รีวิว OnePlus 7T สมาร์ทโฟนจอแสดงผล 90Hz, ชิป Snapdragon855+ กล้อง 3 ตัว 48MP ในราคา 17,990 บาท

เริ่มจากความ Amazing แรกที่พบก่อนเลย ก็คือกล่องของ OnePlus 7T ที่ปกติแล้วด้านหน้ากล่องเขาก็จะนิยมเอารูปเครื่องของตัวเองมาสกรีนโชว์ให้ลูกค้าได้เห็นกัน แต่ทาง OnePlus กับใส่เป็น Text ที่ยาวและติดกัน เพื่อบอกถึงความตั้งใจในการรังสรรค์เครื่องออกมาของทีมงานว่ามีมากแค่ไหน! (เออ เอากับแบรนด์นี้ซิ) ในขณะที่ตัวกล่องใช้สีแดงเป็นพื้นทั้งกล่องและด้านในให้อุปกรณ์ภายในกล่องมาตามนี้เลยครับ

อุปกรณ์ภายในกล่อง 

• OnePlus 7T
• เคสใส Soft case
• คู่มือการใช้งาน, สติ๊กเกอร์ Oneplus logo และบัตรเชิญร่วมงานเปิดตัวในครั้งหน้า
• สาย USB-C รองรับชาร์จไว
• อแดปเตอร์ชาร์จ (Warp Charge 30T)

• หน้าจอแสดงผล Fluid Display ขนาด 6.55 นิ้ว ความละเอียด 2400x1080 พิกเซล (refresh rate 90Hz, HDR10+)
• CPU Snapdragon 855+ ความเร็ว 2.96GHz
• GPU Adreno 640
• RAM 8GB (LPDDR4X)
• ROM 128GB (UFS 3.0)
• กล้องถ่ายรูป Triple camera ความละเอียด 48 + 16 + 12 ล้านพิกเซล (Main F1.6 + Ultrawide F2.2 + Telephoto F2.2)
• กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล (F2.0)
• Android 10 with Oxygen OS
• รองรับสแกนนิ้วมือบนหน้าจอ
• รองรับปลดล็อคด้วยใบหน้า (Face Unlock)
• รองรับเทคโนโลยีเชื่อมต่อ 4X4 MIMO LTE Cat 18
• รองรับซิมการ์ด 2 ซิม
• Bluetooth 5.0 รองรับ aptX & aptX HD & LDAC & AAC
• NFC
• รองรับ WiFi 2x2 MIMO, Wi-Fi 802.11 a / b / g / n / ac, 2.4G / 5G
• GPS (L1 + L5 Dual Band), GLONASS, Galileo (E1 + E5a Dual Band), Beidou, A-GPS
• แบตเตอรี่ 3,800 mAh (Warp Charge 30T)

OnePlus 7T มาพร้อมคอนเซ็ปท์ "Smooth Like Never Before" ที่ต้องการสื่อถึงความเร็ว แรง และลื่นไหลขณะใช้งาน ดังนั้นงานออกแบบตัวเครื่องจึงเน้นออกแบบให้ตัวเครื่องมีความเรียบง่าย แต่แฝงด้วยความสวยงามหรูหรา ด้วยการนำวัสดุโลหะเงาเป็นฝาหลังของตัวเครื่อง เพื่อให้เกิดการเล่นเงากับแสง ทำให้ดูหรูหราขึ้นเมื่อวางไว้กับโต๊ะ

• มิติตัวเครื่อง OnePlus 7T : กว้าง 74.44 x สูง 160.94 x หนา 8.13 มิลลิเมตร
• มิติตัวเครื่อง OnePlus 7 Pro : กว้าง 75.90 x สูง 162.60 x หนา 8.8 มิลลิเมตร

