รีวิว OnePlus Nord CE 5G จัดเต็มหน้าจอ Fluid AMOLED 90Hz, Snapdragon 750G 5G, กล้องหลัง 3 เลนส์ 64MP, อัปเดตนาน 3 ปี ราคาเริ่มต้น 12,990 บาท

OnePlus Nord CE 5G สมาร์ตโฟนที่จะมอบ "ประสบการณ์ที่ดีกว่า" ซึ่งต้องบอกว่าทำได้สมกับสโลแกนจริงๆ เป็นสมาร์ตโฟนที่ทำออกมาได้ลงตัว ดีไซน์สวยสะดุดตา บางเบา มีความบางเพียง 7.9 มม. และมีน้ำหนักเพียงแค่ 170 กรัมเท่านั้น สำหรับในประเทศไทยจะมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Blue Void และ Charcoal Ink

OnePlus Nord CE 5G รองรับ 5G มาพร้อมหน้าจอ หน้าจอ Fluid AMOLED, Refresh Rate 90Hz และชิปเซ็ตระดับ Qualcomm Snapdragon 750G 5G ทำงานบน Android 11, OxygenOS 11 สำหรับความรวดเร็ว และความลื่นไหลทำได้เยี่ยมมากๆสมกับเป็นแบรนด์ OnePlus พร้อมกล้องหน้า 16MP และกล้องหลัง 3 เลนส์ 64MP + 8MP + 2MP คุณภาพดีทีเดียว และต้องขอชมมากๆก็คือ Night Mode ครับ คุณภาพยอดเยี่ยมจริงๆ ผมรู้สึกทึ่งเลยนะ และลำโพงแม้จะมีตัวเดียว แต่คุณภาพสุดยอดครับ เสียงดังมากๆ ไม่แตกและมีมิติของเสียงที่ดีมาก เป็นสมาร์ตโฟนที่มอบ "ประสบการณ์ที่ดีกว่า" มากกว่าที่เราอ่านสเปคบนกระดาษจริงๆ

สำหรับในประเทศไทย OnePlus Nord CE 5G จะมีเข้ามาวางจำหน่าย 2 ความจุครับ ได้แก่ ความจุ 8/128 ราคา 12,990 บาท มีให้เลือก 2 สี Blue Void และ Charcoal Ink ส่วนความจุ 12/256 ราคา 15,990 บาท จะมีเฉพาะสี Charcoal Ink พิเศษราคาเริ่มต้นจาก AIS เพียง 5,990 บาท วันนี้ - 6 ก.ค. 64 เท่านั้น!

• GSM 850 / 900 / 1800 / 1900
• 3G HSDPA 800 / 850 / 900 / 1700(AWS) / 1900 / 2100
• 4G bands 1, 2, 3.4, 5, 7, 8, 12, 17, 18, 19, 20, 26, 28, 39, 40, 41, 66
• 5G bands 1, 3, 5, 7, 8, 20, 28, 38, 40, 41, 77, 78 SA/NSA
• ตัวเครื่องบางเบา มีความบางเพียง 7.9 มม. และมีน้ำหนักเพียงแค่ 170 กรัมเท่านั้น
• หน้าจอ Fluid AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 pixels (410 ppi), Refresh Rate 90Hz 
• Android 11, OxygenOS 11
• Qualcomm Snapdragon 750G 5G
• CPU Octa-core (2x2.2 GHz Kryo 570 & 6x1.8 GHz Kryo 570)
• GPU Adreno 619
• RAM 8GB/12GB (LPDDR4X)
• ROM 128GB/256GB (UFS2.1)
• Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot
• Bluetooth 5.1, A2DP, LE, aptX HD
• NFC
• GPS, A-GPS, GLONASS, GALILEO, BDS, NavIC
• USB Type-C 2.0
• พอร์ทหูฟัง 3.5 มม.
• ระบบเสียง Dirac Audio
• เซนเซอร์ In-display Fingerprint Sensor, Accelerometer, Electronic Compass, Gyroscope, Ambient Light Sensor, Proximity Sensor
• กล้องหน้าความละเอียด 16MP F2.45 (Sony IMX471)
• กล้องหลัง 3 เลนส์ความละเอียด 64MP F1.79, 26 มม. (wide), PDAF + 8MP F2.25, 119 องศา (ultrawide) + 2MP F2.4, (depth)
• บันทึกวิดีโอ 4K 30FPS, 1080P 60FPS, Slow Motion 1080P 120FPS, 720P 240FPS
• แบตเตอรี่ความจุ 4,500 mAh
• รองรับชาร์จเร็ว 30W (Warp Charge) ใช้เวลาชาร์จ 0 ถึง 70% ใช้เวลาเพียง 30 นาที
• มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Blue Void, Charcoal Ink
• ราคาเปิดตัว ความจุ 8/128 ราคา 12,990 บาท, ความจุ 12/256 ราคา 15,990 บาท

• ทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ทำไปได้ 388,743 คะแนน
• ทดสอบ MultiTouch รองรับ 10 จุด
• ทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AndroBench ทำความเร็ว Storage ในการอ่านอยู่ที่ 960.6 MB/s และการเขียน 490.98 MB/s (UFS2.1)
• รองรับ DRM L1 สามารถรับชม Netflix FHD
• ทดสอบสัญญาณ GPS จับสัญญาณได้รวดเร็ว

สำหรับในวันนี้ 5G กลายเป็นมาตรฐานใหม่ที่สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ควรจะรองรับแล้วนะครับ เพราะสัญญาณ 5G มีความพร้อม และมีราคาค่าใช้บริการที่จับต้องได้ง่าย ในตอนนี้กรุงเทพฯ แทบจะ 100% รวมไปถึงชานเมืองและจังหวัดใกล้เคียง หรือหัวเมืองใหญ่ๆ ของประเทศไทยรองรับ 5G เรียบร้อยแล้ว และถ้าไม่ติดเรื่อง COVID-19 ผมเชื่อว่าป่านนี้ทั่วประเทศไทยน่าจะเกือบรองรับ 5G ไปแล้วละ แน่นอนสำหรับ OnePlus Nord CE 5G รองรับสัญญาณ 5G ครับ และผมทดสอบแถวชานเมือง ช่วงพระราม 2 ผลออกมาน่าพอใจมากทีเดียว มีสัญญาณครอบคลุมไม่มีปัญหาครับ

OnePlus Nord CE 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4,500 mAh รองรับชาร์จเร็ว 30W (Warp Charge) ใช้เวลาชาร์จ 0 ถึง 70% ใช้เวลาเพียง 30 นาที ตัวเลขความจุอาจจะดูไม่เยอะมาก แต่เป็นสมาร์ตโฟนที่จัดสรรพลังงานได้ยอดเยี่ยมมากครับ ใช้งานได้ยาวนานสบายๆ ได้ตลอดทั้งวันเลย ไม่จำเป็นต้องหาที่ชาร์จระหว่างวัน ยิ่งถ้าไม่ใช่สายเกม ผมบอกได้เลยครับใช้งานข้ามวันสบายๆ

OnePlus Nord CE 5G มาพร้อมดีไซน์ที่สวยงามดูมีเอกลักษณ์ มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Blue Void และ Charcoal Ink สำหรับสีที่ส่งมารีวิวจะเป็นสีฟ้า Blue Void ผิวสัมผัสด้านเป็นคราบมันและรอยนิ้วมือได้ยาก มีการเล่นเฉดสีกับแสงไฟทำให้ดูคล้ายกับแสงออโรร่า ตัวเครื่องมีความบางและเบามากครับ มีความบางเพียง 7.9 มม. และมีน้ำหนักเพียงแค่ 170 กรัมเท่านั้น อุปกรณ์ในกล่องจะมี

• ตัวเครื่อง OnePlus Nord CE 5G
• อะแดปเตอร์
• สาย USB Type-C
• เคสใส
• เข็มจิ้มซิม
• เอกสาร
• สติกเกอร์
• (ไม่มีหูฟังในชุดจำหน่าย)

กล่องดีไซน์สวยงาม อุปกรณ์ในกล่องจัดเต็มดูพรีเมี่ยมสมเป็น OnePlus และเคสที่ให้มาคุณภาพดี สวยมากครับ

