x
icon-filter ค้นหาโทรศัพท์มือถือ
product filter
product filter
product filter
product filter

รวมสมาร์ทโฟนรองรับ 5G ที่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย ปี 2020 (อัปเดต พ.ย. 2563)

icon 7 พ.ย. 66 icon 173,327
รวมสมาร์ทโฟนรองรับ 5G ที่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย ปี 2020 (อัปเดต พ.ย. 2563)

รวมสมาร์ทโฟนรองรับ 5G ที่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย ปี 2020 (อัปเดต พ.ย. 2563)

การมาของเทคโนโลยี 5G ทำให้แบรนด์ผู้ผลิตหลายแบรนด์หันมาผลิตสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่สามารถรองรับการใช้งานร่วมกับเทคโนโลยี 5G กันมากยิ่งขึ้น ซึ่งสำหรับในประเทศไทยก็เริ่มมีข่าวคราวของการนำสมาร์ทโฟนรุ่นต่างๆ เข้ามาทดสอบร่วมกับโมบายโอเปอร์เรเตอร์กันบ้างแล้ว ในวันนี้เราจึงได้รวบรวมรายชื่อสมาร์ทโฟนรุ่นต่างๆ ที่รองรับการใช้งานร่วมกับเทคโนโลยี 5G ทุกรุ่นที่มีอยู่ในปัจจุบันมาให้ชม เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่เจนเนอเรชันใหม่ของเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายที่กำลังจะมาถึงนี้กัน (เราจะมีการอัปเดตข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อยๆ นะคะ)

สมาร์ทโฟนรองรับ 5G จากแบรนด์ APPLE
Apple เป็นหนึ่งในแบรนด์สมาร์ทโฟนที่มีแฟนบอยเหนี่ยวแน่น และเฝ้ารอคอยการเปิดตัวมากที่สุด ปีนี้ทำเซอร์ไพรส์ด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนมาด้วยกันทั้งหมด 4 รุ่น ที่ประกอบด้วย iPhone 12 Mini, iPhone 12, iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max แถมทั้งหมดยังรอบรับเทคโนโลยี 5G แบบครบทุกรุ่น ตัวเครื่องมีการปรับปรุงในหลายจุดทั้งภายนอกไปจนถึงภายใน มาพร้อมชิปเซ็ตตัวใหม่ A14 Bionic ที่แรงมากที่สุดในตอนนี้ ทุกรุ่นเลือกใช้วัสดุหน้าจอ Ceramic Shield ทนทานต่อการตกได้มากกว่าเดิมถึง 4 เท่า ขอบตัวเครื่องใช้วัสดุสแตนเลสสตีล รองรับมาตรฐานกันน้ำ และกล้องที่เก่งยิ่งขึ้น มาพร้อมฟีเจอร์ Apple ProRAW สำหรับมืออาชีพ และมือสมัครเล่นที่ชื่นชอบการถ่ายภาพและต้องการแต่งภาพต่อ

iPhone 12 Pro Max

iPhone 12 Pro Max มาพร้อมหน้าจอ Ceramic Shield และฝาหลังกระจกด้าน ขอบตัวเครื่องเป็นสแตนเลสสตีล หน้าจอ OLED รูปแบบหน้าจอ Super Retina XDR ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2778 x 1284 pixels (458 ppi), HDR, True Tone, ขอบเขตสีกว้าง (P3), ความสว่างสูง 1,200 nit, รองรับมาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP68 (ป้องกันน้ำในความลึก 6 เมตรไม่เกิน 30 นาที), ชิปเซ็ต A14 Bionic, Apple GPU (4-core graphics), RAM 6GB, ROM 128GB, 256GB และ 512GB, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, Bluetooth 5.0, NFC, Lightning, เซนเซอร์ Face ID, accelerometer, gyro, proximity, compass, barometer, แบตเตอรี่ความจุ 3,687 mAh, รองรับชาร์จเร็ว 18W และชาร์จไร้สาย 7.5W รองรับอุปกรณ์เสริม MagSafe 15W และมาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 12MP F2.2, 23 มม. (wide) + SL 3D, กล้องหลัง 4 เลนส์ ความละเอียดดังนี้
  • 12MP F1.6, 26 มม. (wide), dual pixel PDAF, Sensor-shift OIS
  • 12MP F2.2, 65 มม. (telephoto), PDAF, OIS, 2.5x optical zoom, 12x digital zoom
  • 12MP F2.4, 120 องศา, 13 มม. (ultrawide)
  • LiDAR scanner
  • บันทึกวีดีโอความละเอียด 4K 60FPS, Dolby Vision HDR
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 10 พ.ย. 2563)
  • 39,900 บาท (ราคาเครื่องเปล่า สำหรับรุ่น ROM 128GB)
  • 43,900 บาท (ราคาเครื่องเปล่า สำหรับรุ่น ROM 256GB)
  • 51,900 บาท (ราคาเครื่องเปล่า สำหรับรุ่น ROM 512GB)

iPhone 12 Pro

iPhone 12 Pro มาพร้อมหน้าจอ Ceramic Shield และฝาหลังกระจกด้าน ขอบตัวเครื่องเป็นสแตนเลสสตีล หน้าจอ OLED รูปแบบหน้าจอ Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2532 x 1170 pixels (460 ppi), HDR, True Tone, ขอบเขตสีกว้าง (P3), ความสว่างสูง 1,200 nit, รองรับมาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP68 (ป้องกันน้ำในความลึก 6 เมตรไม่เกิน 30 นาที), ชิปเซ็ต A14 Bionic, Apple GPU (4-core graphics), RAM 6GB, ROM 128GB, 256GB และ 512GB, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, Bluetooth 5.0, NFC, Lightning, เซนเซอร์ Face ID, accelerometer, gyro, proximity, compass, barometer, แบตเตอรี่ความจุ 2,775 mAh, รองรับชาร์จเร็ว 18W และชาร์จไร้สาย 7.5W รองรับอุปกรณ์เสริม MagSafe 15W มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 12MP F2.2, 23 มม. (wide) + SL 3D, กล้องหลัง 4 เลนส์ ความละเอียดดังนี้
  • 12MP F1.6, 26 มม. (wide), dual pixel PDAF, Sensor-shift OIS
  • 12MP F2.2, 65 มม. (telephoto), PDAF, OIS, 2.5x optical zoom, 12x digital zoom
  • 12MP F2.4, 120 องศา, 13 มม. (ultrawide)
  • LiDAR scanner
  • บันทึกวีดีโอความละเอียด 4K 60FPS, Dolby Vision HDR
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 10 พ.ย. 2563)
  • 36,900 บาท (ราคาเครื่องเปล่า สำหรับรุ่น ROM 128GB)
  • 40,900 บาท (ราคาเครื่องเปล่า สำหรับรุ่น ROM 256GB)
  • 48,900 บาท (ราคาเครื่องเปล่า สำหรับรุ่น ROM 512GB)

iPhone 12

iPhone 12 มาพร้อมหน้าจอ Ceramic Shield และฝาหลังกระจก ขอบตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียม หน้าจอ OLED รูปแบบหน้าจอ Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2532 x 1170 pixels (460 ppi), HDR, True Tone, ขอบเขตสีกว้าง (P3), ความสว่างสูง 1,200 nit, รองรับมาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP68 (ป้องกันน้ำในความลึก 6 เมตรไม่เกิน 30 นาที), ชิปเซ็ต A14 Bionic, Apple GPU (4-core graphics), RAM 4GB, ROM 64GB, 128GB และ 256GB, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, Bluetooth 5.0, NFC, Lightning, เซนเซอร์ Face ID, accelerometer, gyro, proximity, compass, barometer, แบตเตอรี่ความจุ 2,775 mAh, รองรับชาร์จเร็ว 18W และชาร์จไร้สาย 7.5W รองรับอุปกรณ์เสริม MagSafe 15W มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 12MP F2.2, 23 มม. (wide) + SL 3D และกล้องหลังคู่ ความละเอียดดังนี้
  • 12MP F1.6, 26 มม. (wide), dual pixel PDAF, OIS
  • 12MP F2.4, 120 องศา, 13 มม. (ultrawide)
  • บันทึกวีดีโอความละเอียด 4K 60FPS, Dolby Vision HDR
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 10 พ.ย. 2563)
  • 29,900 บาท (ราคาเครื่องเปล่า สำหรับรุ่น ROM 64GB)
  • 31,900 บาท (ราคาเครื่องเปล่า สำหรับรุ่น ROM 128GB)
  • 35,900 บาท (ราคาเครื่องเปล่า สำหรับรุ่น ROM 256GB)

