รีวิว realme C12 มือถือรุ่นเล็ก แบตฯอึด จอใหญ่ 6.5 นิ้ว มีสแกนนิ้วมือ กล้อง Triple camera 13MP ในราคา 3,999 บาท!
realme C12 น่าจะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กสุดของ เรียลมี ประเทศไทย ในปีนี้แล้วล่ะครับ เพราะดูจากสเปกตัวเครื่องและช่วงระยะเวลาที่เหลือของปีนี้ก็ไม่น่าจะมีรุ่นไหนมาเพิ่มเติมในตลาด entry phone อีกแล้วนะ โดย realme C12 เป็นสมาร์ทโฟนที่หลังจากผมได้ลองใช้งานดูแล้ว ก็รู้สึกว่าน่าจะถูกทางเรียลมีตั้งโจทย์ให้มาตอบรับความต้องการของผู้ใช้งานในระดับเริ่มต้นที่ต้องการมือถือใช้งานแบบทั่วไปไม่เน้นด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษ
ดังนั้น realme C12 จึงมาพร้อมสเปกตัวเครื่องในระดับเริ่มต้นที่ให้มาค่อนข้างดีมากและเป็นจุดเด่นของรุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+, มีระบบสแกนนิ้วมือแบบ Instant Scan มาให้เป็นพื้นฐานในด้านความปลอดภัยต่อข้อมูล, ติดตั้งกล้องถ่ายรูป Triple Camera ความละเอียด 13MP และใส่แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6,000 mAh มาให้ในตัว ซึ่งทุกอย่างล้วนเป็น need ของลูกค้าในกลุ่มตลาดนี้ทั้งหมด และทางเรียลมีก็ใส่มาครบถ้วน ทำให้เจ้าน้องเล็ก C12 เป็นมือถือระดับเริ่มต้นที่ดีอีกรุ่นของตลาด และเชื่อว่าน่าจะถูกใจคนที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนดีๆ มาใช้งานพื้นฐานทั่วไปได้อย่างลงตัวเลยทีเดียวกับราคา 3,999 บาท เท่านั้น
realme C12 มาพร้อมการผลิตตัวเครื่องที่แน่นหนามากๆ จับตรงไหนก็ไม่มีความยวบหรือมีเสียงก๊องแก๊งให้ได้ยิน ในขณะที่งานออกแบบรอบนี้ใช้คอนเซ็ปต์การออกแบบ "Geomatric Gradient Design" ที่ยังคงใช้ไอเดียจากรูปทรงเรขาคณิตมาเป็นต้นแบบไอเดีย พร้อมกับเติมลูกเล่นในเรื่องของการไล่เฉดสีลงไปที่ฝาหลัง ทำให้ฝาหลังของ realme C12 มีคาแรคเตอร์ของงานออกแบบที่แปลกใหม่และดูสวยงามในแบบแฟชั่นพอสมควร
บริเวณมุมซ้ายบนของฝาหลังเป็นตำแหน่งของกล้องถ่ายรูป ที่ออกแบบตัวฐานโมดูลกล้องเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส พร้อมกับติดตั้งมาให้ด้วยกันทั้งหมด 3 ตัว (Triple camera) ประกอบด้วย กล้องหลักความละเอียด 13MP (F2.2), กล้องเลนส์มาโครความละเอียด 2MP (F2.4) และกล้องเลนส์ขาว-ดำ ความละเอียด 2MP (F2.4) มีไฟแฟลช LED ในตัว
ขยับมาบริเวณกึ่งกลางฝาหลัง จะมีแป้นสัมผัสนิ้วมือสำหรับใช้สแกนลายนิ้วมือ ซึ่งเป็นจุดเด่นของรุ่นนี้
