รีวิว OnePlus Nord N10 5G มือถือ 5G พร้อมใช้ จอ 90Hz กล้อง Quad Camera ความละเอียดสูง 64MP
เข้ามาทำตลาดในไทยเร็วพอสมควร สำหรับ
OnePlus Nord N10 5G สมาร์ทโฟน 5G รุ่นล่าสุดของแบรนด์ OnePlus ที่นับเป็นการเสริมทัพ 5G Device ของแบรนด์ให้แน่นมากขึ้นด้วยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งนอกจากจะเป็นมือถือน้องเล็กสุดของบริษัทในตอนนี้แล้ว เจ้า OnePlus Nord N10 5G ยังเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกและครั้งแรกของการทำตลาดสมาร์ทโฟนช่วงเรทราคาหลักพันบาทของแบรนด์วันพลัสด้วยเช่นกันครับ เป็นปรากฏการณ์ที่เหล่าแฟนบอยของแบรนด์ประหลาดใจไม่น้อยเลยทีเดียว
VIDEO
อย่างที่เกริ่นไป การมาครั้งนี้นอกจากจะเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าของตัวเองแล้ว ยังเป็นอะไรที่น่าสนใจพอสมควรกับครั้งแรกของการลุยตลาดสมาร์ทโฟนในกลุ่ม Entry-mid เพราะตลอดระยะเวลา 7 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทครั้งแรกเมื่อปี 2556 เราจะไม่เคยเห็นสมาร์ทโฟนวันพลัสรุ่นอื่นเลยนอกจากสมาร์ทโฟน Flagship ของแบรนด์ ดังนั้นการที่แบรนด์อย่างวันพลัสเลือกที่จะก้าวเข้ามาเป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงในตลาดที่นับว่าเป็นอีกหนึ่งทะเลเดือดของตลาดมือถือตอนนี้ มันจะต้องมีอะไรที่พิเศษที่ทำให้แบรนด์อินดี้อย่าง OnePlus กล้าตัดสินใจก้าวเข้ามาท้าชิงอย่างแน่นอน และผมก็พร้อมที่จะพาทุกคนไปหาความพิเศษที่ว่าผ่านบทความรีวิวนี้กันแล้วครับ เพราะฉะนั้นตามผมไปสัมผัสและลองใช้งาน OnePlus Nord N10 5G รุ่นนี้พร้อมกันว่าจะมีอะไรซ่อนอยู่อีกบ้าง นอกจากการเป็นสมาร์ทโฟน 5G ที่ครบเครื่องในราคาที่เข้าถึงง่ายแล้ว!
กล่องของ OnePlus Nord N10 5G ถึงแม้จะทำตลาดแบบ Stand Alone แต่ยังคงนำคอนเซ็ปต์กล่อง Nord Series มาใช้ ดังนั้นตัวกล่องจะมาในธีมสีดำตัดสีฟ้า ด้านหน้ามีชื่อรุ่น "N10" ซึ่งมีการเล่นรูปแบบให้ตัวข้อความมีการซ้อนสามชั้น เพื่อสื่อถึงความสนุกสนาน และเมื่อเปิดฝากล่องขึ้นมาด้านในจะพบกับอุปกรณ์พื้นฐาน ดังนี้
OnePlus Nord N10 5G คู่มือการใช้งานและการรับประกันตัวเครื่อง เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด สายชาร์จ USB-C อแดปเตอร์ชาร์จไฟ รองรับ Warp Charge 30T สเปกตัวเครื่องของ OnePlus Nord N10 5G
หน้าจอแสดงผล LCD IPS ขนาด 6.49 นิ้ว ความละเอียด 2,400 x 1,080 พิกเซล (FHD+, Refresh Rate 90Hz) CPU Qualcomm Snapdragon 690 5G Modem 5G X51 GPU Adreno 619L RAM 6GB (LPDDR4X) ROM 128GB (UFS 2.1) รองรับ MicroSD Card สูงสุด 512GB Oxygen OS 10 based on Android OS 10 กล้องถ่ายรูป Quad Camera ประกอบด้วย - กล้องหลัก ความละเอียด 64MP (F1.79) - กล้องมุมกว้าง ความละเอียด 8MP (F2.25) - กล้องมาโคร ความละเอียด 2MP (F2.4) - กล้องโมโนโครม ความละเอียด 2MP (F2.4) กล้องหน้าความละเอียด 16MP (F2.0) รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (SIM 1 : 5G + SIM 2 : 4G) รองรับการเชื่อมต่อเครือข่าย 5G บนคลื่นความถี่ N1, N3, N7, N28, N41, N66 และ N78 รองรับ Bluetooth 5.1 รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac แบตเตอรี่ขนาด 4,300 mAh รองรับชาร์จไว Warp Charge 30T