รีวิว - เปรียบเทียบ realme C17 และ Vivo Y20 สมาร์ทโฟนรุ่นเด่นในเรทราคา 5,000 บาท ซื้อรุ่นไหนดี?

หลายคนถามมากันเยอะ ว่าในงบประมาณ 5,000 บาท มีสมาร์ทโฟนรุ่นไหนน่าสนใจ รุ่นไหนน่าซื้อที่สุด ซึ่งในเรทราคานี้ก็มีตัวเลือกที่น่าสนใจเยอะมากๆ เลยครับ โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ กระแสแรง 2 รุ่นนี้ อย่าง realme C17 และ Vivo Y20 เปรียบเป็นคู่มวยที่สูสีกันมากๆ มองหน้าสเปคผ่านๆ มีความคล้ายคลึงกัน เพราะใช้หน้าจอ IPS และมีขนาดหน้าจอ 6.5 นิ้ว บนความละเอียด HD+ ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 460, GPU Adreno 610, RAM 4GB, ROM 64GB และแบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh เท่ากัน แต่ในรายละเอียดอื่นๆ ก็มีความแตกต่างกัน เรามาดูกันเลยครับว่า สมาร์ทโฟน 2 รุ่นนี้มีดีแตกต่างกันตรงไหนบ้าง ผลทดสอบจะออกมาแตกต่างกันอย่างไร กล้องต่างกันหรือไม่ และโดยรวมแล้วรุ่นไหนจะน่าใช้กว่ากัน? เรามาดูกันเลยครับ

realme C17 และ Vivo Y20

realme C17 มาพร้อมดีไซน์ตัวเครื่องโค้งมน เวลาสัมผัสจะรู้สึกถึงความนุ่มนวล หน้าจอมาพร้อมกล้องหน้า In-Display Selfie หน้าจอ IPS ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ รองรับ Refresh Rate 90Hz (Ultra Smooth) พื้นที่หน้าจอ 90% ดีไซน์ด้านหลังดูนุ่มนวลแวววาวเหมือนเพชรตาแมว (ได้รับแรงบันดาลใจจากอัญมณี Cat's Eye) ผิวด้าน กล้องหลัง 4 เลนส์ และด้านหลังจะมีสแกนลายนิ้วมือ มีความบาง 8.9 มม. และน้ำหนัก 188 กรัม

Vivo Y20 มาพร้อมดีไซน์เรียบหรู ดูแวววาว เงาวับ หน้าจอแบบหยดน้ำ IPS ขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียด HD+ รองรับ Refresh Rate 60Hz พื้นที่หน้าจอ 81.6% ดีไซน์ด้านหลังแววาว กล้องหลัง 3 เลนส์ ขอบกล้องเคลือบโครเมี่ยมดูหรูหรา และด้านข้างตรงปุ่ม Power จะมีสแกนลายนิ้วมือ มีความบาง 8.4 มม. และน้ำหนัก 192.3 กรัม

จะเห็นว่ามิติตัวเครื่องแทบจะเท่ากันเลยนะครับ realme C17 จะหนากว่า Vivo Y20 แต่ก็มีน้ำหนักที่เบากว่า เวลาจับถือผมรู้สึกว่า realme C17 มีความบางและเบากว่าชัดเจนครับ ส่วนดีไซน์มีความแตกต่างกัน realme C17 จะให้ความรู้สึกโค้งมน ผิวด้านแต่แวววาว ดูสวยงาม ส่วนทางด้าน Vivo Y20 จะให้ความรู้สึกเรียบแบน แวววาว ให้ความรู้สึกหรูหรา ดูสวยมาก โดยเฉพาะดีไซน์ของกล้องหลังดูเฉียบคมกว่า เรื่องดีไซน์ต่างคนต่างความชอบจริงๆ แต่โดยส่วนตัวผมชอบดีไซน์ของ Vivo Y20 มากกว่านะ ดูโฉบเฉี่ยวมากกว่า

