หนึ่งวันกับ LEICA Triple Camera บนสมาร์ทโฟน HUAWEI Mate 20 Pro
วางจำหน่ายกันไปเรียบร้อย สำหรับ
HUAWEI Mate 20 Pro สมาร์ทโฟนระดับขุนพลรุ่นล่าสุดของ หัวเว่ย ที่ยังคงมาพร้อมกล้องถ่ายรูปบนมือถือระดับแนวหน้าของวงการเหมือนเดิม ซึ่งหลังจากที่ทางหัวเว่ยส่งเครื่องมาให้ ประกอบกับได้มีโอกาสพาเจ้า HUAWEI Mate 20 Pro เดินทางไปทำงานที่จังหวัดปราจีนบุรีด้วยกัน ทำให้ได้ใช้งานตัวเครื่องจริงจังเต็ม 1 วัน จนมีเรื่องราวความประทับใจ ข้อติ รวมไปถึงเหตุผลดีๆ ที่น่าจะช่วยให้หลายๆ คนที่กำลังสนใจใน HUAWEI Mate 20 Pro ตัดสินใจเลือกกันได้ง่ายขึ้น มาบอกเล่าผ่านบทความนี้กันด้วย ส่วนจะมีประเด็นอะไรที่นำมาฝากกันบ้างนั้น ตามไปชมกันได้เลยกับ
"หนึ่งวัน (ณ จ.ปราจีนบุรี) กับ LEICA Triple Camera บน HUAWEI Mate 20 Pro"
ดีไซน์ (Design)
ความประทับใจแรกที่สัมผัสตัวเครื่อง และหลังจากใช้งานตลอด 1 วัน คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของการออกแบบตัวเครื่อง ที่ครั้งนี้ HUAWEI ดูจะทำได้ดีขึ้นกับตัวเครื่องที่ผสมผสานกระจกกับอลูมิเนียมเข้าด้วยกันจนดูเพรียว สวย พรีเมี่ยม สมใจ ภายใต้คอนเซ็ปท์ Arts X Innovation ในขณะที่ตำแหน่งเซ็นเซอร์กล้องนั้น ตอนแรกๆ ก็รู้สึกดูแปลกๆ แต่พอใช้ไปกลับรู้สึกว่ามันก็ลงตัวกับตัวเครื่องจนดูสวยลงตัวดี
Dual GPS ทำได้ดี จนเกือบลืม (รุ่น) วันวาน
ถ้าใครเคยได้ใช้สมาร์ทโฟนของ HUAWEI มาก่อนหน้านี้หลายๆ รุ่น เชื่อว่าน่าจะคุ้นเคยกับการบ่นเรื่อง การนำทางที่มักจะพาเราหลงทางหรือสัญญาณล่าช้าอยู่บ่อยๆ แน่นอน แต่ครั้งนี้
HUAWEI Mate 20 Pro เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของหัวเว่ย ที่ใส่ระบบ Dual GPS มาให้ในตัวทำให้จับสัญญาณดาวเทียมได้สองระบบ (ระบบยุโรปกับเอเชีย) ซึ่งจากการลองใช้นำทางจริงๆ ก็บอกได้เต็มปากเลยว่า ทำได้ดีขึ้นกว่าเดิมมากๆ สัญญาณจับได้เร็ว นำทางได้ดีขึ้นจากรุ่นก่อนๆ แต่ยังมีเอ๋อๆ หรือบางจุดจับสัญญาณไม่ได้อยู่บ้าง
LEICA Triple Camera ยังไว้ใจเหมือนเดิม
มากันที่เรื่องของกล้องถ่ายรูป ที่เป็น Signature ของรุ่นและของแบรนด์กันบ้าง โดย
HUAWEI Mate 20 Pro มาพร้อมกล้องถ่ายรูป 3 ตัว หรือที่เรียกว่า
'LEICA Triple camera' ที่ยังคงเป็นการร่วมมือกันพัฒนาระหว่าง Huawei และ LEICA เหมือนเช่นเดิม เพิ่มเติมคือ มีการนำกล้อง Ultra Wide และ Wide เข้ามาใส่แทนที่ การใช้เซ็นเซอร์แบบ RGB และ MonoChrome เหมือนรุ่นก่อน
