รีวิว Huawei Nova 5T สมาร์ทโฟนกล้อง 5 ตัว สเปคเรือธง ในราคา 10,990 บาท
Huawei Nova 5T สมาร์ทโฟนที่กลายเป็นเน็ตไอดอลไปชั่วข้ามคืนหลังงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ กับจุดเด่นด้านสเปคตัวเครื่องที่ทางหัวเว่ยจัดมาให้แบบทุบตลาดหลักหมื่นต้นให้กลับมาคึกครื้นอีกครั้ง เพราะสเปคที่ใส่มาให้ทั้งหมดบน Huawei Nova 5T ครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น CPU Kirin 980, RAM 8GB หรือจะเป็นกล้องถ่ายรูป 4 ตัว ความละเอียดสูง 48 MP จัดว่าเทียบเคียงกับสมาร์ทโฟนระดับเรือธงของบริษัทเลยก็ว่าได้ และนอกจากเรื่องราวของสเปคที่หลายคนสนใจแล้ว ครั้งนี้ทาง หัวเว่ย ยังได้มีการปรับเปลี่ยนโลโก้ของ "Nova" ใหม่ด้วย เพื่อต้องการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของซีรีย์ "Nova" ให้ดูขี้เล่น ทันสมัย เหมือนน้องๆ กลุ่ม Gen Z ที่เป็นเป้าหมายหลักในครั้งนี้ให้มากขึ้น
ทำให้เกิดเป็นดีไซน์ฝาหลังบนตัวเครื่องสีม่วง Midsummer Purple แบบใหม่ กับการนำโลโก้ Nova ไปสกรีนเป็นส่วนหนึ่งกับการออกแบบฝาหลังไปเลย ส่วนรายละเอียดในส่วนต่างๆ ของรุ่นนี้จะเป็นอย่างไร น่าซื้อมากน้อยแค่ไหน? และทำไมถึงกลายเป็นสมาร์ทโฟนที่มีคนกล่าวถึงมากชนิดที่กลบกระแสรุ่นอื่นๆ ไปได้ภายในคืนเดียว ไปหาคำตอบเหล่านี้ผ่านบทความรีวิวนี้กันได้เลยครับ
Huawei Nova 5T มาพร้อมตัวกล่องสีขาว ด้านหน้าของกล่องมีชื่อรุ่นแปะไว้ให้เห็นอย่างชัดเจน และภายในมีอุปกรณ์ภายในกล่องให้เริ่มต้นมาตามนี้เลยครับ
- Huawei Nova 5T
- คู่มือการใช้งาน
- เข็มจิ้มซิมการ์ด
- ตัวแปลง USB-C to 3.5 มิลลิเมตร
- สายชาร์จ USB-C
- อแดปเตอร์ชาร์จไฟ (5V4A)
รายละเอียดสเปคตัวเครื่องของ Huawei Nova 5T
- หน้าจอแสดงผล IPS Punch Display ขนาด 6.26 นิ้ว ความละเอียด 2340x1080 พิกเซล
- CPU Hisilicon Kirin 980
- GPU Mali G76 720MHz
- RAM 8GB
- ROM 128GB (UFS 2.1)
- Quad camera ความละเอียด 48+16+2+2 ล้านพิกเซล (Main F1.8+ Wide F2.2+ Depth F2.4+ Macro F2.4)
- Front camera ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล (F2.0)
- Android 9.0 with EMUI 9.1
- สแกนลายลายนิ้วมือ
- รองรับซิมการ์ด 2 ซิม
- รองรับ WiFi 802.11 a/b/g/n/ac (2.4 /5 GHz)
- Bluetooth 5.0
- Dual GPS
- USB - C Port
- รองรับเครือข่าย 3G คลื่น 2100/ 1900/ 1700/ 900/ 850/ 800 MHz
- รองรับเครือข่าย 4G TDD : B38 / B40 / B41 (2545 - 2655 MHz)
