พรีวิว ASUS ROG Phone 3 สมาร์ทโฟนเกมมิ่งขั้นสุด จอ AMOLED 144Hz, ชิปเซ็ต Snapdragon 865+, RAM DDR5 กล้อง Triple Cam 64MP

ASUS กับ ROG Phone Series ยังคงเดินหน้าพัฒนากันต่อเนื่องจริงๆ ครับ ซึ่งล่าสุดเดินทางกันมาถึง ASUS ROG Phone 3 สมาร์ทโฟนเกมมิ่งเจเนอเรชั่นที่ 3 ของซีรีย์และเป็นโปรดักส์มือถือเพียงหนึ่งเดียวของ เอซุส ประเทศไทย ที่นำเข้ามาจัดจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการ โดยการมารอบนี้ของ ROG Phone นอกจากจะยังคงคอนเซ็ปท์ความแรงขั้นสุด เพื่อการเล่นเกมในระดับ Extreme แล้ว ยังมีการปรับปรุงและพัฒนาในรายละเอียดงานออกแบบตัวเครื่องที่ลดความเยอะลงไป เน้นเรียบง่ายแต่ยังคงเอกลักษณ์ของแบรนด์ ROG ไว้ทั้งหมด พร้อมกับอุปกรณ์เสริมที่ได้รับการปรับปรุงในจุดต่างๆ จากฟีดแบ็คของผู้ใช้งานในรุ่นก่อนด้วย และตอนนี้ตัวเครื่องก็มาอยู่ในมือผมแล้ว ตามไปสัมผัสตัวเครื่องครั้งแรกไปพร้อมกันครับว่าสวยงาม เกมเมอร์แค่ไหน!! 

ASUS ROG Phone 3 มาพร้อมงานคอนเซ็ปต์ "Game Changer" กับแนวทางในการรังสรรค์ดีไซน์บนตัวเครื่องไปในทิศทางเกมมิ่งของ "ROG" เน้นเส้นสายที่เป็นเหลี่ยมมุมไปพร้อมกับสีแดงตัดดำ แอบเติมความเรียบหรูเข้ามาด้วยการทำพื้นผิวโปร่งแสง (transparent) ไว้มุมตรงกลางฝาหลัง พร้อมใส่โลโก้ ROG ข้างใน เพื่อให้สามารถตอบรับการใช้งานในมุมไลฟ์สไตล์มากขึ้น 

ด้านหน้าตัวเครื่องมาพร้อมหน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.59 นิ้ว ความละเอียด 2340x1080 พิกเซล ตัวหน้าจอแสดงผลให้อัตรา refresh rate สูงสุด 144Hz, มีค่าการตอบสนองต่อการสัมผัสหรือการแตะ (Touch sampling rate) สูงสุดที่ในตลาดมือถือตอนนี้ที่ 270Hz (touch latency 25ms) และมีอัตราส่วนการแสดงผล 19.5 : 9 ซึ่งรูปทรงจะสูงขึ้นจากหน้าจอปกติ

• รองรับ HDR10+
• ผ่านมาตรฐาน Low Blue light และ Flicker Reduce จาก TUV Rheinland
• รองรับการปรับความสว่างหน้าจอได้ตั้งแต่ 650 - 1,000 nits
• ให้ขอบเขตสี DCI-P3 113%
• Delta E average <1%
• ใช้กระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 6 ครอบทับหน้าจอ

บริเวณมุมขวาของหน้าจอแสดงผล มีกล้องหน้าแบบ In-Display ความละเอียด 24MP (F2.0) ขยับมาตรงแถบลำโพงสนทนาจะมีลำโพงเสียงตัวเครื่องซ่อนอยู่ โดยทำงานควบคู่กับลำโพงด้านล่างเพื่อขับเสียงแบบสเตอริโอ ซึ่งทาง ASUS ได้ติดตั้งตำแหน่งลำโพงให้เสียงพุ่งเข้าผู้ใช้งานโดยตรงเลย ดังนั้นเสียงจะคมชัดและดังกระฮึ่มมากๆ

