รีวิว Xiaomi Mi Smart Band 4 อุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะรุ่นใหม่ ความสามารถจัดเต็ม เล่นใหญ่เกินราคา!

Xiaomi Mi Smart Band 4 อุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุดของ เสียวหมี่ ที่มีการปรับปรุงจากรุ่นเดิมอย่าง Mi Band 3 (อ่านรีวิว Mi Band 3 สายรัดข้อมือสำหรับออกกำลังกาย เพื่อคนรักสุขภาพ) ให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการดีไซน์ที่หน้าตาดูเนี้ยบขึ้น ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้น พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบ แถมยังมาในราคาที่ (โคตร) คุ้มค่า ส่วนจะมีอะไรใหม่ๆ น่าสนใจบ้าง ตามมาดูไปพร้อมๆ กันเลย

Xiaomi Mi Smart Band 4 มาพร้อมหน้าจอแสดงผลสี ระบบสัมผัส AMOLED Full Color ขนาด 0.95 นิ้ว ความละเอียด 120 x 240 พิกเซล ความสว่างสูงสุด 400 nits สว่างขึ้นและใหญ่ขึ้น 39.9% เมื่อเทียบกับ Mi Band 3 โดยตัวเครื่องมีขนาดความยาวที่ 21.6 มิลลิเมตร ความกว้าง 10.8 มิลลิเมตร ในขณะที่ Mi Band 3 มีขนาดความยาว 17.26 มิลลิเมตร และความกว้างที่ 9.66 มิลลิเมตร ส่วนใต้จอแสดงผลมีปุ่มสัมผัสสำหรับแตะเพื่อเปิดหน้าจอ และใช้เป็นปุ่มนำทางไปยังเมนูต่างๆ (ใช้แตะเพื่อย้อนกลับไปที่หน้าแรก หรือย้อนกลับไปยังเมนูก่อนหน้าด้วย) โดยลักษณะของปุ่มใน Mi Smart Band 4 นั้น จะเป็นเรียบเป็นระนาบเดียวกับหน้าจอ ซึ่งเป็นจุดแตกต่างกับ Mi Band 3 ที่ดีไซน์ให้มีลักษณะยุบลงไป นอกจากนี้ หน้าจอยังครอบทับด้วยกระจก 2.5D กันรอยนิ้วมือและรอยขีดข่วนได้ดีเลย

ด้านหลังมีเซ็นเซอร์จับอัตราการเต้นของหัวใจและตรวจจับการนอนหลับ, เซ็นเซอร์ Accelerometer แบบ 3 แกน และเซ็นเซอร์ Gyroscope แบบ 3 แกน พร้อมย้ายตำแหน่ง PIN สำหรับชาร์จแบตเตอรี่มาไว้ที่ด้านหลังด้วย ส่วนตัวสายรัดทำมาจากยางเทอร์โมพลาสติก โพลียูรีเทน ดีไซน์เหมือนเดิม ใส่กระชับข้อมือ และแน่นหนาดีเหมือนเดิมเช่นกัน สามารถปรับขนาดได้ตั้งแต่ 155 - 216 มิลลิเมตร ซึ่งตัวสายรัดนี้นอกจากสีดำก็มีสีอื่นๆ ให้เลือกเปลี่ยนได้ด้วยนะ (แอบถอดยากนิดนึง) ใครเบื่อสายเดิมๆ ก็ไปหาซื้อเพิ่มกันได้ ตัวนี้เป็นออปชันเสริม สำหรับเพิ่มความคูลนั่นเอง อ้อ! ถอดเอาไปใส่กับ Mi Band 3 ได้ด้วยนะ

• ประเภทจอแสดงผล :AMOLED
• ขนาดหน้าจอ : 0.95 นิ้ว
• ความละเอียด : 120 x 240 พิกเซล RGB
• ความลึกของสี : 24bit
• ความสว่างหน้าจอ : สูงถึง 400 nits (ความสว่างสูงสุด), ความสว่างที่ปรับได้
• ประเภทหน้าจอสัมผัส : หน้าจอสัมผัสแบบ On-cell Capacitive
• กระจกหน้าจอ : กระจก 2.5D พร้อมการเคลือบป้องกันลายนิ้วมือ

