realme C2 กับความเป็นที่สุดของสมาร์ทโฟน Entry-Level ในราคาที่ทุกคนเป็นเจ้าของได้
หลังจากประสบความสำเร็จกับการส่งน้องเล็กสุดท้องอย่าง realme C1 ลุยตลาดไทยไปในปีที่แล้ว ปีนี้ทาง realme ก็เดินหน้าต่อยอดความสำเร็จกับตลาดสมาร์ทโฟน Entry-Level กันแรงๆ อีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว
realme C2 ทายาทซีรีย์ C รุ่นใหม่ของบริษัท ที่ครั้งนี้ยังคงมาด้วยคอนเซ็ปท์ความคุ้มค่าเหมือนเช่นเดิม เพิ่มเติมคือคุ้มยิ่งขึ้นกว่า ส่วนจะคุ้มค่ายิ่งขึ้นอย่างไร จุดเด่นและความน่าซื้อของ realme C2 อยู่ตรงไหน รวมถึงเมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้วเป็นอย่างไร? ตามไปหาคำตอบพร้อมกันได้เลยครับ!
รู้จัก realme C2 ผ่าน 5 จุดเด่นที่ชวนให้หลงไหล
realme C2 ถึงแม้จะถูกวางตำแหน่งให้ทำตลาดสมาร์ทโฟนระดับ Entry-Level แต่กลับมาพร้อมสเปกตัวเครื่องที่ใส่มาให้จนรู้สึกว่า "ไม่น่าใช่สมาร์ทโฟน Entry-Level" เลยทีเดียว ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไร เพราะทาง realme เองก็ตั้งชื่อฉายาให้กับรุ่นนี้ไว้ว่า "King of entry level" ถ้าไม่มั่นใจว่าคุ้มค่าที่สุด คงจะไม่ได้ชื่อนี้มาแน่ๆ จะจริงหรือไม่เอาเป็นว่าลองตามไปดูความคุ้มค่าที่ว่านั้นผ่าน 5 จุดเด่นที่หยิบมาแนะนำกัน
Design (ดีไซน์)
มาเริ่มกันที่เรื่องราวของงานออกแบบกันก่อน เพราะจัดว่าเป็นประตูบานแรกที่จะดึงดูดให้ทุกคนสนใจ โดย realme C2 มาพร้อมคอนเซ็ปท์การออกแบบ Diamond Cut ที่มีการนำเทคโนโลยี Laser Cutting ทำให้เกิดลวดลายเหลี่ยมเพชรที่สวยงามบนฝาหลัง และมีการใช้ผงไข่มุกผสานลงไปบนวัสดุทำให้เกิดประกายที่งดงาม ดูมีมิติ หรูหรา สื่อให้เห็นถึงความสวยหรูหราในทุกมุมมอง ซึ่งบอกเลยว่าเราคงหาดีไซน์สวยๆ แบบนี้ในสมาร์ทโฟน Entry-Level ได้ยากถึงยากที่สุดเลยล่ะ
Display (หน้าจอแสดงผล)
ถ้าหากดีไซน์คือประตูบานแรกแล้ว เรื่องของหน้าจอแสดงผลก็คงเป็นลูกบิดของประตูนั้น ที่จะเชิญชวนให้ทุกคนลองเปิดประตู realme C2 เข้ามาสัมผัสดู สำหรับหน้าจอแสดงผลของ realme C2 เลือกใช้หน้าจอแบบ Dewdrop Full Screen หรือหน้าจอหยดน้ำขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+ มีพื้นที่การใช้งานบนหน้าจอมากถึง 89.35% และมีอัตราการแสดงผลอยู่ที่ 19.5.9 ทำให้รับชมคอนเทนท์ต่างๆ ได้เต็มตามากๆ
ส่วนถ้าใครที่กังวลว่าหน้าจอจะไม่สู้แสงแน่ๆ เพราะส่วนใหญ่หน้าจอแสดงผลในมือถือระดับเริ่มต้นมักจะไม่สู้แสง เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นกับ realme C2 เพราะมีการนำวัสดุ APCF มาใช้งานบนหน้าจอทำให้สามารถใช้งานภายใต้แสงอาทิตย์สว่างมากๆ ได้
Battery So Big!!
