x
icon-filter ค้นหาโทรศัพท์มือถือ
product filter
product filter
product filter
product filter

Refund ขอเงินคืนจากแอปพลิเคชั่น เรื่องง่ายๆ ที่ทุกคนทำได้

icon 7 พ.ย. 66 icon 338,665
Refund ขอเงินคืนจากแอปพลิเคชั่น เรื่องง่ายๆ ที่ทุกคนทำได้
ในยุคสังคมไร้เงินสดแบบปัจจุบันนี้ การซื้อแอปพลิเคชั่น (Application) เพื่อนำมาใช้งานบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต น่าจะเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะเราไม่จำเป็นต้องใช้บัตรเครดิตในการซื้อเพียงอย่างเดียวแล้ว สามารถเลือกชำระค่าแอปพลิเคชั่นหรือบริการได้จาก Wallet เลย หรือจะเลือกตัดผ่านบิลรายเดือนของผู้ให้บริการเครือข่ายในไทยก็สามารถทำได้เช่นกัน รวมไปถึงบัตรเดบิตด้วยเช่นกัน
ในเมื่อขั้นตอนการซื้อเราสามารถทำได้สะดวกและง่ายขึ้น แล้วการขอคืนเงินหรือที่หลายคนเรียกกันว่า "Refund" จะสามารถทำได้ง่ายและสะดวกเหมือนกันไหม รวมถึงมีขั้นตอน, เงื่อนไขอย่างไรบ้าง เรามีคำตอบมาฝากกันผ่านบทความนี้ครับ

Refund คืออะไร?

Refund คือ การยื่นคำขอคืนเงินกับผู้ให้บริการสโตร์ออนไลน์ เพื่อทำการขอเงินคืนจากการซื้อแอปพลิเคชั่นที่เราได้ซื้อไปใช้งาน ด้วยเหตุผลด้านความพึงพอใจในการใช้งานของแอปพลิเคชั่นนั้นๆ ซึ่งจะได้รับเงินคืนหรือไม่นั้นก็ขึ้นกับปัจจัยต่างๆ ที่ทางผู้ให้บริการสโตร์ออนไลน์กำหนดไว้ ดังนั้นใครที่เคยคิดว่ายื่นขอคืนเงินแล้วจะได้คืน 100% ทุกครั้งเสมอไป อยากให้เข้าใจใหม่ว่า ไม่ใช่!! เพียงแต่มีโอกาสสูงที่จะได้คืนหากเป็นไปตามเงื่อนไขของสโตร์นั้นๆ เท่านั้น

Refund ผ่าน Google Play Store (Android OS)

มาเริ่มกันที่ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน Android OS ทุกรุ่น ที่ซื้อแอปพลิเคชั่นผ่าน Play Store ของ Google โดยตรง สามารถเริ่มต้นขั้นตอนการขอเงินคืน (Refund) ได้ดังนี้เลย
  1. เข้าไปยืนคำขอที่ >> https://play.google.com/store/account โดยให้ Copy Link ไปวางในช่อง URL บนเว็บบราวเซอร์ (Google Chrome)
  2. เมื่อเข้าไปในหน้าเมนูแล้ว ให้เลื่อนลงไปที่ "ประวัติการสั่งซื้อ" หรือ "Order History" แล้วหาแอปพลิเคชั่นที่ต้องการขอเงินคืน
  3. เลือกเมนู "เพิ่มเติม" ที่เป็นรูปจุดไข่ปลาแนวตั้ง 3 จุด
  4. เลือกเมนู "ขอเงินคืน" หรือ "รายงานปัญหา" และใส่เหตุผลในการยื่นคำขอในครั้งนี้
  5. กรอกแบบฟอร์มข้อมูลที่ขึ้นมาให้ครบ
  6. รอการอีเมล์ตอบกลับว่าได้รับเรื่องเราไว้แล้วประมาณ 15 นาที
หลังจากทำตามขั้นตอนด้านบนครบแล้ว ที่เหลือก็ทำได้แค่รอผลการพิจารณาคำขอเงินคืนจาก Google Play Store ว่าเป็นอย่างไร โดยปกติเราจะได้รับการตอบกลับถึงผลการพิจารณาไม่เกิน 2-3 วัน ถ้าเกินให้ทำการติดต่อไปยัง Google Play Store ใหม่อีกครั้ง (ติดต่อ Google Play Store ที่นี่)
ส่วนเงื่อนไขการขอเงินคืนของ Google Play Store มีตามนี้เลยครับ
  • ถ้ายื่นขอคืนเงินภายใน 48 ชม. หรือ 2 วัน นับจากที่กดซื้อไป : มีโอกาสที่จะได้รับเงินคืนสูง และสามารถทำการติดต่อกับ Google Play Store ได้โดยตรง ในการยื่นคำขอ
  • ถ้ายื่นขอคืนเงินหลัง 48 ชม. หรือ 2 วัน นับจากที่กดซื้อไป : ต้องติดต่อไปยังผู้พัฒนาแอปพลิเคชั่นที่เราซื้อมาโดยตรง เพื่อให้ทางผู้พัฒนายืนยันคำขอเงินคืนของเรา