ด้านหน้าตัวเครื่อง มาพร้อมหน้าจอแสดงผล Fluid Display ขนาด 6.55 นิ้ว ความละเอียดระดับ FullHD+ ซึ่งเป็นหน้าจอที่มี Refresh rate 90Hz และรองรับการแสดงผล HDR10+ ด้วยนะครับ สำหรับหน้าจอที่มี Refresh rate สูงแบบนี้ดียังไง? คำตอบคือ มันจะส่งผลต่อการแสดงผลบนหน้าจอให้สมูทเนียนตาขึ้นแบบรับรู้ได้ อารมณ์คล้ายกับการที่ดูภาพยนตร์หรือวีดีโอบน Youtube ที่ความละเอียดระดับ FullHD 30fps กับ FullHD 60 fps นั่นเองครับ 

ดังนั้นเวลาเราปัดหน้าจอเลื่อนดูนั่นนี่ หรือเล่นเกม เราจะรู้สึกถึงความเนียนตาแบบสัมผัสได้ เพราะภาพที่แสดงออกมามันจะนิ่งกว่าจอมือถือทั่วไปที่ส่วนใหญ่ Refresh rate จะอยู่ที่ 60Hz เป็นมาตรฐาน นอกจากนี้จอของ OnePlus 7T ยังเป็นจอที่ลดแสงสีฟ้าลงตั้งแต่โรงงาน โดยที่เราไม่ต้องปรับค่าใดๆ ให้ในตัวด้วย (แต่ปรับลดได้อีกจากซอฟต์แวร์)

ในขณะที่ด้านบนหน้าจอจะมีกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล (F2.0) วางไว้ตรงบริเวณรอยหยดน้ำบนหน้าจอ และบริเวณที่ขอบหน้าจอเหนือกล้องหน้าจะมีแทบลำโพงเสียงสำหรับใช้ฟังคู่สนทนา และข้างในใส่เป็นลำโพงเสียงตัวเครื่องแบบสเตอริโอคู่กับตัวล่างด้วย

ด้านล่างของตัวเครื่อง มีพอร์ตเชื่อมต่อ USB-C, ช่องสำหรับใส่ซิมการ์ด (Dual SIM) และลำโพงเสียงตัวเครื่อง

ด้านขวาของตัวเครื่อง มีปุ่มกดเปิด-ปิดตัวเครื่อง (Power) และปุ่มสวิซท์ใช้สำหรับเปิด-ปิดเสียง ซึ่งเราสามารถดันปรับระดับได้ 3 ระดับ คือ เปิดเสียงเรียกเข้าและการแจ้งเตือน (On), ใช้ระบบสั่นในการแจ้งเตือน (Vibration) และปิดเสียงทั้งหมด (Off) 

ด้านซ้ายของตัวเครื่อง มีปุ่มปรับระดับเสียงเพิ่ม-ลด (Volume)

ด้านหลังของตัวเครื่อง มีกล้องหลังดีไซน์ใหม่ทรงกลม ตัวกล้องเป็นแบบ Triple camera ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล (F1.6), กล้องมุมกว้าง Ultrawide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล (F2.2) และกล้อง Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (F2.2) พร้อมไฟแฟลช Dual LED 

OnePlus 7T รันบนระบบปฏิบัติการ Oxygen OS ที่ใช้พื้นฐานของ Android 10 ซึ่งทาง OnePlus พัฒนา Oxygen OS ขึ้นมาเองโดยใช้ทีมงาน Cyanogen เจ้าพ่อรอมโมที่ถ้าใครเคยผ่านยุค Android 2.x จะรู้จักเป็นอย่างดีว่า เป็นทีมที่ทำรอมแอนดรอยด์ออกมาได้ลื่นมากๆ ดังนั้น Oxygen OS จึงขึ้นชื่อในเรื่องของการจัดการทรัพยากรบนตัวเครื่องของ Android ได้ดีมากๆ และจัดว่าเป็นรอมที่ลื่นสมูท ปัญหาน้อย เป็นระดับแนวหน้าของสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์เลยก็ว่าได้ครับ เพราะฉะนั้นเรื่องของการใช้งานว่าจะหน่วงจะค้างไหม? ขอให้ตัดไปได้เลย

