รีวิว OPPO Reno2 สมาร์ทโฟนดีไซน์พรีเมี่ยม 4 กล้องหลัง ถ่ายชัดทุกระยะ
OPPO Reno2 เป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมการอัพเกรดในทุกรายละเอียด ทั้งเรื่องของหน้าจอ
Sunlight AMOLED ที่ได้รับการพัฒนาให้ความสว่างที่เพียงพอแม้อยู่ในที่แสงแจ้ง ให้ดียิ่งขึ้นไปอีกระดับ พร้อมกับตัวเครื่องที่ดีไซน์สวยงามมากๆ เพิ่มเติมด้วยโทนสีใหม่ล่าสุด
Luminous Black ใครเห็นก็รับรองว่าจะต้องชื่นชอบกันอย่างแน่นอน พร้อมด้วยชิปเซ็ตสุดแรง
Qualcomm Snapdragon 730G จัดเต็มด้วย RAM 8GB และ ROM 256GB (รองรับ MicroSD) โดดเด่นด้วยกล้อง 4 เลนส์สุดอัจฉริยะ ที่รองรับ
5x Hybrid Zoom ได้นิ่ง ไม่มีอาการสั่น ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้นอีกระดับ
Ultra Dark Mode ให้ความคมชัดในทุกระยะ ในส่วนของวีดีโอที่ยกระดับขึ้นไปอีกขั้น เรียกได้ว่าไม่แพ้สมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่โดดเด่นในจุดนี้เลยครับ เพราะใส่ทั้งระบบกันสั่นขั้นเทพ
Ultra Steady Video และ
Bokeh Effect Video (หน้าชัดหลังละลาย) มาให้ด้วย แถมระหว่างถ่ายวีดีโอยังสามารถซูมและถ่ายแบบ Ultrawide ได้ด้วย! งานนี้ทั้งสายถ่ายภาพ และสายถ่ายวีดีโอมีประทับใจกันอย่างแน่นอน
ที่สำคัญรุ่นนี้ OPPO Reno2 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุสูง 4,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 20W (VOOC Flash Charge 3.0) ใช้งานกันได้อย่างยาวนาน ถึงแบตฯ หมดก็ไม่ต้องกังวลเพราะมีชาร์จเร็ว ชาร์จแป๊บเดียวก็ใช้งานต่อเนื่องกันได้เลย ที่ทำให้ว้าวมากๆ อีกอย่างก็คือ OPPO Reno2 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่รองรับฟีเจอร์ Dual Wi-Fi สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้พร้อมกัน 2 คลื่นความถี่ ช่วยให้โหลดแอปพลิเคชันเร็วขึ้น 3 เท่า และดาวน์โหลดแคชวีดีโอเร็วขึ้น 2 เท่า
สำหรับรุ่นนี้ OPPO Reno2 จะมี 2 สี ได้แก่ Luminous Black และ Sunset Pink วางจำหน่ายในราคา 17,990 บาท บาท เปิดจองแล้ววันนี้ - 25 ตุลาคมนี้ พร้อมรับฟรี Car Charge และ Premier Card การันตีเปลี่ยนเครื่องใหม่ทันทีเมื่อเครื่องมีปัญหา เรียกได้ว่าพรีเมี่ยมจริงๆ เรามาอ่านรีวิวอย่างละเอียดของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้กันได้เลยครับ
การเชื่อมต่อของ OPPO Reno2 มีรายละเอียดดังนี้
- GSM 850 / 900 / 1800 / 1900
- HSDPA 800 / 850 / 900 / 1700(AWS) / 1900 / 2100
- LTE band 1(2100), 2(1900), 3(1800), 4(1700/2100), 5(850), 7(2600), 8(900), 18(800), 19(800), 20(800), 26(850), 28(700), 32(1500), 38(2600), 39(1900), 40(2300), 41(2500)
- Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, Dual Wi-Fi
- Bluetooth 5.0, A2DP, LE
- NFC
- GPS, A-GPS, GLONASS, GALILEO, BDS
- USB Type-C, USB On-The-Go
- พอร์ทหูฟังขนาด 3.5 มม.