Refund ผ่าน App Store (iOS)

มากันที่ฝั่งของ iOS กันบ้าง โดยการยื่นคำขอคืนเงิน (Refund) จาก App Store ทำได้ค่อนข้างง่ายกว่าของ Google Play Store เพราะเราสามารถเข้าไปยื่นเรื่องได้จาก Apple ID ที่ผูกไว้บน App Store ได้เลย หรือจะเข้าผ่านลิงค์ URL reportaproblem.apple.com ก็ได้เช่นกัน
แล้วทำตามขั้นตอนการขอคืนเงินจาก Apple Store ดังนี้ครับ
  • เข้าไปที่การตั้งค่าบัญชี (Account setting) แล้วเลื่อนไปที่ "ประวัติการซื้อของ" หรือ (Purchase History)
  • ค้นหาคำสั่งซื้อแอปพลิเคชั่น ที่เราต้องการขอคืนเงิน
  • เมื่อเจอแล้ว ให้เลื่อนลงไปข้างล่างจะมีเมนู "Report Problem" หรือ "รายงานปัญหา"
  • เลือกเหตุผลในการขอเงินคืน
  • รอการพิจารณาและการตอบกลับจาก Apple 
เงื่อนไขการขอเงินคืนของ App Store ตามนี้เลยครับ
  • ระยะเวลา 90 วัน นับจากวันที่กดซื้อ : ทาง Apple จะทำการคืนเงินให้กับผู้ยื่นคำขอเงินคืนโดยตรง หากผลการพิจารณาผ่าน
  • เกินระยะเวลา 90 วัน นับจากวันที่กดซื้อ : ต้องติดต่อกับผู้พัฒนาแอปพลิเคชั่นที่เราต้องการขอเงินคืน เพื่อยืนยันคำขอ

บทสรุป

การยื่นคำขอคืนเงิน หรือ Refund เป็นสิทธิ์การใช้งานพื้นฐานที่ทางผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่นสโตร์เปิดให้เราสามารถทำได้ ในกรณีที่เกิดความไม่พึงพอใจต่อตัวแอปพลิเคชั่นนั้นๆ รวมไปถึงการเติมเงินเพื่อซื้อของภายในแอปพลิเคชั่น หรือเกมบนมือถือ (In-app Purchase) ด้วยเช่นกัน ก็สามารถดำเนินการได้เช่นเดียวกับการซื้อแอปฯ เลย 
เพียงแต่บางแอปฯ หรือบางเกม ทางผู้พัฒนาฯ อาจมีการระบุเงื่อนไขไว้ในกรณีที่เราทำการขอ Refund หรือขอคืนเงินจากค่ายผู้พัฒนา เช่น ไอดีเกมนั้นๆ อาจโดนแบนถาวรไปเลย, หรือปิดการใช้งานฟังก์ชั่นบางอย่างถาวร เป็นต้น อย่างไรแล้วก็อย่าลืมตรวจสอบเงื่อนไขเหล่านี้ให้ดีกันก่อนด้วยนะครับ จะได้ไม่พลาด!! โดยเฉพาะสายเกมมิ่งทั้งหลาย 
แท็กที่เกี่ยวข้อง application app store google play store refund
Mobile Guru
เขียนโดย วินระพี นาคสวัสดิ์ Mobile Guru

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)