งานออกแบบตัวเครื่องของ OnePlus Nord N10 5G ถึงแม้จะไม่ใช่จุดเด่นหรือจุดขายของรุ่นในครั้งนี้ แต่ทาง OnePlus ก็ทำภาพรวมในด้านงานออกแบบตัวเครื่องออกมาได้ดูดีเกินราคาค่าตัวอยู่นะครับ และจากการใช้สีตัวเครื่อง Midnight Ice เพียงหนึ่งเดียวเลยทำให้ดูสวยเข้มมากๆ ในขณะที่ด้านหน้าตัวเครื่องเลือกใช้หน้าจอแสดงผล LCD IPS ขนาด 6.49 นิ้ว ความละเอียดระดับ FullHD+ ซึ่งมีอัตรา Refresh Rate 90Hz ตัวหน้าจอถูกครอบด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass 3 และเหนือหน้าจอขึ้นไปทางซ้าย จะเป็นตำแหน่งของกล้องหน้าความละเอียด 16MP (F2.0) ซึ่งตัวกล้องถ่ายรูปจะถูกฝังอยู่ใต้หน้าจอแสดงผล
ด้านล่างตัวเครื่อง มีรูเสียบชุดหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ลำโพงเสียงตัวเครื่อง, ไมค์สนทนา และพอร์ตเชื่อมต่อ USB-C
ด้านขวาตัวเครื่อง มีปุ่มกดเปิด-ปิดตัวเครื่อง (ปุ่ม Power)
ด้านซ้ายตัวเครื่อง มีปุ่มกดปรับระดับเสียงเพิ่ม-ลด (ปุ่ม Volume) และช่องถาดซิมการ์ด ซึ่งรองรับการใช้งานซิมการ์ดแบบ Hybrid Slot ที่ต้องเลือกใช้งานระหว่างซิมการ์ด 2 กับ Micro SD Card (สูงสุด 512GB)
ด้านหลังตัวเครื่อง ฝาหลังเป็นวัสดุพื้นผิว Glossy เพราะฉะนั้นเวลาถือจับใช้งานจะเป็นรอยคราบนิ้วมือ รวมถึงรอยขนแมวหรือรอยข่วนจากการใช้งานได้ง่ายมากๆ ต้องระวังกันสักหน่อย ขยับขึ้นไปตรงกลางฝาหลังจะเป็นตำแหน่งของเซ็นเซอร์แป้นสแกนลายนิ้วมือ และเหนือขึ้นไปตรงมุมซ้ายบนก็จะเป็นตำแหน่งของโมดูลกล้อง Quad camera ที่ประกอบด้วย กล้องหลักความละเอียด 64MP (F1.79), กล้องมุมกว้างความละเอียด 8MP (F2.25), กล้องมาโครความละเอียด 2MP (F2.4) และกล้องโมโนโครมความละเอียด 2MP (F2.4)
ขนาดตัวเครื่อง : กว้าง 74.7 x สูง 163 x หนา 8.95 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักตัวเครื่องรวม 190 กรัม
"นิ่ง ลื่น ใช้ง่าย" OxygenOS 10 based on Android 10
เริ่มกันที่ด้านซอฟต์แวร์กันก่อนเลย โดยส่วนตัวมองว่าเป็นจุดเด่นแบบเด่นชัดมากๆ ของสมาร์ทโฟนวันพลัสทุกรุ่น รวมถึง OnePlus Nord N10 5G ด้วยเช่นกันครับ เพราะเป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่ทำตัวซอฟต์แวร์มาได้เนียนมากๆ ซึ่งจากที่ได้ใช้งานและรีวิวมาตลอดหลายรุ่น ก็รู้สึกเลยว่าวันพลัสยังคงเป็นแบรนด์ที่ทำซอฟต์แวร์ Android OS ออกมาได้ดีทุกครั้ง และถึงแม้ครั้งนี้จะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กของค่าย แต่ก็ยังถ่ายทอดประสบการณ์การใช้งานในสไตล์ของตนเอง ออกมาได้ไม่ต่างจากรุ่นพี่ที่เป็นเรือธงของค่ายเลย
และเมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้ว ก็น่าจะเป็นหนึ่งในแบรนด์สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่พัฒนาซอฟต์แวร์แอนดรอยด์ได้เสถียร ปัญหาน้อย ลื่นไหลมากๆ อีกแบรนด์ในตลาดตอนนี้อย่างไม่น้อยหน้าใคร รวมทั้งเป็นอีกแบรนด์ที่ขึ้นชื่อว่า ไม่ลอยแพ! ผู้ใช้ ด้วยการปล่อยอัปเดตเวอร์ชั่น OS และแพทช์ความปลอดภัยต่อเนื่องตลอดการใช้งานประมาณ 2-3 ปี ตามมาตรฐานของ Google ด้วย ดังนั้นถ้าใครมองหาสมาร์ทโฟนที่ใช้งานยาวๆ และอยากลองสัมผัสสมาร์ทโฟนที่ให้ประสบการณ์การใช้งานได้ใกล้เคียงกับ Pixel Phone ของ Google สมาร์ทโฟนอย่าง OnePlus Nord N10 5G ให้คุณได้แน่นอนครับ คอนเฟิร์ม!
