รีวิว vivo Y3s มือถือดีไซน์สวย จอใหญ่ ชิปเซ็ตดี แบตเตอรี่เยอะจุใจ 5,000 mAh ในราคาเบา ๆ 3,799 บาท
vivo Y3s สมาร์ตโฟนซีรีย์ Y รุ่นเล็กสุดท้องของ วีโว่ ประเทศไทย ที่เข้ามาเติมเต็มตลาดสมาร์ตโฟนในเรทหลักพันบาทของวีโว่ให้ลงตัวเลยก็ว่าได้ สำหรับจุดเด่นของรุ่นนี้จะอยู่ที่การเป็นสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้นที่ให้ "Performance" ในภาพรวมที่ดี และตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มผู้ใช้งานในระดับเริ่มต้นได้ลงตัว ด้วยราคาค่าตัวที่จับต้องได้ง่าย ซึ่งในด้านของสเปกก็ให้มาในระดับมาตรฐานของการเป็นสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงผลคุณภาพดีขนาดใหญ่, แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000 mAh, หน่วยความจำพื้นฐาน 32GB และดีไซน์ที่ทันสมัย รวมถึงงานประกอบตัวเครื่องแน่นหนา มั่นใจได้ตามมาตรฐานของ vivo ครับ
ในด้านงานออกแบบตัวเครื่อง vivo Y3s มาพร้อมการออกแบบสไตล์ "Dazzling Colors" กับการใช้เทคนิคการผลิตด้านสีแบบพิเศษ ดังนั้นฝาหลังตัวเครื่องจะมีความแพรวพราวคล้ายแสงออร่า เหมือนเวลาเรามองแสงแดดรอดผ่านต้นไม้ใหญ่สะท้อนออกมาจากฝาหลัง ดูสวยงามทันสมัยดีครับ และในรีวิวครั้งนี้ผมได้ตัวเครื่องสีน้ำเงิน Starry Blue มา เป็นสีน้ำเงินโทนเข้มที่คุณผู้ชายน่าจะชอบกันแน่นอน โดยทางวีโว่ให้นิยามว่าเหมือนสีน้ำเงินของเนบิวลาในกาแลคซีที่สะท้อนแสง ให้ความรู้สึกเงียบสงบในยามค่ำคืน และสร้างแรงบันดาลใจให้กับจินตนาการและความฝันอันยิ่งใหญ่
สำหรับรอบตัวเครื่องของ vivo Y3s เริ่มกันที่ด้านหน้าตัวเครื่อง จะเป็นพื้นที่ของหน้าจอแสดงผล LCD IPS Halo FullView Display ขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียด 1600x720 พิกเซล (HD+) และมีซอฟต์แวร์ปรับลดการแสดงผลของแสงสีฟ้าลง เพื่อช่วยถนอมตา รวมถึงโหมดกลางคืนมาให้ใช้งานด้วย ขยับขึ้นไปด้านบนตรงบริเวณรอยหยดน้ำจะเป็นตำแหน่งของกล้องหน้าความละเอียด 5MP (F1.8)
ด้านล่างตัวเครื่อง จะเป็นตำแหน่งของรูเสียบชุดหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ตเชื่อมต่อแบบ MicroUSB ใช้ชาร์จไฟเข้าเครื่อง และลำโพงเสียงของตัวเครื่อง
ด้านซ้ายตัวเครื่อง เป็นตำแหน่งของช่องใส่ซิมการ์ด ซึ่งตัวถาดซิมการ์ดจะเป็นแบบ 2+1 สามารถใช้งานซิมการ์ด 2 ซิม ได้พร้อมกับ MicroSD Card