การประมวลผล และคะแนนทดสอบ
OPPO Reno2 มีรายละเอียดสเปคดังต่อไปนี้
- หน้าจอไร้ขอบสมบูรณ์แบบ Panoramic Screen ชนิดหน้าจอ Sunlight AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ 1080 x 2400 pixels (401 ppi)
- กระจก Corning Gorilla Glass 6 เฟรมเครื่องใช้วัสดุโลหะ
- ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 730G
- CPU Octa-core (2x2.2 GHz Kryo 470 Gold & 6x1.8 GHz Kryo 470 Silver)
- GPU Adreno 618
- RAM 8GB
- ROM 256GB (รองรับ MicroSD 256GB)
- เซ็นเซอร์ AI Face Access, Fingerprint (under display, optical), accelerometer, gyro, proximity, compass
- ทำงานบน Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย ColorOS 6.1
- แบตเตอรี่ความจุสูง 4,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 20W (VOOC Flash Charge 3.0)
ผลทดสอบของ OPPO Reno2
- ทดสอบด้วยแอปพลิเคชั่น AnTuTu Benchmark ทำไปได้ 213,841 คะแนน
- ทดสอบ MultiTouch รองรับ 10 จุด
- ทดสอบด้วยแอปพลิเคชั่น AndroBench ทำความเร็วในการอ่านอยู่ที่ 468.82 MB/s
- รองรับ DRM L1 สามารถรับชม Netflix HD
- ทดสอบสัญญาณ GPS จับสัญญาณได้อย่างรวดเร็วดีมาก
OPPO Reno2 จัดเต็มเพื่อการใช้งานราบลื่นไม่มีสะดุดตลอดทั้งวัน ด้วยแบตเตอรี่ความจุสูง 4,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 20W (VOOC Flash Charge 3.0) ชาร์จเพียง 30 นาที แบตเตอรี่เต็มความจุ 51% จากการทดสอบแบตรุ่นนี้อึดมากๆ สามารถใช้งานตลอดวันได้สบายๆ ต่อให้เล่นเกมก็ยังเอาอยู่ ทิ้ง Power Bank ไว้ที่บ้านได้เลย
OPPO Reno2 มาพร้อมกล่องดีไซน์สวย ดูพรีเมี่ยมเหมือนเช่นเคยครับ ภายในกล่องจะมีอุปกรณ์ดังต่อไปนี้
- ตัวเครื่อง OPPO Reno2
- อะแดปเตอร์ VOOC 3.0
- สาย USB Type-C
- หูฟังแบบ Earbud
- เข็มจิ้มซิม
- คู่มือ
- เคสสุดพรีเมี่ยม
สำหรับเคสที่มาพร้อม OPPO Reno2 ดูสวยมากครับ เป็นเคสยางสิริโคนด้านหลังหุ้มหนังเทียม และมีการเดินด้ายบริเวณกล้องที่ด้านหลัง เป็นการเดินด้ายจริงๆเลยนะครับ ไม่ใช่แค่ลายปั๊ม ดูสวยหรูมาก ไม่จำเป็นต้องหาซื้อเคสเพิ่มเลย เพราะเคสตัวนี้ดีมากแล้ว
OPPO Reno2 จะมีดีไซน์เหมือน OPPO Reno และ OPPO Reno 10x Zoom ที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้เลยครับ วัสดุพรีเมี่ยมเฟรมโลหะ ฝาหลังเป็นกระจก หน้าจอไร้ขอบสมบูรณ์แบบ Panoramic Screen เพิ่มเติมด้วยการพัฒนาหน้าจอ Sunlight AMOLED ช่วยให้สามารถใช้งานกลางแจ้งได้คมชัดสวยงาม ที่ได้รับการพัฒนาซึ่งให้ความสว่างที่เพียงพอแม้อยู่ในที่แสงแจ้ง และใช้วัสดุหน้าจอ E1 ช่วยให้ตอบสนองรวดเร็วยิ่งขึ้น และใช้พลังงานต่ำ ยืดอายุการใช้งานหน้าจอถึง 50% และลดการใช้พลังงาน 6%
OPPO Reno2 หน้าจอรุ่นนี้มีขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ 1080 x 2400 pixels (401 ppi) สีสันสวยงามมากๆ หน้าจอไร้ขอบสมบูรณ์แบบ ไม่มีติ่งหน้าจอ หรือหน้าจอเจาะรูมาบดบังการรับชมทั้งภาพยนต์ คลิปวีดีโอ หรือเล่นเกม
สำหรับสีที่เรานำมารีวิวคือสี Luminous Black ซึ่งผมชอบสีนี้มากๆ ออกแบบได้อย่างสร้างสรรค์และชาญฉลาด ด้านหลังออกแบบแนวสมมาตรเหมือนเดิม แถบตรงกลาง และขอบด้านข้างตัวเครื่อง เหมือนกับมีการเรืองแสงสีน้ำเงินออกมา ตอนที่เห็นครั้งแรกผมประทับใจมาก (ชวนให้นึกถึงภาพยนต์อย่าง Star Wars) มันดูให้อารมณ์ Lightsaber เป็นการออกแบบโทนสีฝาหลังที่ผมยกให้สวยที่สุดของปีนี้เลยครับ ยอดเยี่ยมจริงๆ
OPPO Reno2 มาพร้อมกล้องหน้า Pivot Rising Camera ที่ออกแบบได้สวยงาม ทำมุมเฉียง 11 องศา ความละเอียด 16MP F2.0 26 มม. (Wide) พร้อมไฟช่วยถ่ายภาพ ทำให้สามารถถ่ายภาพ Selfie ได้อย่างสวยงาม แม้แสงน้อย และเซ็นเซอร์ มีระบบรักษาความปลอดภัย เมื่อเราทำสมาร์ทโฟนหลุดมือ กล้องหน้าจะเลื่อนเก็บตัวเองโดยอัตโนมัติ การทำงานรวดเร็วมากครับ ใช้เวลาเพียงแค่ 0.8 วินาทีเท่านั้น
สำหรับคนที่กังวลในความแข็งแรง OPPO ได้ทำการทดสอบมากกว่า 200,000 ครั้ง ทำให้วางใจได้เลยครับ จริงๆ ที่ผ่านมากล้องลักษณะนี้ก็ไม่ค่อยเสียกันนะครับ แม้แต่รุ่นเก่าๆ ก็ไม่มีปัญหา ตัวผมเองชอบกล้องลักษณะนี้มากๆ เพราะทำให้ตัวเครื่องสามารถมาพร้อมหน้าจอไร้ขอบสมบูรณ์แบบ แถมยังดูสวยงามอีกด้วย ไม่น่าเบื่อ
กล้องหลังของ OPPO Reno2 จะอยู่ใต้ฝาหลังครับ ไม่มีนูนขึ้นมาเลย ดูเรียบสวยไปกับฝาหลัง แต่สำหรับคนที่กลัวกล้องเป็นรอย ไม่ต้องกังวลครับ เพราะด้านหลังจะมี O-Dot เป็นปุ่มขนาดเล็ก ช่วยในการยกฝาหลังให้ไม่สัมผัสกับพื้นโดยตรงเมื่อวางเครื่องบนโต๊ะ สำหรับกล้องรุ่นนี้จะมีด้วยกัน 4 เลนส์ ประกอบด้วย
- 48MP F1.7, (Main Lens), PDAF, OIS
- 13MP F2.4, (Telephoto Lens), PDAF, 5x Hybrid Zoom
- 8MP F2.2, (Wide Angle Lens)
- 2MP F2.4 (Mono Lens)
- Dual-LED Flash
ด้านบนมีกล้องหน้าเลื่อนขึ้น-ลง Pivot-Rising และไมค์ตัดเสียงรบกวน ลำโพงสนทนาจะอยู่ที่ขอบหน้าจอ ส่วนด้านล่างมีพอร์ทหูฟัง 3.5 มม. ไมโครโฟน พอร์ท USB Type-C และลำโพง
ด้านซ้ายมีปุ่มปรับระดับเสียง และด้านขวามีปุ่ม Power กับถาดใส่ซิม
OPPO Reno2 ทำงานบน Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย ColorOS 6.1 มาพร้อมสเปคที่แรงกว่าเดิม Qualcomm Snapdragon 730G, RAM 8GB และ ROM 256GB จุใจกันไปเลย แถมถ้าไม่พอยังรองรับ MicroSD ด้วยนะครับ การใช้งานลื่นไหลและรวดเร็ว ไม่มีสะดุดแน่นอน หน้าตา UI ดูสวยงามและสะอาดตา ลูกเล่นต่างๆ มีมาให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นระบบผู้ช่วยอัจฉริยะ Smart Assistant, อำนวยความสะดวกด้วย Smart Gesture, ฟีเจอร์โคลนแอปพลิเคชั่น สามารถใช้งานแอปพลิเคชั่นโซเชียลยอดนิยมได้พร้อมกัน 2 แอคเคาท์ ในสมาร์ทโฟนเครื่องเดียวเช่น Facebook, Facebook Messenger หรือ Line เป็นต้น, App Split-Screen เป็นการแบ่งหน้าจอเป็น 2 ส่วน สามารถทำงานได้หลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน โดยจะใช้ Smart Gesture 3 นิ้วในการลากหน้าจอขึ้นเพื่อแบ่งหน้าจอ หรือไปที่ Recent App แล้วเลือกเครื่องหมายขีด 3 ขีดด้านขวา แล้วเลือกคำสั่งแบ่งหน้าจอได้เลยครับ
และที่น่าสนใจเป็นอย่างมากเพราะนี่เป็นครั้งแรกเลยครับ OPPO Reno2 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อม Dual WiFi สามารถเชื่อมต่อ WiFi ได้พร้อมกัน ช่วยให้โหลดแอปพลิเคชันเร็วขึ้น 3 เท่า และดาวน์โหลดแคชวีดีโอเร็วขึ้น 2 เท่า จะเห็นนะครับจากภาพประกอบว่าตรงเครื่องหมาย WiFi จะมีโลโก้ WiFi ขนาดเล็กเพิ่มขึ้นมาอยู่ข้างๆ
OPPO Reno2 มาพร้อมสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอเวอร์ชั่นใหม่ Hidden Fingerprint Unlock 3.0 มีความปลอดภัยสูงยิ่งขึ้นกว่าเดิม สามารถแยกแยะความแตกต่างของผิวหนังมนุษย์ได้ ปลดล็อคหน้าจอเร็วขึ้นเมื่อเปิดหน้าจออยู่ 16% และเมื่อหน้าจอปิดอยู่จะเร็วขึ้น 11.3% สามารถบันทึกได้ 5 ลายนิ้วมือ และมาพร้อมเอฟเฟคสวยๆถึง 6 แบบ ความแม่นยำและความรวดเร็วทำได้ดี นอกจากนี้ยังรองรับแสกนใบหน้า AI Face Access ด้วยครับ
ด้วยหน้าจอไร้ขอบสมบูรณ์แบบ Panoramic Screen ทุกความบันเทิงล้วนเต็มตาอย่างน่าประทับใจครับ ไม่มีติ่งหน้าจอ หรือกล้องหน้าแบบเจาะรูมาบดบังสายตา เป็นรูปแบบหน้าจอที่ผมชอบที่สุดเลยครับ ผมเชื่อว่าหลายคนต้องหงุดหงิดกันแน่นอน แต่สำหรับ OPPO Reno2 คุณจะไม่ต้องทนกับหน้าจอแบบเดิมๆ อีกต่อไป
แน่นอนสเปคแรงๆ แบบนี้เรื่องเกมก็เป็นจุดขายสำคัญของ OPPO Reno2 เช่นกันครับ โดยจะมาพร้อม HyperBoost 2.0 ที่มาพร้อม FrameBoost 2.0 และ TouchBoost แบบใหม่ ช่วยในการวิเคราะห์ และเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม ช่วยในการจัดสรรทรัพยากรให้ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว และช่วยปรับปรุง frame rate และความเสถียรของเกม ทดสอบด้วยเกมอย่าง RoV ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ 60FPS - 61FPS อย่างนิ่งเลยครับ แถมทัชหน้าจอติดนิ้วดีมากๆ สำหรับขาเกมรับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะที่สำคัญ Qualcomm Snapdragon 730G เป็นชิปเซ็ตที่ Overclock มาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะเลยครับ นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองประสิทธิภาพการเล่นเกมระดับ 5 ดาวจาก TUV Rheinland ผู้นำในการตรวจสอบมาตรฐานการบริการระดับโลกอีกด้วย โดยการรับรองครั้งนี้ได้รับการทดสอบประสิทธิภาพการเล่นเกมของตัวเครื่อง ทั้งหน้าจอ ระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่ และความแรงของสัญญาณ
OPPO Reno2 มาพร้อมกับระบบเสียง Dolby Atmos เปิดใช้งานได้เมื่อใช้งานคู่กับหูฟัง และล่าสุดทาง OPPO ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ล่าสุด หูฟังไร้สาย OPPO Enco Q1 หูฟังตัดเสียงรบกวนไร้สายตัวแรกของ OPPO พัฒนาขึ้นจากประสบการณ์กว่า 15 ปีในด้านเสียงของ OPPO กับเทคโนโลยี Blu-ray รวมทั้งเป็นสินค้าที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสูง จากผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงสถาบัน Acoustics ที่ Chinese Academy of Sciences ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 2,990 บาท มีให้เลือก 2 สีได้แก่ Midnight Black (ตัวที่นำมารีวิว) และ Sunny Orange ในกล่องจะมาพร้อมชุดหูฟัง OPPO Enco Q1 และจุกยางหูฟังอีก 3 ขนาด และสายชาร์จ USB Type-C
OPPO Enco Q1 มาพร้อมเทคโนโลยี Hybrid ANC (การลดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ) คือการตัดเสียงจากไมโครโฟนแบบ Feed Forward (FF) และ Feed Back (FB) ซึ่งไมค์ทั้ง 2 สามารถทางานประสานกันเพื่อติดตามเสียงรอบข้าง นอกจากนี้ทาง OPPO ยังใช้ชิปตัดเสียงรบกวนดิจิตอลแบบใหม่ ที่สามารถตัดเสียงรบกวนได้อย่างแม่นยาแบบเรียลไทม์ และด้วยเทคโนโลยี ENC (เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนจากสิ่งแวดล้อม) จะทาให้คุณได้ยินเสียงพูดคุยในขณะคุยโทรศัพท์ได้อย่างชัดเจนแม้จะมีเสียงรบกวนอยู่รอบด้าน
ตัวหูฟัง OPPO Enco Q1 มีดีไซน์ที่สวยงาม รายละเอียดตัวงานดีมากครับ วัสดุที่ใช้คุณภาพสูงไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ตัวครอบหูฟังแบบ SoftFit เป็นซิลิโคนชนิดเหลวช่วยให้สวมใส่ได้พอดีกับใบหู น้ำหนักเบาหวิวเพียง 42 กรัม และบริเวณหูฟังมีแม่เหล็ก ช่วยให้สามารถคล้องคอได้ตลอดวันโดยไม่รู้สึกเกะกะรำคาญ
OPPO Enco Q1 มีโหมดที่แตกต่างกัน 3 โหมด ได้แก่ โหมด Music โหมด Cinema และโหมด Game นอกจากนี้ยังมาพร้อม เทคโนโลยีเสียงรอบทิศทางเสมือนจริง 3 มิติ (3D virtual surround sound technology) ช่วยสร้างมิติของเสียงที่แตกต่างกันอย่างเหมาะสม สามารถสลับโหมดได้อย่างง่ายๆ เพียงกดที่ปุ่มโหมด 2 ครั้ง นอกจากนี้ยังมาพร้อม Dynamic Driver ขนาด 11.8 มม. เหมาะสำหรับคนที่รักเสียงเบส แต่ก็ต้องการเสียงคุณภาพสูง และคมชัด และรองรับตัวแปลงสัญญาณ AAC
OPPO Reno2 และ
OPPO Enco Q1 ดูเข้ากันอย่างลงตัว สวยงามมากๆ
OPPO Enco Q1 รองรับคำสั่งเสียง เมื่อกดปุ่ม Multi-function สองครั้งจะเป็นการเปิดคำสั่งเสียง สามารถใช้การนาทางด้วยเสียง, ควบคุมการเล่นเพลง, เช็คสภาพอากาศ, เพิ่มสิ่งช่วยจาลงในปฏิทิน, เข้าแอพพลิเคชั่นจากผู้พัฒนาอื่น, ดูข้อมูลต่างๆและอื่นๆ สำหรับแบตเตอรี่มีความจุ 160 mAh สามารถใช้งานได้ยาวนาน 22 ชั่วโมง และเมื่อเปิดใช้ระบบ ANC จะสามารถใช้งานได้ 15 ชั่วโมง สำหรับรุ่นนี้รองรับชาร์จใวครับ ชาร์จเพียง 10 นาที สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 2 ชั่วโมง ใครที่สนใจแนะนำว่าควรซื้อมาใช้คู่กันครับ จะเข้ากันที่สุดเลย
OPPO Reno2 มาพร้อมกล้อง 4 เลนส์ ประกอบด้วย 48MP (Main Lens) + 13MP (Telephoto Lens) + 8MP (Wide Angle Lens) + 2MP (Mono Lens) เรียกได้ว่าครบทุกระยะเลยครับ และกล้องหน้า Pivot Rising Camera ความละเอียด 16MP (Wide) สำหรับกล้องรุ่นนี้มีความโดดเด่นอยู่ที่ 5x Hybrid Zoom และ 20x Digital Zoom คุณภาพดีมากครับ ที่ผมชอบมากๆ ก็คือในระยะ 5x Hybrid Zoom ทำได้ดีจริง ภาพคมสวยตามแถมไม่มีอาการสั่นเลยตามอย่างสโลแกนที่ว่า "4 กล้องหลัง ชัดทุกระยะ" แถมรุ่นนี้ยังจัด Utra Marco Mode มาให้ด้วยสามารถถ่ายภาพระยะใกล้มากๆออกมาได้คมชัดสวยงาม ใกล้ได้มากสุดที่ 2.5 ซม.
นอกจากนี้ยังพัฒนาในการถ่ายภาพกลางคืน หรือสภาวะแสงน้อยด้วย Ultra Dark Mode ถ่ายภาพง่ายขึ้นในสภาพแสงน้อยเนื่องจากสามารถรับรายละเอียดที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าด้วย NPU ตัวอย่างเช่น หากระดับแสงต่ากว่า 5 lux ระบบ AI ของกล้องจะเพิ่มความสว่างของภาพโดยไม่สร้าง noisenoise และในส่วนการถ่าย Selfie ก็ทำได้ยอดเยี่ยมเช่นเคย
นอกจากภาพนิ่งแล้ว พระเอกของรุ่นนี้ คือเรื่องของวีดีโอครับ OPPO Reno2 มาพร้อมเทคโนโลยีในการบันทึกวีโอแบบจัดหนักจัดเต็มเลยทีเดียว ทั้งระบบกันสั่นระดับสูง Ultra Steady Video ภาพที่ได้นิ่งมากๆ แถมยังมี Bokeh Effect Video วีดีโอแบบหน้าชัดหลังละลาย ซึ่งทำได้เนียนและดูเป็นธรรมชาติ (รองรับทั้งกล้องหลัง และกล้องหน้า) แต่มีข้อแม้ต้อง 1 คนเท่านั้นนะครับ นอกจากนี้ในการบันทึกวีดีโอ เรายังสามารถซูมได้ด้วยนะครับสูงสุด 5x และสามารถปรับเป็น Ultrawide ได้ด้วยแบบเรียลไทม์ และยังมาพร้อมไมค์ 3 ตัว ช่วยในการบันทึกเสียงที่ดียิ่งขึ้น สามารถตัดเสียงรบกวนรอบข้าง
ที่น่าสนใจมากๆ ก็คือรุ่นนี้รองรับฟีเจอร์ Audio Zoom โดยเมื่อเราซูมเข้าไปหาบุคคล หรือบริเวณที่เราต้องการ สมาร์ทโฟนจะเพิ่มเสียงของคน หรือบริเวณนั้นๆ ให้เสียงดังคมชัดยิ่งขึ้น จะเห็นว่ารอบ OPPO จัดเต็มจริงๆ กับความสามารถมากมายในการบันทึกวีดีโอ นอกจากจะโดดเด่นเรื่องภาพนิ่งแล้ว ตอนนี้เรื่องวีดีโอก็ไม่ธรรมดาเลยนะครับ ครบเครื่องจริงๆ สมารถชมตัวอย่างวีดีโอที่ถ่ายทำด้วย OPPO Reno2 กันได้เลยครับ
ตัวอย่างภาพถ่าย Selfie จาก OPPO Reno2
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก OPPO Reno2 (เปรียบเทียบระยะต่างๆ)
- ภาพถ่าย Portrait (ละลายหลัง)
- ภาพถ่าย Portrait (ละลายหลัง)
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก OPPO Reno2
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก OPPO Reno2 (Ultra Macro Mode)
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก OPPO Reno2 (Ultra Dark Mode)
OPPO Reno2 เป็นสมาร์ทโฟนที่พัฒนาต่อยอดมาจาก OPPO Reno ได้อย่างน่าประทับใจ ยังคงความพรีเมี่ยมเอาไว้ในทุกรายละเอียด เพิ่มเติมในส่วนต่างๆ ได้อย่างลงตัวและสมบูรณ์แบบ ทั้งหน้าจอที่สวยงามยิ่งขึ้น รวมทั้งใช้งานกลางแจ้งได้อย่างน่าประทับใจ สเปคที่แรงขึ้น กล้องที่ดีมากอยู่แล้ว พัฒนาขึ้นอีกระดับ แถมยังจัดเต็มในส่วนของการบันทึกวีดีโอมาให้อย่างจุใจ ทำให้มันเป็นสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่าทั้งภายนอกและภายใน ผมเชื่อว่าถ้าได้ลองจะต้องชอบสมาร์ทโฟนรุ่นนี้อย่างแน่นอน OPPO Reno2 วางจำหน่ายราคา 17,990 บาท และหูฟัง OPPO Enco Q1 ราคา 2,990 บาท ใครที่สนใจผมว่าเป็นอีกรุ่นที่ไม่ควรพลาดเลยครับ ทำออกมาได้ดีจริงๆ
จุดเด่นของ OPPO Reno2
- เครื่องสวยงามพรีเมี่ยม โทนสีใหม่ Luminous Black น่าทึ่งมากๆ
- การใช้งานลื่นไหล และรวดเร็ว สเปคแรงเหมาะกับสายเกม
- หน้าจอไร้ขอบสมบูรณ์แบบ Panoramic Screen มาพร้อม Sunlight AMOLED สวยงาม และเหมาะกับการใช้งานกลางแจ้ง
- กล้องหน้า Pivot Rising Camera สวย และเท่มากๆ
- กล้องหลัง 4 ตัวความละเอียดสูง 48MP (Main Lens) + 13MP (Telephoto Lens) + 8MP (Wide Angle Lens) + 2MP (Mono Lens) ถ่ายสวยครบทุกระยะ
- รองรับ 5x Hybrid Zoom, 20x Digital Zoom, Ultrawide, Ultra Dark Mode และ Utra Marco Mode (ใกล้ได้มากสุดที่ 2.5 ซม.)
- ยกระดับการบันทึกวีดีโอ ด้วยระบบกันสั่น Ultra Steady Video, วีดีโอแบบหน้าชัดหลังละลาย Bokeh Effect Video, ซูมและถ่ายวีดีโอมุมกว้างได้แบบเรียลไทม์
- เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อม Dual WiFi
- แบตเตอรี่ความจุสูง 4,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 20W (VOOC Flash Charge 3.0)
จุดสังเกตุของ OPPO Reno2
- ตัวเครื่องเงาวับเป็นรอยนิ้วมือ และคราบมันได้ง่าย (แต่ถ้าเป็นสีชมพู Sunset Pink จะเป็นผิวด้าน)