีเจอร์ที่เรียกได้ว่าอันแน่นมาเลยทีเดียว และไม่มีปุ่มอะไรรอบเครื่องเลยนะครับ ด้านหลังจะมีเซนเซอร์ และขั้วชาร์จทองเหลือง (Charging Cable เป็นแบบเฉพาะต้องเก็บใว้ดีๆครับ หายขึ้นมาต้องซื้อใหม่เท่านั้น) เวลาชาร์จจะมีแม่เหล็กในการยึดติดครับ
รองรับมาตรฐานกันน้ำระดับ 5ATM
Fitbit Luxe รองรับมาตรฐานกันน้ำระดับ 5ATM สามารถกันน้ำได้ลึกสูงสุด 50 เมตร ใส่ว่ายน้ำ หรืออาบน้ำ ได้สบายๆเลยครับ และสำหรับคนที่สงสัยว่าโหมด Water Lock ใน Fitbit Luxe คืออะไร? ไม่ใช่ว่าต้องเปิดถึงจะกันน้ำหรอกนะครับ (ทำเล่นไปมีคนสงสัยและถามมาทางผมเลยนะ) มันคือโหมดที่จะล็อคหน้าจอ เมื่อคุณกำลังอาบน้ำ หรือว่ายน้ำอยู่นั่นเองครับ เพื่อป้องกันแรงกระทบของน้ำจะสั่งงานโหมดต่างๆบน Fitbit Luxe โดยที่เราไม่ตั้งใจ ในส่วนของการแจ้งเตือนต่างๆจะยังทำงานปกติครับ แต่เราจะปลดล็อคหน้าจอเพื่อสั่งงานอีกที (โดยการแตะหน้าจอ 2 ครั้ง)
การเชื่อมต่อ และการใช้งาน
การเชื่อมต่อครั้งแรกเราต้องทำหารชาร์จตัวเรือน Fitbit Luxe จะเป็นการเปิดเครื่อง จากนั้นดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Fitbit ใน Google Play Store หรือใน App Store โดยจะสามารถเชื่อต่อได้ทันทีเลยครับด้วยฟีเจอร์ Fast Pair ซึ่งจะรองรับบน Android 8.0 และ iOS 13.3 ขึ้นไป ง่ายมากๆเลยครับ ทำตามขั้นตอนไปเรื่อยๆก็เรียบร้อย
นอกจากนี้ยังมีบริการระดับพรีเมี่ยมด้วยนะครับในชื่อ "Fitbit Premium" โดยจะเป็นการดึงข้อมูลส่วนตัวของเรา เพื่อให้คำแนะนำเฉพาะบุคคลผ่านฐานข้อมูลที่ฟิตบิทรวบรวมเอาใว้มาอย่างยาวนาน ผ่านการแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญและแพทย์ มีฟีเจอร์แนะนำลงลึกสำหรับผู้ที่มีปัญหา ต้องการคำแนะนำเฉพาะทาง เช่นผู้ที่เป็นเบาหวาน หรือต้องการลดน้ำหนัก และตัวช่วยเกี่ยวกับสุขภาพระดับสูงอีกมากมาย ใครสนใจสามารถสมัครรายเดือน 300 บาท หรือรายปี 2,450 บาท ได้นะครับ โดยเบื่องต้นมีเปิดให้ทดลองใช้ฟรีดูก่อนได้ด้วย
Fitbit Luxe มีรูปแบบเมนูการใช้งานเหมือนกับฟิตเนสแทรคเกอร์ทั่วๆไปครับ และดูพรีเมี่ยมสมเป็นฟิตบิท รองรับคำสั่งแตะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อเปิดหน้าจอ หรือขยับข้อมือเพื่อเปิดหน้าจอให้ทำงาน และรองรับการปัดหน้าจอเพื่อสั่งงานได้ทั้ง 4 ทิ้ศทาง ตัวเรือปราศจากปุ่มโดยสิ้นเชิงครับ มีเพียงหน้าจอที่รองรับระบบสัมผัสเท่านั้น
- ปัดจากด้านบนลงด้านล่างจะเป็นการเข้าถึงการตั้งค่าทั้งหมดของ Fitbit Luxe เช่น Do Not Disturb Mode, Sleep Mode, Screen Wake, Water Lock และ Settings (ซึ่งรวมการตั้งค่าพื้นฐานทั้งหมดเอาใว้ในนี้ครับ รวมไปถึงเวลาที่เราต้องการ Restart อุปกรณ์)
- ปัดจากด้านล่างขึ้นด้านบนจะเป็นการเข้าถึงฟีเจอร์กิจกรรม/ออกกำลังกายต่างๆ และวัดอัตราการเต้นของหัวใจ รวมทั้งการนอนหลับ และตรวจดูแบตเตอรี่ (ดูในสมาร์ทโฟนก็ได้นะครับ)
