5 จุดเด่นของ Huawei P40 Pro+ 5G และ Huawei Mate Xs 5G สมาร์ทโฟนเรือธงแห่งปี 2020
Huawei P40 Pro+ 5G และ
Huawei Mate Xs 5G เป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธง รุ่นใหม่ล่าสุดของหัวเว่ย ที่โดดเด่นในแง่ของงานดีไซน์ และเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ บวกกับการเดินหน้าพัฒนาแบรนด์ และผลิตภัณฑ์ด้วยการจับมือกับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อยกระดับฟีเจอร์และฟังก์ชันการทำงานด้านต่างๆ ให้ดีเหนือมาตรฐานแบบเดิมๆ
และที่โดดเด่นที่สุด เรียกได้ว่าเป็นการยกระดับแบรนด์ของหัวเว่ย ให้ขึ้นมาเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ก็คือการจับมือเป็นพันธมิตรอย่างยาวนานกับ Leica ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิต และพัฒนากล้องถ่ายภาพระดับโลก เพื่อพัฒนาระบบกล้องและเลนส์ของแฟล็กชิปสมาร์ทโฟน จนทำให้กลายเป็นแบรนด์ที่ได้รับความเชื่อมั่นในด้านการถ่ายภาพ และถูกยกให้เป็นสมาร์ทโฟนที่มีกล้องดีที่สุดในโลก ทั้งการถ่ายภาพนิ่ง และวีดีโอ
ล่าสุดกับสุดยอดสมาร์ทโฟนที่โดดเด่นทั้งดีไซน์ นวัตกรรม และกล้องคุณภาพสูง ระดับไฮเอนด์ 2 รุ่น คือ Huawei P40 Pro+ 5G สมาร์ทโฟนที่อยู่ในระดับสูงสุดของ Huawei P40 Series และ Huawei Mate Xs 5G สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมนวัตกรรมหน้าจอพับได้ ที่สุดแห่งความพรีเมี่ยมในตอนนี้ เรามาดูกันดีกว่าครับว่า 5 จุดเด่นสำคัญที่ทำให้สมาร์ทโฟน 2 รุ่นนี้คือที่สุดแห่งปี 2020 นั้นมีอะไรบ้าง?
ดีไซน์ที่สมบูรณ์แบบ และสะท้อนถึงตัวตนของผู้ใช้อย่างชาญฉลาด
การออกแบบดีไซน์คือจุดเด่นแรกๆ ที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมให้ความสำคัญ อาจจะเรียกได้ว่ามากที่สุดเลยด้วยซ้ำนะครับ เพราะเป็นสิ่งที่สะท้อนภาพลักษณ์ได้ในทันทีตั้งแต่แรกเห็น
Huawei P40 Pro+ 5G มาพร้อมหน้าจอแบบ FullView ที่มีความโค้งมน 4 ด้าน เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร Quad-curve Overflow Display พร้อมยกระดับขึ้นไปอีกขั้นด้วยวัสดุพิเศษที่ใช้ในการทำตัวเครื่อง เซรามิกเคลือบเทคโนโลยีนาโน โดยสีที่จะนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ก็คือสีขาว Ceramic White สวยสะอาดตา และคงทนต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน
Huawei Mate Xs 5G โดดเด่นด้วยการออกแบบหน้าจอพับได้ที่ล้ำสมัย และโดดเด่นด้วยดีไซน์การพับหน้าจอแบบ Falcon Design ต่างจากแบรนด์อื่นๆ ในตลาด หน้าจอความละเอียดสูงของเครื่อง สามารถแสดงผลได้อย่างลื่นไหลไร้รอยต่อแม้หน้าจอพับอยู่ ซึ่งความสามารถในการทำงานขณะพับจอนี้ ทำให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพเซลฟี่ได้อย่างคมชัดด้วยกล้องหลัง แถมยังสามารถถ่ายภาพให้เพื่อน ครอบครัว หรือคนรัก โดยที่พวกเขาสามารถเห็นหน้าตัวเองในขณะที่เราถ่ายภาพให้ด้วยนะครับ ผมว่าเป็นอะไรที่เรียบง่าย แต่ว้าวมากจริงๆ วัสดุตัวเครื่องมีคตวามทนทานสูงด้วยเซอร์โคเนียม (Zirconium - Based Liquid Metal) ที่แข็งแรงกว่าอลูมิเนียมอัลลอยถึง 30% และด้วยการออกแบบโครงสร้างโพลีเมอร์สองชั้น ทำให้ตัวเครื่องมีความยืดหยุ่นพิเศษ สามารถกางหน้าจอได้ถึง 180 องศา ทำให้หน้าจอกว้างสุดถึง 8 นิ้ว เสมือนมีหน้าจอสมาร์ทโฟนสองเครื่องต่อกัน หรือจะมองว่าเป็นแท็บเล็ตที่พับได้ ก็ได้เหมือนกันนะครับ สีตัวเครื่องมีน้ำเงินอันเป็นเอกลักษณ์ Interstellar Blue โดดเด่นและสวยงามมากๆ ที่น่าสนใจมากๆก็คือ หน้าจอของ Huawei Mate Xs 5G มีมูลค่าสูงมากๆ ครับ ราคาสูงกว่าทองคำถึง 3 เท่าเลยทีเดียว (ในน้ำหนักเท่ากัน)
กล้อง Leica คุณภาพขั้นเทพ! ถ่ายภาพสวยงามระดับมืออาชีพ ในทุกสถานการณ์ และทุกสภาพแสง
แน่นอนครับสำหรับแบรนด์ Huawei เป็นแบรนด์ที่ได้ชื่อว่าเปลี่ยนแปลงการถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟนไปตลอดกาล เป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับว่ามีกล้องบนสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในโลกมาโดยตลอด เป็นสิ่งที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่คาดหวังจากการซื้อสมาร์ทโฟนเรือธงของหัวเว่ย กล้องคุณภาพสูงจนไม่ว่าใคร ก็สามารถถ่ายภาพระดับมืออาชีพออกมาได้อย่างง่ายดาย
Huawei P40 Pro+ 5G เป็นสมาร์ทโฟนระดับสุงสุดของ Huawei P40 Series มาพร้อมกล้องคุณภาพสูงที่สุด มาพร้อมกล้องหลัง 5 ตัว Ultra Vision Leica Penta Camera ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
- 40MP F1.8, 18 มม. (Ultra Wide Cine), PDAF
- 50MP F1.9, 23 มม. (Ultra Vision Wide), RYYB, PDAF, OIS Periscope
- 8MP F4.4, 240 มม. (Periscope), PDAF, OIS, 10x optical zoom, 20x hybrid zoom, 100 max zoom
- 8MP F2.4, 80 มม. (Telephoto), PDAF, OIS, 3x optical zoom
- TOF 3D
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกล้องหน้าคู่คุณภาพสูง 32MP + TOF 3D + Ambient & Proximity Sensor โดยกล้องหลังนอกจากจะมีกล้องเลนส์กว้าง, เลนส์กว้างพิเศษ และเลนส์เก็บระยะ (ToF 3D) ยังจัดเต็มเลนส์ซูมถึง 2 ตัว ซึ่งให้ระยะการซูมแบบ Optical Zoom ที่ต่างกัน คือ 3x และ 10x โดยสามารถซูมแบบ Digital Zoom ได้สูงสุดถึง 100x ให้ภาพ และวิดีโอที่รายละเอียดคมชัด เมื่อรวมกับเทคโนโลยี XD Fusion Image Engine ที่ช่วยให้ผู้ใช้เก็บทุกจังหวะความประทับใจได้แบบไม่มีพลาด และ AI Golden Snap ที่ช่วยขจัดปัญหาขั้นพื้นฐานของการถ่ายภาพที่พบได้บ่อยแบบอัตโนมัติ ยิ่งทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้สมกับคำว่าที่สุดของปี 2020 จริงๆครับ
Huawei Mate Xs 5G แม้ว่าจุดขายสำคัญของรุ่นนี้คือความพรีเมี่ยม ในเรื่องการใช้งานหน้าจอพับได้สมบูรณ์แบบ แต่สมาร์ทโฟนรุ่นนี้คือสมาร์ทโฟนระดับเรือธงสูงสุดของแบรนด์หัวเว่ย ทำให้เรื่องของการถ่ายภาพทำได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้ใครครับ จัดเต็มทั้งเรื่องการถ่ายภาพนิ่ง และวีดีโอ มาพร้อมระบบกล้อง Leica Quad Camera กล้อง 4 เลนส์คุณภาพสูง โดยจะมีรายละเอียดดังนี้
