รีวิว OPPO Reno สมาร์ทโฟนกล้องคู่ 48 ล้านพิกเซลคุณภาพสูง ถ่ายสวยทุกสภาพแสง

OPPO Reno สมาร์ทโฟนคุณภาพสูงอีกหนึ่งรุ่นจาก OPPO Reno Series ที่มาพร้อมดีไซน์ระดับพรีเมี่ยม และสเปคการใช้งานระดับสูง พร้อมกล้องคู่ความละเอียด 48MP ที่ถ่ายได้สวยทุกสภาพแสง แถมยังมีกล้องหน้าเลื่อนขึ้น-ลงแบบใหม่ Pivot-Rising ที่จะซ่อนทั้งกล้องหน้า, ลำโพงสนทนา, เซ็นเซอร์ และไฟแฟลชของกล้องหลัง ไว้ได้อย่างแนบเนียนและสวยงาม ทำให้หน้าจอดูไร้ขอบสมบูรณ์แบบ Panoramic full-screen รวมทั้งตัวเครื่องเรียบเนียนไร้จุดสะดุด กล้องหลังคู่เรียบเนียนไปกับฝาหลังอย่างสมบูรณ์แบบมากๆ ถ้าได้ลองสัมผัสจะต้องประทับใจกันอย่างแน่นอน

ล่าสุด OPPO ได้เปิด RenoVision งานครีเอทีฟสุดยิ่งใหญ่ จากการผสมผสานนวัตกรรมล้ำสมัยบนรากฐานแรงบันดาลใจที่มาจากสมาร์ทโฟนสุดพรีเมี่ยมแห่งยุค OPPO Reno Series สมาร์ทโฟนพรีเมี่ยมรุ่นล่าสุด มาสัมผัสสมาร์ทโฟนที่ไม่เหมือนใคร OPPO Reno และ OPPO Reno 10x Zoom กันได้แล้ววันนี้ ถึงวันที่ 30 มิถุนายนนี้ เวลา 10.00 - 22.00 น. ณ ลานพาร์คพารากอน (คลิกเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม) สำหรับ OPPO Reno วางจำหน่ายแล้ว ในราคา 16,990 บาท โดยมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สี Ocean Green และสี Jet Black

OPPO Reno และ OPPO Reno 10x Zoom

การเชื่อมต่อของ OPPO Reno มีรายละเอียดดังนี้

• GSM 850 / 900 / 1800 / 1900
• HSDPA 800 / 850 / 900 / 1700(AWS) / 1900 / 2100
• LTE band 1(2100), 2(1900), 3(1800), 4(1700/2100), 5(850), 8(900), 34(2000), 38(2600), 39(1900), 40(2300), 41(2500)
• Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot
• Bluetooth 5.0, A2DP, EDR, LE, aptX HD
• GPS, A-GPS, GLONASS, GALILEO, BDS
• USB Type-C, USB On-The-Go

OPPO Reno มีรายละเอียดสเปคดังต่อไปนี้

• ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 710
• CPU Octa-core (2x2.2 GHz Kryo 360 Gold & 6x1.7 GHz Kryo 360 Silver)
• GPU Adreno 616
• RAM 6GB
• ROM 256GB (รองรับ MicroSD)
• เซ็นเซอร์ Face Unlock, Fingerprint (under display) ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยี Hidden Fingerprint Unlock 2.0, accelerometer, gyro, proximity, compass
• ทำงานบน Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย ColorOS 6

• ทดสอบด้วยแอปพลิเคชั่น AnTuTu Benchmark ทำไปได้ 154,494 คะแนน
• ทดสอบ MultiTouch รองรับ 10 จุด
• ทดสอบด้วยแอปพลิเคชั่น AndroBench ทำความเร็วในการอ่านอยู่ที่ 480.15 MB/s (UFS 2.0 Storage)
• ทดสอบด้วยแอปพลิเคชั่น Screen Info หน้าจอ 60 FPS
• รองรับ DRM L1 สามารถรับชม Netflix HD
• ทดสอบสัญญาณ GPS จับสัญญาณได้อย่างรวดเร็วดีมาก