OnePlus Nord CE 5G หน้าจอ Fluid AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 pixels (410 ppi), Refresh Rate 90Hz สีสันสวยงาม และสู้แสงใช้งานกลางแจ้งสบายๆ พร้อมกล้องหน้าความละเอียด 16MP F2.45 (Sony IMX471)

ด้านหลังมีกล้อง 3 เลนส์ ความละเอียด 64MP F1.79, 26 มม. (wide), PDAF + 8MP F2.25, 119 องศา (ultrawide) + 2MP F2.4, (depth) ค่อนข้างนูนขึ้นมาต้องระวังกันซักหน่อย ข้างๆจะมีไฟแฟลช LED และข้อความว่า 64MP AI Triple Camera และตรงกลางจะเป็นโลโก้วันพลัส

ขอบด้านข้างโค้งมนและเงาวับ ด้านบนมีไมค์ตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างมีพอร์ทหูฟัง 3.5 มม. ที่หลายๆคนต้องการ ก็นำกลับมาให้แล้วในรุ่นนี้, ไมโครโฟน, USB Type-C 2.0 และลำโพงตัวเครื่อง เสียงดังมากครับ และมีมิติคุณภาพลำโพงผมยกให้ว่าดีมากทีเดียว ส่วนด้านซ้ายมีช่องใส่ซิม และปุ่มปรับระดับเสียง และด้านขวามีปุ่ม Power

OnePlus Nord CE 5G ทำงานบน Android 11 ครอบทับด้วย OxygenOS 11 บนสเปค Qualcomm Snapdragon 750G 5G, GPU Adreno 619, RAM 8GB/12GB (LPDDR4X), ROM 128GB/256GB (UFS2.1) หน้าตาสวยงาม เรียบง่าย ความเร็วและความลื่นไหลดีเยี่ยมสมเป็นแบรนด์วันพลัส

หน้าจอสามารถปรับค่า Refresh Rate สูงสุด 90Hz ซึ่งแนะนำปรับเอาใว้ได้เลยนะครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ประหยัดแบตเตอรี่ เพราะรุ่นนี้แบตอึดดีมากเลยครับ

รองรับ Dark Mode, ปรับแต่งรูปแบบการใช้งานว่าจะใช้ปุ่มกดแบบ On-Screen หรือ ควบคุมแบบ Gestures (ซึ่งตัวผมเองยังชินแบบปุ่มเสมือนอยู่ดี) และรองรับ Smart Gesture ที่สามารถปรับใช้ได้อย่างหลากหลาย

รองรับการปรับแต่งรายละเอียดของหน้าตาการใช้งาน ปรับแต่งโทนสีและรูปแบบไอค่อนได้ด้วยนะครับ รองรับ Always On Display (มีให้เลือกเยอะไม่เบาเลยครับ) และลูกเล่นที่ดูน่ารักอย่าง Canvas สามารถสร้างภาพลายเส้นได้จากรูปถ่าย เพื่อนำไปใช้เป็นภาพแสดงการแจ้งเตือนบนหน้าจอ

Multi Windows เปิดใช้งานพร้อมกัน 2 หน้าจอ การแยกหน้าจอค่อนข้างเรียบง่ายไม่ค่อยมีลูกเล่นนะครับ

OnePlus Nord CE 5G รองรับแสกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (In-display Fingerprint Sensor) รองรับสูงสุด 5 ลายนิ้วมือ และรองรับการสแกนใบหน้า ความเร็วและความแม่นยำทำได้ดีมาก นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่ง Effect ได้อย่างหลากหลาย นอกจากการสแกนลายนิ้วมือแล้วยังสามารถปรับแต่งในส่วนอื่นๆ ได้ด้วยนะครับ

OnePlus Nord CE 5G รองรับหน้าจอ Refresh Rate 90Hz ทำให้รับชมความบันเทิงต่างๆได้อย่างเต็มที่ การทัชหน้าจอก็ลื่นไหลละมุนตา นอกนี้ยังมาพร้อม Gaming Mode ช่วยในการบล็อกการแจ้งเตือนทุกประเภทระหว่างที่เราเล่นเกม รวมไปถึงการแสดงค่าต่างๆ ที่อาจจะรบกวนการเล่นเกมของเราได้ (ซึ่งเราสามารถเข้าไปเลือกปรับแต่งได้อย่างละเอียดนะครับ ในกรณีที่เรายังต้องการการแจ้งเตือนอยู่)