- 40MP F1.8, PDAF
- 8MP F2.4, 52 มม. (Telephoto), 3x optical zoom, 30x digital zoom
- 16MP F2.2, 17 มม. (Ultra-wide)
- TOF 3D
ครอบคลุมการถ่ายภาพทุกระยะ มีทั้งเลนส์มุมกว้าง, เลนส์กว้างพิเศษ, เลนส์เก็บระยะ และเลนส์ซูม ทำให้สามารถเก็บภาพได้สวยสมบูรณ์แบบ ทุกระยะ และทุกสภาพแสง ด้วยเซ็นเซอร์และเทคโนโลยีระดับสูงของหัวเว่ย ที่แฟนๆต่างพากันประทับใจ และยกให้เป้นเบอร์ 1 เรื่องกล้องบนสมาร์ทโฟนอย่างแท้จริง
5G พร้อมใช้งาน ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทุกเครือข่ายอย่างแท้จริง
Huawei P40 Pro+ 5G และ Huawei Mate Xs 5G ครองรับเครือข่ายความเร็วสูงระดับ 5G เป็นมาตรฐานใหม่ ที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมยุคนี้จะต้องมี โดยทั้ง 2 รุ่นนี้ มาพร้อมชิปเซ็ตที่ทรงพลังที่สุดในตอนนี้ Kirin 990 5G ที่รวมเอาโมเด็มเข้าไว้กับโปรเซสเซอร์ ลดการเดินทางของข้อมูล และพลังงานระหว่างโมเด็มไปยังโปรเซสเซอร์ จึงทำให้การประมวลผลต่างๆ เป็นไปอย่างรวดเร็วฉับไว และที่แฟนๆต่างประทับใจคือเรื่องของการประหยัดพลังงาน ซึ่งชิปเซ็ตของหัวเว่ยทำได้ดีที่สุดในตลาดสมาร์ทโฟนในตอนนี้เลยครับ
ช่วยให้เครื่องร้อนช้า แม้ใช้งานเต็มประสิทธิภาพบนความเร็วระดับ 5G ไม่ว่าจะดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่ หรือสตรีมเกมออนไลน์ เล่นเกมส์บนคลาวด์ ก็ไม่หน่วง และไม่ทำให้เครื่องร้อนไวจนต้องพัก โดย Huawei P40 Pro+ 5G รองรับ 5G ได้ทั้ง 2 ซิมการ์ด แถมยังครอบคลุมทุกย่านความถี่ที่ให้บริการในประเทศไทย จึงทำให้ผู้ใช้สามารถใช้ 5G ได้ทุกระบบ และทุกเครือข่าย แถมสมาร์ทโฟนของหัวเว่ยยังถูกเลือกใช้เป็นอุปกรณ์ทดสอบความเร็ว 5G ของเครือข่ายโทรศัพท์ชั้นนำอีกด้วย
ชาร์จไว สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีสะดุด
นอกจากแบตเตอรี่จะอึดมากๆแล้ว เพราะชิปเซ็ตประหยัดพลังงานขั้นเทพ แถมยังมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุสูงทั้ง 2 รุ่นเลยครับ สำหรับผลิตภัณฑ์ระดับสูงของแบรนด์ในกลุ่มเรือธงจาก Huawei ล้วนมาพร้อมความสามารถในการรองรับการชาร์จไว หรือ Huawei SuperCharge โดยในรุ่น Huawei P40 Pro+ 5G รองรับการชาร์จไวทั้งแบบมีสาย และไร้สาย ได้สูงสุดถึง 40W เลยทีเดียว
แถมในรุ่น Huawei Mate Xs 5G ยังรองรับการชาร์จไวได้สูงสุดถึง 55W ทำให้ผู้ใช้สบายใจได้เลยครับ ว่าจะใช้เวลาในการชาร์จที่รวดเร็วมากๆ จนเราสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุดอย่างแน่นอน
ประสบการณ์การการใช้งานสมบูรณ์แบบ ตอบโจทย์การทำงาน และชีวิตส่วนตัวครบทุกมิติ