ด้านขวาตัวเครื่อง มีปุ่มกดปรับระดับเสียงเพิ่ม-ลด (Volume) และปุ่มกดเปิด-ปิดตัวเครื่อง (Power)
ด้านหลังตัวเครื่อง จะเป็นตำแหน่งของกล้องถ่ายรูปแบบ Single Lens ทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ AI Camera ความละเอียด 13MP (F2.2) และไฟแฟลช LED 1 ดวง
ขนาดตัวเครื่อง : กว้าง 76.32 x สูง 164.41 x หนา 8.41 มิลลิเมตร น้ำหนักตัวเครื่องรวม 190 กรัม
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- ตัวเครื่อง vivo Y3s
- เคสตัวเครื่องแบบใส (Soft case)
- สายชาร์จ MicroUSB
- อแดปเตอร์ชาร์จไฟ
- คู่มือการใช้งาน
- เข็มจิ้มถาดซิม
รายละเอียดสเปกตัวเครื่องของ vivo Y3s
- หน้าจอแสดงผล LCD IPS Halo FullView Display ขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียด 1600x720 พิกเซล (HD+)
- CPU Octa-core MediaTek Helio P35 ความเร็ว 2.3GHz
- GPU IMG PowerVR GE8320
- RAM 3GB
- ROM 32GB
- รองรับ MicroSD Card สูงสุด 1TB
- รองรับวิทยุ FM
- รองรับ OTG
- FunTouch OS 11 (Base on Android 11 Go Edition)
- กล้องถ่ายรูปความละเอียด 13MP (F2.2)
- กล้องหน้าความละเอียด 5MP (F1.8)
- รองรับเครือข่าย 3G และ 4G LTE
- รองรับ WiFi 802.11 a/b/g/n 2.4 | 5GHz
- แบตเตอรี่ 5,000 mAh (Reverse Charge 10W)
"สนุก ลื่นไหล ใช้ง่าย" FunTouch OS 11 Base on Android 11
เมื่อเปิดเครื่อง vivo Y3s ขึ้นมา เราก็จะพบกับระบบปฏิบัติการ "FunTouch OS 11" ระบบปฏิบัติการของทางวีโว่เอง โดยรอบนี้จะใช้ Android OS 11 (Go Edition) เป็นพื้นฐานในการพัฒนา ซึ่งหน้าตาอินเทอร์เฟซต่าง ๆ ก็จะเหมือนกับ FunTouch OS ที่เราคุ้นเคยกัน UI ในส่วนต่าง ๆ จะถูกออกแบบมาให้เป็นมิตร ดูสบายตาไม่รก และเข้าใจการใช้ได้ง่าย ซึ่งผู้สูงวัยก็สามารถเรียนรู้วิธีใช้งานได้ด้วยตัวเองครับ ในขณะที่ประสบการณ์การใช้งานเท่าที่ผมได้หยิบมาใช้งานจริงจังตลอด 1 สัปดาห์ ก็รู้สึกว่าวีโว่ยังคงทำซอฟต์แวร์แอนดรอยด์มาได้ดีเลยนะ มีความลื่นไหลเวลาสัมผัสหรือแตะใช้งาน และตัวอินเทอร์เฟซก็ไม่มีอะไรที่ซ้ำซ้อนใช้งานได้ง่าย แถมยังคงมีความซุกซนหน่อย ๆ ตามสไตล์วีโว่ดั้งเดิมมาให้เราปรับแต่งสนุก ๆ ดังนั้นในด้านประสบการณ์การใช้งานโดยรวมทั้งหมดด้วย FunTouch OS 11 ผมถือว่า "ผ่านเลย!"