iPhone 12 mini

iPhone 12 Mini มาพร้อมหน้าจอ Ceramic Shield และฝาหลังกระจก ขอบตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียม หน้าจอ OLED รูปแบบหน้าจอ Super Retina XDR ขนาด 5.4 นิ้ว ความละเอียด 2340 x 1080 pixels (476 ppi), HDR, True Tone, ขอบเขตสีกว้าง (P3), ความสว่างสูง 1,200 nit, รองรับมาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP68 (ป้องกันน้ำในความลึก 6 เมตรไม่เกิน 30 นาที), ชิปเซ็ต A14 Bionic, Apple GPU (4-core graphics), RAM 4GB, ROM 64GB, 128GB และ 256GB, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, Bluetooth 5.0, NFC, Lightning, เซนเซอร์ Face ID, accelerometer, gyro, proximity, compass, barometer, แบตเตอรี่ความจุ 2,227 mAh, รองรับชาร์จเร็ว 18W และชาร์จไร้สาย 7.5W รองรับอุปกรณ์เสริม MagSafe 15W มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 12MP F2.2, 23 มม. (wide) + SL 3D, กล้องหลังคู่ ความละเอียดดังนี้
  • 12MP F1.6, 26 มม. (wide), dual pixel PDAF, OIS
  • 12MP F2.4, 120 องศา, 13 มม. (ultrawide)
  • บันทึกวีดีโอความละเอียด 4K 60FPS, Dolby Vision HDR
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 10 พ.ย. 2563)
  • 25,900 บาท (ราคาเครื่องเปล่า สำหรับรุ่น ROM 64GB)
  • 27,900 บาท (ราคาเครื่องเปล่า สำหรับรุ่น ROM 128GB)
  • 31,900 บาท (ราคาเครื่องเปล่า สำหรับรุ่น ROM 256GB)
สมาร์ทโฟนรองรับ 5G จากแบรนด์ SAMSUNG

SAMSUNG Galaxy Note20 Ultra 5G

SAMSUNG Galaxy Note20 Ultra 5G สุดยอดสมาร์ทโฟนกาแลคซี่ที่ทรงพลังและเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ ใช้โปรเซสเซอร์ที่เร็วที่สุดที่เคยมีมาในสมาร์ทดีไวซ์ตระกูลกาแลคซี่ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและการส่งมอบประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนที่เหนือชั้น แต่ยังคงไว้ซึ่งดีไซน์อันโดดเด่น และมาพร้อมกับโทนสีใหม่สุดนุ่มนวลและคลาสสสิก อย่างสี Mystic Bronze หน้าจอแสดงผล 6.9 นิ้ว ความละเอียด WQHD+ แบบ Dynamic AMOLED 2X ที่คมชัด สดใส Refresh Rate ได้สูงสุดถึง 120 Hz เพื่อให้ผู้ใช้ได้สัมผัสกับภาพเสมือนจริง แบตเตอรี่ความจุสูงถึง 4,500 mAh และด้วยนวัตกรรมแบตเตอรี่อัจฉริยะที่รองรับการชาร์จเร็ว 25W ทำให้สามารถชาร์จแบตฯ ได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ในเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น พร้อมด้วยชิปเซ็ต Exynos 990 ใช้งานได้อย่างลื่นไหลด้วย RAM 12GB พร้อมมีให้เลือก 2 ความจุ คือ ROM 256GB และ 512GB
Galaxy Note20 Ultra มาพร้อมกล้องหน้า 10MP กล้องหลัก 108 ล้านพิกเซล ตามด้วยเลนส์มุมกว้างและเลนส์เทเลโฟโต้ที่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยปากกา S Pen ที่ถูกพัฒนาต่อยอดความอัจฉริยะไปสู่ Advance S Pen เพิ่มความละเอียดในการเขียนโดยมีค่าความหน่วงเหลืออยู่เพียงแค่ 9ms ให้ผู้ใช้สัมผัสได้เสมือนกับกำลังใช้ปากกาเขียนบนกระดาษจริงๆ 
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 13 ส.ค. 2563)
  • 42,900 บาท (ราคาเครื่องเปล่า สำหรับรุ่น ROM 256GB) 
  • 46,900 บาท (ราคาเครื่องเปล่า สำหรับรุ่น ROM 512GB)

SAMSUNG Galaxy Note20 5G

SAMSUNG Galaxy Note20 5G สมาร์ทโฟนเรือธงน้องเล็กรุ่นใหม่ล่าสุด จากตระกูล Galaxy Note Series ตัวเครื่องมีความแตกต่างกับรุ่นใหญ่อย่าง Galaxy Note20 Ultra 5G อยู่พอสมควร แม้ว่าจะมาพร้อมด้วยชิปเซ็ต Exynos 990 แบบเดียวกัน แต่ก็มาพร้อมหน้าจอขนาดพอดีมือ 6.7 นิ้ว แบบ Super AMOLED ความละเอียด FHD+ Refresh Rate ที่ 60 Hz แม้รุ่นนี้ให้ RAM 8GB แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งาน พร้อมมีให้เลือก 2 ความจุ คือ ROM 256GB และ 512GB เช่นกัน
Galaxy Note20 5G ประกอบด้วยกล้องหลัก 12MP + กล้อง Ultrawide 12MP + กล้อง Telephoto 64MP พร้อมซูม Optical 3x และซูมดิจิตอลสูงสุด 30x ส่วนกล้องหน้าเท่ากับ Galaxy Note20 Ultra 5G ที่ความละเอียด 10MP ปากกา S Pen ของ Galaxy Note20 มีค่าความหน่วงเหลืออยู่เพียงแค่ 26ms (Galaxy Note 20 Ultra มีความหน่วงอยู่ที่ 9ms) สัมผัสได้เสมือนกับกำลังใช้ปากกาเขียนบนกระดาษจริงๆ  มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี คือสีเทา Mystic Grey, สีเขียว Mystic Green และสีทองแดง Mystic Bronze
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 13 ส.ค. 2563)
  • 33,900 บาท (ราคาเครื่องเปล่า สำหรับรุ่น ROM 256GB) 

SAMSUNG Galaxy Z Fold2 5G

Galaxy Z Fold 2 มาพร้อมด้วยชิปเซ็ต : Snapdragon 865+, RAM : 12GB และ ROM 256GB กล้องหลัง 3 เลนส์ ประกอบด้วย  Wide 12MP (f/1.8) OIS + Ultra wide 12MP (f/2.2) + Telephoto 12MP (f/2.4) ด้านกล้องหน้า ในหน้าจอหลัก 10MP (f/2.2) และหน้าจอด้านนอก 10MP (f/2.2) ความจุแบตเตอรี่ 4,500 mAh รองรับชาร์จไวแ 25W และชาร์จไร้สาย 11W และรองรับ Reverse wireless charging) มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Mystic Bronze และสี Mystic Black
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 31 ส.ค. 2563)
  • 69,900 บาท (ราคาเครื่องเปล่า)

SAMSUNG Galaxy S20 Ultra 5G

Samsung Galaxy S20 Ultra 5G หลายคนต่างตกตะลึงในสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของดีไซน์ที่ดูเรียบหรู หน้าจอเปลี่ยนมาใช้หน้าจอโค้ง 2.5D แทนที่หน้าจอโค้งแบบรุ่นก่อนๆ ช่วยให้ติดกันรอยได้ง่ายยิ่งขึ้น และกล้องหลัง 4 เลนส์เทพ ที่มีความพิเศษเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่รวมเอากล้องความละเอียดสูง 108MP มารวมเข้ากับกล้อง Periscope ความละเอียด 48MP และกล้อง 3 มิติ TOF เข้าด้วยกัน แถมพกพาพลังในการซูมที่น่าทึ่ง ช่วยให้สามารถทำ 10x optical zoom ได้ และยังจะมาพร้อม 100x digital zoom ซูมกันสุดๆ ไปเลย นอกจากนี้ยังรองรับ 5G เป็นรุ่นแรกอย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยในรุ่นนี้จะรองรับสัญญาณคลื่น 2600 MHz 
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 13 ส.ค. 2563)
  • 39,900 บาท (ราคาเครื่องเปล่า สำหรับรุ่น ROM 128GB)