- รองรับเครือข่าย 4G LTE FDD : B1 / B2 / B3 / B4 / B5 / B7 / B8 / B18 / B19 / B20 / B26 / B28
- Battery 3750 mAh (Fast Charge 22.5W)
Huawei Nova 5T มาพร้อมคอนเซ็ปท์การออกแบบ
"Inspire Your Moment" กับการตั้งใจออกแบบให้เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งาน Generation Z ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของสมาร์ทโฟน โดยมีการออกแบบฝาหลังให้สะท้อนแสงแบบ 3D พร้อมทั้งเปลี่ยนแปลงโลโก้ "Nova" เป็นแบบใหม่ และใส่เข้าไปที่ฝาหลังตัวเครื่องด้วย (มีเฉพาะสี Midsummer purple)
เปรียบเทียบขนาดกับรุ่นก่อน
- มิติตัวเครื่อง Huawei Nova 5T : กว้าง 73.97 x สูง 154.25 x หนา 7.87 มิลลิเมตร น้ำหนักตัวเครื่องรวม 174 กรัม
- มิติตัวเครื่อง Huawei Nova 4 : กว้าง 75.1 x สูง 157 x หนา 7.77 มิลลิเมตร น้ำหนักตัวเครื่องรวม 172 กรัม
ด้านหน้ามาพร้อมหน้าจอแสดงผล IPS Punch Display ขนาด 6.26 นิ้ว ความละเอียดระดับ FullHD+ ซึ่งบริเวณมุมซ้ายด้านบนของหน้าจอเป็นกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล (F2.0) พร้อมระบบ AI
ด้านบนตัวเครื่อง มี Proximity Sensor สำหรับใช้พักหน้าจอเวลาเรายกตัวเครื่องขึ้นคุย
ด้านล่างตัวเครื่อง มีพอร์ตการเชื่อมต่อ USB-C และลำโพงเสียงตัวเครื่อง
ด้านซ้ายของตัวเครื่อง มีช่องถาดซิมการ์ดรองรับการใช้งานแบบ Dual SIM แต่ไม่รองรับ MicroSD Card
ด้านของตัวเครื่อง มีปุ่มกดเปิด-ปิดตัวเครื่อง (Power) ซึ่งใช้เป็นแป้นสแกนลายนิ้วมือได้ในตัว เวลาใช้งานถ้าแตะจะเป็นการสแกน ส่วนถ้ากดลงไปก็จะเรียกใช้ปุ่ม Power ขยับขึ้นไปเล็กน้อยก็จะเป็นปุ่มปรับระดับเสียงเพิ่ม-ลด (Volume)
ด้านหลังของตัวเครื่องมีกล้องถ่ายรูปแบบ Quad camera ความละเอียด 48+16+2+2 ล้านพิกเซล (Main+Wide+Depth+Macro) และไฟแฟลช LED ซึ่งถ้าเป็นสี Midsummer Purple บริเวณฝาหลังด้านล่างจะมีโลโก้ "Nova" แบบใหม่
โลโก้ "Nova" แบบใหม่ บนฝาหลังเฉพาะสีม่วง Midsummer Purple
EMUI 9.1 Base on Android 9.0 Pie
Huawei Nova 5T มาพร้อมระบบปฏิบัติการ
Android OS 9.0 Pie ครอบทับด้วยอินเทอร์เฟซ
EMUI 9.1 ที่หลายคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยรูปแบบการออกแบบหน้าตาเมนู ไอคอนแอปพลิเคชั่น รวมถึงแถบเมนูลัดต่างๆ บน EMUI เวอร์ชั่นที่ 9 นี้จะเน้นไปที่การคุมโทนด้วยสีขาว ทำให้ดูสบายตา เรียบง่าย และสามารถเรียกใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ได้ง่ายด้วยเช่นกัน มีการออกแบบให้ลดขั้นตอนการเข้าถึงให้น้อยลง ทำให้ภาพลักษณ์ของ EMUI ครั้งอดีต ที่ดูมีอายุและใช้งานวุ่นวายหลายขั้นตอนหายไปเลย ใช้งานง่ายขึ้นมาก