OPPO Reno มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 3,765 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว VOOC 3.0 (20W) จากการทดสอบแบตเตอรี่อึดใช้ได้ครับ สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน แถมยังรองรับชาร์จเร็วทำให้ไม่ต้องห่วงว่าแบตเตอรี่จะหมดก่อนกลับถึงบ้าน สบายใจได้เลย

OPPO Reno มาพร้อมกล่องที่ดูหรูหราเหมือนกับรุ่นพี่อย่าง OPPO Reno 10x Zoom ภายในกล่องจะมีอุปกรณ์ดังต่อไปนี้

• ตัวเครื่อง OPPO Reno (ติดกันรอยมาให้แล้ว)
• อะแดปเตอร์ VOOC 3.0 (20W)
• สาย USB Type-C
• หูฟังแบบ Ear-Bud
• เข็มจิ้มซิม
• เคสใส
• คู่มือ

เคสที่แถมมาในรุ่นนี้จะเป็นเคสใสครับ เนื้องานใช้ได้เลย ยืดหยุ่นได้ดีไม่จำเป็นต้องซื้อเพิ่ม

OPPO Reno มาพร้อมดีไซน์ที่สวยงามมากๆ วัสดุและงานประกอบคุณภาพสูง หน้าจอ Panoramic full-screen ชนิด AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รองรับ DCI-P3 ความคมชัดสูงถึง 60,000:1, อัตราส่วน 19.5:9, อัตราส่วนหน้าจอสูงถึง 93.1% ขอบหน้าจอบางเฉียบ กระจก Corning Gorilla Glass 6 มีเทคโนโลยีถนอมดวงตาลดแสงสีฟ้า ซึ่งได้รับการรับรองจากสถาบัน TUV Rheinland โดดเด่นด้วยกล้องหน้า Pivot-Rising ความละเอียด 16MP F2.0 พร้อมไฟแฟลชกล้องหน้า-หลัง ลำโพงสนทนา รวมทั้งเซ็นเซอร์ต่างๆ ดีไซน์สวยงามมากๆเหมือนกับ OPPO Reno 10x Zoom เลยครับ มีความทนทานสูง หากเราเผลอทำมือถือหลุดมือ กล้องหน้า Pivot-Rising จะเลื่อนเก็บโดยอัตโนมัติ

OPPO Reno รองรับ Fingerprint (under display) ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยี Hidden Fingerprint Unlock 2.0 เป็นการสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ ซึ่งมีความแม่นยำและรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม จากการทดสอบมีความแม่นยำสูง และรวดเร็วดีมาก นอกจากนี้ยังรองรับ Face Unlock สแกนใบหน้าอีกด้วย

OPPO Reno มาพร้อมฝาหลังดีไซน์ไล่เฉดสีสวยงาม สำหรับสี Ocean Green ที่นำมารีวิว จะเป็นผิวด้านผสมในส่วนที่เป็นผิวเงาดูสวยงาม มีการเคลือบอย่างดี ทำให้ไม่เป็นรอยนิ้วมือง่ายๆ รวมทั้งเป็นรอยขีดข่วนได้ยาก บริเวณกล้องคู่จะเรียบเนียนไปกับฝาหลังไม่มีส่วนที่นูนขึ้นมาเลยครับ นอกจาก O-Dot เป็นปุ่มขนาดเล็ก ช่วยในการยกฝาหลังให้ไม่สัมผัสกับพื้นโดยตรงเมื่อวางเครื่องบนโต๊ะ ดีไซน์ดูสวยงามมากจริงๆ ครับ