SAMSUNG Galaxy A71 5G

Samsung Galaxy A71 เวอร์ชั่นรองรับ 5G โดดเด่นด้วยดีไซน์แบบใหม่สวยงาม ความเร็วสูงสุด 5G NR Sub-6GHz พร้อมใช้งาน หน้าจอ Super AMOLED+ ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 1,080 x 2,400 พิกเซล คมชัดระดับ Full HD+ ชิปประมวลผล Exynos 980 จับคู่กับ RAM ขนาด 8GB และ ROM ขนาด 128GB
Samsung Galaxy A71 5G มาพร้อมกล้องหน้า Infinity O Display ความละเอียด 32MP (f/2.2) และกล้องหลัง 4 เลนส์ ประกอบด้วย กล้องหลัก ความละเอียด 64MP (f/1.8), กล้อง Ultrawide ความละเอียด 12MP (f/2.2), กล้อง Macro ความละเอียด 5MP (f/2.4) และกล้อง Depth ความละเอียด 5MP (f/2.2) แบตเตอรี่ความจุ 4,500 mAh และรองรับชาร์จเร็ว 25W ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย One UI 2
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 13 ส.ค. 2563)
  • 19,990 บาท (ราคาเครื่องเปล่า สำหรับรุ่น RAM 8 / ROM 128GB)

Samsung Galaxy S20 FE 5G

Samsung Galaxy S20 FE 5G สมาร์ทโฟนของ ซัมซุง ที่มาพร้อมซิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 865 ที่สาวกเรียกร้อง ทวีคูณความน่าสนใจอย่างมาก เมื่อรวบเอาจุดเด่นของ Galaxy S20 Series เอาไว้อย่างครบถ้วน พร้อมสีสันให้เลือกมากมาย 6 เฉดสี มาพร้อมวัสดุกระจก และโลหะ มีทั้งเวอร์ชั่นรองรับ 4G และ 5G จอแสดงผล Infinity-O ชนิดจอ Super AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ 1080 x 2400 pixels (405 ppi), 120Hz refresh rate, HDR10+, กระจก Corning Gorilla Glass 3, รองรับมาตราฐานกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68, รองรับ Samsung Pay, ทำงานบน Android 10 ครอบทับด้วย One UI 2.5 สำหรับรุ่น 5G จะมาพร้อมสเปค Qualcomm Snapdragon 865, RAM 8GB, ROM 128GB/256GB รองรับ microSDXC ส่วนรุ่น 4G จะใช้ชิปเซ็ต Exynos 990, RAM 8GB, ROM 128GB รองรับ microSDXC
Samsung Galaxy S20 FE 5G มาพร้อมกล้องหน้า Infinity-O ความละเอียด 32MP F2.0, 26 มม. (wide), AF บันทึกวีดีโอระดับ 4K และกล้องหลัง 3 เลนส์ มีความละเอียด 12MP (wide) + 8MP (telephoto) และ 12MP (ultrawide) พร้อมบันทึกวีดีโอความละเอียดสูงสุด 8K ฟีเจอร์กล้องครบเครื่อง เทียบเท่า Samsung Galaxy S20
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 24 ก.ย. 2563)
  • 25,900 บาท (ราคาเครื่องเปล่า สำหรับรุ่น RAM 8GB + ROM 256GB)
  • 23,900 บาท (ราคาเครื่องเปล่า สำหรับรุ่น RAM 8GB + ROM 128GB )

Samsung Galaxy A42 5G

Samsung Galaxy A42 5G สมาร์ทโฟน 5G ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายของ ซัมซุง เปิดตัวอย่างเป็นการเมื่อวันที่ 12 พ.ย. ที่ผ่านมา สำหรับรุ่นนี้มาพร้อมดีไซส์สวย จับถนัดมือ ด้านหลังตัวเครื่องออกแบบให้มีความมันวาวและสีสันสวยงามสะดุดทุกสายตา  หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.6 นิ้ว HD+ เล่นเกมลื่นไม่มีสะดุด ด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 750G, RAM 8GB / ROM 128ฌGB แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh รองรับ Fast Charge 15W 
สำหรับรุ่นนี้มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว สุดล้ำ ประกอบด้วย กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล (F1.8), กล้อง Macro 5MP (F2.4) พร้อมโฟกัสในระยะใกล้ที่สุดแค่ 4 ซม. , กล้อง Ultra Wide 8MP (F2.2) ถ่ายภาพได้กว้างถึง 123 องศา และกล้อง Dept 5MP (F2.4) ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอให้ดูโดดเด่นสวยงาม พร้อมด้วยกล้องหน้าเซลฟี่ (Selfie) ความละเอียดคมชัด 20MP ที่มี Live Focus หน้าชัดหลังละลายเพื่อช่วยให้การถ่ายเซลฟีตัวเองดูโดดเด่นขึ้นได้ง่ายๆ
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 12 พ.ย. 2563)
  • 11,990 บาท (ราคาเครื่องเปล่า)
สมาร์ทโฟนรองรับ 5G จากแบรนด์ HUAWEI

HUAWEI Mate 40 Pro 5G

HUAWEI Mate 40 Pro 5G หน้าจอ OLED ขนาด 6.76 นิ้ว ความละเอียด QHD+ 1344 x 2772 pixels (456 ppi), Refresh Rate 90Hz, Touch Sampling Rate 240Hz, รองรับมาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP68, ทำงานบน Android 10 ครอบทับด้วย EMUI 11, Kirin 9000E 5G (5 nm), GPU Mali-G78 MP22, RAM 8GB LPDDR5, ROM 256GB UFS 3.1 พร้อมชิปเซ็ตสุดแรง Kirin 9000E 5G ที่สร้างบนสถาปัตยกรรม 5 nm. และรองรับ WiFi 6 เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่สมบูรณ์แบบมากๆ แบตเตอรี่ความจุ 4400 mAh รองรับชาร์จเร็ว Fast charging 66W, Fast wireless charging 50W, Reverse wireless charging 5W Huawei Mate 40 Pro กล้องหน้าคู่ความละเอียด 13MP F2.4 (wide) + TOF และกล้องหลัง 4 เลนส์ ความละเอียดดังนี้
  • 50MP F1.9, 23 มม. (wide), omnidirectional PDAF, Laser AF
  • 12MP F3.4, 125 มม. (periscope telephoto), PDAF, OIS, 5x, 7x optical zoom
  • 20MP F1.8, 18 มม. (ultrawide), PDAF
  • TOF
ราคาการวางจำหน่าย 
  • 34,990 บาท (ราคาเครื่องเปล่า ณ วันที่ 3 ธ.ค. 2563)

HUAWEI P40 Pro+ 5G

Huawei P40 Pro+ สมาร์ทโฟนเรือธงจาก หัวเว่ย ตัวเครื่องมาพร้อมวัสดุโลหะและเซรามิก หน้าจอโค้ง 4 ด้าน Overflow Display ขนาด 6.58 นิ้ว ความละเอียด QHD+, 90Hz Refresh Rate พร้อมรองรับ Android 10 (AOSP + HMS) ครอบทับด้วย EMUI 10 ตัวเครื่องใช้ชิปเซ็ต HiSilicon Kirin 990 5G, GPU Mali-G76 MP16 RAM 8GB และ ROM 512GB รองรับ Nano Memory 256GB, แบตเตอรี่ความจุ 4,200 mAh รองรับชาร์จเร็ว 40W และ Fast wireless charging, Power bank/Reverse wireless charging
Huawei P40 Pro+ มาพร้อมกล้องหน้าคู่ ความละเอียด 32MP + IR Depth + Ambient & Proximity Sensor และกล้องหลัง 5 เลนส์ประกอบด้วย 40MP (Ultra Wide Cine) + 50MP (Ultra Vision Wide) + Periscope 8MP (Telephoto) + 8MP(Telephoto) + TOF พร้อม SuperZoom สูงสุด 100x
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 13 ส.ค. 2563)
  • 40,990 บาท (ราคาเครื่องเปล่า)