ด้านหน้า ใช้หน้าจอแสดงผล LCD Mini-drop Fullscreen ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 1,600 x 720 พิกเซล มีพื้นที่หน้าจอให้ใช้งาน (Screen-to-body Ratio) มากถึง 88.7% มีค่าความสว่างอยู่ที่ 420 nits และตัวหน้าจอครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass
ขยับขึ้นไปตรงกลางหน้าจอด้านบน มีกล้องหน้าทรงกลมความละเอียด 5MP (F2.4) ติดตั้งไว้ตรงตำแหน่งใกล้กับลำโพงเสียงสนทนา โดยที่ตัวเลนส์มีการใช้เลนส์กระจกครอบทับด้วยกันถึง 3 ชั้น (3P Lens)
ด้านขวาตัวเครื่อง มีปุ่มกดปรับเพิ่ม-ลดเสียง (Volume) และปุ่มเปิด-ปิด ตัวเครื่อง (Power)
ด้านซ้ายตัวเครื่อง มีช่องถาดซิมการ์ด ซึ่งรองรับการใช้งานซิมการ์ดแบบ 2+1 สามารถใช้งานซิมการ์ด 2 ซิมการ์ด พร้อมกับ MicroSD Card ได้พร้อมกัน
ด้านล่างตัวเครื่อง มีพอร์ต MicroUSB สำหรับใช้เชื่อมต่อและชาร์จไฟในตัว, ลำโพงเสียงตัวเครื่อง และรูเสียบชุดหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
มิติตัวเครื่อง : กว้าง 75.9 x สูง 164.5 x หนา 9.8 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักตัวเครื่องรวม 209 กรัม
- realme C12
- คู่มือการใช้งานเริ่มต้น
- เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
- สายชาร์จ MicroUSB
- อแดปเตอร์ชาร์จไฟ
สเปกตัวเครื่องของ realme C12
- หน้าจอแสดงผล LCD Mini-Fullscreen ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 1600x720 พิกเซล
- CPU Helio MediaTek G35 (12nm.) ความเร็ว 2.3GHz
- GPU GE8320
- RAM 3GB (LPDDR4x)
- ROM 32GB
- Android 10 with realme UI
- Bluetooth 5.0
- มีระบบสแกนลายนิ้วมือ
- WiFi 802.11 b/g/n
- กล้องถ่ายรูป Triple camera ประกอบด้วย
- กล้องหลัก ความละเอียด 13MP (F2.2)
- กล้องมาโคร ความละเอียด 2MP (F2.4)
- กล้องขาว-ดำ ความละเอียด 2MP (F2.4)
- กล้องหน้า ความละเอียด 5MP (F2.2)
- รองรับซิมการ์ดแบบ 2+1
- แบตเตอรี่ขนาด 6,000 mAh (ชาร์จไฟ 10W)
Android 10 with realme UI
realme C12 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย realme UI ซึ่งเป็นอินเทอร์เฟซที่ทางเรียลมีออกแบบเองนะครับ เพราะฉะนั้นงาน UI ก็จะออกไปแนววัยรุ่นสักหน่อย เป็นไปตามเอกลักษณ์ของ เรียลมี ที่เป็นแบรนด์คนรุ่นใหม่นั่นเอง ในขณะที่การเรียกใช้งานหรือเข้าถึงเมนูการใช้งานต่างๆ บนตัวเครื่องสามารถทำได้ง่าย คนที่ย้ายมาใช้งานสมาร์ทโฟนเป็นครั้งแรกอย่างคุณพ่อคุณแม่หรือผู้สูงวัยสามารถเรียนรู้และใช้งานได้ด้วยตัวเองไม่ยากครับ ทางเรียลมีออกแบบอินเทอร์เฟซมาได้ไม่ซ้ำซ้อน ปัดซ้าย-ขวาก็สามารถเข้าถึงเมนูการใช้งานได้เลย
นอกจากนี้บนตัวเครื่องยังมีฟีเจอร์พื้นฐานของแอนดรอยด์ที่หลายคนชอบอย่าง โหมดโคลนแอปฯ และโหมดใช้งานสองหน้าจอพร้อมกัน มาให้ด้วยนะ น่าจะถูกใจกันแน่นอน