• ขนาด : 17.9 x 16.9 x 12.7 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก : 10.6 กรัม (ไม่รวมสายรัด)
• น้ำหนักรวม : 22.1 กรัม
• วัสดุตัวบอดี้ : โพลีคาร์บอเนต
• RAM : 512KB
• ROM : 16MB
• ปุ่มกด : ปุ่มกดเดียว (ตื่นขึ้น, ย้อนกลับ)
• ประเภทมอเตอร์ : โรเตอร์

• ความกว้างสายรัดข้อมือ : 18 มิลลิเมตร
• สายรัดข้อมือปรับความยาวได้ : 155 - 216 มิลลิเมตร
• ประเภทสายรัดข้อมือ : สายรัดข้อมือแบบถอดออกได้ (Mi Smart Band 4 สามารถใช้สายรัดร่วมกับ Mi Band 3 ได้)
• วัสดุสายรัดข้อมือ : ยางเทอร์โมพลาสติก โพลียูรีเทน
• สีของสายรัด : ดำ, น้ำเงิน, ส้ม, แดง และชมพู

• Accelerometer ตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3 แกน
• Gyroscope ตรวจจับการหมุนแบบ 3 แกน
• เซนเซอร์อัตราการเต้นหัวใจ PPG
• เซนเซอร์วัดระยะชนิดเก็บประจุ

• แบตเตอรี่ : LiPo ขนาด 135 mAh
• ประเภทการชาร์จ : 2Pin Pogo Pin
• Input Voltage : DC5.0V
• Input Current : 250 mA (max)
• เวลาชาร์จ : ≤ 2 ชั่วโมง
• เวลาการใช้งาน : สูงสุด 20 วัน

• เชื่อมต่อไร้สาย : บลูทูธ 5.0 BLE
• แอปพลิเคชั่น : Mi Fit
• ระบบ : Android 4.4 หรือสูงกว่า และ iOS 9.0 หรือสูงกว่า

• ระดับการกันน้ำ : 5 ATM (ที่ระดับความลึก 50 เมตร)
  *อาจแตกต่างกันตามลักษณะการใช้งาน

ในส่วนของการใช้งาน Mi Smart Band 4 นั้น จะใช้การเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือของเราเข้ากับแอปพลิเคชันที่ชื่อว่า "Mi Fit" เพื่อให้สามารถดูข้อมูลต่างๆ ได้แบบเจาะลึกมากยิ่งขึ้น โดยการเชื่อมต่อผ่านทาง Bluetooth และสำหรับคนที่ยังไม่มีตัวแอปฯ Mi Fit สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ทั้ง App Store และ Play Store เลย

สำหรับหน้าตาของแอปพลิเคชัน Mi Fit ก็จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ การออกกำลังกาย (Workout), เพื่อน (Friends) และ โปรไฟล์ (Profile) โดย Mi Smart Band 4 จะทำหน้าที่ในการบันทึกการเคลื่อนไหว กิจกรรมต่างๆ ของเราในแต่ละวัน และในแอปฯ Mi Fit นี้ จะแสดงให้เห็นข้อมูลต่างๆ ทั้งก้าวเดิน ระยะทาง การเผาผลาญแคลอรี่ อัตราการเต้นของหัวใจ และคุณภาพในการนอนหลับ รวมไปถึงการตั้งค่าต่างๆ เช่น การล็อกหน้าจอ แจ้งสายเรียกเข้า แจ้งเตือนกิจกรรม ตั้งค่าการปลุก และการตั้งค่าการสวมใส่ต่างๆ

นอกจากนี้ยังมีส่วนที่น่าสนใจ เช่น การแจ้งเตือนการนั่งนาน (Idle Alert) อันนี้ดีเลยทีเดียว เพราะบางคนนั่งอยู่กับที่นานๆ ไม่ได้ลุกไปไหนเลย นั่งจนลืม ซึ่งเมื่อเปิดการใช้งานไว้ หากนั่งนานเกิน 1 ชั่วโมงแล้ว เจ้า Mi Smart Band 4 ของเราก็จะสั่นเตือนทันที