เรื่องของแบตเตอรี่กลายเป็นอีกปัจจัยสำคัญ ที่ผู้ใช้งานหลายคนต่างให้ความสำคัญและใช้เป็นข้อพิจารณาในการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนสักเครื่องมาใช้ และดูเหมือนทาง realme เองก็ทราบถึงความต้องการตรงนั้นเป็นอย่างดี จึงได้เลือกใส่แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,000 mAh มาทำงานร่วมกับเทคโนโลยี CorePilot ของชิป MediaTek บน realme C2 ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน เพราะตัวระบบจากปรับแต่งจัดการการใช้พลังงานต่างๆ บนตัวเครื่องให้เหมาะสมอัตโนมัติ และจากการสัมผัสลองเล่นเครื่องรีวิวจริงๆ ก็อึด! เหมือนที่คุยไว้เหมือนกันนะ ใช้ได้เลยละ
Dual Camera (กล้องคู่)
realme เลือกติดตั้งกล้องคู่พลัง AI ความละเอียด 13 + 2 ล้านพิกเซล มาให้บน realme C2 พร้อมทั้งยังนำเทคโนโลยีต่างๆ จากรุ่นพี่ลงมาใส่ให้ด้วยไม่ว่าจะเป็น Chrome Boost กับความสามารถในการปรับสมดุลของสีภาพถ่ายให้สวยสดสมจริง หรือจะเป็น Bokeh effect ที่โชว์พลังการถ่ายภาพ Portrait ให้ดูมีมิติและสมจริงบน realme 3 ให้ตะลึงมาแล้ว ก็ใส่มาให้ด้วย รวมไปถึงตัวกล้องสามารถถ่ายภาพ Slow-motion ได้ที่ 480P/80fps
ด้านกล้องหน้าก็ใช่ว่าจะมองข้ามไป เพราะ realme ใส่กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซลมาให้ พร้อมฟีเจอร์ Unlock Face ที่สแกนใบหน้าเพียง 0.3 วินาทีก็ปลดล็อคได้ทันที รวมถึงมีระบบ AI ช่วยทำงานทำให้เราสามารถถ่ายภาพเซลฟี่ได้ทุกเป๊ะ! ทุกโอกาส
More than spec (สเปกตัวเครื่อง)
ปิดท้ายกันด้วยสเปกตัวเครื่อง ที่ได้เกริ่นไปในตอนต้นว่า เป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับสเปกที่ล้นระดับมือถือเริ่มต้นจริงๆ
สเปกตัวเครื่องของ realme C2 - หน้าจอแสดงผล DewDrop Full Screen ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+
- CPU Helio MediaTek P22 (TSMC 12nm FinFET)
- GPU PowerVR GE8320
- RAM 3GB
- ROM 32GB
- MicroSD Card 256GB
- Dual Camera 13+2 ล้านพิกเซล (AI)
- Front Camera 5 ล้านพิกเซล (AI)
- Color OS 6.0 (Base on Android Pie)
- Dual SIM (Triple card slot)
- Battery 4,000 mAh
น่าจะเป็นคำถามที่หลายคนอยากทราบกันแน่นอนว่า เมื่อลองหยิบ
realme C2 ไปเปรียบเทียบกับสมาร์ทโฟนในกลุ่ม Entry-Level ด้วยกันในตอนนี้ผลที่ได้จะเป็นอย่างไร จะเหมือนกับที่เกริ่นมาด้านบนไหม เราลองไปหาคำตอบของคำถามนี้ผ่านตารางเปรียบเทียบด้านล่างกันครับ
realme C2 VS Huawei Y5 2019
สองรุ่นเมื่อนำมาเทียบกัน จากตารางด้านบนก็จะเห็นได้ว่าทั้งคู่เลือกใช้ CPU MediaTek Helio P22 และมีความจุของ RAM และ ROM ที่เท่ากัน แต่จุดที่ realme C2 ได้เปรียบคงเป็นเรื่องของหน้าจอที่มีขนาดใหญ่กว่า, แบตเตอรี่มีขนาดความจุที่มากกว่าเกือบ 900 mAh และสุดท้ายคือเรื่องของกล้องถ่ายรูปที่ realme C2 ใส่กล้องคู่มาให้ ในขณะที่ทาง Y5 2019 เลือกใช้กล้องหลักตัวเดียว
realme C2 VS Vivo Y91C
เป็นคู่ที่พอฟัดพอเหวี่ยงกันที่สุดในบรรดา Entry level ที่หยิบมา เพราะมีสเปกที่ใกล้เคียงกันสุดๆ เกือบทุกด้าน แต่ทาง realme C2 มีจุดที่เด่นกว่าตรงเรื่องของกล้องคู่และราคาวางจำหน่ายที่ทำราคาได้น่ารักมากกว่า
realme C2 VS Samsung Galaxy A10
ปิดท้ายกันด้วยการประกบคู่กับ Samsung Galaxy A10 น้องเล็กสุดท้องของ Galaxy A Series จากซัมซุง ซึ่งทั้งคู่นี้ถึงแม้จะใช้ CPU คนละแบรนด์กัน แต่ประสิทธิภาพการทำงานของ Exynos 7884 กับ MediaTek Helio P22 จัดว่าอยู่ในพิกัดที่ไล่ๆ กัน แต่ทาง realme C2 จะเด่นกว่าในเรื่องของแบตเตอรี่และกล้องคู่ที่เป็นหนึ่งเดียวใน Entry Level ที่ใส่มาให้ รวมถึงราคาวางจำหน่ายที่คุ้มกว่า
ภาพรวมทั้งหมด
น่าจะได้คำตอบกันอยู่ในใจแล้วใช่ไหมเอย อย่างที่ได้เห็นข้อมูลสเปกเปรียบเทียบด้านบนจะเห็นว่า realme C2 นอกจากจะมีสเปกที่ไม่แพ้แบรนด์อื่นๆ ในตลาด Entry-Level ตอนนี้ ยังเป็นเพียงแบรนด์เดียวจากตารางที่เลือกใส่กล้องคู่มาให้ใช้งานด้วย เมื่อรวมเข้ากับดีไซน์ตัวเครื่องที่ทำได้สวยหรูเกิน Entry-Level และราคาที่เปิดมาได้น่าคบมากๆ จึงไม่แปลกใจที่
realme C2 น่าจะเข้าไปอยู่ในใจของใครหลายคนเมื่ออ่านมาถึงตรงนี้
realme C2 วางจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 2 สีคือ สีดำ Diamond Black และสีน้ำเงิน Diamond Blue ในราคา 3,990 บาท โดยจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2562 เป็นต้นไป สำหรับใครที่สนใจสามารถอ่านบทความรีวิวฉบับเต็มได้ที่ลิ้งก์ด้านล่างนี้ได้เลย