มีระบบสแกนลายนิ้วมือแบบ Instant scan หรือแตะลายปลดล็อคหน้าจอได้เลย เป็นระบบความปลอดภัยต่อข้อมูลบนตัวเครื่องพื้นฐาน เป็นอะไรที่ดีมากๆ เลยครับ เพราะเดิมใช้แค่การตั้งรหัสผ่าน (Password) หรือ Pin code น่าจะเอาไม่อยู่แน่ๆ ถ้าหากมีคนตั้งใจจะขโมยข้อมูลหรือล้างเครื่องเวลาเราทำเครื่องหายจริงๆ
นอกจากนี้ยังมี Dark mode สำหรับใช้งานในตอนกลางคืนมาให้ด้วยเช่นกันครับ ข้อดีของโหมดนี้คือการใช้งานในตอนกลางคืนที่ลดความสว่างของหน้าจอลงทำให้ไม่เกิดแสงไปรบกวนคนรอบข้าง รวมถึงการใช้พื้นหลังสีดำมีส่วนช่วยลดการใช้พลังงานของแบตเตอรี่ลงด้วยนะ
และอีกจุดที่ผมสังเกตมาสักพักบน realme UI เวอร์ชั่นใหม่ๆ เราจะเริ่มเห็น Ads ตามพื้นว่างต่างๆ ของหน้าต่าง UI บนเครื่องบ่อยขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการสร้างรายได้ของแต่ละแบรนด์มือถือในตอนนี้นะครับ ถ้าเห็นก็ไม่ต้องตกใจไป และก็ขอชมทางเรียลมีว่าออกแบบการวาง Ads มาได้ดีมากๆ ไม่รบกวนสายตาหรือทำแอคชั่นใดๆ ให้ผู้ใช้รู้สึกรำคาญเลย ตลอดการใช้งานผมไม่เคยเจอ Ads ไหนสร้างความหงุดหงิดเลย ดังนั้นสบายใจได้ว่าใช้งานราบรื่นแน่นอน และไม่มี Ads เด้งกวนใจแบบตอนเข้าเว็บเบราเซอร์แน่นอน
ประสิทธิภาพการใช้งาน (Performance)
ก่อนที่เราจะไปคุยกันในเรื่องของประสิทธิภาพการทำงานบน realme C12 ผมอยากทวนให้เพื่อนๆ ที่อ่านมาถึงตรงนี้เข้าใจกันอีกครั้งว่า สมาร์ทโฟนรุ่นนี้คือ 'สมาร์ทโฟน Entry-phone' นะครับ ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนที่ออกแบบมาให้เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานในระดับเริ่มต้นมากกว่าด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษนะ เพราะฉะนั้นถ้าใครคาดหวังในประสบการณ์ที่ปรู๊ดปร๊าด เล่นเกมลื่นปรื๊ดอะไรแบบนี้ ผมแนะนำให้ขยับขึ้นไปเล่นตัวบนกว่านี้อย่างน้อยๆ realme C17 ก็ได้ครับ หรือถ้ามีงบพอไปถึง realme 7i หรือ Series 7 สักรุ่นจะตอบโจทย์ได้ดีกว่านะ
กลับมาที่เรื่องของประสิทธิภาพการใช้งานบน C12 กันต่อ อย่างที่ได้เกริ่นไปแล้วว่า สมาร์ทโฟนรุ่นนี้คือมือถือสำหรับการเริ่มต้น เพราะฉะนั้นการตอบสนองต่อการเรียกใช้งานฟีเจอร์, เมนู หรือฟังก์ชั่นต่างๆ บนตัวเครื่องจะไม่ได้เร็วปรู๊ดปร๊าดแบบรุ่นพี่ realme C17 หรือ realme 7 Series ที่แตะแล้วเด้งเข้าใช้งานทันที แต่คาแร็คเตอร์ของน้อง C12 จะเป็นแบบแตะแล้วรอเสี้ยววินาที ให้เขาได้มีช่วงระยะให้ตัวระบบได้คิดสักนิดสักหน่อย (ขอย้ำว่าเสี้ยววินาทีนะครับ ไม่ใช่แตะแล้วต้องมายืนรอเป็น 1-2 วินาทีอะไรแบบนั้น ไม่ใช่นะ!)