OPPO Reno ด้านบนมีกล้องหน้าเลื่อนขึ้น-ลงแบบใหม่ Pivot-Rising และไมค์ตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างมีพอร์ทหูฟัง 3.5 มม. ไมโครโฟน พอร์ท USB Type-C และลำโพง (รุ่นนี้มีลำโพงคู่นะครับ รองรับระบบเสียง Dolby Atmos) ด้านซ้ายมีปุ่มปรับระดับเสียงและถาดใส่ซิม ด้านขวามีปุ่ม Power

OPPO Reno ทำงานบน Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย ColorOS 6 มาพร้อมสเปคที่น่าสนใจ Qualcomm Snapdragon 710, GPU Adreno 616, RAM 6GB, ROM 256GB รองรับ MicroSD อย่างที่ทราบกันครับว่า ColorOS 6 ออกแบบได้เรียบหรูมากๆ หน้าตา UI ดูสวยงามและสะอาดตา แต่ก็แฝงมาด้วยลูกเล่นที่จัดจ้านและครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นระบบผู้ช่วยอัจฉริยะ Smart Assistant, Smart Gesture ที่หลากหลายและลื่นไหล, ฟีเจอร์โคลนแอปพลิเคชั่น สามารถใช้งานแอปพลิเคชั่นโซเชียลยอดนิยมได้พร้อมกัน 2 แอคเคาท์ ในสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว, App Split-Screen เป็นการแบ่งหน้าจอเป็น 2 ส่วนสามารถทำงานได้หลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน ทั้งหมดนี้มีมาให้ครบถ้วน และทำงานได้อย่างรวดเร็วลื่นไหล สมกับเป็นสมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยมจริงๆ ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ยิ่งใช้งานบนหน้าจอไร้ขอบสมบูรณ์แบบ Panoramic full-screen ยิ่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่น่าประทับใจมากจริงๆ

OPPO Reno มอบประสบการณ์ความบันเทิงได้ไม่แพ้รุ่นท็อปครับ มาพร้อมฟีเจอร์ HyperBoost 2.0, Frame Boost และ Touch Boost ช่วยในการวิเคราะห์ และเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม รวมทั้ง ฟีเจอร์ Game Space ช่วยอำนวยความสะดวกในการเล่นเกม ช่วยในการปรับแต่งการแจ้งเตือนต่างๆ ทดสอบด้วยเกม ROV สามารถเล่นได้ 39-60 FPS และเกม PUBG สามารถปรับภาพ HD และเฟรมเรทระดับสูง โดยรวมถือว่าเหมาะกับการเล่นเกมครับ ในราคาที่คุ้มค่า นอกจากนี้เล่นเกมนานๆ เครื่องก็ไม่ร้อน แถมยังเต็มอิ่มทุกความบันเทิงด้วยระบบเสียง Dolby Atmos

OPPO Reno กล้องคู่ 48MP F1.7, PDAF + 5MP F2.4, depth sensor และกล้องหน้าเลื่อนขึ้น-ลงแบบใหม่ Pivot-Rising โดยไฟแฟลชของกล้องหลังก็จะซ่อนอยู่ในนี้ด้วย บันทึกวีดีโอ 4K 30FPS มาพร้อมระบบกันสั่น EIS สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นนี้แม้จะไม่มีฟีเจอร์ Ultrawide มาให้ แต่ด้วยที่เลนส์หลัก 48MP มีช่วงกว้างถึง 26 มม. ทำให้ได้มุมมองภาพที่ดูกว้าง ถ่ายออกมาสวยมากๆเลยครับ และมี Dazzle Color Mode 2.0 เป็นการชดเชยสีสันของภาพให้สวยสดงดงามมากยิ่งขึ้น รวมทั้ง Ultra Night Mode 2.0 ช่วยในการถ่ายภาพกลางคืน รองรับ Artistic Portrait ช่วยในการถ่ายภาพบุคคลได้อย่างสวยงาม ช่วยปรับแต่งโทนสีผิวให้สวยสดใสได้ถึง 5 รูปแบบ แม้จะมีไม่เยอะแต่สวยและใช้งานจริงได้ทุกแบบเลยครับ รวมไปถึงการถ่ายภาพ Selfie ที่สวยงามมากๆ มีการนำ AI มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จากการทดสอบ ต้องบอกว่ากล้องของ OPPO Reno คุณภาพดีมากครับ ถ่ายได้สวยทุกสภาพแสงจริงๆ AI ฉลาดมากๆ สามารถสร้างงานดีๆ ให้กับผู้ใช้ได้อย่างน่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นภาพกลางวัน หรือกลางคืนก็ล้วนสวยงามมากๆเลยครับ มาชมตัวอย่างภาพถ่ายกันได้เลย