จากการทดสอบด้วยเกม ROV ค่าเฟรมเรท 59FPS นิ่งๆ ตั้งแต่ต้นจนจบครับเลยครับ เล่นไปกี่รอบก็ได้ค่าเดิมตลอด และสัมผัสการเล่นลื่นติดนิ้วดีมาก

นอกจากนี้ยังทดสอบด้วยเกม PUBG Mobile รองรับกราฟิกระดับ HD และเฟรมเรทระดับสูง

รวมทั้งทดสอบกับเกม Genshin Impact เล่นได้ลื่นไหลดีมากครับ แทบจะไม่มีอาการสะดุดเลย สำหรับคนที่ชอบเล่นเกม ผมแนะนำนะครับ เป็นสมาร์ตโฟนที่ใช้เล่นเกมได้ดีเลยละ

และสำหรับรุ่นนี้รองรับระบบเสียง Dirac Audio พร้อมลำโพงที่แม้ว่าจะมีตัวเดียว แต่คุณภาพเสียงดีครับ เสียงดังมากๆ แต่ไม่แตกเลยและมีมิติเสียงที่ดีใช้ได้เลยครับ นอกจากนี้ยังมาพร้อมพอร์ทหูฟัง 3.5 มม. สามารถใช้งานคู่กับหูฟังตัวโปรดของเพื่อนๆได้เลย หรือจะฟังเพลงและเล่นเกมไปกับหูฟังไร้สาย OnePlus Buds Z ที่แถมมาให้สำหรับคนที่สั่งจองล่วงหน้าก็ได้นะครับ

OnePlus Nord CE 5G มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 16MP F2.45 (Sony IMX471) และกล้องหลัง 3 เลนส์ความละเอียด

• 64MP F1.79, 26 มม. (wide), PDAF
• 8MP F2.25, 119 องศา (ultrawide)
• 2MP F2.4, (depth)
• บันทึกวิดีโอ 4K 30FPS, 1080P 60FPS, Slow Motion 1080P 120FPS, 720P 240FPS

OnePlus Nord CE 5G รองรับฟีเจอร์ถ่ายภาพ 3 ระยะ ได้แก่ Ultrawide 119 องศา, 1X และ Optical Zoom 2X รวมทั้งรองรับการถ่ายภาพในที่มืด Nightscape ที่ทำได้ยอดเยี่ยมมากๆ เก็บรายละเอียดได้ดูเป็นธรรมชาติจนผมเองยังตกใจเลย และในส่วนของภาพ Portrait คุณภาพสูง พร้อมการถ่ายภาพ Selfie ที่สวยงามดูไม่หลอกตา เรามาชมตัวอย่างภาพถ่ายจากสมาร์ตโฟนรุ่นนี้กันเลยครับ

ถ่าย Selfie ปกติ

Selfie ด้วยฟีเจอร์ Portrait ละลายฉากหลัง

Ultrawide

1X

2X

Ultrawide

1X

2X

ภาพถ่ายปกติ

ภาพถ่ายด้วยฟีเจอร์ Portrait

Filter มีให้เลือกเยอะมาก และสวยๆทั้งนั้นเลย

Nightscape ยอดเยี่ยมมากๆนะครับ โทนภาพดูเป็นธรรมชาติ สวยคม สีสันสดใส แถมใช้เวลาถ่ายแค่ประมาณ 2-3 วินาทีเท่านั้น จากนั้น AI จะทำงานให้เรียบร้อยเลย ภาพที่ออกมาสวยงาม และดูไม่หลอกตาเลยครับ

