รีวิว Huawei Mate 30 Pro สมาร์ทโฟนที่สมบูรณ์แบบ ใช้งานน่าประทับใจ แม้ไม่มี Google Mobile Service

หลังจากใช้งานมาได้สักพักใหญ่ ต้องบอกเลยครับว่า Huawei Mate 30 Pro เป็นสมาร์ทโฟนที่สมบูรณ์แบบจริงๆ จัดเต็มทั้งในเรื่องของดีไซน์ที่สวยงาม โดดเด่นทั้งหน้าจอโค้งพิเศษ (Horizon Display) ทำให้มีพื้นที่หน้าจอมากถึง 94.1% ของพื้นที่หน้าจอทั้งหมด และดีไซน์กล้องทรงกลมที่เรียกว่า Halo Ring ซึ่งดูสวยงามและโดดเด่นมากๆ นอกจากนี้การมาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว และกล้องหน้าคู่ ยังพัฒนากล้องได้ดีกว่าเดิม เรียกว่า SuperSensing Cine Camera ที่โดดเด่นทั้งการถ่ายภาพนิ่ง และบันทึกวีดีโอคุณภาพสูงอย่างที่ทาง Huawei กล่าวเอาไว้จริง ๆ

Huawei Mate 30 Pro ใส่เซ็นเซอร์กล้องความละเอียดสูงมาถึง 2 ตัวด้วยกันเป็นครั้งแรกของโลก เซ็นเซอร์ Cine Camera ขนาด 1/1.54 นิ้ว ความละเอียด 40MP RGGB และเซนเซอร์ SuperSensing Camera ขนาด 1/1.7 นิ้ว ความละเอียด 40MP RYYB และแน่นอนครับยังคงจับมือกับ Leica เช่นเคย นอกจากนี้ยังจัดเต็มทั้งในส่วนของสเปค และแบตเตอรี่มาอย่างสมบูรณ์แบบเลยครับ จากการทดสอบใช้งานมาซักพักใหญ่ๆ ผมบอกได้เลยว่านี่คือสมาร์ทโฟนที่สมบูรณ์แบบที่สุดในตอนนี้เลยจริงๆ

จะติดขัดอยู่เรื่องเดียว อย่างที่เราทราบกันก็คือ Huawei Mate 30 Pro ไม่สามารถใช้บริการ Google Mobile Service (GMS) ได้นะครับ ซึ่งเป็นผลมาจากสงครามการค้าระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศจีน เท่ากับว่าจะไม่สามารถใช้งาน Play Store ได้อย่างถูกต้อง รวมไปถึงไม่ได้รับการอัปเดต Security Patch จากทาง Google อีกด้วย แต่ทาง หัวเว่ย ก็จะมีการอัปเดต Security Patch ให้ผ่านทาง EMUI 10 รวมทั้งแอปพลิเคชั่นต่างๆ ก็ต้องดาวน์โหลดผ่านทาง AppGallery และบริการต่างๆ จะมาในนามของ Huawei Mobile Service (HMS) เท่านั้น

นอกจากว่า เราจะนำ GMS มาติดตั้งกันเอง ซึ่งก็สามารถทำได้ง่ายๆ แต่อย่างไรมันก็ไม่ปลอดภัยนะครับ หากตัดสินใจติดตั้งกันเองก็ต้องยอมแบกรับความเสี่ยงที่จะตามมาด้วย (สำหรับเครื่องที่นำมารีวิว ผมได้ติดตั้ง GMS เรียบร้อยแล้วครับ ถึงเสี่ยงแต่เพื่อรีวิวที่สมบูรณ์ก็ต้องยอม) ส่วนใครที่ติดตั้งไปแล้ว เกิดอยากจะเปลี่ยนใจใช้บริการ HMS เดิมๆ ที่มากับเครื่อง ก็สามารถแก้ไขได้ง่ายๆ เพียงแค่ Factory Reset ทุกอย่างก็จะกลับมาเหมือนเดิมครับ ส่วนตอนนี้ก็มีทยอยอัพเดท Security Patch ล่าสุดก็มีปล่อยให้ผู้ใช้แล้วเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา แถมตอนนี้มีผู้ให้บริการชั้นนำปล่อยแอปพลิเคชั่นของตัวเองลงใน AppGallery มากขึ้นแล้วด้วย อย่างล่าสุดมีแอปฯ จากธนาคาร Mobile Banking ให้ดาวน์โหลดกัน 3 รายแล้วไม่ว่าจะเป็น SCB EASY, K PLUS และ ME by TMB แสดงให้เห็นถึงความเอาจริงเอาจังของ หัวเว่ย อย่างชัดเจน 