แต่ด้วยการที่ใช้ Android Go Edition เป็นพื้นฐานของ FunTouch OS บน Y3s จึงมีความแตกต่างจากรุ่นพี่ Y Series อยู่นิดหน่อย ตรงที่จะมีแอปพลิเคชั่นประเภท "Go" ของ Google ถูกใช้เป็นแอปฯ เริ่มต้นในการใช้งานเกือบทั้งหมดเลย ไม่ว่าจะเป็น Gallery Go, Google Search Go, Google Asistance Go ฯลฯ โดยแอปพลิเคชั่นเหล่านี้ไม่ใช่ว่าไม่ดีแต่อย่างไร เพราะข้อดีของการใช้แอปฯ Go ของ Google ก็คือการลดการใช้ทรัพยากรบนเครื่องลง ทำให้ตัวเครื่องมีความลื่นไหลและตอบสนองได้ไวภายใต้ฮาร์ดแวร์ที่มีจำกัดนั่นเอง
หน้าตาอินเทอร์เฟซของ FunTouch OS 11 บน vivo Y3s
นอกจากนี้ทางวีโว่ยังได้ใส่คุณสมบัติที่น่าสนใจอื่น ๆ เข้ามาให้ เพื่ออำนวยความสะดวกและยกระดับประสบการณ์การใช้งานบนสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้นเช่นนี้ให้ด้วย เช่น
- โหมดกลางคืน (Dark mode) : โหมดสำหรับเปลี่ยนธีมสี UI ให้กลายเป็นพื้นสีดำ เหมาะสำหรับการใช้งานกลางคืน เพราะจะลดปริมาณแสงสว่างของหน้าจอลงได้ ทำให้ไม่ไปส่องแย้งตาคนรอบข้าง
- โหมดถนอมสายตา : เมื่อเปิดโหมดนี้ตัวหน้าจอแสดงผลจะตัดการแสดงผลของแสงสีฟ้าออกไปให้ ดังนั้นโทนสีของหน้าจอจะกลายเป็นสีเหลืองนวล ช่วยถนอมสายตาและลดอันตรายจากแสงสีฟ้าที่ส่งผลต่อดวงตาลงได้
- Face Unlock : ระบบสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคหน้าจอ ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยต่อข้อมูลบนเครื่องที่ทางวีโว่ใส่เข้ามาให้เพิ่มจากระบบพื้นฐานอย่าง Password หรือ Pin code ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานได้ในระดับหนึ่งเลย
- iManager : ศูนย์กลางการจัดการทรัพยากรบนตัวเครื่อง ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอยู่ไม่น้อยนะครับสำหรับผู้ใช้งานมือใหม่ เพราะเมื่อเราใช้งานตัวเครื่องไปนาน ๆ ตัว OS ก็จะมีการเก็บค่าไฟล์ต่าง ๆ จากแอปพลิเคชั่นที่เราใช้งานไว้เยอะมาก ๆ ดังนั้นถ้าไม่เคลียออกไปก็อาจส่งผลต่อการทำงานโดยรวมของตัวเครื่องได้ การมีฟีเจอร์นี้เข้ามาก็จะทำให้เราคอยมอนิเตอร์ทรัพยากรบนตัวเครื่องได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งยังกำจัดไฟล์ขยะต่าง ๆ ออกไปได้โดยปลอดภัย ไม่ต้องไปเสี่ยงลบไฟล์เองด้วย
ประสิทธิภาพการใช้งาน (Performance)
ในด้านประสิทธิภาพการทำงานของ vivo Y3s ทางวีโว่เลือกใช้ชิปประมวลผล Octa-core MediaTek Helio P35 ความเร็ว 2.3GHz เป็นหัวใจหลักในการทำงานร่วมกับ RAM 3GB และ ROM 32GB ซึ่งถ้าดูจากสเปกเบื้องต้นเชื่อเลยว่า ความคิดแรกที่เกิดขึ้นกับหลาย ๆ คนก็คือ "ใช้งานไหวหรอ" ช้า หน่วงแน่นอน! อยากให้วางความคิดนี้ลงก่อน แล้วลองฟังข้อมูลนี้ดูก่อนนะครับ เพราะตัวผมเองตอนแรกก็คิดไว้แบบนั้นเช่นกัน
