รีวิว OnePlus Nord มือถือ "Lite Flagship" จอ 90Hz ชิปเซ็ต Snapdragon765G ราคาเริ่มที่ 14,990 บาท
OnePlus Nord สมาร์ทโฟนที่เชื่อว่าน่าจะมีหลายคนรอคอยกับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยอยู่ เพราะนอกจากจะมาพร้อมสเปกตัวเครื่องที่น่าสนใจแล้ว ยังเป็นสมาร์ทโฟนที่มีราคาค่าตัวกลับมาอยู่ในกลุ่มตลาด Mid-end อีกครั้งในรอบหลายปีของวันพลัสเลยก็ว่าได้ หลังจากที่ประกาศขยับกลุ่มเป้าหมายขึ้นไปเป็น Flagship อย่างเต็มตัว
โดยทางวันพลัสได้เล่าถึงที่มาที่ไปเกี่ยวกับฉายา "Lite Flagship" ที่เป็นนิยามใหม่ของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ไว้ว่า เกิดจากการที่วันพลัสเปิดรับฟังเสียงตอบรับจากแฟนๆ และผู้ใช้งานของแบรนด์มาโดยตลอดในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเสียงส่วนใหญ่อยากให้วันพลัสกลับไปอยู่ใน Position เดิมเหมือนตอนแรกเริ่ม หรืออย่างน้อยก็อยากให้มีสมาร์ทโฟนรุ่นที่เป็น Flagship of Mid Range ของแบรนด์ออกมา ทำให้ทางแบรนด์นำโจทย์จากเสียงตอบรับนี้ไปพัฒนาและต่อยอดจนออกมาเป็น "OnePlus Nord" รุ่นนี้
/>
ส่วนที่มาที่ไปของชื่อ OnePlus Nord คำว่า "ห-น-อ-ด" มาจากการเลือกใช้รากศัพท์ในยุโรปที่มีความหมายว่า ทิศเหนือหรือทิศที่จะไปข้างหน้า ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางของบริษัทวันพลัสที่ต้องการที่จะมองไปข้างหน้าอยู่เสมอ คอยมองหานวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ มาสู่มือผู้บริโภคอยู่ตลอด จึงได้เลือกคำว่า Nord มาใช้เป็นชื่อสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ เพื่อสื่อความหมายทั้งในมุมของบริษัทและความหมายในมุมของลูกค้าไปพร้อมกัน
ดังนั้นเมื่อรวมทั้งฉายาและชื่อเข้าด้วยกัน OnePlus Nord จึงเป็นสมาร์ทโฟนที่ทางวันพลัสจะให้เป็นสมาร์ทโฟนที่มีสเปก เทคโนโลยีนวัตกรรม และประสบการณ์การใช้งานที่ละม้ายคล้ายกับสมาร์ทโฟน Flagship ของแบรนด์ แต่มาในราคาที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่านั่นเอง ส่วนจะจริงตามที่ได้เกริ่นมาหรือไม่ เราไปพิสูจน์และสัมผัสไปพร้อมกันผ่านบทความรีวิวนี้กันครับ