ส่วนคำถามที่หลายคนสงสัยว่า สมาร์ทโฟนหัวเว่ยรุ่นนี้ยังสามารถใช้งาน Android OS รวมถึง Google Mobility Service ได้อยู่หรือไม่ ขอตอบแบบฟันธงให้สบายใจเลยครับว่า "ยังรองรับ" การใช้งาน และได้รับการซัฟพอร์ตจากทาง Google ยาวนาน 2-3 ปีเหมือนเดิม (เห็น Google Play Store อยู่หน้าแรกเลย)
ส่วนการใช้งานทั่วไปในภาพรวมต้องชมเลยว่าหัวเว่ยปรับแต่ง EMUI ออกมาได้ดีมากๆ ฟิลลิ่งการใช้งานลื่นไหล สมูธมากๆ ครับ ในขณะที่ Huawei Service หรือบริการของหัวเว่ยยังคงใส่มาให้บนเครื่องเหมือนเดิม จากที่ลองเล่นผมชอบบริการ Music ที่แถมมาให้นะ โดยเป็นบริการสตรีมมิ่งเพลง ซึ่งจะเปิดให้ผู้ใช้งานเข้าไปเลือกฟังเพลงสตรีมมิ่งได้ฟรีๆ เพียงแค่มี Huawei ID เท่านั้น เพลงส่วนใหญ่บนสโตร์จะเป็นเพลงที่มีแต่ทำนองเท่านั้น เปิดฟังเพลงเพลินได้อยู่ครับ แถมบางเพลงยังใส่ Bitrate มาให้สูงด้วย ลองเข้าไปใช้กันดูครับน่าจะชอบกัน
ฟีเจอร์เด่นบน EMUI 9.1 Base on Android OS 9.0
สำหรับความสามารถพื้นฐานเด่นๆ ที่หลายคนชื่นชอบอย่าง "โหมดโคลนแอปพลิเคชั่น" ที่ทำให้เราสามารถใช้งานบัญชีไลน์, เฟส พร้อมกันได้สองบัญชี, ฟีเจอร์ Split screen กับการแบ่งหน้าจอออกเป็นสองส่วนเพื่อใช้งานแอปพลิเคชั่นพร้อมกันสองหน้าจอ หรือจะพวกฟีเจอร์พื้นฐานอย่างกระจกเงาไว้ให้สาวๆ ส่องหน้าเช็คความพร้อม, เข็มทิศ อื่นๆ ก็ยังคงมีมาให้เหมือนเดิมทางหัวเว่ยไม่ได้ตัดออกไปไหนสบายใจได้เลย ในขณะที่ระบบความปลอดภัยนอกจากใส่รหัสหรือ Pin แล้ว Huawei Nova 5T ยังใส่ระบบสแกนลายนิ้วมือมาให้ด้วย ซึ่งครั้งนี้แป้นสแกนจะย้ายไปอยู่ด้านข้างตัวเครื่องตรงปุ่ม Power อย่าลืมกันนะครับ เดียวจะหาไม่เจอกัน
ด้านประสิทธิภาพการทำงาน - ความบันเทิง
ด้านประสิทธิภาพการทำงาน
ด้วยขุมพลังการทำงานด้านฮาร์ดแวร์เช่น ชิปประมวลผล Hisilicon Kirin 980, RAM 8GB และ ROM 128GB ชนิด UFS 2.1 ซึ่งทั้งหมดล้วนอยู่ในระดับเทียบเท่ากับสมาร์ทโฟน Flagship ดังนั้นเรื่องของการตอบสนองหรือประสิทธิภาพการทำงานในส่วนต่างๆ บนตัวเครื่องไม่ว่าจะทำงาน, เล่นเกม หรือด้านอินเตอร์เทน ดูหนัง-ฟังเพลง บน Huawei Nova 5T สามารถทำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไร้อาการดีเลย์ หน่วง หรือค้างให้กวนใจแน่นอนครับ
ในขณะที่การใช้งานแอปพลิเคชั่นหนักๆ ที่กินทรัพยากรขึ้นมาหน่อยอย่างพวกแอปพลิเคชั่นแต่งรูปภาพที่หลายคนนิยมอย่าง Snapseed หรือแอปพลิเคชั่นตัดต่อวีดีโอยอดนิยมอย่าง Viva Vedio ก็สามารถใช้งานบน Nova 5T ได้ดีพอสมควร เราสามารถเลือกสลับหน้าต่างไปมาเพื่อตัดต่อได้ต่อเนื่อง
