เลือกอะไรดี? iPhone หรือ Android ทางไหนคือทางที่ใช่สำหรับคุณ!
เปิดตัวกันมาเกือบจะครบทุกรุ่นแล้ว สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปของแบรนด์ใหญ่แบรนด์ดัง ที่ปีนี้ดูเหมือนจะยังเลือกเก็บอาวุธหนักๆ ไว้ แล้วหันมาเน้นการ Minor Change กันซะมากกว่า แต่ถึงอย่างไรก็น่าจะเพียงพอที่ทำให้เงินในกระเป๋าของเหล่าแฟนคลับ หรือผู้ใช้งานแบบเราๆ สั่นไหวกันพอสมควร จนนำไปสู่คำถามยอดฮิตว่า "เลือกรุ่นไหนดี?" และยิ่งการมาของ iPhone รุ่นใหม่สามรุ่นรวดแบบนี้ ยิ่งน่าจะทำให้หลายคนเกิดอาการรักพี่เสียดายน้อง ตัดสินใจยากขึ้นไปอีก
แต่ไม่ว่าตอนนี้จะลังเลใจมากขนาดไหน ขอให้พักไว้ก่อน ลองหายใจเข้าลึกๆ และลองมาฟังคำแนะนำจาก MobileGuru กับคำถามที่ว่า "เลือกอะไรดี? iPhone หรือ Android" ซึ่งเรามีคำตอบดีๆ ที่อาจช่วยให้เพื่อนๆ ตัดสินใจเลือกซื้อมือถือรุ่นใหม่ได้ง่ายขึ้นมาฝากกัน!
เคลียให้ชัดว่าชอบ (OS) อะไร
ก่อนที่เราจะไปตัวเลือกอื่นๆ อยากแนะนำให้ทุกคนเข้าใจในความชอบของตัวเองซะก่อนว่า "ตัวเรา" มีความติดใจหรือชื่นชอบ OS ไหนเป็นพิเศษหรือไม่? หรือสไตล์การใช้งานสมาร์ทโฟนเป็นอย่างไร? เพราะบ่อยครั้งที่หลายคนยังหาคำตอบในเรื่องนี้ไม่ได้ สุดท้ายลองย้ายไปใช้งานอีก OS ก็อาจเกิด "Nagative" ต่อการใช้งานขึ้นมา เพราะไม่ถนัด, ไม่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ หรือไม่ชอบจริงๆ
ดังนั้นเพื่อไม่ให้เสียเวลา จึงอยากให้เริ่มต้นลองถามตัวเองก่อนว่า เราชอบที่จะใช้งาน iPhone หรือ Android กันแน่ เพราะถ้าเรามีคำตอบของคำถามนี้ในใจอยู่แล้ว มันก็ไม่ยากที่จะไปสู่ขั้นตอนการเลือกซื้อต่อไป
ในปัจจุบัน "Feature" หรือคุณสมบัติความสามารถในการทำงานต่างๆ บนสมาร์ทโฟน กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่หลายคนใช้พิจารณาเลือกซื้อมือถือเครื่องต่อไป เพราะบางฟีเจอร์ที่ทางผู้ผลิตคิดค้นมานั้น ช่วยยกระดับความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันของเราได้เป็นอย่างดี ยกตัวอย่าง เช่น ฟีเจอร์ Note ที่ใช้งานคู่กับ S pen บน
Samsung Galaxy Note 9 ซึ่งช่วยให้เราจดบันทึกสิ่งต่างๆ ได้ทันที โดยที่ไม่ต้องพกพาสมุดบันทึกให้ยุ่งยาก หรือจะเป็นฟีเจอร์บีบตัวเครื่อง เพื่อเรียกใช้งานโหมดการถ่ายภาพบน
HTC U12+ เป็นต้น
ดังนั้นหากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบเรื่องของฟีเจอร์ ลูกเล่นต่างๆ หรือตั้งใจอยากให้มือถือของตัวเองมีฟีเจอร์เหล่านี้อยู่ การเลือกสมาร์ทโฟนทางฝั่ง Android ก็น่าจะตอบโจทย์ได้ดีกว่าจากเอกลักษณ์ประจำ OS ที่มักจะมีลูกเล่นใหม่ๆ เสริมมาให้ใช้งานอยู่บ่อยครั้ง
ซื้อครั้งนี้จะใช้ไปนานแค่ไหน?