แต่พอได้ลองใช้งานทุกวันมา 1 สัปดาห์ก็พบว่า มันก็ไม่ได้แย่อะไรแบบที่เราคิดไว้ก่อนขนาดนั้นนะครับ กลับให้ประสบการณ์การใช้งานสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้นได้ดีเลยล่ะ ตัวเครื่องมีการตอบสนองต่อความต้องการใช้งานได้เร็วอยู่นะ โอเค! แน่นอนล่ะว่าไม่ได้เร็วถึงขนาดแตะปุ๊ปมาปั๊ปแบบพวกรุ่นพี่ ๆ เขา อาจต้องรอสัก 1-2 วินาทีให้เขาคิดสักหน่อย ส่วนตัวผมคิดว่ามันก็ไม่ได้ช้าเกินไปจนน่ารำคาญยังอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้
ถ้าถามว่าทำไมประสบการณ์การใช้งานบน vivo Y3s ถึงออกมาแบบที่ผมได้กล่าวไป เราก็ต้องย้อนมาดูตรงพื้นฐานของซอฟต์แวร์ FunTouch OS ที่มากับตัวเครื่องในรอบนี้ ซึ่งใช้ Base on Android 11 Go Edition ระบบปฏิบัติการ Android ที่ทาง Google พัฒนาขึ้นมาสำหรับสมาร์ตโฟนสเปกเริ่มต้นโดยเฉพาะนั่นเอง มีการปรับปรุงรูปแบบการประมวลผลใหม่ ใช้ทรัพยากรน้อยลง และแน่นอนว่าถอดคำสั่งการประมวลผลระดับสูงออกไปด้วย จึงทำให้สามารถทำงานได้อย่างลื่นไหลภายใต้ข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์นั่นเองครับ และก็คือที่มาที่ทำไม vivo Y3s ถึงสามารถทำงานได้ไม่ต่างจากสมาร์ตโฟนรุ่นอื่น ๆ ที่อยู่สูงกว่าในตลาดพิกัดใกล้กัน
ส่วนเรื่องของหน่วยความจำภายใน 32GB ที่ตอนนี้กลายเป็นมาตรฐานของสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้นไปแล้ว หลายคนอาจคิดว่าในอนาคตอาจจะไม่พอใช้ ซึ่งส่วนตัวผมมองว่า ถ้าเอาไปใช้งานทั่วไปอย่างการเล่นแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ร้อยละ 70-80 ของไลฟ์สไตล์ของการใช้งานหน่วยความจำเพียงเท่านี้ ก็เพียงพอต่อการใช้งานสบาย ๆ นะ ส่วนใครที่ชอบถ่ายรูปหรือชอบเซฟภาพต่าง ๆ ไว้แชร์ ผมแนะนำให้หาซื้อ MicroSD Card เพิ่มอีกอย่างน้อย 64GB มาใช้งานควบคู่ด้วย ก็จะสามารถใช้งานได้ลงตัวกำลังดีเลย
การเล่นเกม (Games)
การเล่นเกมเป็นอย่างไรบ้าง? ก็ต้องบอกก่อนว่านี้คือสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้นนะครับ ดังนั้นถ้าใครคาดหวังในด้านการเล่นเกมในระดับที่สูงหน่อย ต้องการอรรถรสในการเล่นเกมที่ดี ได้ภาพกราฟฟิกคม ๆ แนะนำว่าให้ข้ามรุ่นนี้ไปได้เลยครับ ขยับขึ้นไปเล่นรุ่นพี่อย่าง
vivo Y72 5G หรือ
vivo Y20s [G] ก็ได้นะ จะได้ประสบการณ์การเล่นเกมที่ถูกใจขึ้นแน่นอน กลับมากันที่ vivo Y3s กับการเล่นเกม ก็ต้องบอกว่าน้อง Y3s เขาสามารถเล่นเกมได้ทุกเกมเลยนะครับ เพียงแต่บางเกมจำเป็นจะต้องปรับการตั้งค่ากราฟฟิกในระดับต่ำสุดจึงจะเข้าเล่นได้
ส่วนเรื่องเสียงที่ขับออกผ่านลำโพงตัวเครื่อง เนื่องจากเป็นลำโพงเดี่ยวเสียงที่ขับออกมาจึงต้องใช้กำลังมากหน่อย เลยต้องปรับระดับเสียงอยู่ที่ประมาณ 80% จึงจะดังพอให้อรรถรสในการเล่นได้พอดีไม่ดังหรือเบาเกินไป ดังนั้นผมแนะนำให้ใช้หูฟังขณะเล่นแทนจะดีกว่านะ ไม่รบกวนคนรอบข้างด้วย