OnePlus Nord มาพร้อมงานออกแบบตัวเครื่องที่ดูแตกต่างออกไปจากรุ่นพี่ OnePlus 8 Series โดยเฉพาะด้านหลังตัวเครื่อง ที่มีการขยับตำแหน่งของกล้องถ่ายรูปมาไว้ที่มุมซ้ายแทนตรงกลางเหมือนรุ่นพี่ พร้อมกับวางงานออกแบบของฝาหลังให้ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความหรูหราเบาๆ ด้วยกระจก Gorilla Glass 5 ซึ่งทางวันพลัสเรียกชื่อว่า "Matte AG Glass" ซึ่งถ้าเป็นสีเทา Grey Onyx ที่เราได้มารีวิว เมื่อมองสะท้อนกับแสงไฟแสงสีเทาจะเหลือบขาวด้วยทำให้ดูเหมือนลายหินอ่อน ผมว่าสวยดีนะ เหมาะกับหนุ่มๆ ที่ชอบความเรียบหรู
ในขณะที่กล้องถ่ายรูปของ Nord รอบนี้เลือกใช้เป็นกล้องแบบ Quad camera ประกอบด้วย
- กล้องหลัก ความละเอียด 48 MP (F1.75)
- กล้อง Ultra Wide Angle ความละเอียด 8MP (F2.25)
- กล้อง Depth sensor ความละเอียด 5MP (F2.4)
- กล้อง Macro ความละเอียด 2MP (F2.4)
ด้านหน้าตัวเครื่อง มีหน้าจอแสดงผล Fluid AMOLED Display ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ (Refresh rate 90Hz) ครอบทับด้วยกระกันรอย Corning Gorilla Glass 5 ตัวหน้าจอแสดงผลรองรับการแสดงผล HDR10+, sRGB, Display P3 และมีอัตราส่วนการแสดงผล 20:9
บริเวณมุมซ้ายหน้าจอบริเวณเจาะรู (Punch-Hole Display) เป็นตำแหน่งวางกล้องหน้าคู่ความละเอียด 32+8 MP (Main + Ultra Wide Angle) ตัวกล้องหลักใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX616 (F2.45, Fixed Focus) ส่วนกล้องมุมกว้างมีค่า FOV อยู่ที่ 105 องศา โดยกล้องทั้งสองจะถูกวางซ่อนไว้ใต้หน้าจอแสดงผล
ด้านข้างขวาของตัวเครื่อง มีปุ่มกดเปิด-ปิดเครื่อง (Power) และปุ่ม Sound ซึ่งสามารถเลือกปรับสไลด์ได้ 3 สเต็ป แบ่งเป็นสเต็ปแรกจะเป็นการเปิดเสียงแจ้งเตือนตามปกติ, สเต็ปที่สองจะเป็นสั่นแจ้งเตือน และสเต็ปที่สามจะเป็นการปิดเสียงทั้งหมดบนตัวเครื่อง
ด้านข้างซ้ายของตัวเครื่อง มีปุ่มกดปรับระดับเสียงเพิ่ม-ลด (Volume)
ด้านล่างของตัวเครื่อง เริ่มจากทางซ้ายมือจะมีช่องถาดใส่ซิมการ์ด ซึ่งจะรองรับการใช้งานแบบ Dual Nano SIM และตัวถาดซิมจะเป็นแบบหน้า-หลัง ส่วนตอนจิ้มถาดออกมา แนะนำให้สังเกตหน่อยนะครับ เพราะใกล้ๆ กันจะมีรูไมค์อยู่ ถ้าจิ้มผิดอาจทำไมค์พังได้เลยนะ!! ถัดมาจะเป็นพอร์ต USB-C และลำโพงเสียงของตัวเครื่อง
อุปกรณ์ภายในกล่อง OnePlus Nord
- เคสตัวเครื่อง (Softcase)
- สายชาร์จ USB-C
- อแดปเตอร์ชาร์จไฟ (Warp Charge 30T)
- เข็มจิ้มซิมการ์ด
- คู่มือการใช้งาน
- Welcome card
- สติ๊กเกอร์ OnePlus Nord
รายละเอียดสเปกตัวเครื่องของ OnePlus Nord มีดังนี้
- หน้าจอแสดงผล Fluid AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด 2400x1080 พิกเซล (Refresh rate 90Hz)