และเรื่องหน้าจอต้องบอกว่า realme C17 สเปคหน้าจอเหนือกว่า Vivo Y20 อย่างชัดเจนครับ มาพร้อมมาตรฐานหน้าจอระดับ Gaming โดยมีค่า Refresh Rate 90Hz และ Sampling Rate 120Hz เลยทีเดียว ในขณะที่ Vivo Y20 มีค่า Refresh Rate 60Hz เท่านั้น ความลื่นไหลของหน้าจอจึงแตกต่างกัน

realme C17 มาพร้อมกล้องหน้าแบบเจาะรู In-Display Selfie ดูทันสมัย และทำให้มีพื้นที่หน้าจอมากกว่า Vivo Y20 ที่ใช้กล้องหน้าแบบหยดน้ำ

ส่วนเรื่องเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ อันนี้แล้วแต่ความชอบเลยครับ ว่าจะชอบให้อยู่ด้านหลังอย่าง realme C17 หรืออยู่ด้านข้างตรงปุ่ม Power แบบ Vivo Y20 แต่แบบหลังผมว่าดูทันสมัยกว่านะครับ ปลดล็อคได้ง่ายทั้งคู่เลย

อีกจุดที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนก็คือ realme C17 มาพร้อมมาตรฐานใหม่ USB Type-C 2.0 ส่วน Vivo Y20 ยังคงใช้พอร์ท microUSB 2.0 อยู่เลยนะครับ เพราะตอนนี้ในตลาดหันมาใช้พอร์ท USB Type-C กันแทบจะหมดแล้ว และเป็นจุดที่ผู้ใช้งานควรให้ความสำคัญในการเลือกซื้อ อย่างผมเองก็ใช้ที่ชาร์จและสายชุดเดียว ใช้งานกับสมาร์ทโฟนหลายเครื่อง ถ้าเป็นมาตรฐานเดียวกัน ก็จะสะดวกมากกว่า

realme C17 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W ส่วนทางด้าน Vivo Y20 ก็มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh เช่นเดียวกันครับ แต่ไม่รองรับชาร์จเร็ว จากการทดสอบ แบตเตอรี่อึดทั้งคู่ สามารถใช้งานได้ยาวนาน ไม่จำเป็นต้องชาร์จระหว่างวันเลย จุดแตกต่างก็อยู่ที่เทคโนโลยีชาร์จเร็วนี่ละ

• GSM 850 / 900 / 1800 / 1900
• HSDPA 850 / 900 / 2100
• LTE band 1, 3, 5, 8, 38, 40, 41
• Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot
• Bluetooth 5.0, A2DP, LE
• GPS, A-GPS, GLONASS, BDS
• พอร์ทหูฟัง 3.5 มม.
• USB Type-C 2.0, USB On-The-Go
• หน้าจอ IPS LCD มาพร้อมกล้องหน้า In-Display Selfie ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ 720 x 1600 pixels (270 ppi) อัตราส่วนหน้าจอ 20:9
• พื้นที่หน้าจอ 90%
• รองรับ Refresh Rate 90Hz (Ultra Smooth)
• มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Navy Blue, Lake Green
• ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 460
• CPU Octa-core (4x1.8 GHz Kryo 240 & 4x1.6 GHz Kryo 240)
• GPU Adreno 610
• RAM 6GB (LPDDR4X)
• ROM 64GB (UFS 2.1) รองรับ microSDXC
• เซ็นเซอร์ Fingerprint (rear-mounted), accelerometer, proximity, compass
• ทำงานบน Android 10 ครอบทับด้วย realme UI
• แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W
• ราคาเปิดตัว 4,999 บาท

