เปิดมุมมองจริง! ผ่านเลนส์กล้อง OPPO R17 Pro จาก "Mahanakorn Skywalk" OPPO R17 Pro สมาร์ทโฟนซีรีย์ R รุ่นล่าสุดของ
ออปโป้ ที่ครั้งนี้เปิดตัวมาพร้อมกล้องถ่ายรูป Triple Camera สุดมหัศจรรย์ ที่เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีด้านฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์เข้าด้วยกันได้อย่างกลมกล่อม กับการนำกล้อง Dual Camera สองตัวที่มีความสามารถในการปรับค่ารูรับแสงอัตโนมัติ และกล้อง TOF 3D Camera ที่ช่วยเพิ่มมิติของภาพถ่ายให้ดูสมจริง และมีมิติมุมมองที่ใกล้เคียงของจริงยิ่งขึ้น เข้ามาผสานกับระบบ AI Ultra-Clear ซอฟท์แวร์อัจฉริยะตัวใหม่ของออปโป้ ที่มีคุณสมบัติในการคืนสีสันของภาพถ่ายยามค่ำคืนให้กลับมาสวย คมชัด ไม่ต่างจากการถ่ายกลางวันเลยทีเดียว
แต่ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ หลายคนอาจคิดว่ามันคงเป็นเพียงทฤษฏีที่ต้องรอการพิสูจน์การใช้งานจริงกันอีกทีว่า "เมื่ออยู่ภายใต้สภาวะการใช้งานจริง กล้อง Triple Camera บนสมาร์ทโฟน OPPO R17 Pro ที่หลายคนบอกว่าดี จะมีประสิทธิภาพ และเค้นพลังทั้งหมดออกมาได้ดีแค่ไหน และตรงตามปกที่สื่อทั้งหลายบอกกันไว้หรือไม่" แน่นอนว่าการไปพิสูจน์ใช้งานกันจริง น่าจะเป็นสิ่งเดียวที่จะตอบข้อสงสัยนี้ได้ให้กับทุกคนได้.. .และคำตอบก็มา! เพราะเราได้รับเชิญจากทาง ออปโป้ ประเทศไทย ให้ไปร่วมทดสอบใช้งานกล้อง OPPO R17 Pro กันแบบเรียลไทม์ ถ่ายกันจริงๆ สดๆ จากยอดตึกมหานคร ยอดตึกที่มีปัจจัยด้านการถ่ายภาพพร้อมสำหรับหาคำตอบ รวมทั้งกำลังเป็นกระแสยอดนิยมอยู่ในขณะนี้
VIDEO
เมื่อโอกาสมาถึงแบบนี้ เราเลยทดสอบทุกอย่างในเรื่องกล้อง พร้อมกับเก็บเรื่องราวต่างๆ ตลอดการทดสอบถ่ายภาพบนยอดตึกมหานครมาฝากกันด้วย ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร และภาพที่ได้จะว้าวหรือไม่ ผมอยากให้ทุกคนตามไปพิสูจน์ด้วยตาตัวเองผ่านบทความนี้ด้วยกัน ถ้าพร้อมแล้ว...ไปกัน
กล้อง Triple Camera ตัวใหม่บน OPPO R17 Pro การมาครั้งนี้ของ
OPPO R17 Pro ต้องยอมรับว่า เป็นการมาพร้อมเทคโนโลยีกล้องที่ไม่ธรรมดา สมกับนิยาม "Camera Phone" ของแบรนด์จริงๆ จากเดิมที่ใครก็ต่างชมเรื่องกล้องหน้าว่าถ่ายสวยอยู่แล้ว ตอนนี้กล้องหลังก็ก้าวขึ้นมาเป็นแนวหน้าของวงการมือถือได้ไม่น้อยหน้าใครเหมือนกัน และบอกได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า
"นี้คือสมาร์ทโฟนที่กล้องดีที่สุดในยามนี้ของ ออปโป้" เลยก็ว่าได้