มือถือเป็นหนึ่งในไอเท็มที่หลายคนนิยมใช้งานกันยาวๆ กว่าจะเปลี่ยนเครื่องใหม่ ถ้าไม่หาย ซ่อมไม่ได้ หรือพังคามือ ก็มักจะยังไม่เปลี่ยน ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเพียงแต่ว่า ต้องทำความเข้าใจในเรื่องการสนับสนุนจากเจ้าของกันซะหน่อย
โดยทาง Android OS ทาง Google ประกาศให้การสนับสนุนอัพเดท Android OS เวอร์ชั่นใหม่ รวมถึง Security patch ให้กับ Android Device เป็นระยะเวลา 2-3 ปี นับจากวันวางจำหน่าย ซึ่งอาจมากกว่าทีทาง Google ประกาศได้ขึ้นอยู่กับแบรนด์เจ้าของดีไวซ์ว่าจะเลือกซับพอร์ตให้นานแค่ไหน
ในขณะที่ด้านของ Apple ขึ้นชื่อเรื่องของการสนับสนุนดีไวซ์อย่าง iDevice เป็นอย่างมาก เพราะด้วยการที่ iOS เป็นระบบปฏิบัติการปิดทำให้ง่ายต่อการซับพอร์ต จึงทำให้อายุการสนับสนุนของอุปกรณ์ iDevice จาก Apple มีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 4-5 ปี จึงกลายเป็น OS ขวัญใจของหลายคน เพราะสามารถใช้งานได้นาน และสามารถเลือกซื้อรุ่นที่ตกรุ่นไปแล้ว เพื่อใช้งานถึงแม้จะเปิดตัวมาหลายปีแล้วก็ตาม
"สเปก" เรื่องยากที่ต้องเข้าใจ
ในปัจจุบันเรื่องของสเปกตัวเครื่อง กลายมาเป็นจุดไฮไลท์สำคัญของการเลือกซื้อมือถือเครื่องไปเรียบร้อย โดยเฉพาะฝั่ง Android Device ที่กลายเป็น "หลักการ" เลือกซื้อเลยทีเดียว แต่ในขณะที่ iPhone ด้วยการที่ไม่ต้องแข่งขันกับใคร รวมทั้งทาง Apple เองเวลาเปิดตัวรุ่นใหม่ทุกครั้ง ก็มักจะไม่เน้นเรื่องของสเปกเลยสักนิด ดังนั้นจะเห็นได้ว่าจริงๆ แล้ว "สเปก" ตัวเครื่องที่เราต้องนั่งท่องว่า "CPU Snap, RAM .... , ROM ... บลาๆ " สิ ถึงจะดี ก็อาจไม่ใช่ทุกอย่างของการเลือกซื้อ เพียงแต่เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้เราได้สมาร์ทโฟนที่ถูกใจเรามากที่สุดเท่านั้นเอง ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องเชื่อใครว่า Android แรงกว่า หรือ iPhone แรงกว่า จงเลือกในสิ่งที่คุณชอบนั่นแหละดี!!
ถ้าให้เปรียบเทียบก็คงเหมือนการจีบหนุ่มๆ หรือสาวๆ ที่รูปลักษณ์ภายนอก, ฐานะ, วุฒิการศึกษา อาจทำให้เราได้คนที่ใช่ง่ายขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ทุกอย่างในการเลือกคนดีๆ มาเป็นแฟนจริงไหม?
เรื่องงบเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนมองข้าม เพราะด้วยการที่ในปัจจุบันเราสามารถเข้าถึงสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนราคา 3-4 หมื่นได้ง่ายขึ้นด้วยบัตรเครดิต จึงทำให้บางครั้งเราก็มองข้ามเรื่องของงบไป จนทำให้เกิดผลกระทบในอนาคตของเราได้ ดังนั้นแนะนำว่า หากจะเลือกซื้อสมาร์ทโฟนสักรุ่น ให้ลองตั้งงบที่เราคิดว่าเหมาะสมกับตัวเราไว้ก่อน เพื่อตั้งกรอบการเลือกซื้อ จากนั้นก็ค่อยๆ เลือกรุ่นจากช่วงราคาที่เราวางไว้ เพื่อให้ได้รุ่นสมาร์ทโฟนที่ต้องการ และโปรดจำไว้ว่า เราซื้อสมาร์ทโฟนมาเพื่อใช้ ดังนั้นนิยาม "มีไว้ก่อน ดีกว่าขาด" ก็อาจจะไม่จำเป็นเท่าไรนัก
การเลือกซื้อสมาร์ทโฟนสักเครื่องไม่ว่าจะเป็น Android Device หรือ iPhone จริงๆ แล้วต่างก็มีข้อดีและข้อด้อยอยู่ในตัวของแต่ละ OS อยู่แล้ว เพียงแต่ยามเมื่อต้องเลือก! เราก็แค่เลือกให้สิ่งเหล่านั้นสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้ใช้งานอย่างเราให้ได้มากที่สุด และจงอย่าลืมว่า เราซื้อสมาร์ทโฟนมาเพื่อใช้งานและเราเป็นคนใช้ ดังนั้นจงอย่าเชื่อเสียงเชียร์ใดๆ ก่อนที่จะไปลองเล่น ลองจับ ที่ช็อปต่างๆ ก่อน เพราะไม่เช่นนั้นคุณอาจได้มือถือเครื่องใหม่ ที่มาจากความชอบของคนอื่น แทนที่จะเป็นตัวคุณเอง
ส่วนสุดท้ายแล้ว ถ้าต้องเลือกใช้สมาร์ทโฟนสักรุ่น เราจะเลือก Android หรือ iOS ดีกว่ากัน ตรงนี้ 90% อยู่ที่ตัวคุณว่าเลือกอย่างไร ส่วนอีก 10% คือจุดเด่นที่แต่ละฝั่งจะดึงดูดให้เลือกซื้อ ซึ่งก็ขอฝากไว้เป็นตัวเลือกกับนิยามสั้นๆ ที่ฝากไว้ "Freedom is Android " "Easy is iOS" ที่เหลืออยู่ที่ตัวคุณแล้ว!