HUAWEI P40 Pro 5G

HUAWEI P40 Pro 5G สมาร์ทโฟนรองรับ 5G จาก หัวเว่ย มาพร้อมดีไซน์ตัวเครื่องสวยงาม หน้าจอแสดงผลเป็นพาแนล OLED ความละเอียด 2,640 x 1,200 พิกเซล ระดับ Full HD+ ตัวหน้าจอขนาดอยู่ที่ 6.58 นิ้ว อัตรา Refresh Rate 90Hz ชิปประมวลผล Hisilicon Kirin 990 5G ความจำ RAM 8GB และ ROM 256GB ระบบปฏิบัติการ Android OS 10 ครอบทับด้วย EMUI 10 (ไม่มี Google Mobile Service) พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,200 mAh รองรับ HUAWEI SuperCharge 40W ชาร์จเร็วผ่านสายชาร์จและอแดปเตอร์, HUAWEI SuperCharge Wireless 27W ชาร์จเร็วผ่านที่ชาร์จไร้สาย (แท่นชาร์จต้องรองรับชาร์จเร็วด้วย) และ HUAWEI SuperCharge Wireless Car Charge 27W ชาร์จเร็วผ่านที่ชาร์จไร้สายในรถยนต์
HUAWEI P40 Pro 5G มาพร้อมกล้องถ่ายรูป Ultra Vision Leica Quad camera 50MP ใช้เซ็นเซอร์รับภาพแบบ RYYB ขนาด 1/1.28 นิ้ว พร้อมกับพิกเซลขนาดใหญ่พิเศษ 2.44 nm ผนวกการทำงานเข้ากับระบบออโต้โฟกัส Octa PD บนกล้องหลักความละเอียด 50MP (f/1.9) ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์กล้องอีก 3 ตัว ประกอบด้วย กล้อง Cine หรือกล้องมุมกว้างความละเอียด 40MP (f/1.8, OIS), กล้อง Periscope Super Sensing (Telephoto) ความละเอียด 12MP (f/3.4, OIS) และกล้อง 3D Depth Vision กล้องหน้าคู่ ความละเอียด 32MP + กล้อง Depth IR สำหรับเก็บระยะความลึกของวัตถุ พร้อมรองรับ Wi-Fi 6 และรองรับมาตรฐานกันน้ำและฝุ่นละออง IP68
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 13 ส.ค. 2563)
  • 31,990 บาท (ราคาเครื่องเปล่า)

HUAWEI P40 5G

HUAWEI P40 5G สมาร์ทโฟนสเปกแรง รองรับการใช้งาน 5G อย่างเต็มรูปแบบทันที ได้อย่างครบถ้วนทุกย่านความถี่ และพร้อมให้ใช้งานได้ทันทีหลังแกะกล่อง รวมถึงรองรับ WiFi 6 ด้วย Huawei P40 5G มาพร้อมดีไซน์สวยงาม ขนาดกะทัดรัด และมีน้ำหนักเบาเพียงแค่ 175 กรัมเท่านั้น หน้าจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 1,080 x 2,340 พิกเซล ระดับ Full HD+ กล้องหน้าคู่ Dual Punch-hole Camera Wide + IR ความละเอียดสูง 32MP (f/2.0)
กล้องหลัง 3 เลนส์จาก Leica ออกแบบเป็นทรงสี่เหลี่ยมแบบ Compact Camera ประกอบด้วย กล้อง Telephoto ความละเอียด 8MP (f/2.4), กล้อง Ultra Vision, Wide ความละเอียด 50MP (f/1.9), กล้อง Ultrawide ความละเอียด 16MP (f/2.2) และมีเซนเซอร์ Colour Temperature Sensor พร้อมไฟแฟลชคู่ LED สามารถดัน ISO ได้สูงถึง 204800 บันทึกวีดีโอความละเอียด 4K 60FPS, Super Slow Motion บนความละเอียด HD 7680FPS และรองรับระบบกันสั่น OIS + AIS ใช้ชิปเซ็ต HiSilicon Kirin 990 5G แบตเตอรี่ความจุ 3,800 mAh และรองรับชาร์จเร็ว Huawei SuperCharge 22.5W และรองรับรองรับมาตรฐานกันน้ำและผุ่นละออง IP53
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 13 ส.ค. 2563)
  • 22,990 บาท (ราคาเครื่องเปล่า)

HUAWEI Mate Xs

Huawei Mate Xs 5G สมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้สุดล้ำ หน้าจอ Foldable OLED ขนาดเมื่อกางออก 8 นิ้ว ความละเอียด 2200 x 2480 pixels, ขนาดเมื่อพับจะเหลือ 6.6 นิ้ว ความละเอียด 2200 x 2480 pixels, HiSilicon Kirin 990 5G, GPU Mali-G76 MP16, RAM 8GB, ROM 512GB, Android 10 (AOSP + HMS) ครอบทับด้วย EMUI 10, แบตเตอรี่ความจุ 4,500 mAh รองรับชาร์จเร็ว 55W, Bluetooth 5.0, Wi-Fi a/b/g/n/ax/ax, dual GPS, USB-C มาพร้อมกล้องหลัง 4 เลนส์ พัฒนาร่วมกับ Leica ความละเอียด 40MP +  8MP (Telephoto), 3x optical zoom, 30x digital zoom + 16MP (Ultra-wide) และเลนส์ TOF 
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 13 ส.ค. 2563)
  • 89,990 บาท (ราคาเครื่องเปล่า)

HUAWEI Mate 30 Pro 5G

HUAWEI Mate 30 Pro 5G สมาร์ทโฟนรองรับเครือข่าย 5G ที่พร้อมใช้งานแล้วในประเทศไทยครบทั้ง 3 ผู้ให้บริการเครือข่าย AIS, dtac และ TrueMove H โดดเด่นด้วยขุมพลัง HUAWEI Kirin 990 5G ซึ่งเป็นชิปเซ็ต 5G รุ่นแรกที่รองรับการเชื่อมต่ออย่างครบครัน ตอบโจทย์ในทุกสภาวะเครือข่ายแบบเหนือชั้นจากโมเด็ม Balong 5000 พร้อมอัปเกรดหน่วยประมวลผล AI NPU แบบใหม่ (Dual Big Core + 1 Tiny Core), RAM 8GB, ROM 256GB, แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ความจุ 4,500 mAh, รองรับการชาร์จเร็ว Huawei SuperCharge 40W การชาร์จไร้สาย SuperCharge 27W และสามารถ Reverse Wireless Charging 7.5W ให้กับสมาร์ทดีไวซ์เครื่องอื่นที่รองรับ พร้อมประหยัดพลังงานที่เหนือชั้น
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 13 ส.ค. 2563)
  • 31,990 บาท (ราคาเครื่องเปล่า)

HUAWEI nova 7 5G

Huawei nova 7 สมาร์ทโฟนรองรับ 5G ดีไซน์สวยงาม และมีเอกลักษณ์โดดเด่น มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเงิน สีม่วง และสีเขียว โดยทั้ง 3 ตัวเลือก ล้วนมีดีไซน์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง หน้าจอ OLED ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด 1,080 x 2,400 พิกเซล คมชัดระดับ Full HD+ ชิปเซ็ต HiSilicon Kirin 985 5G จับคู่กับ RAM 8GB และ ROM 256GB กล้องหน้า Punch-hole Camera ความละเอียดสูง 32MP (f/2.2)
การถ่ายภาพกล้องหลัง มาพร้อมด้วยกล้อง 4 เลนส์ ประกอบด้วย กล้องหลัก ความละเอียด 64MP (f/1.8), กล้อง Ultra Wide Angle ความละเอียด 8MP (f/2.4), กล้อง Telephoto ความละเอียด 8MP (f/2.4) และกล้อง Macro ความละเอียด 2MP (f/2.4) แบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว Fast charging 40W ชาร์จแบตเตอรี่เต็มความจุ 75% ในเวลาเพียง 30 นาที ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 10 (ใช้บริการ HMS) ครอบทับด้วย EMUI 10.1 ไม่รองรับ Google Mobile Service
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 13 ส.ค. 2563)
  • 16,990 บาท (ราคาเครื่องเปล่า)