Huawei มาพร้อมกลยุทธ์สำคัญ อันเป็นแนวทางในการพัฒนาธุรกิจ และผลิตภัณฑ์ นั่นก็คือ 1+8+N ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อระหว่างสมาร์ทโฟน และสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ ภายในระบบอีโคซิสของตนเองที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ โดยมีสมาร์ทโฟนเป็นหัวใจสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรุ่นระดับสูงอย่าง Huawei P40 Pro+ 5G และ Huawei Mate Xs 5G ที่มาพร้อมความสามารถในการเชื่อมต่อกับสมาร์ทดีไวซ์อื่นๆ เพื่อแบ่งปันข้อมูล ไฟล์ต่างๆ รวมถึงประสิทธิภาพการทำงานระหว่างเครื่อง ได้อย่างง่ายดายเพียงสัมผัสเดียว หรือ One Tap ผ่านฟีเจอร์ Huawei Share ซึ่งมาพร้อมระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุด EMUI 10.1 โดยระบบปฏิบัติการใหม่นี้ ยังมาพร้อมฟังก์ชันและลูกเล่นต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น
- การแชร์หน้าจอระหว่างดีไวซ์ (Multi-screen collaborations)
- ฟีเจอร์วิดีโอคอลคุณภาพสูง HUAWEI MeeTime ที่ดีกว่าการวิดีโอคอลผ่านแอปพลิเคชันอื่นๆ คุณภาพของวิดีโอที่คมชัดระดับ FULL HD 1080P และระบบเสียงรอบทิศทาง แม้ในจุดอับสัญญาณ
- การทำงานแบบหลายหน้าต่าง (Multi - Windows) สามารถเปิดหลายๆแอปพลิเคชันได้ในเวลาเดียวกัน
และแน่นอนครับ Huawei P40 Pro+ 5G และ Huawei Mate Xs 5G มาพร้อม บริการ Huawei Mobile Service หรือ HMS ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยการมีพาร์ทเนอร์เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกที่ผลิตคอนเทนต์ในหลากหลายรูปแบบ ที่สำคัญคือการร่วมมือกับนักพัฒนาทั่วโลกในการสร้างสรรค์แอปพลิเคชันให้มีความหลากหลาย และเหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้โดยสามารถไปดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นได้จาก Huawei AppGallery โดยแบ่งประเภทการใช้งานของแอปไว้ถึง 18 ประเภท มีครบถ้วนทุกหมวดหมู่ ตัวอย่างเช่น การท่องเที่ยว การเงินการธนาคาร ช้อปปิ้ง การศึกษา เป็นต้น นอกจากนี้ยังมี Quick Apps ที่รวบรวมแอปพลิเคชัน ที่สามารถใช้งานได้เลย โดยไม่ต้องติดตั้งบนเครื่อง ช่วยให้ประหยัดเนื้อที่หน่วยความจำอีกด้วย
- Huawei P40 Pro+ 5G สี Ceramic White จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 มิถุนายน 2563 ในราคา 40,990 บาท โดยเปิดจองได้ตั้งแต่วันที่ 4-26 มิถุนายนนี้ พร้อมโปรโมชั่นของสมนาคุณช่วงพรีออเดอร์ รวมมูลค่า 12,200 บาท (Exclusive Services มูลค่า 5,490 บาท + Huawei Freebuds 3 มูลค่า 4,990 บาท + Huawei Wireless Car Charger มูลค่า 1,790 บาท) และถ้าจองผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย ซื้อพร้อมผูกแพ็กเกจ ราคาเริ่มต้นเพียง 24,990 บาท เท่านั้น
- Huawei Mate Xs 5G สี Interstellar Blue วางจำหน่ายและในราคา 89,990 บาท พร้อมของสมนาคุณแรกซื้อ รวมมูลค่า 21,900 บาท (Exclusive Services มูลค่า 15,420 บาท + ซองหนังมูลค่า 4,490 บาท + Case มูลค่า 1,990 บาท) วางจำหน่ายจำกัดสาขา
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ โปรโมชั่น และสิทธิพิเศษสามารถคลิกดูเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ทางการของหัวเว่ย:
https://consumer.huawei.com/th/