- CPU Octa-core Snapdragon 765G with Modem 5G
- GPU Adreno 620
- RAM 12GB (LPDDR4x)
- ROM 256GB (UFS 2.1)
- กล้องถ่ายรูป Quad camera ความละเอียด 48 + 8 + 5 + 2 MP (Main + Ultra Wide Angle + Depth + Macro)
- กล้องหน้าคู่ ความละเอียด 32 + 8 MP (Main + Wide)
- OxygenOS 10 Base on Android OS 10
- In-display fingerprint sensor
- Dual Nano SIM
- Bluetooth 5.1
- NFC
- WiFi 802.11 a/b/g/n/ac
- Battery 4115 mAh (Warp Charge 30T Fast charging)
Oxygen OS 10 Base on Android OS 10
OnePlus Nord ทำงานบน Oxygen OS เวอร์ชั่น 10 โดยใช้พื้นฐานของ Android OS 10 ในการพัฒนาตัวซอฟต์แวร์ ดังนั้นฟีเจอร์เด่นๆ ของ Android 10 ไม่ว่าจะเป็น Parallel app, RAM Boost, Digital Wellbeing ฯลฯ ก็จะถูกยกมาใส่ใน OxygenOS 10 ด้วยเช่นกัน พร้อมกับเติมเต็มด้วยอินเทอร์เฟซ หรือ UI ของทางวันพลัส ที่เน้นความเรียบง่าย ไม่ซุกซนมากนัก ไปพร้อมๆ กับการมอบประสบการณ์การใช้งานที่สมูท ลื่นไหล และเป็นมิตรกับผู้ใช้งานทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่า ดังนั้นใครที่พึ่งย้ายมาใช้งานสมาร์ทโฟนวันพลัสเป็นรุ่นแรกหรือเพิ่งลองย้ายมาจาก iOS ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะใช้งานลำบากหรือยุ่งยากเลยครับ สามารถเรียนรู้ได้ไม่ถึงสิบนาทีแน่นอน เพราะตัวอินเทอร์เฟซไม่มีความซับซ้อนเหมือนสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ทั่วไป จะออกไปในทาง Pure Android เลยก็ว่าได้ ทุกอย่างถูกจัดวางไว้ให้ใกล้มือ ปัด 1-2 ครั้งก็เข้าถึงการใช้งานได้ทันที
OxygenOS นอกจากจะพัฒนาขึ้นมาให้เป็นมิตรกับผู้ใช้งานมากๆ แล้ว ยังถือว่าเป็นจุดเด่นที่ต้องนึกถึงเมื่อเอ่ยถึงสมาร์ทโฟนวันพลัสก็ว่าได้ครับ เนื่องจากเป็นซอฟต์แวร์บนสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ ที่หลายคนชมว่ามอบประสบการณ์การใช้งานได้เทียบเคียงกับของ Google ที่เป็นเจ้าของ Android OS เลยก็ว่าได้ ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะได้ทีมพัฒนาระดับมือพระกาฬอย่าง Cyanogen ที่เคยฝากผลงานไว้ด้วยรอมแอนดรอยด์โมฯ มากมายในยุคเริ่มต้นของสมาร์ทโฟน Android OS ดังนั้นมีความเข้าใจในการพัฒนารอมแอนดรอยด์ได้อย่างลึกซึ้ง ทำให้การันตีถึงความนิ่งและเสถียรระหว่างใช้งานบนตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี ใครที่กังวลใจเรื่องนี้อยู่ก็วางทิ้งไปได้เลย!
