เจาะลึกเทคโนโลยีสุดล้ำ "AEM" ก้าวใหม่ของนวัตกรรมตัดเสียงสำหรับหูฟังสไตล์ Open-fit จากหัวเว่ย
เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนภายนอก หรือ "Noise Cancellation" ในหูฟัง ถือเป็นฟีเจอร์สำคัญที่วงการเครื่องเสียงและแกดเจ็ตไอทีทั้งหลายใช้เป็นจุดขายมาเนิ่นนานหลายปี อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีตัดเสียงดังกล่าวยังคงกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มหูฟังในรูปแบบแบบอินเอียร์ (In-ear) แบบแนบหู (On-ear) และแบบครอบหู (Over-ear) เท่านั้น เนื่องจากการดีไซน์หูฟังประเภทนี้ช่วยกันเสียงจากภายนอกได้ตั้งแต่วิธีการสวมใส่อยู่แล้ว ขณะเดียวกันหูฟังขนาดเล็กซึ่งเน้นให้สวมใส่สบายหูแบบ "Open-fit" ที่มีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนนั้นกลับหาได้ยากมากในตลาด อาจเพราะวิธีการสวมใส่ของหูฟังแบบนี้ไม่ได้กระชับกับใบหูขนาดนั้น ทำให้คนเข้าใจว่าการตัดเสียงนั้นอาจจะทำได้ไม่ดีนัก หรือหากหูฟัง Open-fit รุ่นไหนที่ลงทุนใส่ฟีเจอร์ Noise Cancellation มาให้ก็อาจส่งมอบงานตัดเสียงได้ไม่ได้ดีถึงขั้นที่สายเล่นหูฟังน่าจะพึงพอใจ อย่างไรก็ตาม ในอนาคตอันใกล้มันอาจจะไม่เป็นแบบนั้นอีกต่อไป เพราะการเข้ามาของเทคโนโลยี AI และนวัตกรรมการตัดเสียงแบบ ANC อาจทำให้เราได้เห็นหูฟัง Open-fit มีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนที่คุณภาพสูงเทียบเท่ากับหูฟังสไตล์อื่นในอีกไม่ช้า
ยุคบุกเบิกเทคโนโลยีตัดเสียงในหูฟังแบบ Open-fit
อันที่จริงผลิตภัณฑ์หูฟังสไตล์ Open-fit ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ตัดเสียงอัตโนมัติยังถือเป็นของใหม่สำหรับวงการมากๆ เนื่องจากเมื่อ 2 ปีก่อนนี่เองที่แบรนด์ไอทีชั้นนำระดับโลกอย่าง "หัวเว่ย" ได้เปิดตัว HUAWEI FreeBuds 3 ซึ่งถือเป็นหูฟังแบบ Open-fit ที่มีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนตัวแรกของโลก โดยเน้นตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้งานที่ต้องการหูฟังที่สวมใส่สบาย แต่ก็ยังอยากใช้ฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนภายนอก เพื่อให้ได้ประสบการณ์การฟังเพลงหรือรับฟังความบันเทิงได้อย่างสุนทรีย์พร้อมกันไปด้วย
ทั้งนี้ ทีมวิศวกรของหัวเว่ยได้ออกแบบโหมด Noise Cancellation ในหูฟังแบบ Open-fit ด้วยการตั้งระดับของการปล่อยคลื่นเสียงเพื่อตัดเสียงภายนอกเอาไว้หลายแบบ ซึ่งผู้ใช้งานจำเป็นต้องปรับระดับการตัดเสียงด้วยตัวเองอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้การตัดเสียงสำหรับการใช้งานของแต่ละคนนั้นเหมาะสมที่สุด เนื่องจากมีปัจจัยภายนอกอื่นๆ อีกมากที่ส่งผลต่อการตัดเสียง เช่น ลักษณะใบหูของแต่ละคนที่แตกต่างกันไป ความดังเบาของเสียงที่เหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ ความแน่นหรือหลวมในการใส่หูฟัง เป็นต้น ซึ่งสุดท้ายก็มักจะจบลงด้วยการที่เจ้าของหูฟังต้องมานั่งเพิ่มเสียงให้ดังขึ้นเมื่ออยู่ในสถานที่ที่เสียงดัง และลดความดังเสียงเมื่อกลับมาอยู่ในสถานที่ปิด ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นกับหูฟังแบบอื่นๆ เนื่องจากหูฟังแบบครอบหูหรืออุดหูจะช่วยกันเสียงภายนอกได้ระดับหนึ่งอยู่แล้ว แค่ตั้งระดับการตัดเสียงไว้เพียงแบบเดียวก็สามารถส่งมอบประสบการณ์การตัดเสียงรบกวนที่มีคุณภาพได้ดีพอแล้ว (แต่ก็ยังต้องแลกมาด้วยความอึดอัดเวลาสวมใส่) ความท้าทายของหูฟังแบบ Open-fit จึงเป็นเรื่องการพัฒนาหูฟังให้ทั้งใส่สบายและสามารถตัดเสียงได้ดีโดยไม่ยุ่งยากกับผู้ใช้งานเกินไป ข่าวดีก็คือเทคโนโลยีที่ชาญฉลาดชื่อว่า "AEM" อาจจะเข้ามาแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้