คะแนนทดสอบประสิทธิภาพการทำงานด้วยแอปพลิเคชั่น Benchmark
- ทดสอบด้วยแอปฯ AnTuTu Benchmark ได้คะแนน 210,926 คะแนน
- ทดสอบด้วยแอปฯ GeekBench 4 ได้คะแนน Single Core 2957 และ Multi Core 5731 คะแนน
- ทดสอบเซ็นเซอร์บนตัวเครื่องด้วย Android Sensor Box ไม่พบเซ็นเซอร์ Temperature และ Pressure sensor
- การจับสัญญาณทดสอบด้วย GPS Tester จับสัญญาณได้ระดับเร็ว (สังเกตจากแถบสี)
ด้านความบันเทิง
ถึงแม้ด้านประสิทธิภาพจะตอบสนองได้ไวดุจรถสปอร์ต แต่ในด้านความบันเทิงยังมีจุดสังเกตให้เห็นบ้างโดยเฉพาะเรื่องของลำโพงตัวเครื่องที่ใส่มาให้เพียงตัวเดียว ทำให้เวลาเราฟังเสียงผ่านลำโพงเสียงบนตัวเครื่อง ถึงแม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมห้องส่วนตัวเงียบๆ มีเสียงจากภายนอกเข้ามาเบาๆ แต่เราก็ต้องเปิดเสียงระดับ 60-70% ขึ้นไป จึงจะได้ยินในระดับที่พอเหมาะอยู่ดีครับ แต่จุดนี้ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการเลือกฟังผ่านหูฟัง หรือต่อลำโพงบลูทูธเอา
พูดถึงหูฟังบน Nova 5T ทาง หัวเว่ย ใส่ซอฟท์แวร์ Huawei Histen ซึ่งเป็นซอฟท์แวร์ปรับแต่งเสียงให้เหมาะสมกับหูฟังที่เราใช้มาให้ด้วย รวมถึงสามารถเลือกปรับ EQ รูปแบบต่างๆ ได้ด้วยเช่นกัน ในขณะที่เรื่องของหน้าจอแสดงผลถึงแม้จะเป็น IPS Punch Display ขนาด 6.26" ความละเอียดระดับ FullHD+แต่ภาพที่ได้ออกมาก็ทำได้ดี ให้อรรถรสในการรับชมภาพยนตร์ คลิปวีดีโอได้อารณ์และสมจริงอยู่เหมือนกัน
เปิดระดับเสียงระดับ 70% ถึงจะได้ยินพอเหมาะ
มากันที่เรื่องราวของเกมกันบ้างครับ สำหรับการเล่นเกมบน Huawei Nova 5T ให้การตอบสนอง รวมถึงอรรถรสในการเล่นเกมตั้งแต่เกมกราฟฟิกเบาๆ ไปจนถึงหนักๆ ได้ไม่น้อยหน้าสมาร์ทโฟนระดับสองหมื่นเลยก็ว่าได้ครับ ด้วยชิปประมวลผล CPU Hisilicon Kirin 980, GPU Mali G76 ที่ใช้งานอยู่บน Huawei P30 เช่นเดียวกัน จับคู่ทำงานร่วมกับ RAM 8GB และ ROM 128GB แบบ UFS 2.1 ทำให้การเข้าเกมหรือการโหลดเกมทำได้รวดเร็วเกินราคาเลยทีเดียว แต่มีจุดหนึ่งที่ผมรู้สึกหงุดหงิดเวลาถือเล่นเกมคือ ดีไซน์ของตำแหน่งกล้องที่ครั้งนี้แถบมันยาวขึ้น เพราะมีกล้อง 4 ตัว ทำให้เวลาเราถือเล่นเกมอุ้งมือมักจะไปสัมผัสโดนทีกระจกของกล้อง และอาจทำให้เป็นรอยคราบได้นั่นเอง