ด้านขวาตัวเครื่อง มีปุ่มกดปรับระดับเสียงเพิ่ม-ลด (Volume), ปุ่มเปิด-ปิดตัวเครื่อง (Power) สีแดง และเซ็นเซอร์ Air Trigger 3 สองตัว (บน - ล่าง)

ด้านหลังตัวเครื่อง มีกล้องถ่ายรูป Triple camera ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 64MP (F1.8), กล้องมุมกว้างพิเศษ (Ultrawide angle) ความละเอียด 12MP (F2.4) และกล้องมาโครความละเอียด 5MP (F2.4) มีไฟแฟลช LED มาให้ในตัว ถัดมาข้างๆ จะเป็นตำแหน่งศูนย์รวมของชิปสัญญาณ WiFi และไมค์รับเสียงด้านหลัง และบริเวณกลางฝาหลังจะเป็นโลโก้ ROG มีไฟ RGB แสดงในตัว

และถ้าขยับลงมาตัวกลางฝาหลังจะพบกับลูกเล่นงานออกแบบที่ทาง ASUS ตั้งใจออกแบบให้พื้นผิวตรงนี้เป็นโปร่งแสง เพื่อโชว์ลูกเล่นระบบระบายความร้อนแบบ Heat sink ที่ชื่อว่า Game Cool 3 และยังเป็นจุดสังเกตในการแยกรุ่นระหว่าง Strix Edition กับตัวท็อปด้วย โดยรุ่น Strix Edition พื้นผิวตรงนี้จะทึบและสกรีนข้อความลงไปบนฝาหลังแทน

กล่องของ ROG Phone 3 ยังคงพิเศษและแตกต่างจากกล่องสมาร์ทโฟนทั่วไปเช่นเดิม แต่จะเหมือนกับรุ่นที่แล้วที่เลือกใช้ดีไซน์ตัวกล่องแบบพีรามิดสามเหลี่ยม เพียงแต่ของ ROG Phone 3 จะใส่ลวดลายกล่องไม่ลายตาเท่ารุ่นก่อน และมีการใส่ ภาพ AR มาที่ฝากล่องสำหรับใช้งานผ่านซอฟต์แวร์บนตัวเครื่อง เพื่อเข้าเล่นเกม Exclusive ของทาง ASUS เอง ซึ่งตัวเกมก็จะเป็นเกมเดียวกับที่ใช้ในวีดีโอ TVC เลย

อุปกรณ์ภายในกล่อง ASUS ROG Phone 3 

• ASUS ROG Phone 3
• คู่มือการใช้งาน
• เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
• สายแปลง USB-C to Port 3.5 mm.
• สายชาร์จแบบถัก USB-C
• อแดปเตอร์ชาร์จไฟ
• เคสตัวเครื่อง Neon Case แบบเปิดพร้อมลวดลาย ROG (Hard Case)
• พัดลม AeroActive Cooler 3

• หน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.59 นิ้ว ความละเอียด 2340x1080 พิกเซล (refresh rate 144Hz)
• CPU Snapdragon 865+ ความเร็ว 3.1GHz (Strix Edition ความเร็ว 2.84GHz)
• GPU Adreno 650
• RAM 8/12GB (LPDDR5)
• ROM 256/512GB (UFS3.1)
• Android 10 with ROG UI
• ไม่รองรับ MicroSD Card แต่รองรับการเชื่อมต่อ NTFC External HDD
• กล้องถ่ายรูป Triple Camera ความละเอียด 64 + 13 + 5 MP (Main F1.8+ Ultrawide F2.4+ Macro F2.0)
• กล้องหน้าความละเอียด 24MP (F2.0)
• WLAN 802.11a/b/g/n/ac/ax 2.4 & 5GHz and || Wi-Fi 6 || 2x2 MIMO
• Bluetooth 5.1 
• Sound Hi-Res 192kHz/24 bit
• Quad Microphone และมีเทคโนโลยีลดเสียงรบกวน ASUS Noise Reduce
• รองรับ 5G (ตอนนี้ยังใช้งานไม่ได้)
• แบตเตอรี่ 6,000 mAh (รองรับชาร์จไว QuickCharge 30W)