ในขณะที่ตัวโครงของซอฟต์แวร์ OxygenOS 10 เลือกใช้พื้นฐานของ Android OS 10 มาพัฒนาต่อยอดทั้งหมด ทำให้ยังสามารถใช้งานฟีเจอร์เด่นๆ ที่ทาง Google ปรับและใส่มาให้บน Android 10 ได้เกือบทั้งหมดเลย พร้อมกับเพิ่มประสบการณ์การใช้งานด้วยอินเทอร์เฟซและลูกเล่นของวันพลัสเอง ซึ่งออกแบบมาได้เรียบง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้เหมือนกัน Pure Android เลยก็ว่าได้ครับ จึงทำให้ผู้ใช้งานมือใหม่ที่พึ่งย้ายมาใช้งานสมาร์ทโฟนวันพลัสเป็นครั้งแรกสามารถเริ่มต้นใช้งานได้ไม่ยากเลย แต่ถ้าหากเป็นยูสเซอร์ระดับที่สูงขึ้นมาหน่อยหรือเป็นผู้ใช้งานระดับรอยัลลิตี้ของ Android OS แล้ว เชื่อเลยว่าอาจจะมีเบื่อกันแน่นอน เพราะถ้าในด้านความซุกซนของอินเทอร์เฟซ ตัว OxygenOS 10 จะมีน้อยมากๆ เลย
หน้าตาอินเทอร์เฟซของ Oxygen OS 10 บน OnePlus Nord N10 5G
ระบบยืนยันตัวตนด้วย Fingerprint Scanner
สำหรับความปลอดภัยต่อข้อมูลบนเครื่องของ OnePlus Nord N10 5 G ได้เลือกใช้ระบบสแกนนิ้วมือเป็นระบบยืนยันตัวตนแบบ Physical หลักบนเครื่องในครั้งนี้ โดยตัวแป้นสแกนนิ้วมือจะถูกติดตั้งไว้ที่บริเวณด้านหลังของตัวเครื่อง ดังนั้นถ้าหากเป็นคนใช้งานเป็นคนที่มือเล็กอาจจะเอื้อมนิ้วได้ไม่สะดวกเท่าไรนัก แต่ในส่วนของการตอบสนองทำได้เร็วและแม่นยำพอสมควร แตะแล้วยกก็ปลดล็อกได้ทันที
ประสิทธิภาพและการใช้งานในชีวิตประจำวัน (Lifestyle & Performance)
สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันบน OnePlus Nord N10 5G ที่ผมคิดว่าผู้ใช้งานส่วนใหญ่น่าจะเน้นไปที่การใช้งานออนไลน์กันเยอะ เช่น การใช้โซเชียล ดูหนังสตรีมมิ่ง รวมถึงฟังเพลงทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ซึ่งทั้งหมดที่ว่านั้น เจ้า Nord N10 5G ถือว่าสอบผ่านครับ สามารถตอบสนองต่อความต้องการใช้งานในด้านเหล่านี้ได้ดี และครอบคลุมโจทย์การใช้ในชีวิตประจำได้ดีเลยล่ะ ซึ่งก็เป็นพื้นฐานของสมาร์ทโฟนยุคนี้ก็ว่าได้
ในขณะที่การใช้งานแอดวานซ์ขึ้นมาหน่อย อย่างการตัดต่อ ตกแต่ง ภาพถ่ายหรือภาพวีดีโอที่เราถ่ายมาจากตัวกล้องด้วยฟีเจอร์หลังกล้องบนเครื่องหรือแอปพลิเคชั่นต่างๆ นั้น OnePlus Nord N10 5G ก็ยังคงให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีเหมือนกันครับ เพราะด้วยสเปกของ RAM 6GB (LPDDR4x) และ ROM แบบ UFS 2.1 ที่ให้ค่าการเขียน-อ่านข้อมูล (r/w) บนตัวเครื่องที่สูงระดับ 1xx - 8xx Mbps เลย จึงทำให้การเรนเดอร์ไฟล์วีดีโอหรือภาพนิ่งจากแอปพลิเคชั่นเฉพาะทางบนตัวเครื่องทำได้รวดเร็วในระดับที่น่าพึงพอใจ ถึงแม้อาจจะไม่เร็วปรู๊ดปร๊าดเท่ารุ่นพี่อย่าง OnePlus Nord หรือ OnePlus 8 Series แต่ก็ไม่ได้ช้าระดับสมาร์ทโฟน Entry Phone แน่นอนครับ
ขยับมาคุยกันที่เรื่องของประสิทธิภาพการทำงานของตัวเครื่องกันบ้าง นอกจากการเลือกใช้ RAM แบบ LPDDR4x และ ROM แบบ UFS 2.1 ที่ผมมองว่าเป็นมาตรฐานของสมาร์ทโฟนยุคนี้ที่ควรใส่มาแล้ว ทางวันพลัสยังเลือกใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 690 5G ซึ่งเป็นชิปประมวลผลตัวใหม่ของ Qualcomm ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ใกล้เคียงกับ Snapdragon 765G มาด้วย