สำหรับคอเกมยอดนิยมอย่าง ROV, PUBG, LOL สามารถเข้าเล่นได้บน vivo Y3s เพียงแต่ต้องปรับค่ากราฟฟิกเป็นระดับเริ่มต้นหรือต่ำสุดเท่านั้น จึงจะสามารถเล่นได้และเล่นได้ลื่น ๆ ด้วยนะ เพราะฉะนั้นถ้าถามว่าประสบการณ์ในด้านการเล่นเกมบน vivo Y3s เป็นยังไง? ส่วนตัวมองว่า ถ้าใครเล่นเกมแค่ฆ่าเวลาสนุก ๆ หรือเล่นให้พอได้เล่น vivo Y3s สามารถตอบรับความต้องการของคุณได้นะ แต่ถ้าอยากได้มากกว่านี้ก็อย่างที่แนะนำไปครับ ให้ขยับไปหารุ่นพี่ ๆ จะดีกว่า
ผลการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานด้วยคะแนน Benchmark
- ทดสอบประสิทธิภาพการทำงานด้วย Antutu Benchmark ได้คะแนนทดสอบ 107,877 คะแนน
- ทดสอบประสิทธิภาพการเขียน-อ่าน หน่วยความจำ (ROM, eMMC 5.1) ได้ค่าการอ่าน 249.16 MB/s และค่าการเขียน 65.79 MB/s
- ทดสอบประสิทธิภาพทำงานของ CPU ด้วย Geekbench ได้คะแนนการทำงาน Single core 148 คะแนน และแบบ Multi-core 532 คะแนน
- ทดสอบการรองรับการแสดงผล High Definition บนสตรีมมิ่ง VDO (Netflix) ผลเป็น Security Level L3 (ไม่รองรับการแสดงผล)
- ทดสอบการจับสัญญาณดาวเทียมอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
แบตเตอรี่ 5,000 mAh "จุใจ ชาร์จให้คนอื่นก็ได้
สมาร์ตโฟนต่อให้เก่งแค่ไหน ถ้าด้านพลังงานบนเครื่องไม่เพียงพอก็จบกัน! ซึ่ง vivo Y3s ในด้านนี้ผมถือว่าสอบผ่านเลยล่ะครับ เพราะด้วยขนาดแบตเตอรี่ที่ใหญ่ 5,000 mAh เมื่อต้องใช้งานบนหน้าจอแสดงผลความละเอียดระดับ HD+ พร้อมกับระบบปฏิบัติการ FunTouch OS ที่ Base Android Go Edition ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้การจัดสรรทรัพยากรต่าง ๆ มีประสิทธิภาพ และทำได้ดีมาก ๆ จึงส่งผลให้การใช้พลังงานบนเครื่องเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและใช้งานได้ยาวนานด้วย
เพราะฉะนั้นถ้าใครเล็งไว้ว่าจะเอาไปไลฟ์ขายของหรือใช้ตอบไลน์ลูกค้า, หรือเอาไปใช้งานในชีวิตประจำวันที่มีเวลาชาร์จระหว่างวันน้อยมาก ๆ ผมยืนยันให้จากประสบการณ์ใช้งานจริง 1 อาทิตย์เต็มว่า vivo Y3s เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณมาก ๆ เพราะจากที่ได้ใช้งานมา vivo Y3s สามารถใช้งานในหนึ่งวันได้ยาว ๆ อย่างน้อย 9 ชั่วโมงขึ้นไปเลยทีเดียว ส่วนมากหรือน้อยกว่านั้นอยู่ที่รูปแบบการใช้งานของแต่ละคนอีกที่นะครับ เพราะไลฟ์สไตล์ที่ผมใช้ก็ทั่วๆไปเลย มีเล่นโซเชียลบ้าง, เล่นเกม, ฟังเพลงออนไลน์ และถ่ายรูป สามารถใช้งานได้ตั้งแต่เช้าแปดโมงกลับบ้านตอนสี่ทุ่มแบตเตอรี่ก็ยังเหลือราว ๆ 18% อยู่เลย
นอกจากนี้ในด้านของการชาร์จพลังงานกลับเข้าเครื่อง vivo Y3s จะรองรับการชาร์จไฟกลับที่ 10W เท่านั้นนะครับ ซึ่งจากที่ผมได้ลองชาร์จก็จะใช้เวลาชาร์จกลับเข้าเครื่องจาก 1% ไปจนเต็ม 100% ใช้เวลาราว ๆ 1.30 - 2 ชั่วโมง นอกจากนี้ vivo Y3s ยังรองรับเทคโนโลยี Reverse Charge ด้วย หรือการแปลงตัวเองให้เป็นแหล่งพลังงานสำรองเหมือน Power Bank ให้กับสมาร์ตโฟนเครื่องอื่น ๆ ได้ แต่ต้องใช้สายชาร์จที่รองรับด้วยจึงจะใช้งานได้ โดยส่วนตัวแล้วผมชอบนะ เพราะช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับคนที่ชอบพกสมาร์ตโฟนสองเครื่องแบบผมเป็นอย่างมากเลยล่ะ