สำหรับในส่วนของรายละเอียดกล้องบน OPPO R17 Pro นั้น ครั้งนี้จะมาพร้อมเทคโนโลยี TOF 3D Camera (สำหรับการวัด/ถ่ายภาพเชิงลึกแบบสามมิติ) บนสมาร์ทโฟนเป็นครั้งแรก ที่ใช้เทคนิคการยิงแสงอินฟราเรดไปยังวัตถุเป้าหมาย เพื่อให้เกิดการกระจายและสะท้อนแสงจากวัตถุกลับมายังเซ็นเซอร์ TOF ทำให้สามารถอ่านค่าความใกล้ ไกล และความลึกของวัตถุได้แม่นยำ นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบ AI Ultra-Clear Engine และระบบรูรับแสงอัจฉริยะ รวมทั้งระบบชดเชยสี PI ที่ช่วยให้สีสันภาพถ่ายของเราสวยงามยิ่งกว่าเดิม
ในขณะที่กล้องอีกสองตัวหรือ Dual camera ที่ใส่มาจะมาพร้อมความละเอียด 12MP สามารถสลับค่ารูรับแสงระหว่าง F1.5-2.4 ได้โดยอัตโนมัติ ระยะเลนส์ 26 มม. (Wide), ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.55 นิ้ว, Dual Pixel PDAF, OIS ส่วนกล้องอีกตัวเลือกใช้ความละเอียด 20MP และค่ารูรับแสง F2.6, AF ด้านกล้องหน้าให้ความละเอียดมาที่ 25MP ค่ารูรับแสง F2.0 ระยะเลนส์ 20 มม. (Wide Angle) ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.8 นิ้ว มาพร้อม AI Beauty ที่ยังคงถ่ายทอดประสบการณ์การเซลฟี่ได้อย่างสวยเนียนตามสไตล์ออปโป้เหมือนเช่นเคย เพิ่มเติมคือคมชัดและใช้งานได้ทุกสภาพแสง
ทดสอบกล้อง OPPO R17 Pro ที่ตึกมหานคร เราเริ่มทดสอบกันที่ด้านนอกตึกมหานครกันก่อนเลย กับสภาพแสงยามเย็นประมาณ 16.30 น. โดยเลือกรูปปั้นช้างเอราวัณที่ว่ากันว่าถูกนำมาตั้งไว้เพื่อแก้หลักฮวงจุ้ยของตึก ซึ่งรูปปั้นจะตั้งอยู่ในทิศทางย้อนแสงยามเย็นพอสมควร เลยได้โอกาสลองประสิทธิภาพโหมดถ่ายภาพ HDR ของ OPPO R17 Pro กันซะหน่อย และลองใช้โหมด PI ที่เป็นโหมดไฮไลท์ของกล้องรุ่นนี้ กับคุณสมบัติการคืนสภาพสีสันของภาพถ่ายให้สวยเหมือนจริงไปในตัวด้วย ไปดูภาพที่ได้กันครับ
โหมดอัตโนมัติ ปิด HDR
โหมดอัตโนมัติ เปิด HDR
โหมดอัตโนมัติ เปิด HDR และใช้โหมด PI
โหมดอัตโนมัติ ปิด HDR
โหมดอัตโนมัติ เปิด HDR
โหมดอัตโนมัติ เปิด HDR และใช้โหมด PI
เมื่อเดินเข้าไปในตัวตึกมหานครแล้ว แสงธรรมชาติต่างๆ ก็จะเริ่มน้อยลงจนแทบจะไม่เหลือ ความสว่างที่ได้ก็จะมาแสงไฟจากหลอด LED ต่างๆ ภายในตัวตึกแทน ซึ่งกล้องสมาร์ทโฟนมักจะแพ้แสงแบบนี้ ทั้งจากโทนสีของแสงและการกระพริบของหลอดไฟ แต่กล้องบน
OPPO R17 Pro กลับเอาอยู่ และถ่ายทอดภาพออกมาได้ใกล้กับที่ตามองเห็นพอสมควร ถึงแม้จะมีนอยส์เข้ามารบกวนบ้าง ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ
ทุกภาพเปิดโหมดอัตโนมัติ เปิด HDR และใช้โหมด PI
ลองใช้โหมด Portrait ดูหน่อย เมื่อมาถึงชั้นบนสุดของตึกมหานครกับความสูง 78 ชั้น เราก็มาเจอกับสภาพแสงธรรมชาติแบบเต็มร้อย พร้อมกับวิวหลักล้านที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นในตัวเมืองหลวงที่ดูวุ่นวายเช่นนี้ ซึ่งก็น่าจะบททดสอบของกล้อง Triple Camera ได้เป็นอย่างดี ว่าจะเค้นประสิทธิภาพออกมาได้ดีแค่ไหน ภาพที่ได้จะเป็นอย่างไร อย่ารอช้าไปชมกันครับ
ทุกภาพใช้โหมดอัตโนมัติ เปิด HDR และใช้โหมด PI
แสงยามพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน (Sunset)
ภาพยามค่ำคืน (Night)
ในส่วนนี้ ผมใช้โหมดถ่ายภาพอัตโนมัติกลางคืน (Ultra Night Mode) ที่มีมาให้บน OPPO R17 Pro ซึ่งเป็นโหมดถ่ายภาพกลางคืน ที่ผู้ใช้งานไม่ต้องเข้าไปปรับค่าการถ่ายภาพให้ยุ่งยากเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่เลือกโหมด Ultra Night mode แล้วยกกล้องขึ้นมา > เล็ง > กดชัตเตอร์ เป็นอันเสร็จ ตัวกล้องและระบบจะทำการโปสเซสภาพออกมาให้เอง
ซึ่งบอกเลยว่า ภาพที่ได้ออกมาจากโหมดนี้ด้วยกล้องของ R17 Pro ทำเอาประหลาดใจสุดๆ เพราะภาพกลับสว่างคมชัด ทั้งๆ ที่บนยอดตึกมหานคร ณ เวลานั้น มืดมากถึงมากที่สุด มีเพียงแสงจันทร์สาดลงมาเบาๆ ให้เราพอมองเห็นหน้าคนข้างๆ เท่านั้นเอง รวมทั้งไม่ได้ใช้อุปกรณ์เสริมช่วยในการถ่ายภาพเลยสักชิ้น มีเพียงสองมือของผมเองที่ยกตัวโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดถ่ายเท่านั้น ส่วนภาพที่ได้ก็แบบที่เห็นด้านล่างนี้เลย ประหลาดใจไหมละ!
โหมด Portrait (ถ่ายภาพบุคคล) ชมภาพแนววิวทิวทัศน์กันไปแล้ว ที่นี้ลองมาชมภาพถ่ายแนว Portrait หรือภาพถ่ายแนวบุคคลกันบ้าง โดยภาพแนวนี้จะเน้นไปที่การละลายพื้นหลังให้เป็นสไตล์ Bokeh ซึ่งจะสวยไม่สวยออกมาถูกใจหรือไม่นั้นบอกเลยว่า นอกจากการมีกล้องที่ดีแล้ว ซอฟท์แวร์ก็ต้องฉลาดและดีไม่แพ้กันด้วย โดย
OPPO R17 Pro ที่มาพร้อมกล้อง Triple Camera มี TOF ในตัว เมื่อจับคู่กับระบบ AI Ultra Clear แล้ว ผลจะออกมาเป็นอย่างไร และสภาวะแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ เมื่อเข้าสู่ค่ำคืนที่มีเพียงแสงจันทร์และแสงจากตัวเมืองด้านล่างส่องขึ้นมาเท่านั้น ภาพที่ได้จะเป็นอย่างไรไปชมกันครับ
แสงธรรมชาติทั่วไป
โหมดถ่ายภาพบุคคล (Portrait) แสงธรรมชาติ
โหมดถ่ายบุคคล เลือกปรับแสงแบบสีเดียว
ขัดความเพลินสักหน่อย มาดูภาพถ่ายโหมดบุคคลในสภาพแวดล้อมที่มืดสุดๆ เหลือเพียงแสงจันทร์และไฟฉายเบาๆ หนึ่งดวงจากสมาร์ทโฟนกันว่ากล้อง OPPO R17 Pro จะเอาอยู่หรือไม่ เลือกใช้โหมดถ่ายภาพบุคคลแสงธรรมชาติ และโหมดถ่ายภาพกลางคืน (Ultra Night Mode)
ถ่ายอาหาร (Food) เมื่อถ่ายภาพน้องๆ น่ารักครบทุกคน ก็ล่วงเลยเวลาเกือบจะสามทุ่มแล้ว ขอตัวมาหาอะไรทานสักหน่อย เลยได้มีโอกาสเก็บภาพถ่ายอาหาร (Food) มาฝากด้วย โดยใช้กล้อง OPPO R17 Pro โหมดอัตโนมัติ เปิดกล้องปุ๊ป! ระบบ AI scene Recognition ก็ขึ้น Food ให้ทันที เราก็กดถ่ายได้เลยง่ายๆ ไม่ปรับแต่งเพิ่มเติมอะไรอีก
ซึ่งตัวระบบ AI scene Recognition ของ R17 Pro นั้น สามารถจำแนกหรือระบุประเภทของภาพถ่ายให้เราได้มากกว่า 23 ชนิด รวมทั้งยังสามารถปรับภาพให้เหมาะสมได้มากกว่า 800 ฉากเลยทีเดียว เรียกได้ว่า ใครมือใหม่กับเรื่องของการถ่ายภาพบอกเลยว่า หมดห่วง!!