แต่ด้วยความลื่นชนิดที่เทียบเคียงกับ Stock Android หรือ Android One ของ Google ก็เลยทำให้หน้าตา UI มันคลีนมากๆ ลูกเล่นความฟรุ๊้งฟริ้งอาจจะไม่วือหวาเหมือนสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์รุ่นอื่นๆ เท่าไรนัก ในขณะที่การใช้งานทั่วไปก็ใช้งานได้ไม่ยากครับ อาจต้องเรียนรู้การสั่งการแบบไร้ปุ่มนำทางสักหน่อย แต่ไม่ยากเกินไปแน่นอน และตัว App drawer ก็สามารถเรียกขึ้นมาได้ง่ายแค่ปัดจากขอบล่างขึ้นมาเท่านั้น

มีโหมดลดการกระพริบของหน้าจอด้วยนะ!

• สแกนนิ้วมือบนหน้าจอ - ปลดล็อคด้วยใบหน้า (In-Display Fingerscan - Face Unlock)

OnePlus 7T ยังคงใช้ระบบสแกนนิ้วมือบนหน้าจอในการยืนยันตัวตนบนเครื่องเป็นหลัก ซึ่งตัวสแกนตอบสนองได้ไวมากๆ แต่ลงน้ำหนักไปเพียง 30-40% ตัวเครื่องก็โปรเซสปลดล็อคให้แล้ว แถมยังมีโหมดสำหรับปรับเปลี่ยน effect ลวดลายตัวสแกนนิ้วมือได้ด้วย จะเปลี่ยนเป็นคลื่นโนวา, ไฟฟ้า หรืออื่นๆ ได้ตามชอบเลย

นอกจากนี้ยังทางวันพลัสยังใส่ Face Unlock หรือการปลดล็อคตัวเครื่องด้วยใบหน้ามาให้เป็นทางเลือกด้วยเช่นกัน ซึ่งถ้าหากการสแกนนิ้วมือบนหน้าจอเร็วแล้ว เจอปลดล็อคด้วยใบหน้าเร็วยิ่งกว่า เร็วมากๆ ครับ รับรองว่าทันใจแน่นอนๆ แถมยังใช้งานในที่แสงน้อยได้แม่นด้วยนะ อันนี้ถูกใจมากๆ 

• โหมดหูฟัง - Dolby Atmos

จุดเด่นของ OnePlus 7T อยู่ที่ความบันเทิงและประสิทธิภาพ ดังนั้นในด้านเสียงคงจะไม่เต็มอิ่มตามที่ชูแน่นอน ถ้าขาดระบบเสียงอย่าง "Dolby Atmos" ที่ตอนนี้น่าจะกลายเป็นระบบเสียงมาตรฐานของสมาร์ทโฟนในปีนี้ไปแล้ว ซึ่งจากที่ลองปรับทดสอบดูก็ช่วยได้เหมือนกันครับ มันทำให้รายละเอียดของเสียงพื้นหลังชัดเจนขึ้น เครื่องดนตรีมาครบมากขึ้น แถมยังใส่โหมดหูฟังมาให้ด้วย อันนี้ผมว่าคนที่ชื่นชอบการปรับจูนเสียงด้วยตนเองน่าจะถูกใจสิ่งนี้กันนะ เพราะมันทำให้โทนเสียงของตัวเครื่องตรงกับโทนเสียงที่เราชอบมากขึ้นจากของเดิมๆ

• แอปคู่ขนาน

เป็นโหมดการใช้งานที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับโหมด "แอปคู่ขนาน" หรือโหมดโคลนแอปฯ ที่จะทำให้สามารถใช้งานบัญชีพวกแอปพลิเคชั่นโซเชียลมีเดียอย่าง Line, Facebook, Whatapps และอื่นๆ พร้อมกันได้สองบัญชีแบบเรียลไทม์ ซึ่งบน OnePlus 7T ก็ใส่มาด้วยเช่นกันครับ