การเชื่อมต่อของ Huawei Mate 30 Pro มีรายละเอียดดังนี้

• GSM 850 / 900 / 1800 / 1900
• HSDPA 800 / 850 / 900 / 1700(AWS) / 1900 / 2100
• LTE band 1(2100), 2(1900), 3(1800), 4(1700/2100), 5(850), 6(900), 7(2600), 8(900), 9(1800), 12(700), 17(700), 18(800), 19(800), 20(800), 26(850), 28(700), 32(1500), 34(2000), 38(2600), 39(1900), 40(2300), 41(2500)
• Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, DLNA, Wi-Fi Direct, hotspot
• Bluetooth 5.1, A2DP, aptX HD, LE
• NFC
• Infrared Port
• GPS, A-GPS, GLONASS, BDS, GALILEO, QZSS
• USB Type-C 3.1

Huawei Mate 30 Pro มีรายละเอียดสเปคดังต่อไปนี้

• หน้าจอ OLED โค้งพิเศษ (Horizon Display) ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ 1176 x 2400 pixels (409 ppi)
• หน้าจอ DCI-P3, HDR10
• กระจก Corning Gorilla Glass 6
• ชิปเซ็ต HiSilicon Kirin 990 (7 nm+)
• CPU Octa-core (2x2.86 GHz Cortex-A76 & 2x2.09 GHz Cortex-A76 & 4x1.86 GHz Cortex-A55)
• GPU Mali-G76 MP16
• RAM 8GB
• ROM 256GB (UFS 3.0) รองรับ NM (Nano Memory) สูงสุด 256GB
• เซ็นเซอร์ Face ID, fingerprint (under display, optical), accelerometer, gyro, proximity, barometer, compass
• แบตเตอรี่ความจุ 4,500 mAh รองรับชาร์จเร็ว 40W และชาร์จไร้สาย 27W รองรับ Reverse wireless charging
• รองรับใช้งานร่วมกับ ปากกา M Pen (รองรับแรงกดได้ 4,096 ระดับ) (ต้องซื้อแยก)
• รองรับมาตรฐานกันน้ำ และฝุ่นระดับ IP68

• ทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ทำไปได้ 451,252 คะแนน
• ทดสอบ MultiTouch รองรับ 10 จุด
• ทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AndroBench ทำความเร็วในการอ่านอยู่ที่ 1,775.04 MB/s (UFS 3.0)
• ทดสอบสัญญาณ GPS จับสัญญาณได้อย่างรวดเร็วดีมาก

Huawei Mate 30 Pro มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4,500 mAh รองรับชาร์จเร็ว 40W และชาร์จไร้สาย 27W รองรับ Reverse wireless charging เป็นสมาร์ทโฟนที่แบตเตอรี่อึดอย่างน่าทึ่ง สามารถใช้งานได้ 2-3 วันสบายๆ แต่ถ้าคุณเล่นเกมหนักๆ ก็ยังอยู่ได้ถึงค่ำสบายๆ เช่นกัน เป็นสมาร์ทโฟนสเปคแรงที่มีแบตอึดที่สุดเท่าที่ผมเคยทดสอบมาเลยครับ ไม่จำเป็นต้องหาที่ชาร์จระหว่างวัน หรือพกพา Power Bank เลยก็ได้

Huawei Mate 30 Pro ภายในกล่องจะมีอุปกรณ์ดังต่อไปนี้

• ตัวเครื่อง Huawei Mate 30 Pro
• อะแดปเตอร์
• สาย USB Type-C
• หูฟังแบบ Earbud (สาย USB Type-C)
• เข็มจิ้มซิม
• คู่มือ
• เคส