ส่วนการใช้งานในภาพรวมและด้านอื่นๆ ตัวเครื่องก็สามารถตอบสนองและให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีอยู่นะครับ การใช้โซเชียลมีเดียยอดนิยมทั้งหมดก็สามารถใช้งานได้ครบทุกฟังก์ชั่น ตลอดจนการตอบแอปฯ Messenger ต่างๆ ก็ทำได้ราบรื่น มีการเด้งแจ้งเตือนตามปกติเลย ฟังก์ชั่นหรือฟีเจอร์พื้นฐานบนสมาร์ทโฟนในยุคนี้ก็ใส่มาครบทุกอย่างใช้งานกันได้แบบไม่ติดขัดอะไรแน่นอน
ทดสอบประสิทธิภาพการทำงานด้วยคะแนน Benchmark
- ทดสอบประสิทธิภาพการทำงานด้วย Antutu Benchmark ได้คะแนนทดสอบ 108,431 คะแนน
- ทดสอบประสิทธิภาพการเขียน-อ่าน หน่วยความจำ (ROM, eMMC 5.1) ได้ค่าการอ่าน 299.31 MB/s และค่าการเขียน 81.54 MB/s
- ทดสอบการรองรับการแสดงผล High Definition บนสตรีมมิ่ง VDO (Netflix) ผลเป็น Security Level L3 (ไม่รองรับการแสดงผล)
การเล่นเกมและความบันเทิง (Games & Entertrainment)
realme C12 เลือกใช้ชิปประมวลผล Helio MediaTek G35 เป็นหัวใจหลักในทำงานบนตัวเครื่อง ซึ่งชิปตัวนี้เป็นชิปประมวลผลระดับเริ่มต้นของ MediaTek G Series ในปีนี้ ถ้าเทียบกับฝั่งมังกรแดงก็คงจะเป็นคู่แข่งทางตรงกับซีรีย์ 439 ก็ว่าได้ โดยตัวชิปผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยี 12nm. ได้เทคโนโลยี HyperEngine ของ MediaTek ด้วย และใช้สถาปัตยกรรม ARM Cortex A53 Octa-core ทำงานคู่กับ GPU PowerVR GE8320
เพราะฉะนั้นประสบการณ์การเล่นเกมบน realme C12 สามารถเล่นเกมได้เกือบทุกเกมเลยนะครับ ไม่ใช่จะเล่นไม่ได้เลย แถมยังเล่นเกมที่ต้องใช้การประมวลด้านกราฟฟิกระดับสูงได้ด้วยนะ เพียงแต่อาจต้องปรับการตั้งค่าเป็นระดับต่ำหรือปานกลางในบางเกมถึงจะเล่นได้ไหลลื่น ถ้าปรับสูงก็ไม่รอดเช่นกันครับ มีกระตุกให้เห็นประปราย เพราะถึงแม้ใจน้องเขาจะได้แต่กายก็ไม่ไปตาม เนื่องจากการใช้ ROM (eMMC) ที่ไม่ได้เป็นสเปกที่สูงมากนัก เพราะฉะนั้นถ้าให้บอกภาพรวมของประสบการณ์การเล่นเกมบน realme C12 ผมบอกได้เลยว่า เหมาะกับคนที่ต้องการเล่นเกมแบบเล่นให้พอสนุกสนานกับเพื่อนๆ หรือเล่นเพื่อฆ่าเวลาไปพรางๆ เท่านั้น
มากันที่เรื่องราวของความบันเทิงทั้งในส่วนของการรับชมคอนเทนท์ภาพยนตร์, ซีรีย์เกาหลี หรือรายการต่างๆ และการฟังเพลงบน realme C12 กันบ้าง เริ่มกันที่การรับชมภาพยนตร์, ละคร, ซีรีย์ รวมถึงรายการต่างๆ จากแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่มีให้บริการในตอนนี้ ตัวเครื่องสามารถรับชมได้เป็นปกติทุกแพลตฟอร์ม ยกเว้นแค่ถ้าใครชอบรับชมผ่าน Netflix อาจจะมีเงื่อนไขตรง C12 ไม่รองรับการแสดงผลที่ความละเอียดระดับ High-Def นะครับ ไม่แน่ใจว่าในอนาคตจะมีอัปเดทออกมารองรับหรือไม่ ส่วนแพลตฟอร์มอื่นๆ สามารถรับชมได้ตามปกติเลย ส่วนประสบการณ์การรับชมก็อยู่ในระดับทั่วๆ ไป และหน้าจอแสดงผลอาจจะสู้ไม่ไหวถ้าหากนำไปใช้งานในสภาพแดดแรงๆ นะครับ
ขยับมากันที่ด้านเสียงกันสักหน่อย สำหรับสายฟังเพลง realme C12 ยังคงมาพร้อมรูเสียบชุดหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ทำให้สามารถใช้งานคู่กับหูฟังเทพๆ ที่แต่ละคนมีประจำกายกันได้ตามปกติ และบนตัวเครื่องมี EQ สำหรับปรับแต่งโทนสีได้ตามต้องการด้วย ในขณะที่ถ้าหากฟังผ่านลำโพงตัวเครื่องรายละเอียดของเสียงจะมาไม่ครบตามลำโพงเสียงทั่วไป ตัวลำโพงจะขับเสียงไปในทางใสๆ ไม่กังวาล สเตจเวทีปานกลางนะครับ ถ้าให้แนะนำก็ฟังผ่านหูฟังของเราเองจะได้อรรถรสมากกว่า