ASUS ROG Phone 3 เป็นสมาร์ทโฟนที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อรูปแบบการใช้งาน "Gaming" หรือเล่นเกมเกือบ 90% ของทั้งหมด ดังนั้นจุดเด่นต่างๆ ของรุ่นนี้จะเน้นไปที่การเล่นเกมครับ โดยจุดเด่นหลักๆ ที่ทาง ASUS โปรโมทตอนเปิดตัวมีดังนี้

• หน้าจอแสดงผลสำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ : หน้าจอแสดงผลของ ASUS ROG Phone 3 เป็นหน้าจอแสดงผลที่ค่า Touch Sampling rate สูงที่สุดในตลาดตอนนี้ที่ 270Hz มีค่าหน่วงเพียง 25ms เท่านั้น รวมทั้งยังสามารถแสดงผลด้วย refresh rate สูงสุดที่ 144Hz ซึ่งถ้าใครได้มาสัมผัสและลองเล่นดูจะรู้สึกทันทีเลยครับว่า สีสันสดมากๆ คมบาดตาเลยล่ะ และตอบสนองเวลาเราแตะหรือสัมผัสสั่งการได้ไวสุดๆ

• สเปกตัวเครื่องที่แรงที่สุดในตอนนี้ : ด้วยการที่เป็นสมาร์ทโฟนเกมมิ่ง ดังนั้นฮาร์ดแวร์จะต้องสุดจริงๆ ในการรีดประสิทธิภาพกราฟฟิกของเกมต่างๆ ออกมาได้แบบถึงพริกถึงขิง เพราะฉะนั้นทาง ASUS จึงใส่สเปกตัวเครื่องที่สูงสุดที่ในตลอดตอนนี้มาให้หมดทั้งเครื่อง เช่น WiFi 6, ชิปเซ็ต Snapdragon 865+ ที่ทางเอซุสไปขอจับมือเพื่อโมดิฟายความเร็วนาฬิกาขึ้นไปสุดที่ 3.1GHz, RAM LPDDR5, ROM UFS 3.1 เป็นต้น

• ซอฟต์แวร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ : จุดแตกต่างสำคัญที่ทำให้ ROG Phone 3 มีจุดเด่นที่แตกต่างจากมือถือทั่วไปคือ การมีซอฟต์แวร์เกมมิ่งเป็นของตัวเอง โดยทาง ASUS ได้นำเทคโนโลยีด้านซอฟต์แวร์เกมมิ่งของ ROG บน PC ที่โด่งดังมากๆ ใครสายเกมมิ่งน่าจะรู้จักกันดี มาพัฒนาและเขียนขึ้นมาใหม่ในระดับ OS เลยนะ เพื่อให้ตัวซอฟต์แวร์มีความเหมาะสมกับสมาร์ทโฟนมากที่สุด และใส่เข้ามาให้บน ROG Phone 3 ในชื่อที่เรียกว่า "X Mode" ทำให้ตัวเครื่องรีดประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ได้อย่างเต็มที่ในขณะเล่นเกม