สำหรับประสิทธิภาพการใช้งานบน OnePlus 7T คงไม่ต้องพูดกันเยอะครับ เพราะใช้งานได้ลื่นมากๆ ความหน่วงหรือดีเลย์ค้างกวนใจ แทบหาไม่เจอเลย แถมการกดแชร์คอนเทนท์ต่างๆ ทำได้รวดเร็วมากๆ ซึ่งปกติผมใช้มือถือตัวเองที่เป็นรุ่นท็อปด้วยกันเวลาจะกดแชร์คอนเทนท์ต่างๆ หรืออัปโหลดไฟล์ขึ้น Cloud มันจะมีช่วงเวลาให้ระบบคิดสักเล็กน้อยให้พอรู้สึกได้ ก่อนที่จะขึ้นเมนูให้เราเลือกว่าจะแอคชั่นอะไรต่อไป แต่ OnePlus 7T กดแล้วไปต่อได้เลย! เออ...ลื่นจริง

การใช้งานที่ลื่นไหลขนาดนี้ แน่นอนว่าด้วยสเปกที่ใช้ชิปประมวลผลระดับ CPU Snapdragon 855+ ที่แรงที่สุดของฝั่งสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ตอนนี้ ทำงานร่วมกับ RAM 8GB และ ROM 128GB ชนิด UFS 3.0 ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาจึงไม่แปลกใจว่าทำไมถึงได้ลื่นไหลใช้งานได้เนียนตาแบบนี้ และเมื่อทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ที่ได้รับการยกย่องว่าจัดการทรัพยากรต่างๆ บนเครื่องได้ดี และมีการปล่อยอัปเดทให้ลูกค้าสม่ำเสมออย่าง Oxygen OS ยิ่งการันตีในเรื่องของประสิทธิภาพการใช้งานต่างๆ บนตัวเครื่องไล่ตั้งแต่ระดับเบาๆ ไปจนขั้นหนักๆ ได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ ใครที่กังวลใจข้อนี้ผมขอยืนยันอีกคนว่า ผ่านครับ!! 

• ทดสอบด้วยแอปฯ AnTuTu Benchmark ได้คะแนน 461,616 คะแนน 
• ทดสอบด้วยแอปฯ GeekBench 5 ได้คะแนน Single Core 787 และ Multi Core 2716 คะแนน 
• ทดสอบประสิทธิภาพของ GPU ด้วย 3D Benchmark Sling Short Extreme ได้คะแนน Open GL 6,187 คะแนน 
• ทดสอบประสิทธิภาพของ GPU ด้วย 3D Benchmark Sling Short Extreme ได้คะแนน Valkan 5,366 คะแนน 
• ทดสอบอัตรา Read / Write ของหน่วยความจำภายในด้วยแอปฯ AndroBench ทำความเร็วได้ Read 1406.61 MB/s | Write 217.72MB/s 
• การรองรับสตรีมมิ่งวีดีโอ Netflix จากการทดสอบแอปฯ DRM Info รองรับการแสดงผลที่ระดับความละเอียด FHD ทดสอบ 
• ทดสอบอัตรา Refresh rate ของหน้าจอได้ 90Hz

ในด้านของความบันเทิงหรือการรับชมคอนเทนท์ต่างๆ เป็นสิ่งที่ OnePlus 7T เก่งและถนัดอยู่แล้ว เพราะตัวเครื่องถูกวางคอนเซ็ปท์มาให้ตอบรับกับความต้องการในด้านนี้แบบเน้นๆ ดังนั้นด้วยหน้าจอแสดงผลที่มีค่า Refresh rate 90Hz, HDR10+ และระบบเสียง Dolby Atmos ที่ขับรายละเอียดเสียงของลำโพงสเตอริโอบนเครื่องได้อิ่มมากๆ เมื่อทำงานร่วมกัน เป็นเหมือนส่วนผสมที่ลงตัวและรสชาติกำลังดีของมือถือรุ่นนี้เลย และการันตีได้เลยว่า ถ้าหากวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ได้นอนชมภาพยนตร์สตรีมมิ่งวีดีโอๆ ดีๆ สักเรื่องบน OnePlus 7T จะรู้สึกเพลินจนลืมเวลาเลยล่ะครับ หรืออาจเสพติดการรับชมคอนเทนท์บนจอ 90Hz ไปโดยปริยายแบบผมก็ได้นะ เพราะหลังจากกลับไปรับชมบนสมาร์ทโฟนของตัวเอง มันเป็นอะไรที่รู้สึกขัดใจไปเลย