กล้องถ่ายรูป 13MP "กล้องเดี่ยว พึ่งพาได้"
มาถึงเรื่องราวของการถ่ายรูปกันบ้างครับ vivo Y3s มาพร้อมกล้องถ่ายรูปตัวเดียวนะครับ ความละเอียดอยู่ที่ 13MP (F2.2) พร้อมไฟแฟลช LED โดยจะทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ AI Camera ของวีโว่ ทำให้เราสามารถหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายภาพได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องไปปรับแต่งอะไรให้วุ่นวาย เพราะจะมีตัว AI ที่คอยคำนวณค่าต่าง ๆ ในการถ่ายภาพให้อัตโนมัติตั้งแต่ต้นจนออกมาเป็นไฟล์ภาพถ่ายบนเครื่องเลย และยังมีโหมดถ่ายภาพพื้นฐานอย่างโหมด Beauty, Timelapse และ Bokeh mode ใส่มาให้ด้วย
จากที่ได้ลองใช้งานตัวกล้องเดี่ยว 13MP ของ Y3s ส่วนตัวรู้สึกว่า ไฟล์ภาพที่ได้ถือว่า "หวังพึ่งพาได้" เลยนะ เพราะยังถ่ายออกมาแล้วภาพถ่ายที่ได้ยังดูรู้เรื่อง ไม่เบลอ ไม่วุ้นจนดูรายละเอียดไม่ออก ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาค่าตัวผมถือว่า "รับได้นะ" แต่จุดที่รู้สึกว่าตัวกล้องยังทำได้ไม่ดี ก็น่าจะเป็นเรื่องของการถ่ายภาพในที่แสงมากหรือกลางแจ้ง ตัวซอฟต์แวร์กล้องยังมีการปรับค่าแสงเพี้ยนอยู่บ้าง ซึ่งคิดว่าทางวีโว่น่าจะมีอัปเดทตัวซอฟต์แวร์มาแก้ให้ที่หลัง ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ของไฟล์ภาพจากกล้องจริง ๆ จะสวยหรือไม่ เพื่อน ๆ สามารถชมภาพตัวอย่างจากกล้อง vivo Y3s ที่ผมไปถ่ายมาได้ที่ด้านล่างนี้เลย!
Auto AI Camera 13MP
โหมดถ่ายภาพ Auto AI Camera จะเป็นโหมดถ่ายภาพอัตโนมัติ ที่เราสามารถเข้าเมนูกล้องถ่ายรูปบนเครื่องแล้วกดชัตเตอร์ เพื่อถ่ายรูปที่ต้องการได้เลยครับ โหมดนี้จะมีซอฟต์แวร์ AI คอยคำนวณและปรับแต่งค่าการถ่ายรูป รวมถึงตกแต่งภาพถ่ายของเราให้อัตโนมัติตามสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ลองไปชมภาพตัวอย่างจากโหมดนี้กัน
ภาพตัวอย่างจากกล้อง vivo Y3s ถ่ายด้วยโหมด Auto AI Camera
Bokeh mode
Bokeh mode เป็นโหมดถ่ายภาพแบบละลายพื้นหลังเหมาะสำหรับใช้ถ่ายภาพบุคคล เพื่อเพิ่มความเด่นของภาพบุคคลให้สวยงามขึ้น ซึ่งบนแน่นอนว่าทางวีโว่ใส่โหมดถ่ายภาพนี้มาให้บน vivo Y3s ด้วยครับ ลองไปชมภาพตัวอย่างจากโหมดนี้พร้อมกันได้เลย!
ภาพตัวอย่างจากกล้อง vivo Y3s ถ่ายด้วยโหมด Bokeh mode
Front camera 5MP
กล้องหน้าของ vivo Y3s มาพร้อมกล้องหน้าตัวเดี่ยวเช่นกันครับ โดยมีความละเอียดอยู่ที่ 5MP (F1.8) มีซอฟต์แวร์โหมดถ่ายภาพมาให้เหมือนกับกล้องหลังทุกอย่างเลย เช่น โหมดบิ้วตี้, โหมดถ่ายภาพ Bokeh ลองไปชมภาพตัวอย่างจากกล้องหน้ากันว่าเป็นอย่างไรบ้าง?