พลังงานแบตเตอรี่ (Battery)
เรื่องของพลังงานแบตเตอรี่เป็นจุดเด่นหลักของ realme C12 เลยทีเดียว โดยตัวเครื่องมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6,000 mAh รองรับการชาร์จไฟ 10W ซึ่งจากการลองใช้งานตัวเครื่องแบบจริงจัง 1 วันของผมก็พบว่า แบตฯ อึดมากๆ สำหรับเจ้า C12 พยายามเล่นเกม, เล่นโซเชียล และดูคอนเทนท์สตรีมมิ่งต่างๆ ตลอดทั้งวัน จาก 100% ในตอนเช้าลากจนเย็นแบตเตอรี่ยังเหลือ 30-40% อยู่เลยครับ เพราะฉะนั้นใครที่ตั้งใจจะนำไปใช้งานแบบทั้งวันน่าจะเอาอยู่แน่นอน และอีกความสามารถที่บังเอิญไปเจอก็คือ C12 สามารถทำตัวเองให้เป็นแหล่งพลังงานสำรองกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ด้วยนะ (Reverse Charging) แต่ต้องเชื่อมต่อผ่านสาย MicroUSB ด้วยกันเท่านั้น ส่วนจุดที่อยากติเลยก็คงเป็นเรื่องของการชาร์จไฟกลับเข้าตัวเครื่อง ที่ไม่มีเทคโนโลยีชาร์จไวมาให้เลยต้องรอนานพอสมควร ถ้าชาร์จจากประมาณ 5-10% ให้เต็มร้อยใช้เวลาราวๆ 2-3 ชั่วโมงเลยทีเดียว
กล้องถ่ายรูป Triple camera 13MP
realme C12 มาพร้อมกล้องถ่ายรูป Triple camera ประกอบด้วย กล้องหลักความละเอียด 13MP (F2.2), กล้องมาโครความละเอียด 2MP (F2.4) และกล้องขาว-ดำสำหรับถ่าย Portrait ความละเอียด 2MP (F2.4) มีไฟแฟลช LED ให้ในตัว ตัวกล้องหลักจะรองรับการซูมภาพได้สูงสุด Digital 4X และรองรับการบันทึกภาพวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 1080P@30FPS นะครับ ส่วนผลงานหลังกล้อง ส่วนตัวผมมองว่าพื้นฐานของตัวกล้องหลักจัดอยู่เกณฑ์ให้คุณภาพที่ดีอยู่แล้วนะ และพอได้ซอฟต์แวร์ดีๆ จากเรียลมี ก็ช่วยยกระดับให้สามารถถ่ายภาพในสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้นแบบชัดเจนมากอย่างเช่น โหมดกลางคืน Super Nightscape, SuperMacro เป็นต้น ส่วนไฟล์ภาพที่ได้จากตัวเครื่องจะเป็นอย่างไรเลื่อนลงไปดูกันได้ที่ด้านล่างเลยครับ
คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่งและภาพวีดีโอ
- โหมดถ่ายภาพบนเครื่อง : HDR, SuperNightScape, Panoramic, Expert, TimeLapse, Filter, Beauty
- รองรับการบันทึกภาพวีดีโอที่ความละเอียด 1080P@30FPS
- รองรับการบันทึกภาพวีดีโอที่ความละเอียด 720P@30FPS (Slow Motion)
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ realme C12
- Scene : Outdoor (กลางแจ้ง)
- Scene : SuperMacro (ถ่ายภาพระยะใกล้วัตถุ)
- Scene : Super NightScape (กลางคืน)
- Scene : Animal (สัตว์เลี้ยง)
กล้องหน้า 5MP AI Selfie camera
กล้องหน้าของ realme C12 เป็นกล้องหน้าความละเอียด 5MP (F2.4) ตัวเลนส์กล้องถูกครอบทับด้วยกระจกคุณภาพ 3 ชั้น (3P) ทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ AI บนตัวเครื่อง และมีโหมดการถ่ายภาพมาให้ในตัว เช่น Beauty, filter, HDR, panoramic view, Portrait, Timelapse เป็นต้น ไปดูผลงานของกล้องหน้าบน realme C12 กันครับ
ภาพถ่ายตัวอย่างจากกล้องหน้าของ realme C12