ถามว่าใกล้เคียงกันอย่างไร? โดยถ้าเรามองลึกลงไปในโครงสร้างของชิปประมวลผลรุ่นนี้จะเห็นเลยว่า ทาง Qualcomm เลือกใช้พื้นฐานของ Snapdragon 765G มาพัฒนาให้กับตัวชิป Snapdragon 690 เพียงแต่มีการปรับรายละเอียดพวกความเร็วสัญญาณนาฬิกา และเทคโนโลยีการผลิต รวมถึงมาตรฐานการรองรับเครือข่าย 5G ให้แตกต่างกันออกไปเท่านั้น เพราะฉะนั้นถ้าพูดถึงภาพรวมของการโปรเซสหรือประมวลผลของชิปประมวลผลทั้งสองรุ่น ก็จะตอบได้ทันทีเลยว่าเป็นชิปที่ให้ประสิทธิภาพในระดับที่ใกล้เคียงกันครับ ลองประเมินจากคะแนน Antutu ก็ได้นะ โดยคะแนนของ Snapdragon 765G ที่ผมเคยทดสอบบน
OnePlus Nord จะอยู่ที่ประมาณ 33x,xxx คะแนน ในขณะที่ Snapdragon 690 ก็จะอยู่ที่ประมาณ 28x,xxx คะแนน ดังนั้นใครที่กังวลในเรื่องนี้อยู่ว่าชิปตัวใหม่จะดีแค่ไหน ก็หวังว่าน่าจะช่วยเคลียร์ข้อสงสัยไปได้เปราะหนึ่งนะครับ
ผลการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานด้วยคะแนน Benchmark
ทดสอบประสิทธิภาพการทำงานด้วย Antutu Benchmark ได้คะแนนทดสอบ 280,879 คะแนน ทดสอบประสิทธิภาพการเขียน-อ่าน หน่วยความจำ (ROM, UFS 2.1) ได้ค่าการอ่าน 848.18 MB/s และค่าการเขียน 181.47 MB/s ทดสอบประสิทธิภาพทำงานของ CPU ด้วย Geekbench ได้คะแนนการทำงาน Single core 606 คะแนน และแบบ Multi-core 1843 คะแนน ทดสอบการรองรับการแสดงผล High Definition บนสตรีมมิ่ง VDO (Netflix) ผลเป็น Security Level L3 (ไม่รองรับการแสดงผล) พลังงานแบตเตอรี่เพียงพอหรือไม่?
การใช้พลังงานแบตเตอรี่กับสมาร์ทโฟน 5G เป็นอะไรที่น่ากังวลเป็นอย่างมาก เพราะด้วยพีคสปีดของเครือข่าย 5G สามารถทำความเร็วได้ในระดับสูงถึง 20Gbps ดังนั้นการใช้พลังงานแบตเตอรี่ก็ย่อมสูงตามไปด้วย กลับมาที่ OnePlus Nord N10 5G กันบ้างครับ โดยตามสเปกแบตเตอรี่ของ Nord N10 5G จะให้แบตเตอรี่มาที่ขนาดความจุ 4,300 mAh และรองรับเทคโนโลยีชาร์จไว Warp Charge 30T ในตัว
ซึ่งจากที่ผมถือใช้งานเป็นเครื่องหลักของตนเองในหนึ่งวัน โดยที่ไลฟ์สไตล์การใช้งานของผมก็จะเน้นไปที่การฟังเพลงออนไลน์ผ่านบริการสตรีมมิ่งอย่าง Sportify หรือ Tidal ที่ไฟล์เสียงจะเป็นไฟล์คุณภาพสูงระหว่างการเดินทาง นอกนั้นก็จะเป็นโซเชียลมีเดีย, เปิดอีเมลตอบงาน, เปิดไลน์ตอบข้อความไม่ค่อยได้เล่นเกมเท่าไรนัก ซึ่งแบตเตอรี่จาก 100% ในตอนเช้าที่ออกจากบ้านใช้งานระหว่างวันตามที่ว่ามาลากไปจนถึงเย็นประมาณ 18.00 ที่เลิกงาน พอหยิบขึ้นมาดูก็เหลือประมาณ 3x% ทำเอาประหลาดใจเหมือนกันนะ หลายคนอาจคิดว่ามันเหลือน้อยหรือปกติ แต่ถ้าเทียบกับมือถือเครื่องหลักที่ผมใช้งานอยู่แล้วต่างกันเยอะมาก!! เพราะฉะนั้นถ้าในมุมมองผมนะผมคิดว่าแบตเตอรี่ของเจ้า Nord N10 5G ถือว่าอึดอยู่นะครับ ตัวซอฟต์แวร์ทำมาดีเลยทีเดียว