และที่เพิ่มเข้ามาอีกอย่างให้มีอะไรเพิ่มสีสันหน่อยก็คือ สามารถเปลี่ยน Displays หน้าจอพื้นหลังของ Mi Smart Band 4 ได้ มีแบบให้เลือกเยอะมาก ตั้งแต่น่ารักมุ้งมิ้งไปจนถึงแนวเท่ๆ ชอบอันไหนก็กดเลือกเปลี่ยนได้เลย เสียดายที่ยังเอารูปของเราไปใส่หรือ Custom เองยังไม่ได้ ไม่งั้นน่าจะสนุกกว่านี้

Mi Smart Band 4 มาพร้อมกับโหมดการใช้งานหลัก 6 โหมดที่แสดงบนหน้าจอเมนู ได้แก่ สถานะ (Status), วัดอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate), การออกกำลังกาย (Workout), พยากรณ์อากาศ (Weather), การแจ้งเตือน (Notifications) และโหมการใช้งานอื่นๆ (More)

เป็นส่วนพื้นฐานที่จะแสดงข้อมูลการเคลื่อนไหวร่างกาย ได้แก่ จำนวนก้าวเดิน (Steps), ระยะทาง - เมตร (Distance) และจำนวนการเผาผลาญแคลอรี่ (Calories)

สำหรับการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ สามารถเข้าไปปรับการตั้งค่าในแอปฯ Mi Fit บนมือถือ โดยจะเลือกตั้งค่าให้มีการตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจตลอดทั้งวันแบบอัตโนมัติ, ตรวจสอบการนอนหลับ หรือจะเลือกทั้ง 2 อย่างเลยก็ได้ ซึ่งแน่นอนว่าการเปิดใช้งานก็จะทำให้แบตฯ หมดเร็วกว่าเดิม และหลังจากเปิดใช้งานแล้ว ยังสามารถเลือกความถี่ในการตรวจจับข้อมูล เช่น ทุกๆ 1 นาที, 5 นาที, 10 นาที และ 30 นาที นอกจากนี้ยังมีการตรวจสิบอัตราการเต้นของกหัวใจในระหว่างการออกกำลังกาย และการแจ้งเตือนเมืออัตราการเต้นของหัวใจสูงเกินกว่าที่ตั้งค่าไว้ (ตั้งแต่ 100 - 150 BPM)

ส่วนใครที่อยากใช้งานเป็นแบบ Manual ก็สามารถที่จะเลือกปิดได้ แล้วเปลี่ยนไปเลือกเมนู Heart Rate ที่อยู่บน Mi Smart Band 4 แทน เพียงแค่แตะบนหน้าจอ ตัวเครื่องก็จะทำการตรวจวัดให้ทันที

สำหรับฟังก์ชันกีฬาบน Mi Smart Band 4 นั้น มาพร้อมกับโหมดการออกกำลังกาย 6 โหมด ได้แก่ วิ่งกลางแจ้ง (Outdoor Running), ลู่วิ่ง (Treadmill), ขี่จักรยาน (Cycling), เดิน (Walking), ออกกำลังกาย (Exercise) และว่ายน้ำ (Pool Swimming)

เป็นเมนูสำหรับการดูสภาพอากาศและอุณหภูมิในแต่ละวัน ซึ่งจะสามารถดูพยากรณ์ล่วงหน้าได้ 5 วัน และสามารถเข้าไปปรับการตั้งค่าสถานที่หรือพื้นที่ที่จะให้แสดงข้อมูลสภาพอากาศได้บนแอปฯ Mi Fit บนมือถือได้

เมนูนี้สามารถเข้าไปเลือกตั้งค่าบนแอปฯ Mi Fit เพื่อเลือกว่าจะให้มีการแจ้งเตือนอะไรบนแบนด์บ้าง เช่น แจ้งเตือนสายเรียกเข้า แจ้งเตือนอีเว้นต์ แจ้งเตือนตั้งปลุก แจ้งเตือนแอปต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Messenger, Facebook, Instagram, Twitter, Youtube และอื่นๆ (โหมดนี้ต้องเปิดการเชื่อต่อกับบลูทูธไว้ด้วยนะ)