"AEM" เทคโนโลยีใหม่ที่จะมาปฏิวัติระบบตัดเสียงในหูฟังแบบใส่สบาย
เทคโนโลยี AEM มีชื่อเต็มว่า "Adaptive Ear Matching" คือ เทคโนโลยีที่จะเข้ามาเป็นตัวช่วยเสริมฟีเจอร์ตัดเสียงแบบ ANC (Active Noise Cancellation) ให้ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น หน้าที่คร่าวๆ ของ AEM คือการปรับระดับการตัดเสียงเพื่อให้เหมาะสมกับลักษณะใบหูและวิธีการสวมใส่ของผู้ใช้งานที่สุดโดยอัตโนมัติ ยกระดับคุณภาพงานตัดเสียงรบกวนบนหูฟังแบบ Open-fit ให้ดีจนแทบไม่ต่างจากหูฟังครอบหูระดับ Hi-Fi โดยหลักการทำงานพื้นฐานของ AEM คือตัวหูฟังจะปล่อยคลื่นเสียงเข้าไปในหูของผู้ใช้ก่อน หลังจากนั้นคลื่นเสียงดังกล่าวจะสะท้อนกลับเข้ามาสู่ไมโครโฟนในหูฟัง เพื่อให้ AI วิเคราะห์ลักษณะใบหูของเจ้าของว่ามีใบหูขนาดเล็ก ขนาดกลาง หรือขนาดใหญ่ รวมถึงวิเคราะห์ว่าผู้ใช้กำลังสวมใส่หูฟังกระชับแค่ไหน จากนั้นตัวหูฟังจะปรับระดับเสียงเอฟเฟกต์สำหรับการตัดเสียงรบกวน (EQ) ให้เหมาะกับผู้ใช้งานคนนั้นตามสถานการณ์ขณะนั้น นั่นหมายความว่าหูฟังที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ AEM จะมีฟีเจอร์ Noise Cancellation ที่ได้รับการออกแบบให้เข้ากับผู้ใช้งานแต่ละคนโดยเฉพาะ โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการส่งมอบคุณภาพเสียงที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ใช้งานรายนั้น ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่มีเสียงรบกวนแค่ไหนและมีลักษณะทางกายภาพหรือพฤติกรรมการใช้งานหูฟังอย่างไร ที่สำคัญยังช่วยตัดรำคาญเรื่องที่เจ้าของหูฟังต้องมานั่งปรับระดับเสียงใหม่ในทุกครั้งที่หยิบหูฟังขึ้นมาใช้ด้วย
ทำความรู้จักหูฟังน้องใหม่ "HUAWEI FreeBuds 4" ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ตัดเสียงปฏิวัติวงการ "AEM"
สำหรับหูฟังแบบ Open-fit ตัวล่าสุดที่จะมาพร้อมกับเทคโนโลยี AEM ที่ว่านี้ก็คือ "HUAWEI FreeBuds 4" หูฟังไร้สาย สไตล์ Open-fit ซึ่งตัวหูฟังจะมาพร้อมกับฟีเจอร์เด่นอื่นๆ ที่จะช่วยดึงศักยภาพของเทคโนโลยี AEM ออกมาได้อย่างเต็มที่ ฟีเจอร์แรกคือระบบตัดเสียง ANC รุ่น 2.0 ที่ได้รับการอัปเกรดให้ส่งมอบงานตัดเสียงรบกวนได้ดีขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นได้จากการลงทุนในด้านวิจัยและพัฒนา (R&D) อย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยสามารถตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้สูงสุด 25 เดซิเบล โดยสามารถเปิดปิด ANC ได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส เพียงแตะค้างที่ก้านหูฟังข้างใดข้างหนึ่ง
HUAWEI FreeBuds 4 ยังมาพร้อมไดรเวอร์ขับเสียงขนาดใหญ่ 14.3 มิลลิเมตร ที่รองรับช่วงเสียงได้สูงถึง 40kHz ซึ่งถือว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับการใช้ควบคู่กับเทคโนโลยี AEM เพราะไดรเวอร์ขับเสียงขนาดใหญ่จะช่วยให้ได้เสียงดนตรีที่หนักแน่นคมชัดยิ่งขึ้น ส่งผลให้ตัวหูฟังสามารถส่งมอบประสบการณ์ตัดเสียงรบกวนภายนอกได้ดีขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้แบตเตอรี่ของหูฟัง HUAWEI FreeBuds 4 ยังรองรับการใช้งานได้นานถึง 22 ชั่วโมง (พร้อมเคส) และใช้เวลาชาร์จเพียง 15 นาทีก็สามารถนำหูฟังไปใช้ได้นานถึงสองชั่วโมงครึ่ง ถือว่าเป็นโบนัสสำหรับสายเล่นหูฟังที่ไม่อยากเสียเวลารอชาร์จไฟแบบนานจนหลับ
ส่วนใครที่อยากลองนวัตกรรมตัดเสียงรบกวนแบบใหม่บนหูฟังแบบ Open-fit สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับหูฟัง HUAWEI FreeBuds 4 ได้ที่
consumer.huawei.com/th/audio/freebuds4 หรือสั่งซื้อได้ที่ HUAWEI Online Store -
consumer.huawei.com/th/shop/product/huawei-freebuds-4