OnePlus Nord CE 5G เป็นสมาร์ตโฟนที่ทำออกมาได้ลงตัวมากครับ ตอนแรกเลยผมนั่งดูสเปคก็คิดว่ามันคงไม่เท่าไหร่ แต่ที่ไหนได้นี่คือ OnePlus Nord Series ที่ลบความเชื่อเก่าๆ ไปได้เลย มันคือสมาร์ตโฟนในตระกูลนี้ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาจริงๆ มอบ "ประสบการณ์ที่ดีกว่า" ในการใช้งานทุกรายละเอียด ทั้งดีไซน์ที่สวยงาม บางเบา หน้าจอสวยและลื่นติดนิ้ว การใช้งานที่รวดเร็วและลื่นไหล ลำโพงที่แม้แต่มีตัวเดียวแต่เสียงดังมากและคุณภาพใช้ได้ การเชื่อมต่อที่ครบถ้วน รองรับ 5G และแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวันสบายๆ แถมยังมาพร้อมกล้องคุณภาพดีที่สุดในตระกูลนี้อีกด้วย เป็นสมาร์ตโฟนที่มีความสมดุลมากๆครับ ใครที่สนใจอยู่ผมขอแนะนำเลยครับว่าคุณจะไม่ผิดหวังกับสมาร์ตโฟนรุ่นนี้อย่างแน่นอน

OnePlus Nord CE 5G เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Blue Void และ Charcoal Ink มีความจุให้เลือกดังนี้

• OnePlus Nord CE 5G ความจุ 8/128 ราคา 12,990 บาท มีให้เลือก 2 สี Blue Void, Charcoal Ink
• OnePlus Nord CE 5G ความจุ 12/256 ราคา 15,990 บาท มีเฉพาะสี Charcoal Ink

เปิดจองตั้งแต่ 30 ก.ค. 64 - 6 มิ.ย. 64 รับของแถมมูลค่า 7,488 บาท ได้แก่บัตรประกันหน้าจอแตก, Gift Box, OnePlus Buds Z และมีชิงโชค Nintendo Switch + Ring Fit อีก 15 รางวัล รวมมูลค่า 250,200 บาท

โปรโมชันจาก AIS พิเศษ! เมื่อสั่งซื้อล่วงหน้า ผ่านเครือข่าย AIS ราคาเริ่มต้นเพียง 5,990 บาท หรืออยากผ่อนสบายๆ 0% นานสูงสุด 10 เดือน พร้อมแพ็กเกจรายเดือน 5G Hot Deal Max Speed เบาๆ เริ่มต้นเพียง 699 บาท/เดือน แถมเพิ่ม AIS 5G services (AR, VR, Cloud Game) รับสิทธิ์ดู YouTube Premium และสมัครดู Disney+ Hotstar เฉพาะที่ AIS เท่านั้น ตั้งแต่ 30 มิถุนายน - 6 กรกฎาคม 2564 นี้ รายละเอียดเพิ่มเติม https://m.ais.co.th/KYHBKd7ux

1. รองรับสัญญาณ 5G Dual Mode ทั้ง SA & NSA
2. ดีไซน์สวยงาม บางเบา มีความบางเพียง 7.9 มม. และมีน้ำหนักเพียงแค่ 170 กรัมเท่านั้น
3. หน้าจอ Fluid AMOLED, Refresh Rate 90Hz
4. ทำงานบน Android 11 ครอบทับด้วย OxygenOS 11 หน้าตาสวยงาม และรวดเร็วลื่นไหล
5. สเปคเพียงพอต่อการใช้งาน Qualcomm Snapdragon 750G 5G, RAM 8GB/12GB (LPDDR4X), ROM 128GB/256GB (UFS2.1)
6. กล้องคุณภาพดี โดยเฉพาะฟีเจอร์ Nightscape ทำได้ดีมากๆ
7. ลำโพงตัวเดียวแต่เสียงดังดีมาก คุณภาพใช้ได้ รองรับระบบเสียง Dirac Audio และมาพร้อมพอร์ทหูฟัง 3.5 มม.
8. แบตเตอรี่ความจุ 4,500 mAh รองรับชาร์จเร็ว 30W (Warp Charge) ใช้เวลาชาร์จ 0 ถึง 70% ใช้เวลาเพียง 30 นาที แบเตอรี่อึดมากครับ ใช้งานครบวันสบายๆ

1. กล้องหน้าสีจืดไปหน่อย
2. กล้องหลังเวลาถ่ายย้อนแสงดู Contrast มากเกินไป HDR ทำงานหนักมือไปหน่อย
3. ไม่รองรับ microSDXC