รีวิว เปรียบเทียบจุดเด่น OPPO F11 Pro, OPPO F9 และ OPPO F7 กับการพัฒนาที่ยอดเยี่ยมบนสมาร์ทโฟน

สำหรับ OPPO F Series เป็นสมาร์ทโฟนตระกูลสำคัญของ ออปโป้ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะ สำหรับ OPPO F7, OPPO F9 และ OPPO F11 Pro ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอัตราส่วนหน้าจอมาใช้ อัตราส่วน 19:9 และ 19.5:9 (จากเดิมที่ใช้อัตราส่วน 16:9) ทำให้พกพาสะดวกขึ้น เพราะตัวเครื่องมีความเพียวจับถือได้ถนัดกว่าเดิม และรับชมคอนเทนท์ได้อย่างเต็มตา และสวยงามกว่าที่เคย เช่นเดียวกับความเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวล้ำของสมาร์ทโฟนทั้ง 3 รุ่น เป็นสิ่งที่มีความน่าสนใจจนต้องหยิบยกเอาพัฒนาการของแต่ละรุ่นมาเล่าสู่กันฟังในบทความนี้ มาดูกันว่าที่ผ่านมา OPPO F Series ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง

OPPO F7 เปิดตัวมาพร้อมกับดีไซน์ตัวเครื่องภายใต้คอนเซ็ปท์ "Glossy Unique Design" ที่ออกแบบให้ด้านหลังของตัวเครื่องมีการสะท้อนแสงและเงาจะมุมมองต่างๆ ทำให้ตัวเครื่องดูมีมิติ และหรูหรา หน้าจอแสดงผลแบบไร้ขอบ Super Full Screen ขนาด 6.23 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2280 pixels มีอัตราส่วนการแสดงผล 19:9 ด้านบนหน้าจอมีติ่งหน้าจอขนาดใหญ่ ด้านหลังตัวเครื่อง มีการเล่นลวดลายโดยเฉพาะสีดำสวยงามมาก เป็นลวดลายผลึกเพชร (Diamond Black) เมื่อเวลาส่องกับแสงจะเล่นเงากับแสง ทำให้ดูหรูหรามากๆ

OPPO F9 มาพร้อมคอนเซ็ป "กล้าออกไปเผชิญโลกกว้างอย่างอิสระ และหลุดจากกรอบเดิมๆ" มีจุดเด่นในเรื่องของดีไซน์แบบใหม่หมดจด สวยด้วยรอยบากเล็กๆ คล้ายหยดน้ำ (Waterdrop Screen) และฝาหลังที่ออกแบบลวดลายคล้ายกลีบดอกไม้ และดีไซน์แบบไล่โทน เหมือนกับเป็นเครื่องประดับระดับพรีเมี่ยมที่ช่วยให้มั่นใจในทุกโอกาส หน้าจอ LTPS IPS ขนาดใหญ่ 6.3 นิ้ว อัตราส่วน 19.5:9 ความละเอียด Full HD+ 1080 x 2340 pixels

OPPO F11 Pro เป็นรุ่นแรกที่ออปโป้เลือกเปลี่ยนนิยามจาก "Selfie Expert" มาสู่ "Brilliant Portrait" เรียกได้ว่างานนี้ไม่ได้มีดีที่ Selfie อย่างเดียวแล้วครับ กล้องหลังเราก็เทพโดดเด่นกว่าใคร มาพร้อมดีไซน์เงางาม หน้าจอไร้ขอบสมบูรณ์แบบ LTPS IPS ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ 1080 x 2340 pixels และเป็นรุ่นแรกของ OPPO ที่มาพร้อมกล้องหน้าเลื่อนขึ้น-ลง ทำให้หน้าจอดูเต็มตากว่าที่เคยจริงๆ

ในส่วนของสเปคก็เป็นอีกจุดเด่นที่ทั้ง 3 รุ่นแตกต่างกันและทาง OPPO ก็มีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด

• OPPO F7 มาพร้อม Mediatek Helio P60, GPU Mali-G72 MP3, RAM 4GB, ROM 64GB (รองรับ MicroSD 256GB)
• OPPO F9 มาพร้อม Mediatek Helio P60, GPU Mali-G72 MP3, RAM 6GB, ROM 64GB (รองรับ MicroSD 256GB)
• OPPO F11 Pro มาพร้อม Mediatek Helio P70, GPU Mali-G72 MP3, RAM 6GB, ROM 64GB (รองรับ MicroSD 256GB) มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Thunder Black, Aurora Green และ Waterfall Gray (สีนี้มาพร้อม ROM 128GB ครับ)