การยืนยันตัวตนบน OxygenOS
สำหรับการยืนยันตัวตนบนตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเพื่อใช้ทำธุรกรรมการเงินผ่านแอปพลิเคชั่น Mobile Banking, ใช้ซื้อของในเกมหรือในแอปพลิเคชั่นหรือสำหรับปลดล็อกหน้าจอเข้าใช้งาน บน OnePlus Nord จะมีระบบยืนยันตัวพื้นฐานมาให้ด้วยกัน 3 รูปแบบคือ แบบตั้งรหัส (Password), Pin หรือ Pattern, การปลดล็อคด้วยการสแกนใบหน้า (Face unlock) และระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (In-Display fingerprintscaner) ที่ทำได้เร็วมากๆ ยิ่งช่วงเวลาเร่งรีบแค่แตะนิ้วลงบนหน้าจอ ก็ปลดล็อคทันทีเลย
ประสิทธิภาพการใช้งาน (Performance)
มากันที่เรื่องของประสิทธิภาพการใช้งานบนตัวเครื่องกันบ้าง โดย OnePlus Nord เลือกใช้ชิปเซ็ตเป็น CPU Snapdragon 765G เป็นหัวใจหลักในการ Process การทำงานบนตัวเครื่อง ซึ่งชิปตัวนี้เป็นชิปเซ็ต 5G ใหม่ล่าสุดแบบเพิ่งอบออกมาจากเตา Qualcomm เลยทีเดียว และมีจุดเริ่มต้นมาจากความต้องการของทาง Qualcomm เอง ที่อยากให้ผู้ผลิตและผู้บริโภคสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี 5G ของตัวเองได้ง่ายขึ้น เพราะก่อนหน้านี้มีเพียงชิปซีรีย์ 865 เท่านั้นที่ใส่เทคโนโลยี 5G ไว้ และราคาไม่ว่าจะเป็นฝั่งผู้ผลิตหรือผู้บริโภคก็ค่อนข้างสูง ทำให้เมื่อนำมาใช้งานบนสมาร์ทโฟนของแบรนด์ต่างๆ ราคาก็โดดขึ้นไปสูงอย่างที่เราเห็นกัน
ถึงแม้จะเป็นชิปเซ็ตที่ทำมาเพื่อแก้โจทย์ในเรื่องของราคา แต่ประสิทธิภาพการทำงานเมื่อทำงานร่วมกับ ROM UFS 2.1 และ RAM LPDDR4x ซึ่งเท่าที่ผมได้ทดสอบและลองใช้ทำงาน Content จริงจังดู ถือว่าให้ผลลัพธ์ออกมาแบบเกินคาดเลยล่ะครับ เพราะพอลองใช้ทำงานแบบสลับหน้าต่างแอปพลิเคชั่นไป-มา เพื่อแก้ไขงานใส่รูปภาพในบทความ ตัดต่อรูป-ปรับขนาดรูปด้วยแอปพลิเคชั่น หรือดาวน์โหลดไฟล์เอกสารต่างๆ ไปพร้อมกับเปิด Google Chrome ตัวเครื่องก็ยังสามารถตอบสนองได้ทันใจอยู่ และทำงานได้ต่อเนื่องไม่มีปิดตัวให้หัวเสียแต่อย่างใด
ในขณะที่การใช้งานด้วยเครื่องมืออื่นๆ เช่นการนำทางด้วย Google Maps ตัว GPS จับสัญญาณได้ค่อนข้างเร็วและนิ่งในเมือง ส่วนออกต่างจังหวัดผมลองใช้นำทางไปในจังหวัดนนทบุรีดู ก็มีหยุดนิ่งเพื่อรอจับสัญญาณ GPS ให้เห็นอยู่เหมือนกัน แต่ยังไม่มีการนำทางผิดหรือตัวนำทางตกร่องถนนให้เจอนะ ภาพรวมของการนำทางผมถือว่าสอบผ่าน! ใช้นำทางได้จริง
ทดสอบประสิทธิภาพการทำงานด้วยคะแนน Benchmark
- ทดสอบประสิทธิภาพการทำงานด้วย Antutu Benchmark ได้คะแนนทดสอบ 332,521 คะแนน
- ทดสอบประสิทธิภาพการเขียน-อ่าน หน่วยความจำ (ROM, UFS 2.1) ได้ค่าการอ่าน 951.74 MB/s และค่าการเขียน 470.84 MB/s