• อุปกรณ์เสริมสำหรับเล่นเกมครบเซ็ต : ไฮไลท์สำคัญที่ทำให้ ROG Phone Series มีเอกลักษณ์มากกว่าคือ การมีอุปกรณ์เสริมสำหรับเล่นเกม แยกขายมาจำหน่ายด้วย โดยแต่ละชิ้นก็ถูกคิดและออกแบบมาให้ตอบรับกับความต้องการของผู้ใช้สายเกมเป็นอย่างดีครับ โดยรอบนี้อุปกรณ์เสริม (ROG Kunai 3) ยังคงเหมือนกับรุ่นก่อน มีด้วยกันทั้งหมด 6 ชิ้น ประกอบด้วย
  • AeroActive Cooler 3 : พัดลมระบายความร้อนเสริม (มีมาให้กล่อง)
  • ROG Kunai 3 Controller : ตัวโครงจอยสำเร็จรูป สามารถเชื่อมต่อเข้ากับตัวเครื่องและเล่นแบบเดียวกับเกมนินเทนโด้ได้เลย
  • ROG Kunai 3 Grip : อุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้ถือตัวเครื่องเล่นเกมได้สะดวกขึ้น
  • ROG twinView Dock 3 : สเตชั่นที่มีจอแบบเดียวกับตัวเครื่องมาให้อีกจอ ทำให้สามารถเล่นเกมด้วยจอแสดงผล 2 จอพร้อมกัน
  • ROG Clip 3 : ตัวต่อจอยเกมคอนโซล รองรับจอย PS4, Xbox และ Stadia
  • ROG Lighting Armor Case : เคสตัวเครื่องแบบ Exclusive ที่มีไฟ RGB โลโก้ ROG ด้านหลัง พร้อมกับธีมพิเศษ

หลังจากที่ได้จับตัวเครื่องและลองเล่นฟีเจอร์ต่างๆ แบบคร่าวๆ ก็รู้สึกแรกที่เกิดขึ้นกับ ROG Phone 3 คือ "พรีเมี่ยมในแบบเกมมิ่ง" ด้วยการปรับดีไซน์ตัวเครื่องที่ลดความเป็นเกมมิ่งเต็มร้อยลงมาเล็กน้อย เสริมกับความเรียบหรู เลยทำให้ตัวเครื่องดูสวยหรูในแบบเกมมิ่งเลยล่ะครับ ในขณะที่หน้าจอแสดงผลเป็นอีกจุดที่ผมประทับใจมากๆ ตัวจอแสดงสีสันออกมาได้คม จัดจ้าน และเต็มอิ่มสุดๆ รวมถึงการตอบสนองเวลาแตะสั่งการในเกมทำได้เร็วติดมือมากๆ ครับ ซึ่งส่วนตัวคิดว่าตอบสนองได้ไวกว่าสมาร์ทโฟนเรือธงบางรุ่นของ Android แบบรู้สึกได้เลย 

ปิดท้ายด้วยลูกเล่นบน X Mode มันถูกออกแบบมาสำหรับเกมเมอร์จริงๆ ข้างในซอฟต์แวร์มีความต้องการของคนเล่นเกมใส่มาให้ครบหมด รองรับการสตรีมขึ้นโซเชียลได้ทันทีอีกด้วย พอรวมกับอุปกรณ์เสริมที่ทาง ASUS แยกจำหน่ายทำให้เราเลือกซื้อตามไลฟ์สไตล์ได้ ยิ่งช่วยเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมได้ไม่ต่างจากการเล่นด้วยเครื่อง Nintendo Switch เลยล่ะครับ ถ้าให้เป็นดาวก็ขอให้ที่ 4/5 เลยล่ะกันสำหรับความประทับใจแรกที่ได้สัมผัส

ASUS ประเทศไทย จะวางจำหน่าย ROG Phone 3 ด้วยกันสองรุ่นย่อย คือ รุ่น Strix Edition ราคา 24,990 บาท และรุ่นท็อปไลน์ ROG Phone 3 ราคา 32,990 บาท พร้อมอุปกรณ์เสริมทั้ง 6 ชิ้น ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป พร้อมกับจัดโปรโมชั่นร่วมกับ AIS มอบส่วนลดสูงสุด 6,000 บาท เมื่อซื้อตัวเครื่องพร้อมแพ็คเก็จ Hot Deal แบบรายเดือน เหลือเริ่มต้นเพียง 18,990 บาท