HUAWEI nova 7 SE 5G

HUAWEI nova 7 SE สุดยอดสมาร์ทโฟน 5G ที่มาพร้อมดีไซน์ตัวเครื่องเพรียวบาง โค้งรับกับฝ่ามือ ผิวสัมผัสเรียบลื่น เป็นมันวาว วัสดุกระจกและพลาสติก โดยมีให้เลือกทั้งหมด 2 สี 2 สไตล์ที่แตกต่างกัน คือ สีเงิน Space Silver และสีเขียว Crush Green หน้าจอแสดงผล HUAWEI Punch FullView Display ขนาด 6.5 นิ้ว (LTPS LCD) ความละเอียด 1,080 x 2,400 พิกเซล ความคมชัดระดับ Full HD+ พร้อมฟังก์ชั่นจัดเต็มสุดคุ้ม ชิปประมวลผล HUAWEI Kirin 820 5G จับคู่กับหน่วยความจำ RAM 8GB และพื้นที่เก็บข้อมูลภายในตัวเครื่อง (ROM) 128GB และสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ Nano Memory Card ได้สูงสุด 256GB
กล้องหน้าแบบฝังในหน้าจอแสดงผล โดยเป็นกล้องความละเอียด 16MP (f/2.0) พร้อม 4 กล้องหลัง AI Quad Camera ประกอบด้วย เลนส์หลัก ความละเอียด 64MP (f/1.8), เลนส์กว้างพิเศษ 120 องศา ความละเอียด 8MP (f/2.4), เลนส์มาโคร ความละเอียด 2MP (f/2.4) และเลนส์โบเก้ ความละเอียด 2MP (f/2.4) แบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh รองรับชาร์จไว HUAWEI SuperCharge 40W และ Reverse Charging 5W ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย EMUI 10.1 (ไม่รองรับ Google Mobile Service)
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 13 ส.ค. 2563)
  • 11,990 บาท (ราคาเครื่องเปล่า)
สมาร์ทโฟนรองรับ 5G จากแบรนด์ OPPO

OPPO Find X2 Pro 5G

OPPO Find X2 Pro 5G สมาร์ทโฟนระดับเรือธงจาก ออปโป้ มาพร้อมดีไซน์ลงตัวสวยงาม รองรับสัญญาณ 5G หน้าจอ OLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 3,168 x 1,440 พิกเซล ระดับ QHD+ อัตรา Refresh Rate 120Hz และ Sampling Rate 240Hz ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย ColorOS 7.1 ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 865 5G หน่วยความจำ 12GB LPDDR5 ความจำภายในตัวเครื่อง 512GB UFS 3.0
มาพร้อมกล้องหน้าแบบเจาะรูหน้าจอ Sony IMX616 ความละเอียด 32MP (f/2.4) และกล้องหลัง 3 เลนส์ ประกอบด้วย กล้อง Sony IMX689 Wide-angle ความละเอียด 48MP (f/1.8), กล้อง Sony IMX586 Ultrawide ความละเอียด 48MP (f/2.2), กล้อง Persiscope Telephoto ความละเอียด 13MP (f/3.4) รองรับ Hybrid Zoom 10X และ Digital Zoom 60X รองรับระบบกันสั่น Ultra Steady 2.0 (EIS + OIS) รองรับ Ultra Night Mode 3.0 และ Ultra Dark Mode แบตเตอรี่ความจุ 4,260 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว SuperVOOC 2.0 65W รองรับ Wi-Fi 6 (802.11ax), NFC, ลำโพงสเตอริโอคู่ พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos และรองรับมาตรฐานกันน้ำและฝุ่นละออง IP68
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 13 ส.ค. 2563)
  • 40,990 บาท (ราคาเครื่องเปล่า)

OPPO Find X2 5G

OPPO Find X2 5G สมาร์ทโฟนรุ่นน้องของ OPPO Find X2 Pro 5G มาพร้อมดีไซน์ที่ดูคล้ายกัน รองรับสัญญาณ 5G หน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ 6.7 นิ้ว ความละเอียด 3,168 x 1,440 พิกเซล ระดับ QHD+ รองรับ Refresh Rate 120Hz และ Sampling Rate 240Hz ชิปเซ็ตตัวท็อป Qualcomm Snapdragon 865 5G หน่วยความจำ RAM 12GB LPDDR5 รวมไปถึงความจำภายในตัวเครื่อง 256GB UFS 3.0
กล้องหน้าแบบเจาะรูหน้าจอ Sony IMX616 ความละเอียด 32MP (f/2.4) พร้อมกล้องหลัง 3 เลนส์ ประกอบด้วย กล้อง Sony IMX586 ความละเอียด 48MP (f/1.7), กล้อง Sony IMX708 Ultrawide ความละเอียด 12MP (f/2.2), กล้อง Telephoto ความละเอียด 13MP (f/2.4) รองรับ Hybrid Zoom 5X และ Digital Zoom 20X รองรับระบบกันสั่น Ultra Steady 2.0 (EIS + OIS) รองรับ Ultra Night Mode 3.0 และ Ultra Dark Mode แบตเตอรี่ความจุ 4,200 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 65W SuperVOOC 2.0 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย ColorOS 7.1 รองรับ Wi-Fi 6 (802.11ax), NFC, ลำโพงสเตอริโอคู่ พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos และรองรับมาตรฐาน IP54
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 13 ส.ค. 2563)
  • ราคาพิเศษ 29,990 บาท จากราคาปกติ 33,990 บาท (ราคาเครื่องเปล่า)
สมาร์ทโฟนรองรับ 5G จากแบรนด์ Vivo

Vivo NEX3 5G

แม้จะเปิดตัวมาสักพักใหญ่ แต่ Vivo NEX3 5G ก็ยังเป็นสมาร์ทโฟนที่มีสเปคน่าสนใจอยู่เช่นกัน โดยรุ่นนี้มาพร้อมดีไซน์กระจกและโลหะ หน้าจอ Waterfall FullView Display หน้าจอขนาดใหญ่ 6.89 นิ้ว Super AMOLED  ความละเอียด Full HD+ รองรับ HDR10, ดีไซน์ที่ไร้ปุ่มด้านข้างทำให้ตัวเครื่องดูเป็นชิ้นเดียวกันทั้งเครื่อง และแทนที่ด้วย Touch Sense ให้ความรู้สึกที่เหมือนกับการใช้งานปุ่มกดจริงๆ พร้อมระบบสั่นที่แม่นยำมากๆ 
Vivo NEX 3 5G มาพร้อม Snapdragon 855 Plus, GPU Adreno 640, RAM 8GB, ROM 128GB (UFS 3.0) ไม่รองรับ MicroSD, ชิปเซ็ตเสียง AK4377A ระบบเสียง Hi-Fi, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0, USB Type-C, พอร์ทหูฟัง 3.5 มม. พร้อมด้วยแบตเตอรี่ความจุ 4,500 mAh รองรับชาร์จเร็ว 22.5W จัดเต็มกล้องทรงกลมเรียกว่า Luna Ring System ความละเอียดสูงถึง 3 เลนส์ ประกอบด้วย 64MP, F1.8, (wide) + 13MP (telephoto) + 13MP (ultrawide) และกล้องหน้า Pop-Up ความละเอียด 16MP
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 13 ส.ค. 2563)
  • 27,999 บาท (ราคาเครื่องเปล่า)

Vivo X50 Pro 5G

เปิดตัวและวางจำหน่ายมาได้หมาดๆ กับสมาร์ทโฟน Vivo X50 Pro 5G ที่มาพร้อมกับระบบกันสั่นแบบกิมบอล (Gimbal Camera System Pro Level Stabilization) รุ่นแรกของโลก พร้อมด้วยกล้อง Periscope Telephoto ที่รองรับการซูมสูงสุดถึง 60x และหน้าจอคุณภาพสูง 90Hz refresh rate และ 180Hz response rate นอกจากนี้ยังโดดเด่นในเรื่องการถ่ายภาพกลางคืน Superb Night Camera และสามารถถ่ายดวงดาวได้ด้วยฟีเจอร์ Astro Mode สามารถจับภาพการเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง Pro Sports Mode ด้วยความสามารถของ Motion AF Tracking และอื่นๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่าคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ จะต้องประทับใจในสมาร์ทโฟนรุ่นนี้อย่างแน่นอน
แม้จะเปิดตัวมาด้วยราคา 24,999 บาท ที่หลายคนมองว่าสูงไป กับชิปเช็ตที่ควรจะใส่ระดับเรือธงมาให้ แต่หากพูดถึงเรื่องกล้องกันเพรียวๆ Vivo X50 Pro 5G จัดได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่โดดเด่นอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ ตามไปพิสูจน์กันได้ที่บทความรีวิวฉบับเต็มนี้ได้เลย
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 9 ก.ย. 2563)
  • 24,999 บาท (ราคาเครื่องเปล่า)