- ทดสอบประสิทธิภาพทำงานของ CPU ด้วย Geekbench ได้คะแนนการทำงาน Single core 619 คะแนน และแบบ Multi-core 1950 คะแนน
- ทดสอบการรองรับการแสดงผล High Definition บนสตรีมมิ่ง VDO (Netflix) ผลเป็น Security Level L1 (รองรับการแสดงผล)
การเล่นเกมและความบันเทิง (Games & Entertainment)
การเล่นเกม
สำหรับคอเกมที่ชื่นชอบการเล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจ ผมว่าถ้าหากได้มาลองเล่นบน OnePlus Nord แล้วน่าจะชอบกันนะครับ เพราะนอกจากจะมีโหมดสำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะสำหรับปรับแต่งทรัพยากรบนตัวเครื่องให้เหมาะกับการเล่นเกมจาก Fnatic ค่ายอีสปอร์ตชื่อดังแล้ว การตอบสนองทั้งในด้านของการทัช (Touch) สั่งการต่างๆ ขณะเล่นเกมก็ทำได้ดีและตอบสนองได้ทันใจพอสมควร ทำให้ไม่ต้องยกนิ้วลากเคอเซอร์ย้ำหลายๆ ครั้งเวลาจะควบคุมตัวละครให้เดินหรือวิ่ง
ถึงแม้ตัวหน้าจอแสดงผลจะมีค่า Response rate อยู่ที่ 180Hz ก็ตาม และการตอบสนองหรือให้ผลลัพธ์ด้านกราฟฟิกขณะเล่นเกมผ่าน GPU Adreno 620 และฟีเจอร์ Elite Gaming ของ Qualcomm ที่มีบนชิปเซ็ต Snapdragon 765G ก็ให้ผลลัพธ์และประสบการณ์การเล่นที่ดี ได้อรรถรสและสนุกไปกับการเล่นเกมด้วยภาพกราฟฟิกที่คมและลื่นไหล การคุมเฟรมเรทค่อนข้างนิ่งมากๆ ยิ่งถ้าเล่นเกมที่สามารถแสดงผล Refresh rate 90Hz ได้บอกเลยว่า ฟิน!!
ข้อติเดียวที่เกิดขึ้นขณะที่ลองทดสอบเล่นเกมติดต่อกันประมาณ 1-2 ชั่วโมง คือเรื่องของความร้อนสะสมที่เกิดขึ้นทั้งบริเวณฝาหลังของตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผลที่พอเล่นติดต่อกันเป็นระยะเวลานานเราจะรู้สึกได้ทันที โดยเฉพาะที่ฝาหลังตัวเครื่องที่เกิดความร้อนไวมากๆ ถ้าเล่นในห้องอุณหภูมิปกติ แต่ถ้าเล่นในห้องแอร์ก็จะไม่ค่อยรู้สึกเท่าไรครับ
โหมดสำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะบน OnePlus Nord
ความบันเทิง
มาต่อกันที่ด้านความบันเทิงหรือคอหนังคอเพลงกันบ้างครับ ขอเริ่มที่ด้านการรับชมของคอหนัง-ภาพยนตร์หรือซีรีย์กันก่อน สำหรับการรับชมคอนเทนท์ต่างๆ บนหน้าจอแสดงผล OnePlus Nord อย่างที่ได้กล่าวไปว่าเจ้า Nord รองรับการแสดงผล HD บนการสตรีมมิ่งวีดีโอทุกแพลตฟอร์ม และตัวหน้าจอเองก็มีคุณสมบัติรองรับ HDR10 และมีค่า Refresh rate 90Hz อยู่แล้ว ดังนั้นถ้าใครที่ชื่นชอบรับชมผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอย่าง Youtube, Netflix, HBO GO รับรองว่าในภาคของการรับชมคุณจะได้รับอรรถรสที่เต็มอิ่มแน่นอนครับ