นอกจากนี้ Huawei Nova 5T ยังมีพลังจากด้านซอฟท์แวร์ที่หลายคนชมอย่าง GPU Turbo 3.0 ซึ่งเป็นซอฟท์แวร์เกมมิ่งที่ทางหัวเว่ยพัฒนาขึ้นมา เพื่อให้เข้ามาช่วยทำหน้าที่ในการปรับแต่งรีดเค้นประสิทธิภาพทรัพยากรทั้งหมดบนตัวเครื่องออกมาให้ดีที่สุด ณ ขณะที่เราเล่นเกม ทำให้ตอนที่เรากำลังเล่นเกมตัวเครื่องก็จะตอบสนองด้วยความลื่นไหล สมูธต่อเนื่อง ไม่มีค้าง กระตุกให้เสียอารมณ์ เสียโอกาสแน่นอนครับ
ซึ่งจากการที่ได้นำตัวเครื่องไปทดสอบเล่นเกมยอดนิยมอย่าง PUBG และ ROV กันยาวๆ ต่อเนื่องเป็นชั่วโมง ผลที่ได้ก็เป็นไปตามคาดคือ เฟรมเรทนิ่งมากๆ จะเริ่มมีอาการวูบหล่นลงมาเล็กน้อยก็ตอนเครื่องเริ่มอุ่นๆ หรือเล่นต่อเนื่องเกินครึ่งชั่วโมงไปแล้ว แต่ก็ยังคงเล่นได้ต่อเนื่องไม่มีอาการกระตุกโหลดเฟรมให้เห็น ซึ่งเหมือนกับตอนทดสอบเล่นบน Huawei P30 ยังไงยังงั้น ถึงแม้จะมีความแตกต่างให้เราสัมผัสได้อยู่บ้างก็ตามครับ ในขณะที่เรื่องของการตอบสนองต่อการทัชหรือสัมผัสขณะเล่นเกม ส่วนตัวแล้วคิดว่า Nova 5T สามารถตอบสนองได้ไวและดีในแบบที่ควรเป็นแล้วนะครับ ถ้าเราไม่ได้นำไปเทียบกับรุ่นที่สูงกว่าก็ถือว่าเพียงพอที่จะเล่นเกมได้สนุก
แบตเตอรี่ (การใช้พลังงานบนตัวเครื่อง)
ตอนเห็นสเปคครั้งแรกก็คิดเหมือนกันว่า Huawei ใส่แบตเตอรี่ขนาด 3750 mAh มาให้บน Nova 5T มันจะเพียงพอต่อการใช้งานในหนึ่งวันจริงหรือไม่? ถึงแม้ว่าจะรองรับชาร์จไว 22.5W ก็ตาม ซึ่งพอได้เครื่องมาแล้วก็ลองทดสอบใช้งานจริงแบบทั่วไป เล่นโซเชียล ฟังเพลงสตรีมมิ่ง เล่นเกมบ้างช่วงพักกลางวัน มีโทรเข้าออกคุยสายไม่นาน
ก็อยากแนะนำว่า การเปิดโหมดอัตโนมัติในการปรับค่าความละเอียดหน้าจอไว้ สามารถช่วยประหยัดพลังงานตัวเครื่องได้นะครับ ทำให้พอเข้าสู่ช่วงบ่ายจะเหลือแบตเตอรี่ประมาณ 60% จากเดิมที่ไม่เปิดจะอยู่ที่ประมาณ 50% แล้ว และพอตกเย็นสักห้าโมงเย็นแบตเตอรี่ก็จะเหลือประมาณ 30-40% ดังนั้นแนะนำให้ลองเปิดใช้งานกันดูครับ หรือให้ดีก็เปิด HD+ ไว้จะเปลี่ยนเมื่อต้องการจะดูวีดีโอหรือยูทูปเอา และใครที่ชอบเล่นเกมยาวๆ แนะนำว่าให้พกแบตเตอรี่สำรองไว้ก็ดีเหมือนกัน และถ้าเป็นแบบชาร์จไวด้วยจะดีมากๆ เพราะเจ้า Nova 5T รองรับชาร์จไว 22.5 W นะครับ
Huawei Nova 5T มาพร้อมกล้องถ่ายรูปหลัก Quad Camera กับการใส่กล้องถ่ายรูปมาให้ถึง 4 ตัว กับเลนส์ 4 ระยะ โดยทางหัวเว่ยเปิดเผยว่าเซ็นเซอร์กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เป็นเซ็นเซอร์กล้องที่มีขนาดใหญ่ 1/2 นิ้ว ซึ่งใหญ่กว่าสมาร์ทโฟนเรือธงของคู่แข่งด้วย ทำให้ตัวกล้องมีประสิทธิภาพในการถ่ายภาพภายใต้สภาวะแสงน้อยได้ดี ซึ่งก็จริงอย่างที่ทางหัวเว่ยได้คุยไว้ครับ เพราะหลังจากนำไปออกทริปถ่ายรูปทำเอาผมตะลึงมากๆ ถึงกับอุทานเลยว่า นี้มันสมาร์ทโฟนราคา 10,990 บาท จริงดิ!! ภาพถ่ายที่ได้จบหลังกล้องได้เลยและยังมีกลิ่นอายคาแร็คเตอร์ของภาพชวนให้นึกถึง P30 อยู่หน่อยๆ