Huawei Mate 30 Pro มาพร้อมดีไซน์โลหะและกระจก หน้าจอโค้งพิเศษ (Horizon Display) ทำให้มีพื้นที่หน้าจอมากถึง 94.1% ของพื้นที่หน้าจอทั้งหมด แต่ด้านบนยังคงมีติ่งหน้าจอขนาดใหญ่อยู่นะครับ โดยจะมาพร้อมกล้องหน้าคู่ 32MP F2.0 + 3D TOF Camera สามารถจับถือได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะแตะหน้าจอโดยไม่ตั้งใจ เพราะมีเซ็นเซอร์อยู่รอบตัวเครื่องครับ สามารถวิเคราะห์การจับถือของผู้ใช้ได้ และด้านข้างตัวเครื่องจะมีเซ็นเซอร์สำหรับการเพิ่ม-ลดระดับเสียง สั่งงานโดยการแตะ 2 ครั้ง สามารถใช้งานได้ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา แต่ยังคงมีปุ่ม Power มาให้ใช้กันอยู่

หน้าจอเป็นชนิด OLED ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ 1176 x 2400 pixels รองรับ DCI-P3 และ HDR10 กระจก Corning Gorilla Glass 6, สำหรับรุ่นนี้จะไม่มีลำโพงสนทนานะครับ แต่จะรองรับเทคโนโลยี Screen Sound Technology สนทนาผ่านทางหน้าจอ จากการทดสอบเสียงสนทนาคมชัดดีมาก และรองรับมาตรฐานกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68

ด้านหลังดีไซน์โดดเด่นและสวยงามมากครับด้วยกล้องทรงกลมที่เรียกว่า Halo Ring มี 4 กล้องประกอบด้วยกล้องความละเอียด

• 40MP F1.8, 18 มม. (ultrawide), PDAF
• 40MP F1.6, 27 มม. (wide), PDAF, OIS
• 8MP F2.4, 80 มม. (telephoto), PDAF, OIS, 3x optical zoom, 5x hybrid zoom, 30x digital zoom
• 3D TOF camera

สำหรับ Huawei Mate 30 Pro ที่นำมารีวิวเป็นเครื่องส่วนตัวของผมเอง จึงได้มีการติดฟิล์มกระจกกันรอย และด้านหลังมีการติดฟิล์มลายเคฟล่า สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจ ฟิล์มกระจก Startec จะเป็นแบบกาว UV ซึ่งจะมีฟิล์มลายเคฟล่าสำหรับด้านหลังแถมมาให้ด้วย จากการใช้งานมีการเว้นระยะที่ฉลาดครับ ไม่ดันเคส เสียงสนทนาจากเทคโนโลยี Screen Sound Technology ยังคงดังชัดเจน สแกนลายนิ้วมือได้ปกติ ที่สำคัญมีราคาที่ถูกมากๆ และสำหรับคนที่มองหาเคสอยู่ (เพราะค่อนข้างหายาก) ตอนนี้ผมซื้อมาใช้ 3 ชิ้นครับ ไม่มีตัวไหนดันฟิล์มกระจกกันรอยเลย และคุณภาพดีน่าพอใจมากๆ แนะนำว่าใช้ได้เลยครับ Ringke Fusion X, NillKin CamShield Case และ NillKin Synthetic Fiber (ไม่มีการโฆษณาใดๆ เพราะผมซื้อใช้เองล้วนๆ)

ด้านบนจะมีไมค์ตัดเสียงรบกวน และ Infrared Port ด้านล่างมีลำโพงเสียงดังปานกลาง แต่คมชัดและมีคุณภาพ พอร์ท USB Type-C ไมโครโฟน และถาดใส่ซิม ด้านซ้ายเรียบๆ ส่วนด้านขวาจะมีปุ่ม Power

Huawei Mate 30 Pro ทำงานบน Android 10 (Open Source) ครอบทับด้วย EMUI 10 สเปคแรงด้วย ชิปเซ็ต HiSilicon Kirin 990 (7 nm+), GPU Mali-G76 MP16, RAM 8GB, ROM 256GB (UFS 3.0) รองรับ NM (Nano Memory) จากการทดสอบหน้าตา UI สวยงามมากๆครับ พัฒนาจาก EMUI 9 ชนิดที่เรียกได้ว่าก้าวกระโดดเลยทีเดียว น่าใช้กว่าเดิมมากๆ ความเร็ว และความลื่นไหลยอดเยี่ยม Transition ต่างๆ ดูราบลื่นและเป็นธรรมชาติ และรองรับ Dark Mode โดยทาง หัวเว่ย ได้เลือกใช้ตัวหนังสือเป็นสีเทา และเฉดสีดำก็จะไม่ดำสนิต ช่วยให้สบายตามากยิ่งกว่าที่เคย รับรองว่าจะต้องชอบกันมากกว่าเดิมอย่างแน่นอนเลยครับ