• GSM 850 / 900 / 1800 / 1900
• HSDPA 850 / 900 / 2100
• LTE band 1, 3, 5, 7, 8, 38, 40, 41
• Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot
• Bluetooth 5.0, A2DP, LE
• GPS, A-GPS, GLONASS, BDS
• พอร์ทหูฟัง 3.5 มม.
• microUSB 2.0, USB On-The-Go
• หน้าจอ IPS LCD มาพร้อมหน้าจอหยดน้ำ ขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียด HD+ 720 x 1600 pixels (270 ppi) อัตราส่วนหน้าจอ 20:9
• พื้นที่หน้าจอ 81.6%
• มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Obsidian Black, Dawn White
• ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 460
• CPU Octa-core (4x1.8 GHz Kryo 240 & 4x1.6 GHz Kryo 240)
• GPU Adreno 610
• RAM 6GB (LPDDR4X)
• ROM 64GB (UFS 2.1) รองรับ microSDXC
• เซ็นเซอร์ Fingerprint (side-mounted), accelerometer, proximity
• ทำงานบน Android 10 ครอบทับด้วย Funtouch 10.5
• แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh
• ราคาเปิดตัว 5,299 บาท

จากสเปคของ realme C17 และ Vivo Y20 เมื่อเทียบกันแบบนี้ จะเห็นว่ามีความคล้ายกันมากๆ เหมือนกันแทบจะทุกอย่าง สเปคจะแตกต่างกันก็ตรงรูปแบบหน้าจอ, พอร์ท USB, มาตรฐานการชาร์จเร็ว และราคาที่แตกต่างกันเล็กน้อย

• ทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ทำไปได้ 143,510 คะแนน
• ทดสอบ MultiTouch รองรับ 10 จุด
• ทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AndroBench ทำความเร็ว Storage ในการอ่านอยู่ที่ 513.04 MB/s และการเขียน 195.99 MB/s (UFS 2.1) ทำความเร็ว RAM ในการอ่านอยู่ที่ 110.62 MB/s และการเขียน 112.33 MB/s (LPDDR4X)
• รองรับ DRM L1 สามารถรับชม Netflix FHD
• ทดสอบสัญญาณ GPS จับสัญญาณได้รวดเร็ว

• ทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ทำไปได้ 153,377 คะแนน
• ทดสอบ MultiTouch รองรับ 10 จุด
• ทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AndroBench ทำความเร็ว Storage ในการอ่านอยู่ที่ 509.05 MB/s และการเขียน 172.27 MB/s (UFS 2.1) ทำความเร็ว RAM ในการอ่านอยู่ที่ 132.64 MB/s และการเขียน 126.47 MB/s (LPDDR4X)
• รองรับ DRM L1 สามารถรับชม Netflix FHD
• ทดสอบสัญญาณ GPS จับสัญญาณได้รวดเร็ว

จากคะแนนทดสอบจะเห็นว่ามีผลคะแนนที่ไม่แตกต่างกันมากนะครับ เพราะว่าทั้ง 2 รุ่นนี้ มีสเปคที่เหมือนกันมากๆ นั่นเอง ทั้งในเรื่องของชิปเซ็ต, RAM / ROM ที่เท่ากัน เป็นคู่มวยที่สมน้ำสมเนื้อกันมากๆ

realme C17 ทำงานบน Android 10 ครอบทับด้วย realme UI และ Vivo Y20 ทำงานบน Android 10 ครอบทับด้วย Funtouch 10.5 จะมีความแตกต่างกันในเรื่องหน้าตาการใช้งาน แต่ยังคงทำงานบน Android 10 ทั้งคู่นะครับ สำหรับความแตกต่างในการใช้งาน UI ของทาง realme และ Vivo จะให้ความรู้สึกในการใช้งานที่ต่างกันครับ

โดยทาง realme UI จะให้ความรู้สึกเรียบหรู และเข้าใจง่าย ลูกเล่นเยอะ และฟีเจอร์เด่นๆ มาให้ครบเลย โดยจะมีความเหมือนกับ ColorOS มากๆ เลยครับ ไม่รู้สึกแตกต่างกัน ส่วนทาง Funtouch 10.5 พัฒนามาไกลจากสมัยก่อน มีการออกแบบให้ดูเรียบง่ายมากขึ้น แต่ก็ยังคงเต็มไปด้วยลูกเล่น และการปรับแต่งที่มากมาย ใครที่ชอบความซนๆ น่าจะถูกใจ

realme C17

Vivo Y20

realme C17 มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 8MP F2.0, (wide) และกล้องหลัง 4 เลนส์ ความละเอียดดังนี้