แต่ในภาคของเสียงล่ะ? สำหรับการรับฟังเสียงไม่ว่าจะเป็นคอเพลงหรือคอหนัง ถ้าหากเลือกที่จะรับฟังเสียงผ่านลำโพงของตัวเครื่อง คุณอาจจะไม่เต็มอิ่มและอินไปกับเสียงเพลงหรือเสียงจากภาพยนตร์เท่าไรนัก เพราะ OnePlus Nord มาพร้อมลำโพงเสียงจุดเดียว จึงทำให้ระดับความดังของเสียงถ้าหากใช้ท่ามกลางสภาพแวดล้อมเปิดเสียงจากตัวเครื่องจะสู้ไม่ได้เลย แต่ถ้าเลือกฟังอยู่ในห้องส่วนตัวคนเดียวอันนี้เพียงพอต่อการรับฟังเลยล่ะ เสียงดังชัดแจ๋วเลย แต่ถึงแม้คุณภาพเสียงที่ขับออกผ่านลำโพงจะมีมิติดีกว่าลำโพงทั่วไป และฟังได้เพลิน แต่ถ้าต้องการรายละเอียดในเนื้อเสียงแบบอินๆ แล้วล่ะก็ ผมแนะนำให้หาหูฟังมาช่วยจะปิดข้อจำกัดตรงนี้ไปได้เลยครับ
คุณสมบัติด้านความบันเทิงของ OnePlus Nord
พลังงาน (Battery)
การใช้พลังงานบนตัวเครื่อง ส่วนตัวคิดว่าอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ได้เด่นและไม่ได้แย่ครับ ถ้าชาร์จเต็ม 100% ในตอนเช้าก่อนออกจากบ้าน ในช่วงระหว่างวันหยิบขึ้นมาใช้งานทั่วไปตามไลฟ์สไตล์หรืออาจมีเล่นเกมบ้าง ตกเย็นแบตเตอรี่ก็จะเหลือประมาณ 20% แล้ว ดังนั้นใครที่คิดว่าตัวเองใช้งานมือถือบ่อยหรือเป็นคนติดสมาร์ทโฟน แนะนำให้พก Power Bank ติดตัวไว้ด้วย หรือถ้าให้ดีก็หารุ่นที่รองรับชาร์จไวก็ได้ครับ เพราะ OnePlus Nord รองรับชาร์จเร็ว Warp Charge 30T ก็จะช่วยให้ใช้งานต่อได้เร็วขึ้น
กล้องถ่ายรูป Quad camera 48MP
OnePlus Nord มาพร้อมกล้องถ่ายรูปแบบ Quad camera ซึ่งประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 48MP (F1.75) ใช้เซ็นเซอร์เป็น Sony IMX 586, กล้องมุมกว้างพิเศษ (Ultra Wide angle) ความละเอียด 8 MP (F2.25, FOV 119 องศา) กล้อง Deth sensor ความละเอียด 5MP (F2.4) และกล้อง Macro ความละเอียด 2 MP (F2.4) พร้อมไฟแฟลช LED ตัวกล้องรองรับการถ่ายภาพแบบไฟล์ RAW และรองรับการบันทึกภาพวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K 30fps มีกันสั่น OIS และ EIS ในตัว
คุณสมบัติการถ่ายภาพวีดีโอ
- บันทึกวีดีโอความละเอียด 1080P video at 30/60 fps
- บันทึกวีดีโอความละเอียด 4k 30 fps
- Super slow motion: 1080P video at 240 fps
- Time-Lapse: 1080P 30 fps, 4k 30 fps
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก OnePlus Nord
- มุมกว้างพิเศษ (Ultra Wide Angle)
0.6X (Ultra Wide Angle)
1X
2X
กล้องหน้าคู่ 32MP
ด้านกล้องหน้าเป็นกล้องคู่ความละเอียด 32+8 MP แบ่งเป็นกล้องหลักความละเอียด 32MP (F2.45) ใช้เซ็นเซอร์ IMX616 การโพกัสภาพเป็นแบบ Fixed Focus ส่วนกล้องอีกตัวเป็นกล้องมุมกว้างความละเอียด 8MP (F2.45) มีค่า FOV 105 องศา รองรับการถ่ายภาพวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K 60fps