จากที่ได้ใช้งานและอยู่กับ realme C12 มาหลายวัน ส่วนตัวคิดว่า realme C12 เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟน Entry ตัวจบของตลาดช่วงปลายปีแบบนี้ก็ว่าได้ ถ้าให้นิยามก็ขอให้ว่า "ดีไซน์แปลกตา กล้องสวย แบตฯ อึด ในราคาสัมผัสได้" นี้คือตัวตน realme C12 ที่ผมสัมผัสได้ ถ้าเอาให้เห็นภาพมากขึ้นก็คงจะอารมณ์ประมาณว่า ถ้าอยากได้สมาร์ทโฟนราคาประมาณ 2,000 - 3,999 บาท แบบจบๆ ใช้งานยาวๆ สัก 2-3 ปี ก็เดินไปคว้า C12 จากในร้านได้เลยครับ เพราะเป็นมือถืออีกรุ่นที่ให้ประสบการณ์การใช้งานในภาพที่ดีเมื่อเทียบกับราคาค่าตัวเพียง 3,990 บาท หรือถ้าใครซื้อแบบติดแพ็กเกจกับเครือข่ายอีกก็ยิ่งคุ้มมากๆ เลยล่ะ
โดยจุดเด่นของ realme C12 แบบชัดๆ เลยคือการเป็นสมาร์ทโฟนที่มีงานออกแบบสวยและแปลกตา ซึ่งลองไปส่องสมาร์ทโฟนคู่แข่งในเรทราคาหลักพันต้นๆ จะเห็นได้ชัดเลยว่า C12 จะมีความโดดเด่นในด้านนี้มากๆ ต่อมาก็คือการมาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่คมชัด, ติดตั้งกล้องถ่ายรูปที่ให้คุณภาพงานหลังกล้องที่ดี, มีระบบสแกนลายนิ้วมือในตัว และแบตเตอรี่ที่อึดมากๆ ใช้งานตลอดวันได้สบายเลย ส่วนจุดที่อยากให้เพื่อนๆ ลองพิจารณาดูก็คงเป็นเรื่องของกล้องถ่ายรูปที่ขาดเลนส์มุมกว้าง (Ultra wide Angle) ไป ซึ่งผมมองว่าในปัจจุบันเลนส์มุมกว้างเป็นสิ่งเข้ามาเพิ่มมิติในการถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟนให้หลากหลายมากขึ้นนะครับ การไม่มีเลยทำให้ความสนุกในการภาพลดลงไปพอสมควร
ต่อมาก็คงเป็นเรื่องของหน้าจอแสดงผลที่เป็นพาแนล LCD ทำให้ใช้งานกลางแจ้งได้ไม่ค่อยดีนัก สุดท้ายก็คงเป็นเรื่องของการชาร์จที่ให้ขนาดแบตฯ ใหญ่มา แต่กลับไม่มีเทคโนโลยีชาร์จไวเลยทำให้ต้องรอการชาร์จนานสักหน่อย นอกนั้นในภาพรวมก็เป็นสมาร์ทโฟน Entry อีกรุ่นที่น่าซื้อมากๆ ณ ตอนนี้เลยก็ว่าได้ครับ
เรียลมี ประเทศไทย จะวางจำหน่าย realme C12 ในราคา 3,999 บาท พร้อมสีตัวเครื่องทั้งหมด 2 สี คือ สีน้ำเงิน Marine Blue และสีแดง Coral Red โดยเปิดจองแบบพรีออเดอร์ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป ผ่านช่องทาง Shopee เท่านั้น พร้อมจับมือกับผู้ให้บริการเครือข่าย AIS, Truemove H และ dtac มอบส่วนลดค่าเครื่องเมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจรายเดือน ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป
- dtac วางจำหน่าย realme C12 ในราคาเพียง 1 บาท* (เริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 16 ตุลาคม 2563)
- AIS วางจำหน่าย realme C12 ในราคาเพียง 1,289 บาท* (เริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 16 ตุลาคม 2563)
- Truemove H วางจำหน่าย realme C12 ในราคาเพียง 1,499 บาท* (เริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 16 ตุลาคม 2563)
พร้อมวางจำหน่ายที่ Banana, BKK, KingKong, CSC, TG Fone, Jaymart, IT City และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ในราคาเพียง 3,999 บาท* (เริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 16 ตุลาคม 2563)
และสามารถพรีออเดอร์ผ่านช่องทาง Shopee ได้ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป