รีวิว OPPO Reno2 F ที่สุดของสมาร์ทโฟนสำหรับการถ่ายภาพ ด้วยประสิทธิภาพ 4 กล้องหลัง สวยทุกมุมมอง!

OPPO Reno2 F เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ ออปโป้ ที่ถือได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งก็ว่าได้เลยค่ะ ต้องเกริ่นก่อนว่า Reno2 Series นั้น เป็นซีรีส์ที่ทาง ออปโป้ ได้มีการปรับเปลี่ยนใหม่ โดยจับเอา 2 ซีรีส์ดาวเด่นอย่าง F Series และ R Series มาผนวกรวมกัน ซึ่งในประเทศไทยนั้นจะนำเข้ามาจำหน่าย 2 รุ่น คือ OPPO Reno2 และ OPPO Reno2 F นั่นเอง

สำหรับเจ้า OPPO Reno2 F นั้น เรียกได้ว่าเป็นรุ่นต่อยอดของสมาร์ทโฟนซีรีส์ F Series แม้ว่าจะแอบเสียใจเล็ก ๆ ที่หลังจากนี้อาจจะไม่ได้เห็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในซีรีส์นี้อีกแล้ว แต่ต้องยอมรับเลยว่า OPPO Reno2 F เป็นสมาร์ทโฟนที่รวมเอาจุดเด่นสำคัญ ๆ ของซีรีส์ F มาไว้ในเครื่องเดียวได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์แบบ พร้อมอัปเกรดความว้าวทั้งในเรื่องของสเปกและดีไซน์ให้ดูสวยงามน่าหลงใหล รวมถึงประสิทธิภาพทางด้านการถ่ายภาพที่เป็นจุดเด่นของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ โดยมาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล กล้องหน้าแบบ Rising Camera พร้อมโหมดการใช้งานต่าง ๆ ที่ให้ผลลัพธ์ภาพถ่ายออกมาสวยงามอย่างน่าทึ่งมาก ๆ สมกับสโลแกน "สวยทุกมุมมอง" ที่ทาง OPPO เขาให้มาจริง ๆ

Unbox Review : แกะกล่อง OPPO Reno2 F สมาร์ทโฟน 4 กล้องหลัง ถ่ายสวยทุกมุมมอง!

นอกจากนี้ OPPO Reno2 F ยังมากับเทคโนโลยีชาร์จไว VOOC Flash Charge 3.0 เสียบชาร์จ 30 นาที ได้แบตเตอรี่เต็มถึง 51% เลยทีเดียว เร็วมาก ๆ ส่วนตัวแบตเตอรี่ให้มามากถึง 4,000 mAh รวมไปถึงหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว ไร้ติ่งหน้าจอ และระบบสแกนล่ยนิ้วมือบนหน้าจอ Hidden Fingerprint Unlock 3.0 ซึ่งเทคโนโลยีปลดล็อคด้วยเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือแบบออปติคอล G3 ล่าสุด! ทั้งหมดนี้ คือ OPPO Reno2 F สมาร์ทโฟน "4 กล้องหลัง สวยทุกมุมมอง" เครื่องนี้ กับราคาเปิดตัวเพียง 11,990 บาท โดยจะมีให้เลือกใน 2 เฉดสี คือ สีขาว Sky White และสีเขียว Lake Green ซึ่งเป็นสีที่เราจะนำมาโชว์ให้เห็นกันค่ะ

OPPO Reno2 F มาพร้อมดีไซน๋ที่สวยงาม ตัวเครื่องโค้งไร้รอยต่อ ฝาหลังผลิตจาก Corning Gorilla Glass 5 ที่มีความทนทานสูง พร้อมกล้องหลังที่ถูกซ่อนไว้ใต้ฝาหลัง ตัวกล้องจึงเป็นระนาบเดียวกับฝาหลัง ไม่นูนออกมา พร้อมทั้งใช้เทคโนโลยีเคลือบสีที่ทำให้เกิดความเงางาม และให้เฉดสีที่แตกต่างในมุมที่แตกต่างกัน โดยมีรายละเอียดสเปกดังนี้

    

• หน้าจอแสดงผล AMOLED Panoramic Screen ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 2,340 x 1,080 พิกเซล
  อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 91.1% ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5
• หน่วยประมวลผล CPU MediaTek P70
• หน่วยประมวลผล GPU Mali-G72 MP3
• หน่วยความจำ RAM 8GB
• หน่วยความจำ ROM 128GB
• รองรับ 2 ซิมการ์ด (Dual Nano-SIM + MicroSD)
• รองรับการเพิ่มความจำด้วย MicroSD Card สูงสุด 256GB
• กล้องหลัง 4 ตัว ประกอบด้วย เลนส์หลัก ความละเอียด 48MP (f/1.79) + เลนส์ Wide Angle ความละเอียด 8MP (f/2.2) + เลนส์ Mono ความละเอียด 2MP (f/2.4) + เลนส์ Portrait  ความละเอียด 2MP (f/2.4)
• กล้องหน้า Rising Camera ความละเอียด 16MP (f/2.0)
• เซ็นเซอร์ Gyro-meter, E-Compass, Hall Sensor, Light Sensor, Proximity Sensor, G-sensor/Acceleration Sensor
• การเชื่อมต่อ
  - รองรับเครือข่าย 2G GSM: 850/900/1800/1900MHz
  - รองรับเครือข่าย 3G WCDMA: Bands 1/5/8
  - รองรับเครือข่าย 4G FDD-LTE: Bands 1/3/5/7/8 | 4G TD-LTE: Bands 38/40/41
  - Bluetooth 4.2, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, 3.5mm Jack, USB-C, OTG, GPS, A-GPS, Beidou, Glonass
• แบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh รองรับชาร์จไว VOOC Flash Charge 3.0
• ระบบปฎิบัติการ Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย ColorOS 6.1

OPPO Reno2 F มาพร้อมดีไซน์สวยงามที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ และใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยในการรังสรรค์สีสันสุดพิเศษเหล่านี้ขึ้นมา โดยมีให้เลือกทั้งหมด 2 สี คือ สีขาว Sky White และสีเขียว Lake Green ซึ่งสำหรับสี Lake Green ที่เราได้มาอยู่ในมือนั้น เป็นเฉดสีเขียวอมดำ มองใกล้ ๆ จะเห็นเป็นลายเส้นตรงถี่ ๆ เป็นรายละเอียดที่แปลกตา แต่ให้ความโดดเด่นที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร จุดต่างจากสีเขียวทั่ว ๆ ไป อยู่ที่เมื่อต้องกับแสงไฟ สีเขียวของตัวเครื่องจะมีความเงางาม ดูมีมิติความลึกเหมือนกับสีเขียวของทะเลสาบที่ต้องกับแสงเห็นเป็นลายริ้วบนน้ำเลยค่ะ

OPPO Reno2 F มาพร้อมหน้าจอแสดงผล AMOLED Panoramic Screen ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด ความละเอียด 2,340 x 1,080 พิกเซล อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 91.1% ไม่มีติ่งหน้าจอ พร้อมครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5 มีมิติตัวเครื่องกว้าง 75.8 X ยาว 161.8 x หนา 8.67 มิลลิเมตร และมีนำหนักตัวเครื่องโดยรวมประมาณ 195 กรัม

กล้องหน้า Rising Camera เลื่อนขึ้นลงอัตโนมัติ ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/3.1 นิ้ว มาพร้อม Atmosphere Light แสงไฟแจ้งเตือนการทำงานที่ติดตั้งอยู่บริเวณด้านข้างของตัว Rising Camera ทั้งสองด้าน และ AI Beauty Mode

OPPO Reno2 F มาพร้อมกับกล้อง 4 ตัว ที่เน้นทางด้านการถ่ายภาพสวยในทุกระยะโฟกัส โดยมีรายละเอียดของกล้องทั้ง 4 ตัว ดังนี้

• เลนส์หลัก ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล  รูรับแสงกว้าง f/1.79 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.25 นิ้ว
• เลนส์ Wide Angle 119 องศาความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง  f/2.2 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/4.0 นิ้ว
• เลนส์ Mono ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง  f/2.4 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/5.0 นิ้ว
• เลนส์ Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง  f/2.4 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/5.0 นิ้ว

ด้านบนของตัวเครื่องมีไมค์ตัดเสียงรบกวน และกล้องหน้าแบบ Rising Camera ที่มีลูกเล่นเพิ่มความสวยงามด้วย Atmosphere Light สำหรับแจ้งสถานะการทำงาน (สามารถเลือกเปลี่ยนสีได้ถึง 12 สีเลย) บริเวณเหนือหน้าจอด้านบน มีแถบของลำโพงสนทนาอยู่ ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ไมโครโฟนสนทนา พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB-C และลำโพงเสียง ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่องมีปุ่ม Volume สำหรับปรับเพิ่ม-ลดระดับเสียง ด้านขวาของตัวเครื่อง มีปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดเครื่อง และถาดสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slots (Dual Nano-SIM + ช่องสำหรับใส่ MicroSD Card)

OPPO Reno2 F ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย ColorOS 6.1 ให้การใช้งานที่รวดเร็วและลื่นไหลดีอย่างไม่น่าเชื่อ หน้าจอกว้างเต็มตา ไม่มีติ่งใด ๆ มารบกวนสายตาเลย หน้าตาอินเทอร์เฟส (UI) ของ ColorOS ในเวอร์ชั่นนี้จะเป็นการดีไซน์ใหม่ ปรับพื้นหลังให้เข้ากับดีไซน์ภายนอกตัวเครื่อง จากหน้า Home เมื่อปัดไปซ้ายสุดจะเป็นระบบผู้ช่วยอัจฉริยะ ที่จะมีหน้าเมนูลัดสำหรับการใช้งานฟังก์ชั่นด่วน ข้อมูลสภาพอากาศ ปฏิทิน โปรแกรมนับก้าว การแข่งขัน แอปยอดนิยม รวมไปถึงการแจ้งเตือนต่าง ๆ รวมทั้งมาพร้อมกับฟีเจอร์แถบด้านข้างอัจฉริยะ สามารถปัดเรียกแถบเมนูลัดออกมาจากขอบหน้าจอ เพื่อเข้าถึงเครื่องมือด่วนต่าง ๆ ได้เลย เช่น การเรียกดูไฟล์ การเรียกใช้งานกล้องถ่ายภาพ จับภาพหน้าจอ บันทึกภาพหน้าจอ และเปิดโหมดห้ามรบกวนได้ทันที หรือจะเป็นการเข้าถึงแอพต่าง ๆ ซึ่งฟีเจอร์นี้ก็ยังคงเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานได้ดีเช่นเคย

จากหน้า Home เมื่อปัดหน้าจอลงจะมีแถบแจ้งเตือน มีฟีเจอร์การใช้งานหลัก ๆ มาแสดงไว้ โดยสามารถย่อ-ขยาย และเลือกปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ

ส่วน Gestures ต่าง ๆ ก็ยังคงใส่เข้ามาให้เหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นการวาดตัวอักษรบนหน้าจอเพื่อสั่งใช้งานในขณะที่หน้าจอปิดอยู่ การจับภาพหน้าจอแบบใช้ 3 นิ้วลาก การแตะเพื่อเปิดหน้าจอ รวมไปถึงฟีเจอร์ ลูกบอลช่วยเหลือ สำหรับใช้เป็นคำสั่งลัด

ฟีเจอร์โคลนแอพ สร้างสำเนาชุดใหม่ของแอปพลิเคชั่นพวกแอปฯ Social แอปฯ แชทต่าง ๆ และโหมดแยกหน้าจอแอปพลิเคชั่น สำหรับการเปิดใช้งาน 2 แอปพลิเคชั่น บนหน้าจอเดียวกันพร้อม ๆ กัน ก็ยังมีมาให้เช่นกัน

OPPO Reno2 F รองรับระบบรักษาความปลอดภัยให้กับโทรศัพท์ที่สามารถเลือกใช้ได้ทั้งการใส่รหัสผ่าน การปลดล็อกด้วยใบหน้า และการปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ Hidden Fingerprint Unlock 3.0 เทคโนโลยีล่าสุดของการปลดล็อคด้วยเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือแบบออปติคอล โดยสามารถสแกนได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ

OPPO Reno2 F ใช้ชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Helio P70, Octa-core ความเร็ว 2.1 GHz ทำงานร่วมกับชิปประมวลผลกราฟิก Mali-G72 MP3 พร้อมความจำ RAM ขนาด 8GB จับคู่กับหน่วยความจำ ROM 128GB ใช้งานลื่นได้ลื่นไหลมาก ๆ จนน่าทึ่ง ความสามารถในการใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะฟังเพลง, ดู Youtube, เล่น Facebook และใช้โปรแกรมแชทต่าง ๆ ทำได้ดี การสลับแอปฯ ไปมา หรือแม้กระทั่งเปิดค้างไว้หลาย ๆ แอปฯ เครื่องก็ยังสามารถจัดการตัวเองได้ดีมาก ไม่มีอาการเครื่องค้างหรือหน่วงขณะใช้งาน 

•  ทดสอบด้วยแอปฯ AnTuTu Benchmark ได้คะแนน 147,038 คะแนน
• ทดสอบด้วยแอปฯ GeekBench 5 ได้คะแนน Single Core 311 คะแนน และ Multi Core 1,442 คะแนน
• ทดสอบด้วยแอปฯ MultiTouch Tester รองรับการสัมผัสสูงสุด 10 จุด
• การจับสัญญาณทดสอบด้วย GPS Tester จับสัญญาณได้อย่างรวดเร็ว
• ทดสอบ DRM Info รองรับ Widevine DRM L1 สามารถดู Netflix ที่ความละเอียด HD

OPPO Reno2 F มาพร้อมหน้าจอ AMOLED Panoramic Screen ขนาด 6.5 นิ้ว กว้างเต็มตา ดูหนังและเล่นเกมได้แบบเพลิน ๆ ไร้สิ่งรบกวนสายตา ส่วนด้านของระบบเสียงนั้น ก็จัดมาให้แบบหนักหน่วงด้วยลำโพงคู่สเตอริโอ Dolby Atmos เมื่อรับฟังผ่านการใส่ชุดหูฟัง ให้เสียงสมจริง มีมิติ ในทุกคอนเทนต์ ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม

ในส่วนของการเล่นเกมก็เป็นส่วนที่ประทับใจมาก ไม่แพ้ประสิทธิภาพการทำงานด้านอื่น ๆ เลย เพราะ OPPO Reno2 F มาพร้อมกับฟีเจอร์ Game Space ที่ช่วยเร่งประสิทธิภาพในการเล่นเกม จัดสรรค์ทรัพยากรต่าง ๆ บนตัวเครื่อง ช่วยเร่งความเร็วกราฟิก อำนวยความสะดวกในระหว่างการเล่นเกม และปิดกั้นการรบกวนต่าง ๆ เพื่อช่วยให้การเล่นเกมดียิ่งกว่าที่เคย และจากการทดสอบด้วยเกม ROV สามารถเล่นได้ที่ 59 - 60 FPS เลยทีเดียว  สามารถเปิดโหมดภาพ HD และโหมด High Frame Rate ได้ จากที่ทดลองยังไม่เจออาการหน่วงและกระตุก ลื่นมาก สามารถเล่นได้ต่อเนื่อง ทดลองเล่นติดต่อกัน 3 รอบ ตัวเครื่องแค่อุ่น ๆ เท่านั้น และทดสอบเกมด้วยเกมฮิตใหม่ล่าสุดอย่าง Call of Duty สามารถปรับภาพและ Frame Rate แบบ High ได้เช่นกัน เล่นได้ลื่นไหล ละมุนละไมมาก ปลื้มสุด ๆ

OPPO Reno2 F มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh ใช้งานทั่ว ๆ ไป ภายในหนึ่งวันได้แบบไม่ต้องชาร์จไฟเพิ่ม จากการทดลองใช้งาน เช่น ถ่ายรูป ดู Youtube ฟังเพลง เล่น Facebook และเล่นเกมนิดหน่อย เวลาตั้งแต่ประมาณ 10.00 - 19.00 น. แบตยังเหลือ 39% เลยนะ แน่นอนว่าสายเกมก็ต้องสแตนบายชาร์จไฟเพิ่ม แต่ตรงนี้ก็สบายใจหายห่วงกับเรื่องการชาร์จแบตนานได้ เพราะ OPPO Reno2 F ให้ชาร์จไว VOOC Flash Charge 3.0 มาด้วยจ้า ซึ่งทางแบรนด์เขาเคลมมาว่า 30 นาที ชาร์จเต็ม 51% เลยทีเดียว

สำหรับด้านการถ่ายภาพ ถือเป็นไฮไลท์ของ OPPO Reno2 F เลย กับ 4 กล้องหลัง และ 1 กล้องหน้า ที่มาพร้อมกับสโลแกนว่า "สวยทุกมุมมอง" ซึ่งนอกจากเรื่องความสวยงามของดีไซน์ตัวเครื่องแล้ว การถ่ายภาพสวยก็เป็นอีกหนึ่งความโดดเด่นที่ ออปโป้ จัดมาให้บนสมาร์ทโฟน OPPO Reno2 F รุ่นนี้

OPPO Reno2 F มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว (Quad Cameras) พร้อมไฟแฟลช LED เพื่อการรองรับระยะโฟกัสได้เต็มรูปแบบ จัดเต็มด้วยกล้องความละเอียดสูงสุด 48MP สามารถถ่ายภาพในโหมด 48 MP ได้ พร้อมโหมด AI Beauty, โหมดถ่ายภาพกลางคืน Ultra Night Mode 2.0, โหมดถ่ายภาพบุคคล Portrait Bokeh และ Portrait HDR พร้อมรองรับระบบกันสั่น EIS สามารถถ่าย Ultra Wide ได้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ

โดยส่วนตัวแล้วประทับใจมาก ภาพที่ออกมาคุณภาพดี สวยคมชัด มีลูกเล่นให้เล่นเยอะ ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่าลูกเล่นที่ให้มาไม่ใช่ลูกเล่นแบบที่ใส่ไว้เพื่อให้มีเยอะ ๆ ไว้ก่อน แต่เป็นลูกเล่นที่คนส่วนใหญ่ใช้งานจริง และได้ใช้แน่ ๆ เพราะฉะนั้นฟีเจอร์ต่าง ๆ ของกล้องที่เพิ่มเข้ามาให้ รวมถึงผลลัพธ์ที่ออกมาถูกใจแล้ว เมื่อเทียบกับราคา ก็ต้องขอจัดให้ OPPO Reno2 F เป็นสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดติด Top Rank 3 อันดับแรกในเรทราคานี้เลย

• เลนส์หลัก ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.79 เซนเซอร์ Samsung GM1 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.25 นิ้ว
• เลนส์ Wide Angle 119 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/4.0 นิ้ว
• เลนส์ Mono ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง  f/2.4 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/5.0 นิ้ว
• เลนส์ Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง  f/2.4 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/5.0 นิ้ว

• กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
• ค่ารูรับแสง f/2.0
• ขนาดเซ็นเซอร์ 1/3.1 นิ้ว มาพร้อม AI Beauty

• กล้องหลังบันทึกวีดีโอความละเอียด 1080P @30fps, 720P@30fps; Smart Video Editor
• กล้องหน้าบันทึกวีดีโอความละเอียด 1080P/720P@30fps

OPPO Reno2 F มาพร้อมกล้องความละเอียดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล สามารถบันทึกภาพในโหมดความละเอียดสูง 48 MP ได้ โดยภาพที่ถ่ายออกมาจะคมชัดมาก ๆ (ไฟล์ใหญ่ด้วยนะ) เอาไปถ่ายแล้วปริ้นท์เป็นภาพใหญ่ ๆ ได้

โหมด Ultra Wide Angle ที่สามารถถ่ายภาพมุมกว้างได้กว้างมากถึง 119 องศา ให้มุมมองภาพที่มีรายละเอียดมากขึ้น

ระยะปกติ

เปิดโหมด Ultra Wide Angle

ระยะปกติ

เปิดโหมด Ultra Wide Angle

ถ่ายภาพบุคคได้สวยแจ่มสุด ๆ ทั้งโหมด Auto และโหมด Portrait Bokeh ที่สามารถปรับระดับความเบลอก่อนกดถ่ายภาพได้เลย พร้อมด้วยโหมด Portrait HDR ที่ช่วยลดแสงในการถ่ายภาพในที่ที่มีแสงสว่างมากเกินไป และเพิ่มความสว่างให้ สำหรับการถ่ายในที่ที่มีแสงน้อย ซึ่งถ้าตั้งค่าอัตโนมัติไว้ กล้องก็จะปรับให้เองตามสถาณการณ์เลย ส่วนภาพจะออกมาดีงาม และน่าประทับใจขนาดไหน มาชมกันได้เลยค่ะ

โหมด Auto แบบใส่ Filters

โหมด Auto แบบใส่ Filters

โหมด Auto แบบใส่ Filters

โหมด Auto แบบใส่ Filters

โหมด Portrait แบบใส่ Filters

โหมด Portrait แบบใส่ Filters

โหมด Portrait แบบใส่ Filters

ถ่ายภาพยามค่ำคืนหรือในสภาพแสงน้อยได้สวยเป๊ะ ด้วย Ultra Night Mode 2.0 โหมดถ่ายภาพกลางคืนที่มีความสามารถในการปรับแสงได้อย่างเหมาะสม ภาพที่ออกมาสวยงามมาก ๆ นอกจากนี้ การถ่ายภาพบุคคลในเวลากลางคืนยังมีเซ็นเซอร์อัตโนมัติที่ช่วยปรับโทนสีผิวให้ดูเป็นธรรมชาติด้วย คิดว่าน่าจะถูกใจคนที่ชอบการถ่ายภาพกลางคืนเลยแหละ

    

• โหมด Auto

• โหมด Portrait

• โหมด AR Stickers

• ตัวเครื่อง OPPO Reno2 F
• อแดปเตอร์ชาร์จไฟ
• ชุดหูฟัง
• สายชาร์จ USB-C
• เข็มจิ้มซิม
• ชุดหูฟัง
• คู่มือการใช้งานและใบรับประกันสินค้า
• เคสใส