Vivo V20 Pro 5G

สมาร์ทโฟนรองรับ 5G อีกหนึ่งรุ่นจาก วีโว่ ที่เปิดตัวมาด้วยราคาเพียง 14,999 บาท แต่มาพร้อมจุดขายที่น่าสนใจมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 765G, หน้าจอ AMOLED สีสันสวยงาม, กล้องหน้าคู่ความละเอียดสูงถึง 44MP + 8MP และกล้องหลัง 3 เลนส์ 64MP + 8MP + 2MP ที่มาพร้อมเลนส์ครบทุกช่วง และโดดเด่นในการถ่ายภาพ Selfie ที่สำคัญคือเรื่องการบันทึกวีดีโอ ที่รุ่นนี้รองการบันทึกวีดีโอความละเอียด 4K รวมทั้งรองรับระบบกันสั่น Super Steady ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลังเลย แถมยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W Vivo FlashCharge 2.0
สำหรับใครที่สนใจ Vivo V20 Pro 5G สามารถ Pre-Order ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ - 29 กันยายน 2563 (จำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศ 30 ก.ย. 2563) พิเศษ กับราคาเริ่มต้นเพียง 4,989 บาท เมื่อสั่งจองผ่านทาง เอไอเอส และทรูมูฟ เอช หรืออ่านบทความรีวิวที่จัดเต็มครบทุกรายละเอียดได้ที่ลิ้งก์ด้านล่างนี่เลย
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 19 ก.ย. 2563)
  • 14,999 บาท (ราคาเครื่องเปล่า)
สมาร์ทโฟนรองรับ 5G จากแบรนด์ realme

realme X50 Pro 5G

realme X50 Pro 5G สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงสูงสุดของแบรนด์ เรียลมี รองรับเทคโนโลยี 5G หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด 1,080 x 2,400 พิกเซล ความคมชัดระดับ Full HD+ รองรับมาตรฐาน HDR10+ และ DCI-P3 ความสว่างสูงสุด 1000 nits อัตรา Refresh Rate 90Hz และ Sampling Rate 180Hz ชิปประมวลผล Snapdragon 865 จับคู่กับ RAM ขนาด 12GB และ ROM ขนาด 256GB
มาพร้อมกล้องหน้าคู่แบบ Dual In-display ประกอบด้วย กล้องความละเอียด 32MP (f/2.5) และกล้อง Ultrawide ความละเอียด 8MP (f/2.2) และกล้องหลัง 4 เลนส์ ประกอบด้วย กล้องหลักความละเอียด 64MP (f/1.8), กล้อง Telephoto ความละเอียด 12MP (f/2.5), กล้อง Ultrawide ความละเอียด 8MP (f/2.3) และกล้อง B/W ความละเอียด 2MP (f/2.4) แบตเตอรี่ความจุ 4,200 mAh รองรับชาร์จเร็ว SuperDart Flash Charge 65W ชาร์จเต็ม 100% ในเวลาเพียง 35 นาที ลำโพงคู่ รองรับระบบเสียง Dolby Atmos ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย realme UI
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 13 ส.ค. 2563)
  • 28,990 บาท (ราคาเครื่องเปล่า)

realme X50 5G

realme X50 5G สมาร์ทโฟนรองรับ 5G จาก เรียลมี ที่มาพร้อมจุดเด่นหน้าจอขนาด 6.57 นิ้ว อัตรา Refresh Rate 120Hz อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 90.4% ชิปเซ็ต Snapdragon 765G ขนาด 7nm ความเร็วสูง 2.4GHz ช่วยลดการใช้พลังงานโดยรวมลงถึง 35% และประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น 10% รองรับฟีเจอร์ Smart 5G ที่สามารถสลับการเชื่อมต่อระหว่าง 4G และ 5G โดยอัตโนมัติ พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Dual Wi-Fi สามารถเชื่อมต่อกับ Wi-Fi สองเครือข่ายในเวลาเดียวกันได้ และเชื่อมต่อ Dual Channel (Data และ Wi-Fi) สลับการเชื่อมต่อระหว่างอินเทอร์เน็ตบนมือถือและ Wi-Fi โดยอัตโนมัติ
กล้องหลัง AI 4 เลนส์ ประกอบด้วย เลนส์หลัก ความละเอียด 48MP, เลนส์ Ultra wide-angle 119 องศา ความละเอียด 8MP, เลนส์ Macro ความละเอียด 2MP และเลนส์ Portrait ความละเอียด 2MP ในส่วนของกล้องหน้าเป็นกล้องเลนส์คู่แบบเจาะรู โดยมีเลนส์หลัก Wide-angle ความละเอียด 16MP และเลนส์ Portrait ความละเอียด  2MP พร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4,200 mAh รองรับชาร์จเร็ว 30W Dart Charge สามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ในเวลาเพียง 55 นาที ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย realme UI
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 13 ส.ค. 2563)
  • 12,990 บาท (ราคาเครื่องเปล่า)

realme 7 5G

realme 7 5G สมาร์ทโฟน 5G รุ่นใหม่ล่าสุด เปิดตัวโดยยึดแนวคิดสมาร์ทโฟน 5G ที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ มาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30W Dart Charge แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh หน้าจอแสดงผล Ultra Smooth ขนาด 6.5 นิ้ว Refresh Rate 120Hz และอัตรา Sampling Rate 180Hz พร้อมด้วยความจุ RAM 8GB + ROM 128GB
realme 7 5G มาพร้อมกล้อง 4 เลนส์ รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีความคมชัดเป็นพิเศษ ประกอบด้วย กล้องหลัก 48MP, เลนส์ Ultra Wide 8MP 119 องศา, เลนส์ Macro และเลนส์ Portrait B&W ส่วนกล้องหน้า 16MP สามารถเป็นเจ้าของได้แล้วตั้งแต่ 5 ธ.ค. 2563 เป็นต้นไป
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 5 ธ.ค. 2563)
  • 9,999 บาท (ราคาเครื่องเปล่า)
สมาร์ทโฟนรองรับ 5G จากแบรนด์ OnePlus

OnePlus 8T

OnePlus 8T สมาร์ทโฟนรุ่นต่อยอดความสำเร็จจากรุ่น OnePlus 8 Series ซึ่งในครั้งนี้ก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองอีกขั้นของเทคโนโลยีหน้าจอ 120Hz แบบ Fluid AMOLED display และเทคโนโลยีชาร์จเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมาของ OnePlus อย่าง Warp Charge 65 ชาร์จ 0-100% ในเวลาเพียง 39 นาที เท่านั้น! และเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ OxygenOS 11 ทันทีที่แกะกล่องพร้อมรองรับ 5G ในประเทศไทยทันที!
OnePlus 8T มาพร้อมดีไซน์ที่สวยงาม มาพร้อม 2 สี Aquamarine Green และ Lunar Silver หน้าจอ Fluid AMOLED ขนาด 6.55 นิ้ว เทคโนโลยีหน้าจอ 120Hz และรองรับ HDR10+, Qualcomm Snapdragon 865, Adreno 650, RAM 8GB/12GB, ROM 128GB/256GB แบตเตอรี่ความจุ 4,500 mAh รองรับชาร์จเร็ว Fast charging 65W ชาร์จเต็ม 100% ในเวลา 39 นาที OnePlus 8T มาพร้อมกล้องหน้า 16MP F2.4, (wide) และกล้องหลัง 4 เลนส์ ประกอบด้วยความละเอียดดังนี้
  • 48MP F1.7, 26 มม. (wide), PDAF, OIS
  • 16MP F2.2, 14 มม., 123 องศา (ultrawide)
  • 5MP F2.4, (macro)
  • 2MP F2.4, (depth)
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 10 พ.ย. 2563)
  • 24,990 บาท (ราคาเครื่องเปล่า สำหรับรุ่น RAM 12GB และ ROM 128GB)
  • 29,990 บาท (ราคาเครื่องเปล่า สำหรับรุ่น RAM 12GB และ ROM 256GB)