นอกจากนี้ ยังรองรับทั้ง Face ID และ Fingerprint (under display, optical) รองรับสูงสุด 5 ลายนิ้วมือ ความรวดเร็ว และความแม่นยำยอดเยี่ยมมากครับ ส่วนในเรื่องของ Gesture และ Air Gesture มีมาให้ครบ และมี Infrared Port สามารถใช้งานสมาร์ทโฟนแทนรีโมทควบคุมการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้า ได้อย่างสะดวกสบายด้วยนะครับ และแน่นอนรองรับการใช้งาน 2 หน้าจอ รวมทั้งฟีเจอร์เด่นอื่นๆ ครบเครื่องเช่นเคย 

สำหรับเครื่องนี้ผมได้ติดตั้ง Google Mobile Service (GMS) เป็นที่เรียบร้อย (แต่จริงๆ ก็ไม่แนะนำนะครับ เพราะมันไม่ถูกต้อง รวมทั้งจะต้องแบกรับความเสี่ยงกันเอง) ทำให้สามารถใช้บริการ และใช้งานต่างๆ ได้ตามปกติ ไม่อย่างนั้นการใช้บริการ Google Mobile Service (GMS) จะต้องทำผ่านเบราเซอร์เท่านั้น รวมทั้งการใช้งานแอปพลิเคชั่นต่างๆ ส่วนมากก็จะไม่สมบูรณ์ เพราะจะมีการเรียกหา GMS แม้ว่าจะติดตั้ง GMS เองแล้วก็ตาม หลายแอปฯ ก็รู้อยู่ดีนะครับ อย่างเช่นการใช้งาน Grab จะไม่สามารถเชื่อมต่อกับ Google Map ได้ ตอนสั่งอาหารจะไม่สามารถเห็น Map ได้เลย ต้องติดตามผ่านการส่งข้อความ หรือโทรตามอย่างเดียวเลย (แต่ถ้าเปิดใช้งาน Google Map เอง จะสามารถใช้งานปกติ)

สำหรับ AppGallery ก็เป็นเหมือนกับ Play Store ของทาง Huawei ในนั้นมีแอปฯ มากมายครับ แต่ไม่ครบเท่ากับ Play Store รวมทั้งทาง Huawei ก่อนหน้านี้ก็ยังไม่ได้มาโฟกัสในจุดนี้ด้วย แต่จากนี้ไปรับรองว่าเราจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ครับ แค่ในช่วงที่ผ่านมาก็มีการอัดฉีดให้ผู้ใช้หันมาดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นใน AppGallery อย่างเข้มข้นเลยนะครับ ทั้งโปรโมชั่นแจกแต้ม และ Code เงินสด สำหรับตอนนี้ถ้าต้องการใช้งานแอปพลิเคชั่นที่เราคุ้นเคย ก็ต้องพึ่งแอปฯ ทดแทนต่างๆ ซึ่งมีข้อจำกัด และส่วนมากก็ไม่มีตัวเลือกให้ใช้

นอกจากนี้ Huawei ยังมี Member Center แอปฯ รวมสิทธิพิเศษต่างๆ สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนของ Huawei ซึ่งบอกเลยช่วงนี้แจกหนักต้อนรับปีใหม่มากๆ พร้อมมีข่าวสารอัปเดตใหม่ๆ มากมาย นอกจากนี้ยังลิงก์ไปสู่บริการ HiCare สำหรับเช็คข้อมูลการรับประกัน และราคาอะไหล่ รวมทั้งมีฟีเจอร์ตรวจสอบสมาร์ทโฟนเบื้องต้น เป็นแอปฯ ที่เวลาเราซื้อสมาร์ทโฟนของ Huawei สามารถตรวจเช็คก่อนซื้อเครื่องได้นะครับ และลิงก์ไปสู่ AppGallery