ในส่วนของโหมดการใช้งานเพิ่มเติมอื่นๆ ก็จะรวมเอาหลายๆ โหมดที่น่าสนใจไว้ เช่น Find Device ซึ่งพอเราแตะที่ไอค่อน Find Device บนแบนด์ โทรศัพท์มือถือของเราก็จะส่งเสียงออกมา เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบลืมโทรศัพท์นั่นแหละ โดยในส่วนของแอปฯ บนมือถือ ก็มีเมนู Find Band สำหรับตามหาแบนด์เช่นเดียวกัน อาจจะในกรณีที่ถอดวางลืมไว้แล้วหาไม่เจอ ซึ่งพอกด Find Band ปุ้บ Mi Smart Band 4 ของเราก็จะสั่นครืดๆ ให้เราตามหาได้นั่นเอง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับสัญญานบลูทูธด้วยนะ ถ้าอยู่กันข้ามจังหวัดยังไงก็หาไม่เจอ

ที่น่าจะถูกใจหลายๆ คนอีกอันหนึ่งก็คือ Music การควบคุมการเล่นเพลงบนมือถือ โดยการใช้แบนด์ได้แล้ว โดยสามารถกดเริ่ม กดหยุด เลือกเพลงถัดไป หรือย้อนกลับไปที่เพลงก่อนหน้า และยังปรับเพิ่ม-ลด ระดับเสียงได้อีกด้วย

Mi Smart Band 4 บรรจุมาในกล่องสี่เหลี่ยมทรงยาว แบน แบบเดียวกับ Mi Band 3 ขนาดเล็กกะทัดรัดตามสิ่งของที่อยู่ภายในกล่อง ซึ่งก็มีแค่ตัวเครื่องพร้อมสายรัด สายชาร์จ แล้วก็สมุดคู่มือการใช้งานเท่านั้นเอง  

• Mi Smart Band 4
• สายรัดข้อมือ
• สายชาร์จไฟ
• คู่มือการใช้งาน

ต้องยอมรับว่าในเรทราคาระดับพันต้นๆ ทำให้ Mi Smart Band 4 จาก เสียวหมี่ เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า คุ้มราคา และน่าสนใจที่สุด เพราะนอกจากจะได้ในเรื่องของการใช้งานที่เกี่ยวกับสุขภาพแล้ว ฟังก์ชั่นการใช้งานในภาพรวมต่างๆ ก็ถือว่าครบครันสำหรับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงดีไซน์ที่สวยงามและทันสมัย ดังนั้น Mi Smart Band 4 จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย ไม่เฉพาะแค่คนที่ชอบออกกำลังกายหรือสนใจในเรื่องสุขภาพเท่านั้น เอาเป็นว่า พอตกกลางคืนแล้วเปลี่ยนสายรัดเป็นสีแดง ใส่คู่กับเชิ้ตขาวแล้วออกไป Hangout กับเพื่อนๆ ก็ยังได้ รับรองว่าจะเป็นอีกสไตล์ที่ดูสวยเท่ ไม่เหมือนคนกำลังจะไปเข้าฟิตเนสแน่นอน

• น้ำหนักเบา สวมใส่สบายข้อมือ
• หน้าจอแสดงผล AMOLED สีสด คมชัด
• ระบบทัชสกรีนทำได้ค่อนข้างไวและแม่นยำ
• หน้าจอมีให้เลือกเปลี่ยนได้
• ใช้ควบคุมการเล่นเพลงได้ทั้งโปรแกรมเล่นเพลงบนมือถือและบนแอปพลิเคชั่น เช่น Spotify, Joox, Youtube ฯลฯ ตอบโจทย์คนชอบฟังเพลงมาก
• แบตเตอรี่อึด ถึก ทน อยู่ได้ราวๆ 20 วัน ไม่ต้องคอยชาร์จบ่อยๆ
• กันน้ำระดับ 5 ATM สามารถใส่ว่ายน้ำได้แล้ว
• รองรับรูปแบบการออกกำลังกายที่หลากหลายขึ้น
• สายรัดสามารถใช้ร่วมกับ Mi Band 3 ได้

• ยังไม่รองรับภาษาไทย (ซึ่งในอนาคตอาจมีอัเดต Firmware ให้อีกทีละนะ)
• ไม่รองรับ NFC
• หน้าจอยังไม่สามารถ Customize เองได้

Mi Smart Band 4 วางจำหน่ายแล้ว ที่ร้าน Mi Authorized Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากเสียวหมี่ทั่วประเทศ ในราคาเพียง 1,290 บาทเท่านั้น