OnePlus 8 Pro

OnePlus 8 Pro เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปที่ยังคงมาพร้อมนิยาม Super Flagship อีกครั้ง เน้นอัดสเปกแรงๆ พร้อมการเปิดราคาเขย่าตลาดอีกแล้ว โดยงานออกแบบของ OnePlus 8 Pro ใช้คอนเซ็ปท์ที่เน้นออกแบบให้ตัวเครื่องดูเรียบง่าย คุ้นเคย แต่รู้สึกสวยงาม หรูหรา ด้วยเฉดสีพิเศษของวันพลัส มาพร้อมหน้าจอแสดงผล Fluid AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียดสูงสุดอยู่ที่ 3,168 x 1,440 พิกเซล แสดงผลด้วยอัตรา Refresh Rate ได้สูงสุดที่ 120Hz บนความละเอียดระดับ QHD+ รองรับ HDR10+ ได้คะแนน A+ rating จาก DisplayMate และได้การรับรองเป็นจอถนอมสายตา SGS Eye Care Display Certification
ในขณะที่กล้องถ่ายรูปใช้แบบ Quad Camera ประกอบด้วย กล้องหลัก ความละเอียด 48MP, กล้องมุมกว้างความละเอียด 48MP (f/1.78), กล้อง Telephoto ความละเอียด 8MP (f/2.2) และกล้อง Color Filter Lens ความละเอียด 5MP (f/2.4) พร้อมไฟแฟลช Dual LED และกล้องหน้า ความละเอียด 16MP (f/2.45) ชิปประมวลผล CPU Snapdragon 865, Modem 5G X55 ความจำ RAM 12GB (LPDDR5) และ ROM 256GB (UFS3.0, 2-LANE) ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android OS 10 ครอบทับด้วย Oxygen OS 10 พร้อมรูปแบบการรองรับการใช้งานที่สมบุกสมบัน ด้วยคุณสมบัติกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP68
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 13 ส.ค. 2563)
  • 34,990 บาท (ราคาเครื่องเปล่า)

OnePlus Nord

OnePlus Nord สมาร์ทโฟนรองรับ 5G รุ่นแรกในไทยจาก วันพลัส ที่กำลังเตรียมเปิดตัวในประเทศไทยเร็ว ๆ นี้ โดยสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอ Fluid AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว บนอัตราส่วนหน้าจอ 20:9 ค่า Refresh Rate 90Hz, ทำงานบน Android 10 ครอบทับด้วย OxygenOS 10.0 นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 765G มีหลายความจุให้เลือก ได้แก่ RAM 6GB / 8GB / 12GB ส่วน ROM 128GB / 256GB ในประเทศไทยต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการอีกทีว่าจะวางจำหน่ายรุ่นใดบ้าง 
OnePlus Nord จัดเต็มกล้องหน้าคู่ 32MP + 8MP และกล้องหลัง 4 เลนส์ ประกอบด้วย 48MP + 8MP + 5MP + 2MP นอกจากนี้ มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4,115 mAh รองรับชาร์จเร็ว Fast charging 30W มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Blue Marble และ Gray Onyx และยังคงมีสวิตซ์สลับโหมดที่เป็นจุดเด่นของวันพลัสมาให้เช่นเคย
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 20 ส.ค. 2563)
  • 14,990 บาท (ราคาเครื่องเปล่า)

OnePlus Nord N10 5G

OnePlus Nord N10 5G สมาร์ทโฟน 5G รุ่นล่าสุดของแบรนด์ OnePlus ที่นับเป็นการเสริมทัพ 5G Device ของแบรนด์ให้แน่นมากขึ้นด้วยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งนอกจากจะเป็นมือถือน้องเล็กสุดของบริษัทในตอนนี้แล้ว เจ้า OnePlus Nord N10 5G ยังเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกและครั้งแรกของการทำตลาดสมาร์ทโฟนช่วงเรทราคาหลักพันบาทของแบรนด์วันพลัสด้วยเช่นกัน เป็นปรากฏการณ์ที่เหล่าแฟนบอยของแบรนด์ประหลาดใจไม่น้อยเลยทีเดียว
OnePlus Nord N10 5G มาพร้อมหน้าจอ LCD IPS ขนาด 6.49 นิ้ว FHD+, Refresh Rate 90Hz, ใช้ชิปเซ็ต CPU Qualcomm Snapdragon 690 5G ร่วมกับ RAM 6GB และ ROM 128GB มอบประสบการณ์การใช้งานขั้นสุดด้วย Oxygen OS 10 (based on Android OS 10) พร้อมด้วยกล้องหลังแบบ Quad Camera ประกอบด้วย กล้องหลัก ความละเอียด 64MP (F1.79), กล้องมุมกว้าง ความละเอียด 8MP (F2.25), กล้องมาโคร ความละเอียด 2MP (F2.4) และกล้องโมโนโครม ความละเอียด 2MP (F2.4) ส่วนกล้องหน้าคมชัด มาพร้อมความละเอียด 16MP แบตเตอรี่ขนาด 4,300 mAh ที่รองรับชาร์จไว Warp Charge 30T
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 1 ธ.ค. 2563)
  • 9,990 บาท (ราคาเครื่องเปล่า)
สมาร์ทโฟนรองรับ 5G จากแบรนด์ POCO

POCO F2 Pro

POCO F2 Pro สมาร์ทโฟนรุ่นที่สองของแบรนด์ POCO มีจุดเด่นในเรื่องของสเปกตัวเครื่อง ที่ใส่มาให้ระดับเดียวกับมือถือรุ่นท็อปเลยทีเดียว ตัวเครื่องสวยงาม ดูล้ำเหมือนยานอวกาศ หน้าจอแสดงผล AMOLED Full Screen Display ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2,400 x 1,080 พิกเซล รองรับการแสดงผล HDR10+ และรองรับการแสดงผล HDR10+ บนสตรีมมิ่งวีดีโอ Netflix อัตรา Refresh Rate 60Hz และ Sample Rate 180Hz พร้อมผ่านมาตรฐานจอถนอมสายตาจาก TUV Rheinland Full Care Display Certificate รองรับการปลดล็อคด้วยการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ และการสแกนใบหน้า
Poco F2 Pro มาพร้อมกล้องถ่ายรูป Quad camera ประกอบด้วย กล้องหลักความละเอียดสูง 64MP (f/1.89) ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX686, กล้อง Ultra wide-angle 123 องศา ความละเอียด 13MP (f/2.4), กล้อง Macro ความละเอียด 5MP (f/2.2) และกล้อง Depth ความละเอียด 2MP (f/2.4) กล้องหน้า (Pop-up) ความละเอียด 20MP ใช้ชิปประมวลผลเป็น CPU Snapdragon 865 ทำงานร่วมกับหน่วยความจำ UFS 3.1 และ RAM 6GB แบตเตอรี่ 4,600 mAh รองรับชาร์จไว 30W ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย MIUI 11
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 13 ส.ค. 2563)
  • 15,499 บาท (ราคาเครื่องเปล่า)
สมาร์ทโฟนรองรับ 5G จากแบรนด์ Lenovo

