");
รีวิว realme C2 สมาร์ทโฟนกล้องคู่ 13+2MP และแบตฯ 4,000mAh ในราคาทุกคนเข้าถึงได้
realme C2 เป็นสมาร์ทโฟน Entry Level รุ่นใหม่ของ realme ประเทศไทย ที่มาพร้อมราคาค่าตัวที่ทุกคนเข้าถึงได้เหมือนรุ่นก่อน และอาจเรียกได้ว่าเป็นรุ่นที่จะมาต่อยอดความสำเร็จจากรุ่นแรกที่ realme C1 ทำไว้ค่อนข้างดีก็ว่าได้ มิเช่นนั้นทาง realme คงไม่กล้าที่ตั้งชื่อนิยามของ realme C2 ไว้ว่า
"King of Entry-Level" แน่นอน โดยจุดเด่นของ realme C2 ยังคงเน้นไปที่เรื่องของการเป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่มีความคุ้มค่าครบทุกมุมด้านการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น ด้านของสเปกตัวเครื่องที่จัดมาให้แบบเต็มที่เท่าที่จะใส่มาให้ได้ หรือจะเป็นฟิลลิ่งการใช้งานที่ใช้งานได้ครอบคลุมทุกโจทย์พื้นฐานในชีวิตประจำวัน
รวมไปถึงงานดีไซน์ตัวเครื่องที่ทำออกมาได้ดูดีมากๆ จนผมเชื่อเลยว่าถ้าเรามองไปในตลาด Entry-Level ของประเทศไทยในตอนนี้ ไม่น่าจะมีใครที่ทำดีไซน์สมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นออกมาได้ดูดีขนาดนี้เท่า realme C2 อีกแล้ว และนี้ก็อาจจะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเดียวในตลาดที่ทำได้ก็ว่าได้นะ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ จะเป็นอย่างไร ความคุ้มค่าที่ผมได้เกริ่นไปจะจริงหรือไม่ รวมไปถึงฟิลลิ่งการใช้งานจริงเป็นอย่างไร ตามไปชมกันได้ด้านล่างเลยครับจัดมาให้ครบถ้วนแล้ว!
กล่องของ realme C2 ครั้งนี้มาในโทนสีส้มเหลืองทั้งกล่อง ด้านหน้ามีคำว่า "C2" ชัดเจนเอาให้เห็นกันชัดๆ ไปเลย ส่วนภายในกล่องจะมาพร้อมอุปกรณ์ ดังนี้
- ตัวเครื่อง realme C2
- สายชาร์จ MicroUSB - USB
- อแดปเตอร์ชาร์จไฟ
- คู่มือการใช้งาน-การรับประกัน
realme C2 มาพร้อมคอนเซ็ปท์การออกแบบตัวเครื่อง "Diamond Cut" ที่มีการนำเทคโนโลยี Laser Cutting มาผสมผสานเข้ากับผงไข่มุก มาเพ้นท์ลงไปบนฝาหลังตัวเครื่องโดยตรงถึง 3 ชั้น จนได้ฝาหลังที่มีลวดลายเหลี่ยมเพชรบน C2 แบบที่เห็น ส่วนผิวสัมผัสก็จะรู้สึกแบบด้าน (Matte) ซึ่งปกติแล้วมือถือส่วนใหญ่มักจะมีกระจกหรือวัสดุอะไรครอบทับปิดการออกแบบเอาไว้ แต่สำหรับ C2 คุณจะได้สัมผัสงานออกแบบโดยตรงที่ฝาหลังได้เลย ซึ่งผมชอบมากๆ เลยล่ะ ในขณะที่มิติตัวเครื่องกว้าง 73.7 x สูง 154.3 x หนา 8.5 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักรวมอยู่ที่ประมาณ 166 กรัม
ด้านหน้ามาพร้อมหน้าจอแสดงผล Dew drop หรือหน้าจอแบบหยดน้ำขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 1560 x 720 พิกเซล (HD+) มีพื้นที่หน้าจอให้ใช้งาน (screen ratio) 89.35% และมีอัตราส่วนการแสดงผลอยู่ที่ 19.5 : 9
ด้านล่างตัวเครื่อง มีลำโพงเสียงตัวเครื่อง, พอร์ต MicroUSB, ลำโพงสนทนา และรูเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
ด้านซ้ายตัวเครื่อง มีถาดสำหรับใส่การ์ดแบบ Triple slot ( 2 ซิมการ์ด + 1 MicroSD card) และปุ่มปรับระดับเสียงเพิ่ม-ลด
ด้านขวาตัวเครื่อง มีปุ่มกดเปิด-ปิด ตัวเครื่อง (Power)
ด้านหลังตัวเครื่อง นอกจากฝาหลังลวดลายเหลี่ยมเพชรที่สวยงามแล้ว บริเวณมุมซ้ายบนจะมีกล้องคู่ความละเอียด 13+2 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชมาให้