Huawei Mate 30 Pro มาพร้อมหน้าจอ OLED โค้งพิเศษ (Horizon Display) ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ 1176 x 2400 pixels (409 ppi) รองรับ DCI-P3 และ HDR10 เป็นหน้าจอที่สวยระดับแถวหน้าอีกรุ่นหนึ่งในตอนนี้ มาพร้อมฟีเจอร์ปรับโทนหน้าจอตามสภาพแวดล้อม ช่วยให้รับชมได้สวยงาม และสบายตามากขึ้น แต่โดยส่วนตัวผมก็รู้สึกรำคาญติ่งหน้าจอที่รบกวนสายตามากๆ

ในส่วนของการเล่นเกม HiSilicon Kirin 990 ทำได้น่าประทับใจ สเปคแรงเหมาะกับการเล่นเกม แถมการควบคุมยังแม่นยำ และลื่นติดนิ้ว ใครที่เคยบ่นชิปเซ็ต Kirin ในเรื่องของเกม บอกเลยว่าต้องเปลี่ยนความคิดกันแล้วละครับ ผมทดสอบด้วยเกม ROV ค่าเฟรมเรท 60FPS นิ่งๆ มีลงมาบ้างก็ 59FPS เท่านั้นเอง และไม่ลงไปต่ำกว่านั้นเลยจนจบเกม ส่วนเกม PUBG ปรับได้ที่ HDR HD และเฟรมเรทสูงสุด

พระเอกตลอดกาลของ หัวเว่ย ก็คือเรื่องของกล้องเลยครับ Huawei Mate 30 Pro มาพร้อมกล้องแนวคิดใหม่ SuperSensing Cine Camera โดยใส่เซ็นเซอร์กล้องความละเอียดสูงมาถึง 2 ตัว เซ็นเซอร์ Cine Camera ขนาด 1/1.54 นิ้ว ความละเอียด 40MP RGGB และเซนเซอร์ SuperSensing Camera ขนาด 1/1.7 นิ้ว ความละเอียด 40MP RYYB และแน่นอนว่าเป็นความร่วมมือกับ Leica และเคยได้คะแนนทดสอบกล้องจาก DxOMark สูงที่สุดในโลก ก่อนที่จะถูก Huawei Mate 30 Pro 5G แซงหน้าไปครับ กล้องหน้าคู่ความละเอียด 32MP F2.0 + 3D TOF Camera สำหรับ 4 กล้องหลังประกอบด้วย

• 40MP F1.8, 18 มม. (ultrawide), PDAF
• 40MP F1.6, 27 มม. (wide), PDAF, OIS
• 8MP F2.4, 80 มม. (telephoto), PDAF, OIS, 3x optical zoom, 5x hybrid zoom, 30x digital zoom
• 3D TOF camera

จุดเด่นอื่นๆ สามารถดัน ISO ได้สูงถึง 409600, บันทึกวีดีโอความละเอียด 4K 60FPS และบันทึก Super Slow Motion บนความละเอียด HD 7680FPS, ถ่ายวีดีโอพร้อม Bokeh ละลายฉากหลัง, ระบบ Master AI

จากการทดสอบ ต้องบอกว่า Huawei Mate 30 Pro มาพร้อมกล้องคุณภาพดีกว่าเดิมอย่างชัดเจน โฟกัสแม่นยำ และบันทึกภาพได้อย่างรวดเร็วมาก รายละเอียดภาพดีมากๆ รวมไปถึงการจัดการ Noise ได้อย่างยอดเยี่ยม สีสันสดสวย Master AI ฉลาดมากครับ แต่โดยส่วนตัวผมมองว่าภาพที่ได้ดูจะปรับแต่งมากไปหน่อย และละลายฉากหลังได้อย่างแม่นยำแต่ก็ดูมากเกินไป จนดูเหมือนภาพที่ผ่านการรีทัชมาเยอะมากๆ แต่ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะครับ ภาพที่ได้มันสวยมากอยู่ดี ชนิดที่ว่าไม่จำเป็นต้องเอาไปแต่งเพิ่มเลยครับ แต่สำหรับบางคนอาจจะรู้สึกว่ามันมากเกินไป