ผลที่ได้จากการใช้งานจริงๆ ใน 1 วัน ส่วนตัวก็ต้องบอกว่า มันเป็นอะไรที่ลงตัวมากขึ้นเยอะเลย เพราะรู้สึกได้เลยว่า เราสามารถถ่ายภาพได้หลากหลายสถานการณ์มากขึ้น เลือกมุมมองหรือมิติภาพได้มากขึ้น เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนที่ไม่มีเลนส์ Wide มาให้ อารมณ์คล้ายๆ กับการใช้กล้องโปรที่พกเลนส์หลายระยะไปด้วยนั่นเอง ในขณะที่ตัว AI ที่ช่วยปรับภาพต่างๆ ให้อัตโนมัติ ก็ทำหน้าที่ได้ดีเพียงแต่บางภาพก็ยังดูงงๆ กับชีวิตจนแต่งภาพเว่อร์เกินไปก็มี แต่ภาพรวมก็ทำหน้าที่ได้ดี และทำให้สามารถ ยกมือถือขึ้นมา 'แชะ แล้ว แชร์' ได้เลย
ภาพตัวอย่างทั้งหมดด้านล่างนี้ ถ่ายจากกล้อง Huawei Mate 20 Pro โดยไม่มีการปรับแต่งใดๆ เพิ่มเติม และใช้โหมด Auto ทั้งหมด
เริ่มที่กันที่ โรงพยาบาลอภัยภูเบศฯ โรงพยาบาลหนึ่งในไม่กี่แห่งในไทยตอนนี้ ที่ยังคงเน้นการรักษาด้วยสมุนไพรไทย โดยพอมาถึงผมก็เดินลงจากรถ แล้วหยิบ
HUAWEI Mate 20 Pro ขึ้นมากดถ่ายกลางแจ้งแบบแดดเปรี๊ยงๆ เลย ซึ่งภาพที่ได้ทำให้รู้สึกว่าโหมด HDR ยังดูทำได้ไม่ดีพอ ไม่รู้ว่าเป็นที่ตัวซอฟท์แวร์ของเครื่องที่ยังไม่ใช่ตัวเต็มหรือไม่ ภาพเลยฟุ้งพอสมควร
พอเดินเข้าในตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ ผมเจอน้องๆ แพทย์และพยาบาลที่มาทัศนศึกษาดูงาน เลยลองใช้โหมด Ultra Wide ของตัวกล้องเพื่อเก็บภาพน้องๆ ดู ซึ่งแน่นอนว่าเพราะเลนส์แบบ Wide เลยทำให้เก็บภาพน้องๆ ได้ครบทีมเลย เพียงแต่! โหมดนี้ต้องถือตัวมือถือนิ่งๆ ค้างไว้สัก 1 วินาทีหลังกดชัตเตอร์ถ่ายด้วย ไม่งั้นภาพจะเบลอ
ถ่ายปกติ
โหมด Ultra Wide (0.6x)
หลังจากเสร็จภารกิจที่โรงพยาบาล ก็เดินทางมาหาอะไรทานที่ร้านริมแม่น้ำ The River ครับ ซึ่งบรรยากาศเงียบสงบมาก เหมาะกับการนั่งชิล เลยถือโอกาสหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายภาพมุมต่างๆ ภายในร้าน เลยเจออีกหนึ่งความประทับใจคือ พลังซูมทั้ง optical 3x และ Hybrid Zoom 5x ที่ทำออกมาได้ "Woww" มากๆ
ทดสอบพลัง Hybrid Zoom 5x
ทดสอบการซูมภาพ Optical 3x และ Hybrid Zoom 5X
เรื่องของการซูมภาพ ที่สามารถรักษารายละเอียดของภาพไว้ได้ดีบนกล้องของ P20 Pro จนได้รับการกล่าวถึงว่าทำได้ดีเป็นอันดับต้นๆ ของสมาร์ทโฟน และตอนนี้ก็ถูกถ่ายทอดลงสู่ Mate 20 Pro ด้วย ประกอบกับมีโอกาสได้ทดสอบด้วย เลยลองถ่ายภาพด้วยโหมดซูมทั้งแบบ Optical 3x และ Hybrid zoom 5x มาฝากกัน