การเล่นเกมบน OnePlus 7T คงไม่มีข้อสงสัยว่า จะเล่นเกมนั่นเกมนี้ได้ไหม? เพราะด้วยชิปประมวลผล CPU Snapdragon 855+ และ GPU Adreno 640 สามารถเล่นเกมที่มีบน Google Play Store ได้หมดเลย รวมทั้งยังสามารถปรับกราฟฟิกการ์ดได้ที่สูงสุดทุกเกมอีกด้วย แต่สิ่งที่อยากเล่าคือ การตอบสนองทั้งในเรื่องการทัชและการเล่นเกมเป็นอย่างไรมากกว่าครับ 

จากการที่ได้ทดสอบเล่นเกมหลากหลายแนวที่กำลังนิยมกันตอนนี้และเคยนิยม ไล่ตั้งแต่ ROM, identity, Spiritwish, ROV, MOL และ Call of duty Mobile ทุกเกมล้วนสามารถปรับกราฟิกได้สุด และเล่นได้ไหลลื่นมากๆ ครับ ส่วนการตอบสนองในเรื่องการทัชถ้ามองในกลุ่มสมาร์ทโฟนระดับเดียวกันแล้ว ผมคิดว่าเจ้า OnePlus 7T ยืนหนึ่งได้เลยนะ ทัชมีดีเลย์น้อยมากๆ ตอบสนองได้เกือบติดนิ้ว เล่นเกมได้อรรถรสไม่หงุดหงิดกวนใจ ในขณะที่ด้านความร้อนเมื่อผ่านชั่วโมงจึงจะเริ่มรู้สึกอุ่นๆ และมีอาการสวิงเล็กน้อยของ FPS ให้เห็นบ้าง แต่ภาพรวมก็ยังนิ่งไม่หลุดหนักแต่อย่างใด 

นอกจากนี้บน OnePlus 7T ยังมีโหมดสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะใส่มาให้ด้วย ซึ่งทางวันพลัสได้ร่วมมือพัฒนาขึ้นมากับ Fnatic ผู้ผลิตและพัฒนา Gear sport ของวงการ Esport ชื่อดัง ทำให้ตัวซอฟต์แวร์ถูกออกแบบมาได้ตรงตามความต้องการของคนเล่นเกมพอสมควร มีการจัดการทรัพยากรบนตัวเครื่องขณะเล่นเกมได้มีประสิทธิภาพ มีลูกเล่นอำนวยความสะดวกระหว่างเล่นด้วย ยังไงก็ลองเข้าไปปรับแต่งกันดูครับน่าจะชอบกันแน่นอน

ด้านพลังงานบนตัวเครื่อง OnePlus 7T มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 3800 mAh ซึ่งถือว่าอยู่เกณฑ์มาตรฐานของสมาร์ทโฟนสมัยใหม่ แต่ก็อยากให้ใส่มาที่ 4000 mAh เหมือนกัน แต่ถึงแม้จะมีขาดไปเล็กน้อยภาพรวมในด้านการใช้พลังงานบนตัวเครื่องผมจัดอยู่ในระดับปานกลางค่อนไปทางดีหน่อยๆ เพราะถ้าหากเป็นคนใช้งานทั่วไปไม่ได้เล่นเกมหนักๆ เล่นแค่โซเชียลครั้งละ 10-15 นาที ในหนึ่งวันตัวแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานถึงดึกๆ 4 - 5 ทุ่ม ได้เลยครับ