ส่วนเมื่อใช้งานกับเครือข่าย 5G เป็นอย่างไรบ้าง? ในด้านของพลังงานผมยังไม่สามารถบอกได้เต็มปากว่า "ไม่พอ" นะครับ เพราะช่วงที่ลองใช้งานดูตัวเครื่องมีการสวิงสลับสัญญาณไป LTE ให้อัตโนมัติตลอดเมื่อเข้าสู่โหมดสแตนด์บาย รวมถึงบ้างครั้งที่ใช้งานดาต้าตัวเครื่องก็จะจับสัญญาณ LTE ให้ก่อน แล้วค่อยสวิงไป 5G ให้อัตโนมัติเมื่อมีการใช้ดาต้ามากขึ้น เพราะฉะนั้นถ้าให้ประเมินจากการใช้งานทั่วไป น่าจะใช้งานได้ประมาณ 2 - 4 ชั่วโมงติดต่อกันนะครับ
รุ่นแรกของ OnePlus กับ 5G Ready
มากันที่จุดขายหลักของ OnePlus Nord N10 5G กันบ้าง สามารถใช้งานเครือข่าย 5G ในไทยได้ทันที ไม่ต้องรอการอัปเดตเฟิร์มแวร์ในภายหลัง ซึ่งเพียงแค่ใส่ซิมการ์ดที่รองรับเข้าไป และอยู่ในพื้นที่สัญญาณก็สามารถใช้งานเครือข่าย 5G ได้เลย โดยตัวเครื่องจะรองรับการใช้งานเครือข่าย 5G ได้เฉพาะซิมการ์ดแรกเท่านั้น ส่วนซิมการ์ดสองจะสแตนบายบนเครือข่าย 4G LTE นะ และเมื่อเข้าสู่โหมดสแตนบายหรือไม่มีการใช้งานใดๆ บนตัวเครื่อง ตัวเครื่องก็จะสลับไปจับสัญญาณ LTE ให้อัตโนมัติ เพื่อลดปริมาณการใช้พลังงานบนเครื่องลง
และจากการที่ทดสอบใช้งาน รวมถึงทดสอบสปีดเครือข่าย 5G บนเครื่อง OnePlus Nord N10 5G โซนในเมืองย่านชิดลม ซึ่งเป็นโซนแถวออฟฟิศหลายครั้งก็พบว่า สามารถทำสปีดอัปโหลดได้สูงสุดที่ 51 Mbps และดาวน์โหลด 31.9 Mbps จากตัวเลขที่ได้ผมคิดว่าน่าจะมาจากพื้นที่ที่ทดสอบอยู่ในเมืองมีปริมาณการใช้ดาต้าสูง และแถวออฟฟิศน่าจะเป็นปลายสัญญาณของคลื่น 5G ด้วยครับ เพราะฉะนั้นถ้าตามสเปกของโมเด็ม 5G Qualcomm X51 ที่ใส่มาให้บนเครื่องจะรองรับพีคสปีดอัปโหลดได้สูงถึง 900 Mbps ดังนั้นคิดว่าน่าจะทำตัวเลขได้สูงกว่านี้ในพื้นที่ใกล้เสาสัญญาณแน่นอน
การเล่นเกมบน OnePlus Nord N10 5G ถึงแม้ถ้าเราดูจากสเปกที่ใช้ CPU Snapdragon 690 ที่มากับ GPU Adreno 619L แล้ว ตัวเครื่องก็สามารถประมวลผลด้านกราฟฟิกผ่านเกมที่มีการใช้ทรัพยากรและการประมวลผลระดับสูงได้สบายเลยครับ ซึ่งผมลองทดสอบการเล่นเกมด้วยเกมสายโหดของสมาร์ทโฟนในเวลานี้กับเกม "Genshin Impact" คอเกมหลายคนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะถ้าสเปกเครื่องไม่แรงจริงจะเล่นเกมนี้ไม่ได้เลยล่ะ
และแน่นอนว่า OnePlus Nord N10 5G สามารถเล่นได้และเล่นได้สบายเลยล่ะครับ ถึงแม้จะมีอาการ Motion Blur ของภาพพื้นหลังหรือเอฟเฟกต์การต่อสู้ให้เห็นเล็กน้อยเมื่อปรับการตั้งค่ากราฟฟิกในเกมเป็นระดับ "สูงสุด" และตัวเครื่องจะร้อนเร็วพอสมควรหลังจากเล่นเกมไปได้สัก 15-20 นาที ต่อเนื่องก็จะสัมผัสได้ทันที แต่ภาพรวมในด้านการเล่นเกมผมมองว่าทำได้ดีอยู่นะ จะติก็แค่ตรงแสงและการแสดงผลของหน้าจอที่พอใช้เป็นหน้าจอ LCD IPS ภาพของตัวเกมก็จะดูฟุ้งๆ ไปสักหน่อย
ยังคงใส่โหมดสำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะอย่าง Game Space และ Fnactic Mode มาให้เหมือนเดิม
เสียงและการรับชมคอนเทนท์ความบันเทิง