realme C2 มาพร้อมรายละเอียดสเปกตัวเครื่อง ดังนี้
- หน้าจอแสดงผลหยดน้ำขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+
- CPU MediaTek Helio P22 (Octa-core TSMC 12nm FinFET)
- GPU PowerVR GE8320
- RAM 3GB
- ROM 32GB
- MicroSD Card 256GB
- Dual Camera 13+2 ล้านพิกเซล (Chroma boost, AI)
- Front Camera 5 ล้านพิกเซล (AI)
- Color OS 6.0 (Base on Android Pie)
- Dual SIM
- Dual VoLTE
- Bluetooth 4.2
- WiFi 2.4GHz
- Battery 4,000 mAh
Color OS 6.0 Base on Android Pie
มาส่วนของซอฟท์แวร์กันบ้าง สำหรับ realme C2 เลือกใช้ Color OS 6.0 เป็นระบบปฏิบัติการหลักในการทำงานของตัวเครื่อง ซึ่งพื้นฐานของ OS ก็อิงมาจาก Android OS 9.0 เลย ดังนั้นใครที่กังวลว่าจะใช่ Android หรือป่าว ก็ไม่ต้องกังวลไปครับ ใช้งานต่างๆ ได้เหมือนกันทั้งหมดหรือจะโหลดแอปจาก Google Play Store ก็ทำได้ตามปกติเหมือนสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ทั่วไปเลย ส่วนการใช้งานของ Color OS 6.0 ก็สามารถเริ่มต้นใช้งานได้ง่ายมากๆ เพราะตัว UI ของระบบออกแบบมาให้มีความซับซ้อนน้อยมาก และจากหน้าโฮมเราสามารถปัดขึ้นเพื่อเข้าสู่หน้าเมนู App drawer ได้ทันที
แถบเมนูการแจ้งเตือน - MultiTasking
ฟีเจอร์เด่น (OTG - Clone app - แบ่งหน้าจอใช้งาน)
ประสิทธิภาพการทำงาน - ความบันเทิง
realme C2 เลือกใช้ชิปประมวลผลเป็น MediaTek Helio P22 ซึ่งเป็นชิป Octa-core ที่ใช้สถาปัตยกรรม TSMC 12nm FinFET รวมทั้งยังมาพร้อมเทคโนโลยี Core Pilot ที่เป็นเทคโนโลยีการจัดการทรัพยากร ที่ช่วยให้การใช้พลังงานบนตัวเครื่องประหยัดมากขึ้น ในขณะที่ด้านประสิทธิภาพเมื่อทำงานร่วมกับ RAM 3GB ที่ให้มา ก็เพียงพอกับการใช้งานพื้นฐานทั่วไปบนตัวเครื่องแล้ว เช่น เล่นโซเชี่ยลต่างๆ , ดู Youtube, ตอบไลน์ หรืออ่านไฟล์เอกสารต่างๆ ในขณะที่ด้านการใช้งาน Maps สำหรับเดินทาง ตัว GPS ของเครื่องตอนเริ่มต้นนำทาง อาจใช้เวลาในการจับสัญญาณดาวเทียมอยู่สักหน่อย 1-2 นาที และเมื่อจับได้แล้วสามารถใช้นำทางได้ดี ถึงแม้จะมีหลุดบ้างเป็นบางครั้ง แต่ก็รีสัญญาณกลับมาได้ไวอยู่เหมือนกัน
คะแนนทดสอบประสิทธิภาพการทำงานด้วยแอปพลิเคชั่น Benchmark
- ทดสอบด้วยแอปฯ AnTuTu Benchmark ได้คะแนน 77,790 คะแนน
- ทดสอบด้วยแอปฯ GeekBench 4 ได้คะแนน Single Core 827 และ Multi Core 3,283 คะแนน
- ทดสอบด้วยแอปฯ MultiTouch Tester รองรับการสัมผัสสูงสุด 10 จุด
- การจับสัญญาณทดสอบด้วย GPS Tester จับสัญญาณได้ปานกลาง (สังเกตจากแถบสี)
สำหรับด้านความบันเทิง
realme C2 ได้ใส่ระบบเสียง Real Original Sound ที่เป็นระบบปรับแต่งเสียง (EQ) ให้ใกล้เคียงกับไฟล์ต้นฉบับมากที่สุดมาให้ด้วย ทำให้เราสามารถเลือกปรับโทนสีในย่านต่างๆ ได้ตามต้องการ ซึ่งตรงนี้ผมว่าโอเคเลยนะสำหรับมือถือ Entry-level แล้วใส่ฟีเจอร์นี้มาให้ด้วย เพราะช่วยให้เรารับฟังเสียงทั้งจากวีดีโอหรือสตรีมมิ่งวีดีโอได้อรรถรสมากขึ้นเยอะเลย และจากการลองใช้งานบอกเลยว่าช่วยได้จริงๆ นะ แนะนำให้ลองปรับกันแล้วจะเห็นโลกอีกใบที่สนุกขึ้นเลยล่ะ