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า
- ถ่ายภาพหมู่ (Group Selfies)
ตลอดหลายวันที่ได้ลองเล่น OnePlus Nord มา ส่วนตัวคิดว่าเป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่สมกับฉายา "Lite Flagship" ที่ทางวันพลัสตั้งมาทำการตลาดนะ ตัวเครื่องมีงานออกแบบแน่นหนาและเรียบหรูเบาๆ ในขณะที่สเปกตัวเครื่องทั้งหมดก็ใส่มาให้จุใจจนสามารถท้าชนกับคู่แข่งในตลาดได้สนุกเลยล่ะ ในขณะที่ด้านของกล้องถ่ายรูปถึงแม้จะไม่ใช่จุดเด่นหลักของรุ่นนี้ แต่ผลลัพธ์หลังกล้องก็ทำออกมาได้ดี ฟีเจอร์ต่างๆ ที่ใส่มาให้ก็ช่วยให้ถ่ายภาพได้สนุกมากขึ้น ส่วนเรื่องของบริการหลังการขายตอนนี้ก็มีไปจับมือกับ OPPO ทำให้อนาคตอันใกล้นี้ลูกค้าของ OnePlus สามารถเข้ารับบริการได้หลากหลายช่องทางด้วย ยิ่งทำให้ใช้งานได้อุ่นใจมากขึ้น
แต่แน่นอนว่าเจ้า Nord ก็ไม่ได้เพอร์เฟ็คไปซะทุกอย่างนะครับ เพราะสำหรับผมถ้าจะขอติหน่อยก็คงเป็นเรื่องของการรองรับ 5G ที่ตอนนี้ยังใช้งานในไทยไม่ได้
OnePlus Nord เหมาะกับใคร?
ถ้าถามผม ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเหมาะกับคนที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์เครื่องหลักที่ต้องการสเปกดีๆ สามารถใช้งานได้ยาวๆ สัก 2-3 ปี ขึ้นไป พร้อมกับดีไซน์ตัวเครื่องที่ดูลงตัว และการใช้งานบนซอฟต์แวร์แอนดรอยด์ที่สมูธและค่อนข้างเสถียร ถ้าทั้งหมดที่ว่ามาคือความต้องการของคุณ เจ้า OnePlus Nord ก็คือคำตอบให้คุณได้แน่นอนครับ
OnePlus ประเทศไทย เปิดวางจำหน่าย OnePlus Nord ด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่น และสีตัวเครื่อง 2 สี
- รุ่น RAM 8GB / ROM 128GB ราคา 14,990 บาท มีให้เลือก 2 สี Blue Marble และ Gray Onyx
- รุ่น RAM 12GB / ROM 256GB ราคา 17,990 บาท มีเฉพาะสี Blue Marble
โดยจะเริ่มเปิดให้สั่งจองล่วงหน้า ตั้งแต่วันที่ 21 - 27 สิงหาคม 2563 พร้อมรับของสมนาคุณจาก OnePlus ทั้ง OnePlus Nord E-VIP CARD ประกันหน้าจอแตก 1 ครั้งนาน 1 ปี และกระเป๋า OnePlus สุดเท่ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษจากช่องต่างๆไม่ว่าจะเป็นช่องทางออนไลน์ผ่าน Lazada, Shopee, JD Central หรือหน้าร้านค้าชั้นนำอย่าง Banana, CSC, IT City, Jaymart และ TGFone มูลค่ารวม 10,990 บาท
และครั้งนี้ทาง OnePlus ได้ขยายช่องทางการวางจำหน่ายกับผู้ให้บริการเครือข่ายครบทั้ง 3 ค่ายใหญ่เลยทั้ง AIS, Truemove H และ dtac พร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษในช่วงสั่งจองล่วงหน้า OnePlus Nord ราคาเริ่มต้นที่ 7,990 บาท พิเศษเฉพาะช่วง Pre-order เท่านั้น ใครที่สนใจก็สามารถไปจับจองกันได้ตามสะดวกเลยครับ