OnePlus Nord N10 5G ติดตั้งลำโพงเสียงตัวเครื่องแบบ Dual Speaker มาให้ เพราะฉะนั้นการขับเสียงออกมาจะมีมิติโอบล้อมเข้าหาคนใช้มากกว่าลำโพงตัวเดียวแน่นอน เพียงแต่เสียงที่ขับออกมาจากตัวเครื่องนั้นจะไม่เคลียร์และใสเท่าไร จะออกไปในแนวเสียงทุ้มโทนต่ำ แนะนำว่าใช้งานคู่กับหูฟังจะดีที่สุดครับ เพราะมีซอฟต์แวร์ EQ Dirac มาให้ปรับแต่งเสียงได้ น่าจะช่วยเพิ่มสไตล์เสียงให้ใกล้เคียงกับความชอบได้มากกว่า
ส่วนการรับชมคอนเทนท์บนตัวเครื่องนั้น ส่วนตัวเป็นคนชอบรับชมภาพหรือคอนเทนท์ภาพยนตร์ที่สีสัดสดใส เพราะฉะนั้นพอมาดูบนจอแสดงผล LCD IPS ของ OnePlus Nord N10 5G เลยรู้สึกอรรถรสในการรับชมดรอปลงไปสักหน่อย แต่ถ้าใครที่ไม่ได้ชอบแนวเดียวกับผม ก็น่าจะถูกใจกันนะครับ เพราะได้จอแสดงผลที่มีโทนสีธรรมชาติ รวมทั้งยังมี Refresh Rate สูง 90Hz มาช่วยแสดงผลทำให้การรับชมภาพเคลื่อนไหวต่างๆ ทำได้เนียนขึ้นจากจอปกติทั่วไปด้วย
กล้องถ่ายรูป Quad Camera 64MP "คุณภาพดี รายละเอียดคมชัด เหมาะกับสายแต่งรูป"
ขยับมากันที่เรื่องของการถ่ายรูปกันบ้าง น่าจะเป็นหัวข้อที่หลายคนอยากทราบกันแน่นอนว่าผลงานและประสบการณ์การใช้งานกล้องถ่ายรูปของ OnePlus Nord N10 5G เป็นอย่างไรกันบ้าง แต่ก่อนอื่นไปดูสเปกกล้องถ่ายรูปกันก่อนครับว่ารอบนี้ทางวันพลัสใส่กล้องอะไรมาให้มาให้บ้าง กล้อง Quad Camera 64MP บน OnePlus Nord N10 5G จะประกอบด้วยกล้องทั้งหมด 4 ตัว แบ่งเป็น
กล้องหลัก ความละเอียด 64MP (F1.79) มีระบบกันสั่นด้วยซอฟต์แวร์ EIS ในตัว กล้องเลนส์มุมกว้าง (Ultra Wide Angle) ความละเอียด 8MP (F2.25) ให้มุมมองภาพ (FOV) กว้าง 119 องศา กล้องเลนส์มาโคร (Macro) ความละเอียด 2MP (F2.4) ถ่ายใกล้วัตถุได้ในระยะ 4 เซนติเมตร กล้องขาว-ดำ (Monochrome) ความละเอียด 2MP (F2.4) ประสบการณ์การใช้งานกล้อง Quad Camera 64MP บน OnePlus Nord N10 5G เป็นอย่างไรบ้าง?
เริ่มจากหน้าเมนูการใช้งานกันก่อนเลย สำหรับหน้าเมนูกล้องถ่ายรูปของ OnePlus Nord N10 5G จะเน้นความเรียบง่าย ลูกเล่น โหมดถ่ายภาพ หรือฟีเจอร์หลังกล้องจะไม่เยอะมากนัก เหมาะสำหรับคนที่ชอบความง่าย แบบหยิบเครื่องขึ้นมาเปิดกล้องแล้วกดชัตเตอร์เป็นอันจบซะมากกว่า ส่วนใครที่ชอบแต่งรูปแนะนำให้ดาวน์โหลดแอปฯ มาเสริมการใช้งานจะครบเครื่องมากกว่า เพราะซอฟต์แวร์หลังกล้องพื้นฐานบนตัวเครื่องไม่ค่อยมีลูกเล่นอะไรให้ตกแต่งมากนัก
ส่วนผลงานหลังกล้อง จากที่ได้หยิบกล้อง Quad Camera 64MP ของ OnePlus Nord N10 5G ไปออกทริปถ่ายรูปรีวิวมา ผมรู้สึกว่าสไตล์และโทนสีของภาพถ่ายที่ได้หลังกล้องจะออกไปในแนวดิบๆ บอกว่าเหมือนไฟล์ RAW ก็ได้นะ เพราะสีสันของภาพจะใกล้เคียงกับสิ่งที่เห็นมากกว่าดึงสีและโทนภาพจากซอฟต์แวร์ให้สดสวย เหมาะกับคนที่ชอบนำภาพไปแต่งต่อในแอปฯ ส่วนใครที่สายออโต้กดถ่ายโพสต์บนโซเชียลผมว่าน่าจะไม่ค่อยโดนใจแน่ๆ นอกจากนี้เรื่องของการเก็บรายละเอียดในภาพถ่ายผมว่ากล้องของเจ้า Nord N10 5G ทำได้ดีอยู่นะ เพราะสามารถเก็บรายละเอียดของวัตถุต่างๆ ในภาพไว้ได้ค่อนข้างครบ แต่ก็ยังคงมีข้อจำกัดอยู่ตรงที่พอแสงเริ่มน้อยตัวกล้องก็สู้ไม่ไหวเหมือนกันรายละเอียดของภาพก็เริ่มลดลงไปตามสภาพแสงรอบตัว ถึงแม้จะเปิดโหมด Nightscape ช่วยก็ตาม