ตัวอย่างภาพถ่าย Selfie ด้วย OPPO Reno

ตัวอย่างภาพถ่ายด้วย OPPO Reno

ตัวอย่างภาพถ่ายด้วย OPPO Reno กับฟีเจอร์ Artistic Portrait

ภาพต้นฉบับ

01

02

03

04

05

ตัวอย่างภาพถ่ายด้วย OPPO Reno กับฟีเจอร์ Portrait

ตัวอย่างภาพถ่าย OPPO Reno (Ultra Night Mode 2.0)

OPPO Reno เป็นสมาร์ทโฟนจาก ออปโป้ อีกรุ่นที่น่าสนใจมากๆ ทั้งในส่วนของดีไซน์ที่สวยงามเหมือนรุ่นพี่อย่าง OPPO Reno 10x Zoom สเปคที่น่าสนใจ และกล้องคุณภาพสูงที่ให้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่งจริงๆ สวยทุกสภาพแสงเลย เป็นสมาร์ทโฟนที่ในวันสบายๆ ผมสามารถพกไปได้โดยไม่ต้องพกกล้องไปด้วยเลยครับ เพราะสิ่งที่ได้รับกลับมามันเกินความคาดหมายจริงๆ และนี่คือสมาร์ทโฟนที่คุณจะต้องทึ่งครับกับ OPPO Reno สมาร์ทโฟนที่เหนือความคาดหมาย ถ้าได้ลองแล้วจะติดใจครับ

จุดเด่นของ OPPO Reno

1. ดีไซน์พรีเมี่ยมสวยงาม
2. หน้าจอไร้ขอบสมบูรณ์แบบ Panoramic full-screen ใช้งานได้อย่างเต็มตายิ่งกว่าที่เคย
3. การทำงานรวดเร็วและลื่นไหลสมเป็นสมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยม
4. Hidden Fingerprint Unlock 2.0 สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ ซึ่งมีความแม่นยำและรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม
5. กล้องหน้า Pivot-Rising สุดพรีเมี่ยม และเปี่ยมด้วยเทคโนโลยี รวมทั้งความทนทานสูง Selfie สวยสมบูรณ์แบบ
6. กล้องคู่ 48MP F1.7, PDAF + 5MP F2.4, depth sensor มอบประสบการณ์การถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยม
7. แบตเตอรี่ความจุ 3,765 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว VOOC 3.0 ใช้งานได้อย่างยาวนาน

จุดสังเกตของ OPPO Reno

1. ไม่มีฟีเจอร์ถ่ายภาพแบบ Ultrawide

OPPO Reno วางจำหน่ายแล้ว ในราคา 16,990 บาท โดยมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สี Ocean Green และสี Jet Black เป็นสมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยม ในราคาที่น่าสนใจมากๆ ครับ ทั้งการใช้งาน ดีไซน์ วัสดุการประกอบ รวมทั้งกล้องคุณภาพสูงที่ใว้วางใจได้ ถือว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ามากๆ อีกรุ่นนึงในตอนนี้เลยครับ

เพื่อนๆ สามารถอ่านรีวิว OPPO Reno 10x Zoom สมาร์ทโฟนรุ่นท็อปที่มาพร้อม 10x hybrid zoom และ 60X Digital Zoom ครั้งแรกของโลก ได้ตามลิงก์ด้านล่างนี้ได้เลยครับ