ถ่ายปกติ จะเห็นว่าตัววัดแก้วพิจิตรอยู่ไกลจากผมพอสมควร
โหมดซูมภาพแบบ Optical zoom 3x
โหมดซูมภาพแบบ Hybrid zoom 5x
เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ ก็เดินทางกลับที่พักซึ่งก็ถึงที่พักเวลาประมาณ 23.00 น. พอดี เลยลองถ่ายภาพกลางคืนมาได้ไม่มากครับ แต่จากการลองถ่ายวัตถุและตัวที่พักดู ก็รู้สึกว่าการถ่ายภาพกลางคืนของ
HUAWEI Mate 20 Pro ทำได้ดีขึ้นจาก P20 Pro พอสมควร รายละเอียดของภาพมาครบมากขึ้น และมีนอยส์รบกวนน้อยลง แต่ถ้ามือไม่นิ่งพอก็ไม่รอดเหมือนกัน
วงกลมที่เห็นนั้น เป็นจุดที่มีบันไดอยู่
ปิดท้ายกันด้วยภาพยามเช้าจากทุ่งดอกหงอนนาค ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งภาพทั้งหมดนี้ย้ำกันอีกครั้งว่าไม่ได้ปรับแต่งใดๆ เพิ่มเติมจากไฟล์ต้นฉบับเลย โดยผมลองใช้โหมด Wide, Super Macro (ถ่ายวัตถุได้ใกล้มากๆ โดยห่างจากวัตถุเพียง 2.5 ซม. เท่านั้น) และ Ultra Wide เท่านั้น ลองไปชมกันครับ
Ultra Wide
Super Macro
บทสรุป
หลังจากลองใช้งานกล้อง LEICA Triple Camera จริงๆ จังๆ 1 วันดู ก็ต้องยอมรับเลยว่า
HUAWEI Mate 20 Pro ให้ประสบการณ์การถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะการใส่เลนส์ Wide เข้ามายิ่งทำให้สนุกกับการถ่ายภาพมากขึ้น ใครที่เป็นสาย Landscape แบบผมก็คงจะฟินกันแน่นอน ในขณะที่เรื่องอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม แบตเตอรี่ การใช้งานทั่วไป บอกได้เลยว่าไม่มีปัญหาแน่นอน
ส่วนเรื่องของพลังงานจากที่ผมลองใช้งานเล่นโซเชียล, ถ่ายรูปหนักๆ มีเล่นเกม (Ragnarok M) ติดต่อกัน 2-3 ชั่วโมง แบตเตอรี่ของ Mate 20 Pro สามารถใช้งานได้ประมาณ 6-7 ชั่วโมงก่อนหมดสนิทครับ แต่ชาร์จแบตฯ จนเต็มได้เร็วมากๆ อันนี้คอนเฟริม และถึงแม้จะการใช้งานกล้องยังมีติดๆ ขัดๆ อยู่บ้าง หรือบางครั้งก็รู้สึกว่า AI ที่ใส่มายังทำได้ไม่ดีเท่าไร แต่ถ้ามองภาพรวมแล้ว ก็ต้องให้เขาจริงๆ สำหรับสมาร์ทโฟนนิยาม "The Best Mobile camera' ในตอนนี้ ซึ่งก็หวังว่าบทความนี้จะพอทำให้หลายคนตัดสินใจกันง่ายขึ้นนะครับ
สำหรับใครที่อยากทราบข้อมูลสเปกตัวเครื่องของ HUAWEI Mate 20 Pro ก็คลิกทางนี้ได้เลย >>
ดูสเปก Huawei Mate 20 Pro หรือดูข้อมูลสมาร์ทโฟน Huawei ทุกรุ่น เชิญทางนี้ >>
คลิก!