ในขณะที่โหมด Pro เป็นอีกที่เด็ดของกล้องรุ่นนี้เลย เพราะเราสามารถที่จะปรับการตั้งค่าการถ่ายรูปไว้ล่วงหน้าได้ ด้วยการเลือกบันทึกค่าดังกล่าวในรูปแบบ Preset 1 และ 2 ของตัวเองได้ ถามว่าดียังไง? เอาง่ายๆ เลยเช่น เราบันทึกค่าการถ่ายกลางคืนโหมดโปรตามสไตล์ของเราไว้ ที่นี้พอเกิดเหตุการณ์ที่จะต้องถ่ายรูปกลางคืน เราก็แค่เปิดกล้องมาและเลือกไปที่ Present ที่เราบันทึกไว้แค่นี้ก็พร้อมถ่ายแล้ว ก็ช่วยเพิ่มความสะดวกได้ในระดับหนึ่งเลยนะ แต่ข้อสังเกตคือเวลาที่เราเลือกปรับค่า EV ตัวค่าสปีดชัตเตอร์จะถูกรีเซ็ตกลับไปที่อัตโนมัติเสมอ หรือกลับกันถ้าเราปรับค่าสปีดชัตเตอร์ตัวค่า EV ที่เราตั้งไว้ก็ถูกรีเซ็ตกลับไปที่ค่าอัตโนมัติทันที ตรงนี้ไม่แน่ใจว่าทางวันพลัสเซ็ตมาแบบนี้หรือเป็นบั๊กของซอฟต์แวร์กันแน่ ที่เหลือลองไปพิจารณาผลงานหลังกล้องจากภาพตัวอย่างด้านล่างนี้กันได้เลยครับ
ภาพตัวอย่างจากกล้องถ่ายรูป Quad Camera 64MP บน OnePlus Nord N10 5G
High Resolution (64MP Mode)
Wide (Ultra Wide Angle Mode)
Night - Lowlight (Nightscape Mode) กล้องหน้าความละเอียด 16MP "ไม่ขาววอก แต่ดูธรรมชาติ"
กล้องหน้าของ OnePlus Nord N10 5G รอบนี้ให้มาเป็นกล้องเดี่ยวความละเอียด 16MP (F2.0) มีโหมดถ่ายภาพเฉพาะอย่าง Portrait Mode มาให้เหมือนกับกล้องหลังเลย ส่วนภาพที่ได้ก็จะคล้ายกับกล้องหลังคือ มีการตกแต่งภาพน้อยมากๆ ภาพจะดูเรียลพอสมควร ใครที่ชอบสไตล์เนียนใส ฟรุ๊งฟริ๊งแบบโอปป้า ผมแนะนำให้หาแอปพลิเคชั่นตัวอื่นมาใช้เสริมเอานะครับ ลองไปดูภาพตัวอย่างจากกล้องหน้าของ OnePlus Nord N10 5G ด้านล่างพร้อมกันได้เลย
ภาพตัวอย่างจากกล้องหน้าของ OnePlus Nord N10 5G
"มือถือ 5G ซอฟต์แวร์ลื่นไหล ใช้งานยาวนาน ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย"
มาถึงบทสรุปของ OnePlus Nord N10 5G กันแล้ว สำหรับตัวผมคิดว่าสมาร์ทโฟนน้องเล็กรุ่นนี้ของวันพลัส เป็นสมาร์ทโฟนที่ยังคงมีจุดเด่นในเรื่องซอฟต์แวร์ Android OS ที่นิ่ง ลื่น และใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานเหมือนเช่นเดิม ที่เพิ่มเติมก็คงเป็นเรื่องของการรองรับ 5G ที่ครั้งนี้มาในราคาค่าตัวที่เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น ซึ่งถ้าให้เปรียบเปรยให้เห็นภาพมากขึ้นก็คงเป็นอารมณ์ที่ถ้าผมถามใครสักคนว่า "ถ้าให้เลือกมือถือ 5G ราคาไม่เกินหมื่นในตอนนี้ คุณจะเลือกรุ่นไหนกันบ้าง?" และแน่นอนว่าชื่อของ OnePlus Nord N10 5G ก็จะเด้งขึ้นมาในตัวเลือกทันทีนั่นเองครับ
เพราะฉะนั้นถ้าให้สรุปเลยว่า OnePlus Nord N10 5G เหมาะกับใคร? ก็ขอตอบเลยว่า เหมาะกับคนที่มองหาสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่ปัญหาน้อย ได้รับอัปเดตต่อเนื่องยาวๆ 2-3 ปี และต้องการใช้งานเครือข่าย 5G ในราคาที่ไม่สูงมากเกินไป ทั้งหมดที่ว่ามาถ้าหากตรงกับโจทย์การหาสมาร์ทโฟนของคุณในตอนนี้ เจ้า Nord N10 5G ก็จะเป็นเพื่อนคู่ใจให้คุณได้แน่นอนครับ
เพิ่มเติมให้อีกนิดสำหรับคนที่ยังกังวลว่า "ใช้มือถือ OnePlus แล้วจะเข้ารับบริการหลังการขายได้อย่างไร?"