กล้องถ่ายรูป Quad Camera ของ Huawei Nova 5T ประกอบด้วย
- กล้องถ่ายรูปหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล (F1.8) Auto Focus
- กล้องมุมกว้างความละเอียด 16 ล้านพิกเซล (F2.2) Fixed Focus
- กล้องวัดระยะ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (F2.4) Fixed Focus
- กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (F2.4)
หน้าเมนูกล้องถ่ายรูป
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Quad camera บน Huawei Nova 5T
- Ultraclear 48 MP (โหมดถ่ายภาพความละเอียดสูง)
สำหรับภาพตัวอย่างจากโหมดกลางคืนหลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมถึงมาถ่ายตอนเย็นไม่ทดสอบถ่ายตอนกลางคืน ซึ่งจริงๆ แล้วผมไปถ่าย ณ เวลาหนึ่งทุ่มกว่าแล้วครับ และสภาพแวดล้อมของจริงจะมืดมากมีเพียงแสงไฟจากเสาไฟเท่านั้น แต่โหมดกลางคืนของ Huawei Nova 5T พอถ่ายเสร็จแล้วมันออกมาสว่างจนเหมือนตอนเย็นไปซะอย่างงั้น! ไปดูภาพตัวอย่างกันครับ
ปิด Nightmode (ซ้าย) เปิด Nightmode (ขวา)
โหมดปรับค่ารูรับแสง (Manual)
ใครที่ชอบถ่ายโมเดลฟิกเกอร์แนะนำให้ลองถ่ายด้วยโหมดนี้ครับ เพราะเราสามารถเลือกปรับค่ารูรับแสงได้เองทำให้เลือกการละลายพื้นหลังได้ตามใจชอบ เพราะบางครั้ง AI ก็ละลายมากเกินพอดีทำให้ฟิวของภาพที่เราต้องการจะสื่อให้ตัวการ์ตูนโมเดลเด่นมันหายไป โหมดนี้จะตอบโจทย์มากๆ
- ภาพตัวอย่างจากโหมดปรับค่ารูรับแสง
- ภาพตัวอย่างซูมที่ระยะ 2X (Digital Zoom)
ภาพเซลฟี่ตัวอย่างจากกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล (F2.0) บน Huawei Nova 5T
- ฟิลเตอร์ - เอฟเฟ็กกล้องหน้า
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับภาพถ่ายตัวอย่างจากกล้อง Quad camera ของ Huawei Nova 5T ที่น่าจะพอพิสูจน์ถึงความเจ๋ง ความเก่งกาจของกล้องถ่ายรูปรุ่นนี้ได้นะครับ ซึ่งสำหรับผมเองหลังจากที่ได้นำไปออกทริปถ่ายรูปหนึ่งวัน ก็รู้สึกประหลาดใจเหมือนกันถึงแม้จะคาดเดาไว้แล้วว่าน่าจะเป็นกล้องที่ดี แต่พอได้ลองจริงก็เกินคาดมากๆ ซึ่งถ้ารุ่นนี้จำหน่ายในเรทราคาเดิมก็จะรู้สึกไปอีกอย่าง แต่พอเป็นราคานี้ทำให้เรารู้สึกว่านี้คือสมาร์ทโฟนที่ต้องมีและไม่ควรพลาดจริงๆ และคิดว่าถ้าหากเพื่อนๆ ได้ลองใช้รุ่นนี้ก็คงจะรู้สึกแบบผมว่า "มันเวรี่กู๊ด"