- ปัดจากซ้ายไปขวา และขวาไปซ้าย จะเป็นการเข้าถึงเมนูการแจ้งเตือน ซึ่งตรงจุดนี้ผมยังรู้สึกว่าฟิตบิทพัฒนาช้ามากๆนะครับ ยังไม่รองรับภาษาไทย (จริงๆเมนูทั้งบนอุปกรณ์ และแอปบนสมาร์ทโฟนก็ควรจะรองรับภาษาไทยได้แล้วนะครับ ทำตลาดในประเทศไทยมาอย่างยาวนานมากๆ โดยที่คู่แข่งรองรับในจุดนี้กันไปหมดแล้ว แม้แต่คู่แข่งหน้าใหม่ๆก็ยังรองรับเลยครับ) และแน่นอนว่าเราสามารถรับสายและปฏิเสธสายได้ผ่าน Fitbit Luxe, เมนูวัดการออกกำลังกาย โดยเมื่อเราเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนจะเป็นการจับ GPS ลงในประวัติการออกกำลังกายของเราด้วยนะครับ) สำหรับฟีเจอร์ออกกำลังกายจะรองรับกว่า 20 ชนิด (ดาวน์โหลดเพิ่มผ่านแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน) โดยเริ่มต้นจะมีให้เลือก 6 อย่างครับ ได้แก่ เดิน, วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ, ฟิตเนส และลู่วิ่ง สามารถตั้งเป้าหมาย และเมื่อออกกำลังกายเสร็จสามารถตรวจการเผาผลาญแคลอรี่ และตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, Fitbit Relax จะช่วยให้ผ่อนคลายด้วยวิธีฝึกการหายใจ เข้า-ออก, ตั้งปลุก, จับเวลา
ครบเครื่องเรื่องการออกกำลังกาย และดูแลสุขภาพ
Fitbit Luxe มาพร้อม Clock Faces ให้เลือกหลายแบบเลยครับ โดยจะมีทั้งหมด 20 แบบ ไม่สามารถดาวน์โหลดเพิ่มได้จากช่องทางอื่นๆ นอกจากจะรอให้ทางฟิตบิทอัพเดทเพิ่มให้ครับ รวมไปถึงแอปพลิเคชั่นด้วย และอย่าลืมตั้งค่าการแจ้งเตือนต่างๆก่อนใช้งานด้วยนะครับ โดยเราสามารถเลือกได้อย่างละเอียดเลย ว่าต้องให้ให้แจ้งเตือนฟีเจอร์และแอปพลิเคชั่นไหนบ้าง
Fitbit Luxe มาพร้อมฟีเจอร์มากมายในการดูแลสุขภาพ และเป็นคู่หูสำหรับการออกกำลังกาย ติดตามอัตราการเต้นของหัวใจตลอด 24 ชั่วโมง (และวัด Active Zone), ติดตามกิจกรรมตลอดทั้งวัน (ก้าวเดิน, แคลอรี่), ติดตามคุณภาพการนอน, การตรวจระดับออกซิเจนในเลือด SpO2
Fitbit Luxe รองรับการนับก้าวอย่างละเอียด และสามารถย้อนกลับมาดูเส้นทางการออกกำลังกายภายหลัง รวมทั้งตรวจดูพฤติกรรมการออกกำลังกาย หรือถ้าเป็นคนประเภทผมที่ไม่ออกกำลังกายเลย ก็สามารถตรวจการใช้ชีวิตของเราแต่ละวันได้ครับ ว่าเดินมากน้อยขนาดไหน ระยะทางการเดิน และการการเผาผลาญแคลอรี่
ฟีเจอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ สามารถวัดได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมแสดงผลให้เราตรวจย้อนหลังได้อย่างละเอียด โดยมีการบันทึกใว้ทุกวันที่เราใช้งานเลยครับ
การตรวจวัดคุณภาพการนอน จะแบ่งเป็น ตื่น, REM (หลับฝัน), หลับตื้น และหลับลึก โดยตัวแอปจะจำแนกออกมาอย่างละเอียดเป็น % เลยครับ มีระบุเวลาที่เราหลับไปจริงๆและเวลาตื่นด้วยนะครับ พร้อมให้คะแนนรวมเพื่อวัดคุณภาพของการนอน จากที่ผมใช้มามีวันที่ได้รับ Good วันเดียวเลยครับ ที่เหลือเป็น Fair ทั้งสิ้น
ตามสเปคแบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 5 วัน แต่ผมใช้ได้นานกว่านั้น!