ภาพตัวอย่างจากกล้องหน้า 5MP
Vivo Y3s มือถือสำหรับการเริ่มต้น ที่ลงตัว ใช้ง่าย ราคาเข้าถึงได้
หลังจากรีวิวกันมายาว ๆ ก็มาถึงบทสรุปของ vivo Y3s น้องเล็กรุ่นนี้กันแล้วนะครับ ซึ่งส่วนตัวจากประสบการณ์ที่ได้จับสมาร์ตโฟน Y Series ของ vivo ประเทศไทยในปีนี้มาครบทุกรุ่นก็ต้องบอกกันแบบตรง ๆ เลยว่า เป็นอีกรุ่นของ Y Series ที่ทางวีโว่ทำออกมาได้ดีมาก ๆ เริ่มตั้งแต่งานดีไซน์ภายนอกที่ดูดีมาก ๆ งานประกอบแน่นหนา สวยงาม ส่วนด้านสเปกตัวเครื่องก็ยังคงมีบางจุดที่ยังขัดใจอยู่บ้าง แต่ก็เข้าใจว่าทางวีโว่เองก็พยายามจัดสรรมาให้ดีที่สุดแล้ว
แต่สเปกตัวเครื่องก็ไม่ใช่ผลลัพธ์ของทุกอย่างนะครับ เพราะอย่างที่ได้เกริ่นไปว่า แว่บแรกที่ผมเองเห็นสเปกตัวเครื่อง ก็มีคิด ๆ ไว้เหมือนกันว่า การใช้งานน่าจะค่อนข้างลำบากใจแน่ ๆ เลย แต่พอใช้งานจริงกลับทำเอาประทับใจอยู่เหมือนกัน เพราะไม่คิดว่า เจ้าน้องเล็ก Y3s สมาร์ตโฟนที่ผมเปรียบเสมือนประตูบานแรกสู่การรู้จัก Y Series ของวีโว่ จะให้ประสบการณ์การใช้งานภายใต้ความเป็น Entry phone ที่ดีได้ดีทีเดียว
ดังนั้นถ้าถามว่า vivo Y3s รุ่นนี้เหมาะกับใครล่ะ? ก็สามารถตอบได้เลยว่า "นี้คือสมาร์ตโฟนหนึ่งในตัวเลือกที่เหมาะสำหรับทุก ๆ การเริ่มต้น" เป็นอย่างมาก เป็นมือถือระดับเริ่มต้นที่ดีมาก ๆ และยิ่งถ้าไปอยู่ในมือของคนที่กำลังมองสมาร์ตโฟนเครื่องแรกในชีวิต หรือเปลี่ยนผ่านจากฟีเจอร์โฟนมาสู่สมาร์ตโฟน ก็จะสามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับคุณได้ ไปพร้อมกับการเริ่มต้นใช้สมาร์ตโฟนเครื่องแรกด้วยราคาที่เข้าถึงได้ หรือใครที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนเอาไว้ทำงานค้าขายออนไลน์ที่ช่วงนี้กำลังได้รับความนิยม รวมไปถึงการซื้อไว้เป็นมือถือเครื่องสำรอง ถ้าความต้องการเหล่านี้คือสิ่งที่คุณต้องการอยู่ "vivo Y3s" รุ่นนี้คือ สมาร์ตโฟนที่คุณกำลังตามหาอยู่ครับ เชื่อเถอะ!
การวางจำหน่าย | โปรโมชั่น
vivo ประเทศไทย จะวางจำหน่าย vivo Y3s อย่างเป็นทางการในราคา 3,799 บาท พร้อมสีตัวเครื่องให้เลือกสองสีคือ สีน้ำเงิน Starry blue แบบในรีวิวนี้ และอีกสีคือสีขาว Peral White ใครที่สนใจก็เตรียมไปจับจองเป็นเจ้าของกันได้ที่ vivo Brand Shop ทุกสาขา และร้านค้าตัวแทนชั้นนำทั้งออนไลน์และออฟไลน์ทั่วประเทศไทยได้เลยครับ!