Huawei Nova 5T เป็นสมาร์ทโฟนที่ผมการันตีได้เลยว่า "คุ้มค่า คุ้มราคา" ที่สุด ณ ตอนนี้ ในตลาดสมาร์ทโฟนราคาไม่เกิน 10,000 บาท ของไทยเลยครับ ซึ่งถ้าใครที่อยากได้สมาร์ทโฟนเพื่อใช้งานทั่วไป หรือจะใช้เป็นเครื่องหลักในชีวิตประจำวัน แล้วไม่อยากเสียเงินมากขนาด 2-3 หมื่นบาท เพื่อไปสุดกับเรือธงแล้วละก็ เจ้า Nova 5T ช่วยคุณได้แน่นอน เพราะเอาเข้าจริงถ้าไม่คิดว่ามันราคา 10,990 บาท แล้วถือใช้งานเป็นเครื่องหลักเลยมันเป็นอะไรที่เนียนเหมือนถือมือถือเรือธงสักเครื่องเลยครับ กล้องถ่ายรูปที่เป็นปัจจัยหลักของทุกคนในยุคนี้ก็ให้ผลลัพธ์ที่พึ่งพาได้เลย ในขณะที่เรื่องอื่นๆ ใช้ทำงานเอกสาร ดูหนังฟังเพลง หรือโซเชียล ก็ทำได้เนียนตา สมูธมากๆ มันคงเป็นอารมณ์เหมือนคุณซื้อมือถือเรือธงตกรุ่นหนึ่งปีมาใช้งาน เพียงแต่สเปกทุกอย่างคือสดใหม่ทั้งหมด ดังนั้นถ้าคุณมองหามือถือใหม่อยู่ในงบราคานี้ คำตอบคือ "ซื้อ Nova 5T ได้เลยครับ"
การวางจำหน่าย
หัวเว่ย ประเทศไทย วางจำหน่าย Huawei Nova 5T ในราคา 10,990 บาท พร้อมสีตัวเครื่องทั้งหมด 3 สี คือ สีไฮไลท์ของรุ่นอย่างสีม่วง Midsummer Purple จะเป็นสีเดียวที่มีโลโก้ Nova สกรีนบนฝาหลัง, สีดำ Black และสีน้ำเงิน Crush Blue โดยจะเริ่มวางจำหน่ายทางการในวันที่ 21 กันยายน 2562 เป็นต้นไป และตอนนี้ทางหัวเว่ยก็ได้เปิดรับจองตัวเครื่องล่วงหน้าแบบพรีออเดอร์ตั้งแต่วันที 4 - 15 กันยายน 2562
ซึ่งคนที่พรีออเดอร์ก็จะได้รับของแถมเพิ่มเป็นลำโพง Huawei Mini Bluetooth จำนวน 2 ชิ้น มูลค่า 1,990 บาท บอกเลยว่ามันเป็นของที่ต้องมีนะครับ เพราะถ้าได้มาจับคู่กับ Huawei Nova 5T จะทำให้กลายเป็นสมาร์ทโฟนที่สมบูรณ์แบบมากๆ เพราะเจ้าลำโพงมินิตัวนี้รองรับการเชื่อมต่อเข้าหากันทำให้กลายเป็นลำโพงซ้าย-ขวาได้ บอกเลยว่าถ้าใครชอบดูหนังสตรีมจาก Netflix ได้คู่นี้ไปดูเพลินแน่นอน ดังนั้นถ้าแน่ใจแล้วอย่าเสียโอกาสไปรีบเดินไปจองกันตอนนี้ได้เลย!
ข้อดี
- สเปกระดับเทียบเท่า Huawei P30 สมาร์ทโฟนเรือธงของหัวเว่ย
- กล้องถ่ายรูป 4 ตัว กับเลนส์ 4 ระยะ ที่ตอบโจทย์การใช้งาน และกล้องหลักความละเอียดสูง 48 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้าความละเอียดสูง 32 ล้านพิกเซล
- CPU Kirin 980, RAM 8GB, ROM 128GB
- USB-C Port
- รองรับชาร์จไว 22.5W
- หน้าจอขนาดใหญ่ 6.26" FullHD+
- ดีไซน์สวย ทันสมัย
จุดสังเกต
- ไม่มีพอร์ต 3.5 มิลลิเมตร
- ไม่รองรับ MicroSD Card เพิ่ม
- ลำโพงตัวเดียวสู้เสียงข้างนอกได้ไม่ดี