ที่น่าประทับใจมากๆ คือการถ่ายภาพกลางคืน ยังคงยอดเยี่ยม รายละเอียดสูงยอด ส่วนในเรื่อง Selfie ทำได้ดีกว่าเดิมครับ รายละเอียดดีมาก และดูมีมิติ ส่วนวีดีโอต้องขอชมเลยคือระบบกันสั่น ฉลาดมากๆ และถ่ายวีดีโอพร้อม Bokeh นี่ทำได้ดีมากครับ ค่อนข้างฉลาดมากเลยละ ที่ปลื้มมากๆ ก็คือ การบันทึก Super Slow Motion ต้องร้องว้าวเลยครับ ทำได้สวยที่สุดเท่าที่เคยเจอบนสมาร์ทโฟนเลย เรามาชมตัวอย่างภาพถ่ายและวีดีโอกันครับ

Huawei Mate 30 Pro ระยะ Ultrawide

Huawei Mate 30 Pro ระยะปกติ

Huawei Mate 30 Pro ระยะ 3x

Huawei Mate 30 Pro ระยะ 5x

Huawei Mate 30 Pro ระยะ Ultrawide

Huawei Mate 30 Pro ระยะปกติ

Huawei Mate 30 Pro ระยะ 3x

Huawei Mate 30 Pro ระยะ 5x

Huawei Mate 30 Pro ระยะ Ultrawide

Huawei Mate 30 Pro ระยะปกติ

Huawei Mate 30 Pro ระยะ 3x

Huawei Mate 30 Pro ระยะ 5x

Huawei Mate 30 Pro ระยะ Ultrawide

Huawei Mate 30 Pro ระยะปกติ

Huawei Mate 30 Pro ระยะ 3x

Huawei Mate 30 Pro ระยะ 5x

Huawei Mate 30 Pro ต้องเรียกว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่สมบูรณ์แบบเอามากๆในตอนนี้ มาพร้อมดีไซน์ที่สวยงามและโดดเด่น หน้าจอโค้งพิเศษ (Horizon Display) กล้อง SuperSensing Cine Camera คุณภาพสูงที่ร่วมมือกับ Leica และการถ่ายวีดีโอที่ยอดเยี่ยม ระบบกันสั่นทำได้น่าประทับใจมากๆ แถมยังมีลูกเล่นในการถ่ายวีดีโอแบบจัดเต็ม รวมไปถึงสเปคการใช้งานระดับสูง และแบตเตอรี่ที่อึดมาก ทั้งที่สเปคแรงขนาดนี้ ถ้ายังมี GMS ก็ต้องบอกว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ไร้จุดอ่อนเลยละครับ สำหรับคนที่สนใจ Huawei Mate 30 Pro อยู่ ยังไงผมก็แนะนำว่าต้องลอง เพราะคุณจะไม่มีทางผิดหวังอย่างแน่นอนครับ กับสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่องที่สุดระดับแถวหน้าในตอนนี้เลย

1. ดีไซน์สวยงามพรีเมี่ยมมากๆ วัสดุและการประกอบดีเยี่ยม
2. หน้าจอโค้งพิเศษ (Horizon Display) รองรับ DCI-P3 และ HDR10 ดูหวือหวา และสวยงามมากๆ
3. ใช้กระจก Corning Gorilla Glass 6
4. เทคโนโลยี Screen Sound Technology สนทนาผ่านทางหน้าจอ เสียงดัง และคมชัดดีมาก
5. รองรับมาตรฐานกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68
6. สเปคสูง HiSilicon Kirin 990, RAM 8GB, ROM 256GB (UFS 3.0)
7. กล้องทรงกลมที่เรียกว่า Halo Ring ดูสวยงามและโดดเด่น
8. กล้องมาตรฐานใหม่ SuperSensing Cine Camera พัฒนาร่วมกับ Leica โดดเด่นทั้งภาพนิ่ง และการบันทึกวีดีโอ ใส่เซ็นเซอร์กล้องความละเอียดสูงมาถึง 2 ตัว
9. ฟีเจอร์ถ่ายภาพ และบันทึกวีดีโอจัดเต็มมากๆ ครบถ้วนที่สุดในตอนนี้
10. แบตเตอรี่ความจุ 4,500 mAh รองรับชาร์จเร็ว 40W และชาร์จไร้สาย 27W รองรับ Reverse wireless charging
11. รองรับใช้งานร่วมกับ ปากกา M Pen (รองรับแรงกดได้ 4,096 ระดับ)

1. ไม่สามารถใช้บริการ Google Mobile Service (GMS)
2. Master AI ทำให้กล้องดูจะปรับแต่งมากไปหน่อย