เรื่องของกล้องนั้นถือว่าเป็นหัวใจหลักและจุดเด่นของสมาร์ทโฟนจาก OPPO เลยครับ ในรุ่น OPPO F series ได้มอบความประทับใจให้กับแฟนๆ และผู้ใช้งานมาโดยตลอด ว่ามีกล้องคุณภาพเกินราคาทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง เรามาดูรายละเอียดของกล้องของทั้ง 3 รุ่นนี้กันครับ

• OPPO F7 กล้องหลังมีความละเอียด 16MP F1.8 รองรับ PDAF และไฟแฟลช LED กล้องหน้าความละเอียดสูง 25MP F2.0 มีการนำระบบ AI มาช่วยในการประมวลผล
• OPPO F9 มาพร้อมกล้องหลังคู่ความละเอียด 16MP F1.8 + 2MP F2.4 รองรับ PDAF และไฟแฟลช LED กล้องหน้า 25MP F2.0 (รองรับ AI technology ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง) มาพร้อมเทคโนโลยี AI Beauty 2.1 และเซนเซอร์ HDR
• OPPO F11 Pro กล้องคู่ความละเอียดสูง 48MP F1.79 + 5MP F2.4, กล้องหน้าเลื่อนขึ้น-ลง ความละเอียด 16MP F2.0 มาพร้อมเทคโนโลยี AI ซึ่งสามารถจำแนกได้ถึง 23 รูปแบบ โหมดถ่ายภาพกลางคืน Ultra Night Mode และโหมดเร่งสี Color Mapping

จะเห็นว่ากล้องของ OPPO F Series มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง และมอบประสบการณ์การถ่ายรูปที่น่าประทับใจมากจริงๆ

สำหรับสมาร์ทโฟนแล้วการใช้งานเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด การที่มีแบตเตอรี่ใช้งานได้อย่างยาวนาน เป็นจุดเด่นที่จำเป็นมากๆ ในปัจจุบัน และเป็นจุดสำคัญที่ OPPO F series ทำได้ดีมากมาโดยตลอด และในตอนนี้ OPPO ก็ได้พัฒนาระบบชาร์จไวไปอีกขั้นด้วยนะครับ มาดูรายละเอียดกันครับ ว่าแต่ละรุ่นมีพัฒนาการณ์ขึ้นขนาดไหน

• OPPO F7 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 3,400 mAh
• OPPO F9 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 3,500 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 5V/4A ชาร์จเพียง 5 นาที แต่คุยได้ยาวนานถึง 2 ชั่วโมง
• OPPO F11 Pro มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh รองรับชาร์จไว VOOC Flash Charge 3.0 5V/4A ในเวอร์ชั่นนี้ทาง OPPO ได้พัฒนาให้ชาร์จได้เร็วกว่าเดิมถึง 20% โดยสามารถชาร์จแบตเตอรี่ความจุสูง 4,000 mAh ให้เต็มในเวลาเพียงแค่ 80 นาทีเท่านั้นเอง (เวอร์ชั่นเดิมต้องใช้เวลานานถึง 105 นาที)

นอกจากนี้ทาง OPPO ยังมีเทคโนโลยี SuperVOOC Flash Charge ซึ่งมีอยู่ใน OPPO Find X และ OPPO R17 Pro สามารถชาร์จแบตเตอรี่ความจุ 3,400 mAh ให้เต็มในเวลาเพียงแค่ 35 นาทีเท่านั้นเองครับ น่าทึ่งมากจริงๆ

OPPO F Series เป็นตระกูลสมาร์ทโฟนของ OPPO ที่น่าทึ่งมากๆ และได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง สำหรับสมาร์ทโฟนมาตรฐานหน้าจอแบบใหม่เริ่มจาก OPPO F7, OPPO F9 และ OPPO F11 Pro นั้นถือเป็นว่าเป็นผู้นำนวัตกรรมหลายๆ อย่างมาสู่สมาร์ทโฟนราคาเบาๆ เป็นเจ้าของได้ไม่ยาก ช่วยให้ผู้ใช้อย่างเราๆเข้าถึงเทคโนโลยีระดับสูงได้ โดยไม่ต้องจ่ายเงินกันแพงๆ ก็สามารถเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนคุณภาพสูงที่เปี่ยมไปด้วยนวัตกรรมได้แล้ว ผมไม่แปลกใจเลยครับที่ในตลาดนี้ OPPO จะเป็นผู้นำอย่างแท้จริงในตอนนี้

เร็วๆ นี้เราจะมีรีวิว OPPO F11 ให้อ่านกัน อดใจรอกันอีกนิด ส่วนใครที่สนใจสามารถอ่านรีวิวสมาร์ทโฟนทั้ง 3 รุ่นนี้เพิ่มเติมกันได้ตามลิงค์ด้านล่างครับ