• 13MP F2.2, (wide), PDAF
• 8MP F2.2, 119 องศา (ultrawide)
• 2MP F2.4, (macro)
• 2MP F2.4, (depth)
• บันทึกวีดีโอ Full HD 1080P 30FPS ทั้งกล้องหลัง และกล้องหน้า

Vivo Y20 มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 8MP (wide) และกล้องหลัง 3 เลนส์ ความละเอียดดังนี้

• 13MP F1.8, (wide), PDAF
• 2MP F2.4, (macro)
• 2MP F2.4, (depth)
• บันทึกวีดีโอ Full HD 1080P 30FPS ทั้งกล้องหลัง และกล้องหน้า

สำหรับในส่วนของกล้อง realme C17 ได้เปรียบ Vivo Y20 อย่างชัดเจนครับ เพราะมาพร้อมกล้องที่ครบช่วงมากกว่า โดยมีกล้อง 8MP F2.2, 119 องศา (ultrawide) มาให้ด้วย ในขณะที่อีกรุ่นไม่มีมาให้ ทำให้สามารถถ่ายภาพได้ครบทุกระยะมากกว่า สามารถถ่ายภาพ ultrawide มุมมองกว้าง 119 องศา ได้อย่างสวยงาม

แต่ในส่วนของกล้องหลัก 13MP ทาง Vivo Y20 ได้เปรียบ realme C17 นะครับ เพราะมาพร้อม F1.8 ในขณะที่คู่แข่งมาพร้อม F2.2 ซึ่งจะช่วยในเรื่องความสว่าง แต่ผลงานจะออกมาดีแค่ไหนระหว่าง สมาร์ทโฟน 2 รุ่นนี้ เราต้องมาดูกันที่ตัวอย่างภาพถ่ายครับ

ตัวอย่างภาพถ่าย Selfie จาก realme C17 และ Vivo Y20

realme C17 และ Vivo Y20: Selfie ปกติ

realme C17 และ Vivo Y20: Portrait Selfie

ตัวอย่างภาพถ่ายจาก realme C17 และ Vivo Y20

realme C17 และ Vivo Y20: ภาพถ่ายปกติ

realme C17 และ Vivo Y20: Portrait

ตัวอย่างภาพถ่ายเปรียบเทียบระยะซูม realme C17 และ Vivo Y20

realme C17 มาพร้อมกล้อง Ultrawide ก็เลยสามารถถ่ายภาพมุมมองกวาง 119 องศาได้ ในขณะที่ Vivo Y20 ไม่มี

realme C17: Ultrawide

realme C17: 1x

realme C17: 2x

realme C17: 5x

Vivo Y20: 1x

Vivo Y20: 2x

realme C17 และ Vivo Y20: ภาพถ่าย Macro

realme C17 ภาพถ่าย Night Mode และ Vivo Y20 ไม่รองรับฟีเจอร์ Night Mode

realme C17 ภาพถ่าย Night Mode และ Vivo Y20 ไม่รองรับฟีเจอร์ Night Mode

realme C17 ภาพถ่าย Night Mode และ Vivo Y20 ไม่รองรับฟีเจอร์ Night Mode

จากการทดสอบถ่ายภาพด้วย realme C17 และ Vivo Y20 จะเห็นถึงความแตกต่างกันนะครับ โดยทาง realme C17 จะได้เปรียบ Vivo Y20 อยู่มากในความครบเครื่อง เพราะเหนือกว่าในเรื่องมีกล้อง 8MP F2.2, 119 องศา (ultrawide) และรองรับการถ่ายภาพ Night Mode ซึ่งทางคู่แข่งไม่มีมาให้ ทำให้สามารถถ่ายภาพได้ครบทุกระยะ และถ่ายภาพในเวลากลางคืน และสภาพแสงน้อยได้ดีกว่าอย่างชัดเจน มีความคม และป้ายไฟต่างๆ คมชัดแตกต่างกันมากๆ