มากันที่เรื่องของเกมกันบ้าง เชื่อว่าหลายคนพอเห็นว่า realme C2 เป็นเพียงสมาร์ทโฟน Entry ก็อาจจะคิดว่าน่าจะเล่นเกมอย่าง ROV, PUBG หรือ Identity V ไม่ได้แน่ๆ ซึ่งอยากให้ลบความคิดนี้ไปเลยครับ เพราะเกมเหล่านั้น realme C2 สามารถเล่นได้ และเล่นได้ในแบบที่เรารู้สึกสนุกไปกันเกมได้ด้วยนะ
เพราะ GPU PowerVR GE8320 ที่มาพร้อมกับชิป Helio P22 บน realme C2 นั้น จัดว่าเป็นชิปประมวลผลกราฟฟิกที่สามารถประมวลผลเกมได้ในระดับเริ่มต้น - กลาง ดังนั้นเราจึงสามารถเล่นเกมดังๆ ได้ เพียงแต่อาจปรับโหมดกราฟฟิกระดับสูง (High Frame rate) ไม่ได้เท่านั้นเอง ส่วนการทัชการตอบสนองก็ทำได้ในระดับที่มือถือระดับเริ่มต้นควรจะเป็นครับ
มากันที่เรื่องราวของแบตเตอรี่ ที่เป็นขุมพลังงานทั้งหมดบนตัวเครื่องกันบ้าง สำหรับ realme C2 จะมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดความจุ 4,000 mAh ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี core Pilot ของ MediaTek ที่ติดมากับชิปประมวลผล ทำให้เรื่องของการจัดการทรัพยากรต่างๆ บนตัวเครื่องนั้นหายห่วง
เพราะตัวระบบจะมีการปรับลดการทำงาน การกินไฟ ของฮาร์ดแวร์กับซอฟท์แวร์ไปพร้อมๆ กันทำให้ประหยัดพลังงานขึ้น ซึ่งจากที่ผมลองใช้งานดูในหนึ่งวันก็รู้สึกว่ามันก็อึดอยู่นะ แต่ยังไม่สุดเท่าไร เพราะผมลองชาร์จเต็มมาตั้งแต่เช้า และก็ลองใช้งานทั่วไป เล่นเกมบ้าง ฟังเพลงออนไลน์ คุยไลน์ เล่นเฟสแบบปกติในหนึ่งวัน แบตเตอรี่ก็อยู่ได้ถึงประมาณช่วงเย็นๆ เท่านั้น ก่อนที่จะขึ้นเตือนแดง
realme C2 เป็นสมาร์ทโฟนเพียงหนึ่งเดียว ณ ตอนนี้ สำหรับตลาดสมาร์ทโฟน Entry-Level ในเมืองไทย ที่เลือกใส่กล้องถ่ายรูปแบบ Dual camera มาให้ ความละเอียด 13+2 ล้านพิกเซล พร้อมใส่ฟีเจอร์จากรุ่นท็อปอย่าง Chroma boost กับความสามารถในการเร่งสีสันของภาพถ่ายให้สดสมจริงได้มาให้ด้วย ส่วนกล้องหน้าก็ให้ความละเอียดมาที่ 5 ล้านพิกเซล มีโหมดบิ้วตี้ให้เลือกปรับเหมือนกัน ซึ่งทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังทำงานด้วยซอฟท์แวร์ AI ทั้งคู่
หน้าเมนูกล้องถ่ายรูป
ภาพถ่ายตัวอย่างจากกล้องคู่ realme C2
indoor (ในร่ม)
Outdoor (กลางแจ้ง)
Foods (อาหาร)
Portrait (ภาพถ่ายบุคคล)
Bokeh effect
Chroma Boost (เร่งสี)
ภาพตัวอย่างจากกล้องหน้า
realme C2 เป็นสมาร์ทโฟน Entry-Level ที่ผมมองว่า "เขาคือหนึ่งในสองตัวเลือกแรกของมือถือ Entry ที่น่าซื้อที่สุดในตอนนี้จริงๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกหรืองานออกแบบตัวเครื่อง ที่แทบจะไม่มีใครตลาดใส่มาให้ได้เท่าขนาดนี้ ประกอบกับราคาวางจำหน่าย 3,999 บาท ยิ่งทำให้รู้สึกน่าซื้อขึ้นไปอีก ก็เอาเป็นว่าใครที่สนใจจับจอง realme C2 ไปใช้งานเป็นเครื่องใหม่กันอยู่ ทาง realme เขาจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2562 เป็นต้นไป สามารถไปหาซื้อกันได้ที่ร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศได้เลยครับ
จุดเด่น
- ดีไซน์สวย เกินราคา
- แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,000 mAh
- รองรับซิมการ์ด 2 ซิม แบบ Dual VoLTE ด้วย
- กล้องคู่ความละเอียด 13+2 ล้านพิกเซล
- เพิ่ม MicroSD Card ได้มากถึง 256GB
- ราคาเข้าถึงได้ทุกคน
จุดสังเกต
- ไม่มีหูฟังแถมมาให้ในกล่อง
- ขาดระบบชาร์จไว