ณ เวลานี้ OnePlus ประเทศไทย มีศูนย์บริการของแบรนด์โดยตรงเปิดให้บริการอยู่ 1 สาขา ที่ MBK ชั้น 5 ซึ่งหลายคนน่าจะทราบและเคยเข้าไปใช้บริการกันบ้างแล้ว แต่ในช่วงเวลาที่ผ่านมาทางวันพลัสได้เล่าว่า พวกเขามีฐานลูกค้าของแบรนด์ที่เติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ทางวันพลัสเองก็ตระหนักในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก จึงได้ตัดสินใจร่วมมือกับทาง OPPO ประเทศไทย เปิดให้บริการหลังการขายของแบรนด์ OnePlus ผ่านศูนย์บริการของ OPPO ที่มีมากกว่า 42 สาขาทั่วประเทศ
โดยแบ่งเป็นศูนย์ให้บริการซ่อมแซมและเปลี่ยนอะไหล่ 12 สาขา และอีก 29 สาขาเป็นศูนย์ Drop-off สำหรับดรอปมือถือเพื่อส่งซ่อม สรุปก็คือใครใช้สมาร์ทโฟน OnePlus สามารถเข้ารับบริการหลังการขายไม่ว่าจะเป็น การส่งซ่อม, การตรวจสภาพ, อัปเดตเฟิร์มแวร์ และเรื่องอื่นๆ ผ่านศูนย์บริการของ OPPO ได้เลยนั่นเอง เห็นแบบนี้แล้วก็น่าจะช่วยลดความกังวลของผู้ใช้งานได้มากที่เดียว
OnePlus ประเทศไทย เปิดราคา OnePlus Nord N10 5G เพียง 9,990 บาท เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ธันวาคม 2563 นี้ ตั้งแต่ 10.00 น. เป็นต้นไป โดยมีสีตัวเครื่องและรุ่นวางจำหน่ายเพียงรุ่นเดียว คือ สีน้ำเงิน Midnight Ice (RAM 6GB + ROM 128GB) พร้อมโปรโมชันพิเศษ รับของสมนาคุณ บัตรประกัน E-VIP Card และลำโพง Desktop Speaker มูลค่ารวม 5,390 บาท เมื่อซื้อ OnePlus Nord N10 5G ระหว่างวันที่ 1-11 ธันวาคม 2563 โดยวางจำหน่ายผ่านทางโอเปอเรเตอร์ AIS, dtac, Truemove H (ราคาเริ่มต้นเพียง 3,490 บาท*), ร้านตัวแทนจำหน่าย BaNANA, CSC, IT City, Jaymart, TG Fone และช่องทางออนไลน์ JD Central, Lazada, Shopee, Thisshop
โดยทาง OnePlus จะเดินทางมาถึงปีที่ 7 ในเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ จึงได้ประกาศ 7 บิ๊กเซอร์ไพรส์ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองและมอบความขอบคุณให้กับแฟนๆ วันพลัสทุกท่าน ประเดิมด้วย
Surprise 1 : ราคาเปิดตัว OnePlus Nord N10 5G สมาร์ทโฟน 5G ราคาถูกที่สุดในตลาด ณ ตอนนี้ ที่ 9,990 บาท
พร้อมการปรับราคาใหม่ของ OnePlus Nord ตามมาด้วย
Surprise 2 : วันพ่อ กับ OnePlus เมื่อวันพลัสเตรียมจัดงานวันพ่อในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อ OnePlus Nord 5G ระหว่างวันที่ 1-4 ธันวาคม แล้วพกใบเสร็จและตัวเครื่องมาร่วมกิจกรรมวันพ่อในวันที่ 5-6 ธันวาคม ที่ลาน Beacon 3 ชั้น 1 ศูนย์การค้า CentralWorld รับฟรี! OnePlus Nord N10 5G อีก 1 เครื่องทันที (จำกัดแค่ 77 เครื่องเท่านั้นนะครับ) ส่วนคนที่ไม่ทันก็ยังมีสิทธิ์ไปลุ้นเป็นเจ้าของ Nintendo Switch กันได้
Surprise 3 : OnePlus x Line Friends จัดทำ OnePlus Nord N10 5G Line Friends Special Box-set รุ่นพิเศษ วางจำหน่ายเฉพาะในไทยเท่านั้น ส่วนอีก 4 Suprise ที่เหลือ รอติดตามได้จากทางแฟนเพจ OnePlus :
www.facebook.com/oneplusthailand เร็วๆ นี้ครับ