และสำหรับ Character ของกล้องมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนครับ สำหรับกล้องหน้า realme C17 จะดูนวลใส ผิวดูเนียนกว่า ส่วนทาง Vivo Y20 จะมีความคมมากกว่า รวมทั้งสว่างกว่าด้วย อันนี้แล้วแต่ชอบเลยครับ ถ่าย Selfie ออกมาสวยทั้งคู่ เป็นมือถือที่ถ่าย Selfie ได้สวยมากในงบราคานี้

ส่วนกล้องหลัง นอกจากความแตกต่างเรื่องจำนวนกล้อง และ Night Mode แล้ว Vivo Y20 กล้องดูเก็บรายละเอียดได้ดีกว่า แต่โทนจะมืดกว่าเล็กน้อย ส่วนทาง realme C17 จะมีการปรับแต่งมากกว่า ดีเทลใบหน้าดูเรียบเนียนแบบตั้งใจเลยครับ และโทนภาพจะมาแนวสว่างใส ผมว่ากินกันยากนะ เรื่องกล้องสวย ทำได้ดีมากครับ สำหรับสมาร์ทโฟนราคาเริ่มต้นแบบนี้ โดดเด่นเลยละ แต่ทาง realme C17 ก็ยังได้เปรียบครับต่อให้ไม่ดูเรื่องการถ่าย ultrawide เพราะสามารถซูมภาพได้มากกว่า โดยรองรับที่ 5x แม้คุณภาพจะลดลงไปก็ตาม แต่ทำได้มันก็ดีกว่านะครับ รวมทั้งระยะ Macro ก็ดูคมกว่านิดหน่อยด้วย

• realme C17 ราคาเปิดตัว 4,999 บาท ราคาโปรโมชั่นพิเศษ เมื่อซื้อผ่าน AIS Shop เริ่มต้นเพียง 1,989 บาท เท่านั้น เมื่อสมัครแพ็กเกจ 699 (ไม่รวม Vat) สัญญา 12 เดือน จ่ายล่วงหน้า 500 บาท
• Vivo Y20 ราคาเปิดตัว 5,299 บาท ราคาโปรโมชั่นพิเศษ เมื่อสมัครแพ็กเกจ dtac เริ่มต้นเพียง 2,090 บาท เท่านั้น เมื่อสมัครแพ็กเกจ 699 (ไม่รวม Vat) สัญญา 12 เดือน จ่ายล่วงหน้า 1,000 บาท

1. ดีไซน์ตัวเครื่องโค้งมน ผิวด้านเวลาสัมผัสนุ่มนวล แวววาว เหมือนเพชรตาแมว (ได้รับแรงบันดาลใจจากอัญมณี Cat's Eye)
2. หน้าจอ In-Display Selfie ดูทันสมัยกว่า
3. รองรับ Refresh Rate 90Hz และ Sampling Rate 120Hz ดูลื่นไหลกว่า
4. พื้นที่หน้าจอ 90% หน้าจอดูเต็มกว่า
5. รองรับชาร์จเร็ว 18W ชาร์จได้รวดเร็วกว่า
6. มาพร้อม USB Type-C 2.0 ทันสมัยกว่า
7. มีกล้อง 8MP F2.2, 119 องศา (ultrawide) มาให้ด้วย ในขณะที่คู่แข่งไม่มีมาให้
8. รองรับการถ่ายภาพ Night Mode ซึ่งทางคู่แข่งไม่มีมาให้

1. ดีไซน์เรียบหรู ดูแวววาว เงาวับ ขอบกล้องเคลือบโครเมี่ยมดูหรูหรา
2. เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ด้านข้างตรงปุ่ม Power ดูทันสมัยกว่า
3. คะแนนทดสอบ AnTuTu Benchmark สูงกว่า