Fitbit Luxe แม้ว่าจะมีขนาดเล็ก แต่ต้องเรียกว่าจิ๋วแต่แจ๋วครับ แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 5 วัน แต่จากการทดสอบ ผมใช้ได้นานถึง 6 วันเลยครับ น่าจะเป็นเพราะผมไม่ใช่คนที่ออกกำลังกายด้วยนะครับ ถ้าเป้นคนที่ใช้สำหรับออกกำลังกายน่าจะอยุ่ได้ไม่ถึง แต่ก็นานจนคุณพอใจอย่างแน่นอน
ฟิตเนสแทรคเกอร์ ดีไซน์พรีเมี่ยม ที่เหมาะกับทุกคน
Fitbit Luxe เป็นฟิตเนสแทรคเกอร์ที่ดูหรูหรา และดูมีระดับมากๆครับ ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง Stainless Steel มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ความละเอียดสูงถึง 326 ppi การใช้งานรวดเร็ว และลื่นไหล แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนาน มาพร้อมฟีเจอร์ออกกำลังกาย และดูแลสุขภาพ อย่างครบเครื่อง รองรับมาตรฐานกันน้ำ 5ATM สามารถกันน้ำได้ลึกสูงสุด 50 เมตร ใส่ว่ายน้ำ หรืออาบน้ำ ได้สบายๆ แถมสำหรับคนที่รักแฟชั่นยังสามารถซื้อสายจากแบรนด์ชื่อดังที่จับมือกับฟิตบิท ไม่ว่าจะเป็น gorjana Jewelry หรือ Horween Leather Co. ผมชื่นชอบฟิตเนสแทรคเกอร์รุ่นนี้อย่างเกินคาดเลยครับ ด้วยขนาดที่เล็ก และน้ำหนักเบา แถมยังสวยงามมากๆ
สำหรับหน้าจอที่ตอนแรกผมคิดว่าเล็กไปซักหน่อย แต่พอได้มาใช้จริงๆ ผมว่ากำลังดีเลยครับ จะติเรื่องเดียวก็เรื่องไม่รองรับการแจ้งเตือนภาษาไทยนี่ละ และผมว่าถ้าระบบและตัวแอปพลิเคชั่นรองรับภาษาไทยเมื่อไหร่ จะเป็นการเปิดตลาดให้ฟิตบิทเข้าถึงผู้ใช้ชาวไทยในวงกว้างกว่านี้ได้อย่างแน่นอน
สำหรับราคาเปิดตัว Fitbit Luxe ในประเทศไทยอยู่ที่ 4,990 บาท มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ/กราไฟต์, Lunar White/สแตนเลสตีลสี Soft Gold, Orchid/สแตนเลสตีลทองคำขาว สวยมากๆทุกสีเลยครับ แต่โดยส่วนตัวแน่นอนครับว่าผมชอบสี Lunar White/สแตนเลสตีลสี Soft Gold มากที่สุด อาจจะดูราคาสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่งฟิตเนสแทรคเกอร์หลากหลายแบรนด์ที่แข่งกันทำราคา แต่ถ้าคุณชอบความพรีเมี่ยม และบริการเสริมที่ยกระดับคุณภาพชีวิต คุณจะต้องเลือกฟิตบิทอย่างแน่นอน