โดยรวมจากที่ได้ทดลองใช้งาน OPPO Reno2 F ต้องบอกว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้งานแล้วรู้สึกว่าประทับใจมาก ทั้งในเรื่องการถ่ายภาพที่สามารถทำผลงานได้ดีสมกับที่ทางแบรนด์ชูมาเป็นไฮไลท์ของรุ่นนี้ คุณภาพที่ออกมาถือว่าทึ่งมาก ๆ สำหรับสมาร์ทโฟนในเรทราคาเดียวกัน กับการใส่โหมดการใช้งานเด่น ๆ เพิ่มเข้ามา ทั้งโหมดถ่ายภาพกลางคืน โหมดถ่ายภาพ Ultra Wide รวมไปถึงการถ่ายภาพกลางคืนแบบ Ultra Wide ที่หลายคนตามหามาให้ แถม Tripod Mode สำหรับการถ่ายในโหลดกลางคืนแบบใช้ขาตั้งกล้องมาให้ด้วย

กล้องหลังทั้ง 4 ตัวนั้น ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีสำหรับการถ่ายภาพให้สวยงามทั้ง Portrait และการถ่ายภาพทั่ว ๆ ไป ซึ่ง  OPPO Reno2 F ทำได้ดีมากจริง ๆ และอีกส่วนที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ กล้องหน้า ที่ยังคงคุณภาพมาตรฐานอันดีงามของ OPPO เจ้าแห่งกล้องเซลฟี่ได้อย่างยอดเยี่ยม

• ดีไซน์ตัวเครื่องสวยงาม
• หน้าจอ AMOLED ใหญ่ 6.5 นิ้ว สีสวยคมชัดมาก แถมไม่มีติ่งรบกวนสายตา
• แบตเตอรี่ 4,000 mAh ใช้งานได้ยาวนาน แถมมีชาร์จไว VOOC Flash Charge 3.0 มาให้ด้วย
• เล่นเกมลื่นด้วย HyperBoost 2.0
• ลำโพงสเตอริโอคู่ มีระบบเสียง Dolby Atmos มาให้ใช้กับชุดหูฟังด้วย
• กล้องหลัง 4 ตัว ถ่ายสวยทุกมุมสมชื่อสโลแกน รองรับการถ่าย Portrait, ถ่ายภาพกลางคืน, ถ่ายภาพ Ultra Wide
• กล้องหน้าถ่ายสวยเนียนตา นอกจากมี AI Beauty แล้ว ยังมี Atmosphere Light แสงไฟแสดงสถานะเก๋ ๆ มาให้ด้วย
• ถ่ายวิดีโอแบบ Ultra Wide ได้ แถมมีกันสั่น EIS ด้วย
• รองรับการสแกนด้วยลายนิ้วมือ Hidden Fingerprint Unlock 3.0 และรองรับการปลดล็อกด้วยใบหน้า
• พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C

• ผิวสัมผัสมัน เป็นรอยนิ้วมือได้ง่าย
• ตัวเครื่องแอบหนักไปนิด

OPPO Reno2 F จะวางจำหน่ายในราคา 11,990 บาท โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 2 สี คือ สีเขียว Lake Green และสีขาว Sky White พร้อมรับฟรี! OPPO Sport Bag สุดคูล และ VIP Card นอกจากนี้ ยังมีรุ่นพี่อย่าง OPPO Reno2 ที่เปิดตัวออกมาพร้อมกัน โดยจะวางจำหน่ายในราคา 17,990 บาท สามารถจองได้ตั้งแต่วันที่ 9 - 25 ตุลาคม 2562 ที่ OPPO Brand shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ พร้อมรับฟรี! Special Gift Box และ Premier Card 

พิเศษสุด! สามารถเป็นเจ้าของ OPPO Reno2 F ได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 3,490 บาทเท่านั้น* เมื่อซื้อเครื่องพร้อมแพ็คเกจกับ AIS, Dtac และ Truemove H ยังไม่หมดเพียงเท่านี้! ออปโป้ ยังจัดโปรโมชั่นสำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนออปโป้โดยเฉพาะ สามารถนำเครื่องเก่ามากแลกใหม่ได้ และสำหรับผู้ใช้รุ่น F Series สามารถนำมาแลกเป็นส่วนลดเพิ่มทันที 500 บาท ห้ามพลาดเด็ดขาด!