Legion Phone Duel

Lenovo Legion Phone Duel สมาร์ทโฟน 5G ตัวเทพสำหรับคอเกม มาพร้อมจุดเด่นในเรื่องดีไซน์ที่โดดเด่น ออกแบบมาแนว Gaming อย่างเต็มที่ วัสดุพรีเมี่ยมโลหะอลูมิเนียม และกระจก Gorilla Glass 6 พร้อมการปรับแต่งไฟ RGB กล้อง Pop-Up ตรงกลางเครื่องสำหรับการใช้งานแนวนอน และเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคนที่ชื่นชอบการ Live Streaming รวมไปถึงกล้องหลังที่วางwว้ตรงกลาง เพื่อการจับถือเล่นเกมที่สะดวกที่สุด แถมยังมีพอร์ท USB Type-C มาถึง 2 พอร์ท หน้าจอระดับรีเฟรชเรท 144Hz และแบตเตอรี่ความจุสูง 5,000 mAh รองรับ Fast charging 65W
Lenovo Legion Phone Duel ดีไซน์วัสดุอลูมิเนียม และกระจก Gorilla Glass 6 มาพร้อมฟีเจอร์ปรับแสงไฟ RGB ที่ด้านหลัง, หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.65 นิ้ว Full HD+, รีเฟรชเรท 144Hz และ Touch Sampling Rate จัดเต็ม 240Hz, ทำงานบน Android 10 ครอบทับด้วย Legion OS/ ZUI12 โดดเด่นในการออกแบบ UI เพื่อการใช้งานแนวนอนให้อารมณ์ Tablet, Qualcomm Snapdragon 865+, GPU Adreno 650, RAM 12GB/16GB LPDDR5, ROM 256GB/512GB UFS 3.1 แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh รองรับ Fast charging 65W ชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ในเวลาเพียง 34 นาที
Lenovo Legion Phone Duel มาพร้อมลำโพงคู่ และระบบเสียงที่จูนมาสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ รวมไปถึงมีระบบระบายความร้อน ที่จะช่วยให้ความร้อนกระจุกตัวที่ตรงกลางเครื่อง ทำให้สามารถเล่นเกมได้ยาวนานโดยไม่ร้อนมือ เรียกว่า Dual Liquid Heat Pipes Lenovo Legion Phone Duel พร้อมกล้อง Pop-Up อยุ่ตรงด้านข้างของตัวเครื่อง ความละเอียด 20MP F2.2, 25 มม. และกล้องหลังคู่ อยู่ตรงกึ่งกลางของตัวเครื่องความละเอียด 64MP F1.9, 25 มม. (wide), PDAF + 16MP F2.2, 120 องศา, 16 มม. (ultrawide), บันทึกวีดีโอความละเอียดสูงสุด 4K ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง รองรับระบบกันสั่น EIS
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 22 ต.ค. 2563)
  • 23,990 บาท (ราคาเครื่องเปล่า สำหรับรุ่น RAM 12GB และ ROM 256GB ( เฉพาะสี Blazing Blue))
  • 30,990 บาท (ราคาเครื่องเปล่า สำหรับรุ่น RAM 16GB และ ROM 512GB ( เฉพาะสี Vengeance Red))
สมาร์ทโฟนรองรับ 5G จากแบรนด์ ASUS

ASUS ROG Phone 3

ASUS ROG Phone 3 สมาร์ทโฟนเกมมิ่งเจเนอเรชั่นที่ 3 ของซีรีย์ มาพร้อมหน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.59 นิ้ว ให้อัตรา refresh rate สูงสุด 144Hz, มีค่าการตอบสนองต่อการสัมผัสหรือการแตะ (Touch sampling rate) สูงสุดที่ในตลาดมือถือตอนนี้ที่ 270Hz (touch latency 25ms)  รองรับ HDR10+ มีกล้องหน้าแบบ In-Display ความละเอียด 24MP (F2.0) พร้อมกล้อง Triple camera ความละเอียด 64MP (F1.8), กล้องมุมกว้างพิเศษ (Ultrawide angle) ความละเอียด 12MP (F2.4) และกล้องมาโครความละเอียด 5MP (F2.4) มีไฟแฟลช LED มาให้ในตัว 
ASUS ROG Phone 3 มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 865+ ความเร็ว 3.1GHz (Strix Edition ความเร็ว 2.84GHz) GPU Adreno 650, RAM 8/12GB (LPDDR5) และ ROM 256/512GB (UFS3.1), Android 10 with ROG UI ไม่รองรับ MicroSD Card แต่รองรับการเชื่อมต่อ NTFC External HDD จัดเต็มด้วยแบตเตอรี่ 6,000 mAh (รองรับชาร์จไว QuickCharge 30W)
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 22 ต.ค. 2563)
  • 24,990 บาท (ราคาเครื่องเปล่า สำหรับรุ่น Strix Edition)
  • 32,990 บาท (ราคาเครื่องเปล่ารุ่นท็อป)
สมาร์ทโฟนรองรับ 5G จากแบรนด์ Xiaomi

Xiaomi Mi 10T Pro 5G

Xiaomi Mi 10T 5G

Xiaomi Mi 10T Pro 5G และ Xiaomi Mi 10T 5G

Xiaomi Mi 10T Pro 5G และ  Mi 10T 5G สมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่เรียกเสียงฮือฮาเป็นอย่างมากในวันที่เปิดจอง สำหรับ 2 รุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอแสดงผล AdaptiveSync TrueColor 144Hz ขนาด 6.67 นิ้ว พร้อมด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 865 5G, Adreno 650 GPU,  UFS3.1 และ LPDDR5 จัดเต็มด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็วแบบใช้สาย 33W
ด้านกล้องถ่ายภาพ Xiaomi Mi 10T Pro โดดเด่นเหนือกว่าแบรนด์คู่แข่งด้วย กล้องความละเอียด 108MP ตัวแรกของโลก พร้อมด้วยกล้อง Ultrawide 13MP และกล้อง Macro 5MP ส่วนรุ่นเล็กอย่าง Xiao Mi 10T มาพร้อมกล้องหลัก 64MP พร้อมด้วยกล้อง Ultrawide 13MP และกล้อง Macro 5MP ทั้งคู่มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 20MP Ultra-clear
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 10 พ.ย. 2563)
Xiaomi Mi 10T Pro 5G 
  • 13,900 บาท (ราคาเครื่องเปล่า สำหรับรุ่น  RAM 8GB และ ROM 128GB)
  • 15,900 บาท (ราคาเครื่องเปล่า สำหรับรุ่น  RAM 8GB และ ROM 256GB)
Xiaomi Mi 10T 5G 
  • 12,900 บาท (ราคาเครื่องเปล่า สำหรับรุ่น  RAM 8GB และ ROM 128GB)
สมาร์ทโฟนรองรับ 5G จากแบรนด์ Motorola

Motorola Razr 5G

Motorola Razr 5G สมาร์ทโฟนหน้าจอพับที่ได้รับแรงบรรดาลใจในส่วนของการดีไซน์จากโทรศัพท์มือถือรูปทรงฝาพับที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดเท่าที่เคยมีมาจากปี 2014 สำหรับรุ่นปี 2020 มาพร้อมดีไซน์ที่สวยงาม และลงตัวและสวยยิ่งขึ้น หน้าจอ Foldable P-OLED ขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด 876 x 2142 pixels (373 ppi) หน้าจอด้านนอกเป็น G-OLED ขนาด 2.7 นิ้ว ความละเอียด 800 x 600 pixels (370 ppi) หน้าจอนอกรองรับฟีเจอร์ Camera, Messages, Calculator, Google Keep, Google News, Google Home และ YouTube
Motorola Razr 5G ทำงานบน Android 10, Qualcomm Snapdragon 765G, GPU Adreno 620, RAM 6GB, ROM 128GB แบตเตอรี่ความจุ 2800 mAh รองรับชาร์จเร็ว 15W, กล้องหน้าความละเอียด 20MP และกล้องหลังความละเอียด 48MP F1.7, 26 มม. (Wide), OIS, PDAF + TOF, บันทึกวีดีโอความละเอียด 4K 30FPS
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 10 พ.ย. 2563)
  • 44,990 บาท (ราคาเครื่องเปล่า)

moto G 5G Plus

moto G 5G Plus สมาร์ทโฟน 5G จาก โมโต มาพร้อมจอแสดงผลขนาด 6.7 นิ้ว CinemaVision แบบ FHD+ ในอัตราส่วน 21:9 พร้อมด้วยชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 765 RAM 8GB และ ROM 128 GB มาพร้อมกล้อง 4 เลนส์ ประกอบด้วย กล้องหลัก 48MP, กล้อง Marco 5MP, กล้อง UltraWide 8MP และกล้อง depth 2MP พร้อมด้วยกล้องหน้าคู่ 16+8MP
moto G 5G Plus จัดเต็มมาก ๆ ด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000 mAh ที่ใช้งานได้นานถึง 2 วันเต็มโดยไม่ต้องเสียบชาร์จ นอกจากนี้ ระบบชาร์จ TurboPower สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานนับชั่วโมงด้วยการชาร์จเพียงไม่กี่นาที
ราคาการวางจำหน่าย (ณ วันที่ 4 ธ.ค. 2563)
  • 9,990 บาท (ราคาเครื่องเปล่า)
แท็กที่เกี่ยวข้อง samsung huawei oppo 5g 5g smartphone มือถือรองรับ 5g มือถือรองรับ 5g ในไทย มือถือรองรับ 5g 2020
Mobile Guru
เขียนโดย สโรชา ศรีชัย Mobile Guru

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)