สรุป หลังจากที่ลองใช้กล้อง Triple Camera บน
OPPO R17 Pro กับอีเว้นท์นี้ บอกได้เลยว่า ส่วนตัวประทับใจเป็นอย่างมากกับผลงานภาพถ่ายที่ตัวมือถือรังสรรค์ออกมาให้ ซึ่งถ้าเป็นเรื่องของการเซลฟี่เราคงจะรู้อยู่แล้วว่า สมาร์ทโฟนออปโป้สามารถเนรมิตภาพสวยๆ ออกมาให้ได้เป็นเรื่องปกติ แต่ครั้งนี้นอกจากกล้องหน้าแล้วกลับเป็นกล้องถ่ายรูปหลัก ที่สามารถถ่ายทอดสิ่งที่เห็นให้ออกมาเป็นภาพถ่ายที่มีความใกล้เคียงมากที่สุด ทำให้ได้รับประสบการณ์การถ่ายภาพที่ดีเยี่ยม ไม่แพ้สมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ในระดับแนวหน้าของวงการเลยทีเดียว โดยเฉพาะการถ่ายภาพกลางคืนด้วยโหมด Ultra Night Mode ที่หลังจากกดชัตเตอร์จนได้ภาพถ่ายออกมา ผมกล้าการันตีเลยว่า ทุกคนที่ใช้กล้องนี้ถ่ายต้องอุทาน! แบบผมแน่ๆ ว่า "เฮ้ย!! ขนาดนี้เลยหรอ"
เพราะภาพที่ได้ออกมามันเป็นอะไรที่ "Amazing" จัดจ้านในย่านกล้องมือถือสุดๆ จนไม่ต้องพูดเยอะให้เจ็บคอ อยากให้ทุกคนลองไปสัมผัสด้วยตัวเอง และน่าจะได้เห็นจากภาพถ่ายที่นำมาฝากกันด้านบนด้วยแล้ว ว่านี้เป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกล้องถ่ายรูปที่ไม่น้อยหน้าแบรนด์ไหนในตอนนี้เลย ซึ่งถ้าใครสนใจอยากจับจองเป็นเจ้าของหรืออยากลองทดสอบด้วยตัวเอง ก็สามารถเดินตรงเข้าไปที่ ออปโป้ แบรนด์ช้อป หรือร้านค้ามือถือชั้นนำทั่วไปได้เลย รับรองว่าคุณจะต้องหลงรักมือถือรุ่นนี้อย่างแน่นอน
และที่สำคัญตอนนี้ทาง OPPO ได้มอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้า OPPO R17 Pro ผ่านบริการ OPPO Premium Service บริการสุดพรีเมียมที่ตั้งใจมอบให้กับลูกค้า OPPO R17 Pro โดยเฉพาะ ซึ่งเมื่อเครื่องมีปัญหาทางออปโป้เปลี่ยนเครื่องให้ทันที ไม่ต้องรอซ่อมให้เสียเวลาสามารถรับเครื่องใหม่ไปได้เลย ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด และถ้าหากสงสัยหรืออยากทราบข้อมูลเกี่ยวกับบริการก็สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center และศูนย์บริการ OPPO ทั่วประเทศอีกด้วย นอกจากถ่ายภาพสวยแล้ว ด้านบริการหลังการขายก็สบายใจได้หายห่วง
ส่วนใครยังอยากเห็นภาพถ่ายและข้อมูลเพิ่มเติม สามารถอ่านบทความรีวิว OPPO R17 Pro รวมไปถึงพรีวิวการใช้งานเพิ่มเติม ได้ตามลิ้งก์ด้านล่างนี้เลย