แต่ถ้าหากเป็นคนที่เล่นเกมระหว่างวัน 1 - 2 ชั่วโมง ฟังเพลงออนไลน์ ดูสตรีมมิ่งวีดีโอนานๆ น่าจะรองรับการใช้งานได้ประมาณ 6-8 ชั่วโมง เท่านั้นครับ เพราะจากที่ลองใช้งานในรูปแบบนี้ในหนึ่งวัน ชาร์จเต็ม 100% เริ่มใช้งานตั้งแต่ 7 โมงเช้า ประมาณหกโมงหรือทุ่มหนึ่งก็ขึ้นสีแดง 10% แล้วครับ ก็ถือว่ารองรับการใช้งานในหนึ่งได้ดีอยู่นะ 

ในขณะที่ด้านการชาร์จไฟเข้า OnePlus 7T มาพร้อมอแดปเตอร์ชาร์จ Warp Charge 30T ที่เป็นเทคโนโลยีชาร์จไวตัวใหม่ของวันพลัส มีคุณสมบัติในการชาร์จที่เร็วกว่ารุ่นก่อนประมาณ 23% หรือสามารถชาร์จ 0 - 70% ได้ภายใน 30 นาที ซึ่งใช้งานจริงก็มีบวกลบประมาณ 5 - 7% ได้นะ นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จไฟขณะเล่นไปชาร์จไปด้วย ซึ่งจะมีตัวชิปประมวลผลที่ทางวันพลัสใส่แยกมาควบคุมการทำงานการจ่ายไฟขณะที่เราใช้งาน ทำให้ตัวเครื่องไม่ร้อนและปลอดภัย ชอบก็ตรงนี้แหละ เพราะบางทีเราก็มีเหตุจำเป็นที่ต้องใช้งานระหว่างชาร์จไฟเหมือนกัน 

มากันที่เรื่องราวของกล้องถ่ายรูปกันบ้าง OnePlus 7T เลือกใช้กล้องแบบ Triple camera ประกอบด้วยกล้องทั้งหมด 3 ตัว คือ กล้องหลัก, กล้องมุมกว้าง และกล้อง Telephto มีไฟแฟลช Dual LED มาให้ พร้อมกับปรับดีไซน์ตัวกล้องที่บริเวณฝาหลังเป็นแบบวงกลม ทำให้ดูดุดันและดูเป็น Photographer เป็นอย่างมาก ในขณะที่รายละเอียดของกล้องทั้งสามตัว มีดังนี้

• กล้องหลัก เซ็นเซอร์ Sony IMX 586 ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล (F1.6) ครอบทับด้วยเลนส์ 7P มีระบบ OIS+EIS ในตัว
• กล้องมุมกว้าง Ultrawide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล (F2.2) ค่า FOV 117 องศา
• กล้อง TelePhoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (F2.2) ซูมออฟติคอล 2X

• รองรับการบันทึกภาพวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K 60FPS
• รองรับการถ่ายภาพวีดีโอ Slow-motion ที่ความละเอียด 720P@240FPS, 720P@960FPS และ 1080P@240FPS
• มีระบบกันสั่นด้วยซอฟต์แวร์ EIS

• indoor (ในร่ม)

• Outdoor (กลางแจ้ง)

 

• Wide (มุมกว้าง)

• Portrait (บุคคล)

  

• UltraNight (ภาพกลางคืน)

• ภาพ Macro (ภาพถ่ายระยะใกล้วัตถุ 2.5 ซม.)

ภาพตัวอย่าง Macro mode

• Zoom 2x Optical

ภาพปกติ

Zoom 2x Optical

กล้องหน้าความละเอียด 16 MP 

กล้องหน้าของ OnePlus 7T มาพร้อมกล้องความละเอียด 16 ล้านพิกเซล (F2.0) ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX471 มีระบบ Auto Focus ให้ และรองรับการถ่ายภาพวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 1080P 30FPS มีไฟแฟลชหน้าโดยใช้แสงจากหน้าจอ (screen Flash) ด้วย เราลองไปดูภาพตัวอย่างจากกล้องหน้ากันครับ

ภาพถ่ายเซลฟี่ตัวอย่างจากกล้องหน้า OnePlus 7T

ภาพรวมของ OnePlus 7T จัดว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่เก่งรอบด้านมากๆ ทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพ กล้องถ่ายรูป และประสบการณ์การใช้งานที่เริ่มต้นใช้งานได้ง่ายมากๆ รวมถึงสามารถตอบโจทย์ได้ครบถ้วนกับความต้องการในการใช้งานสมาร์ทโฟนในชีวิตประจำวันได้แบบไร้รอยต่อจริงๆ 

ถ้าถามว่าแล้วเหมาะกับใคร? คำตอบที่ผมคิดได้ก็คือ น่าจะเหมาะกับคนที่ชื่นชอบสมาร์ทโฟนแรงๆ ให้ประสิทธิภาพที่ดีในการใช้งาน ได้รับการอัปเดทอย่างสม่ำเสมอ และราคาที่ไม่ฟุ่มเฟือยมากสามารถเข้าถึงได้ ทั้งหมดนี้ OnePlus 7T จะตอบรับความต้องการให้กับคุณได้แน่นอนครับ ถ้าจะให้นิยามกับรุ่นนี้ ผมคงขอยกคำว่า "Flagship ในราคาที่ทุกคนสัมผัสได้" ให้เลย

• หน้าจอ Fluid AMOLED FullHD+ Refresh rate 90Hz, HDR10+
• CPU Snapdragon 855+ 
• RAM 8GB | ROM 128GB UFS 3.0
• กล้อง Triple camera 48 MP
• ชาร์จไว Warp Charge 30T
• Oxygen OS Base on Android 10
• USB-C Port

• แบตเตอรี่ 3800 mAh 
• กล้องถ่ายรูป คอนทราสหนักพอสมควร
• ไม่มีหูฟังแถมให้
• ไม่รองรับพอร์ตแจ็ค 3.5 มิลลิเมตร

OnePlus 7T เปิดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วตอนนี้ ในราคา 17,990 บาท มีรุ่นให้เลือกด้วยกัน 1 รุ่นคือ รุ่น RAM 8GB และ ROM 128GB พร้อมสีตัวเครื่องให้เลือก 2 สี คือ สีฟ้า Glacier Blue และสีเทา Frosted Silver เหมือนเครื่องในรีวิว โดยใครที่สนใจสามารถซื้อผ่านหน้าร้านของ AIS Shop ทั้ง 33 สาขา หรือสั่งซื้อออนไลน์ผ่าน AIS Online, JD Central และ Lazada ได้เลยครับ

• เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัลเวิลด์
• เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล บางนา
• เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า
• เอไอเอสช็อป สาขาเดอะมอลล์ บางแค
• เอไอเอสช็อป สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต
• เอไอเอสช็อป สาขาแฟชนั่ไอส์แลนด์
• เอไอเอสช็อป สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ
• เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ
• เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล พระราม 3
• เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล พระราม 2 
• เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ 
• เอไอเอสช็อป สาขาซีคอนสแควร์
• เอไอเอสช็อป สาขาเมกา บางนา
• เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว 2
• เอไอเอสช็อป สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต 2
• เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล เวสต์เกต
• เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล อีสต์วิลล์
• เอไอเอสช็อป สาขามาบญุครอง
• เอไอเอสช็อป สาขาไอคอนสยาม
• เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล เชียงใหม่
• เอไอเอสช็อป สาขาเดอะมอลล์ นครราชสีมา
• เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล หาดใหญ่
• เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล อบุลราชธานี
• เอไอเอสช็อป สาขาอยธุยาซิตี้พาร์ค
• เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล ระยอง
• เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล ภเูก็ต
• เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล ขอนแก่น
• เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล สมุย
• เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล พัทยาบีช 
• เอไอเอสช็อป สาขาโรบินสัน ฉะเชิงเทรา
• เอไอเอสเซเรเนดช็อป สาขาดิเอม็ควอเทียร์
• เอไอเอสเซเรเนดช็อป สาขาเซ็นทรัล ระยอง
• เอไอเอสเซเรเนดช็อป สาขาเซ็นทรัล หาดใหญ่