eSIM (Embedded SIM) ซิมรุ่นใหม่ ที่คนไทย (จำเป็น) ต้องรู้จัก
หลังจากเปิดวางจำหน่าย Apple Watch Series 3 รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการในไทยของผู้ให้บริการเครือข่ายทั้ง 3 ราย AIS, Truemove H และ dtac สิ่งหนึ่งที่หลายคนน่าจะสังเกตเห็นในการวางจำหน่ายครั้งนี้คือ เงื่อนไขในการซื้อ ที่ครั้งนี้ทุกค่ายบังคับให้ผู้ใช้งานต้องทำการขอ Pair Number ให้เรียบร้อยซะก่อน ไม่งั้นจะไม่สามารถใช้งานฟังก์ชั่น Cellular บน Apple Watch ได้ (สำหรับรุ่น GPS+Cellular) สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ ก็ไม่ใช่เพราะใครอื่นใด แต่เป็นเพราะการมาของเทคโนโลยีซิมการ์ดรุ่นใหม่นามว่า "eSIM (Embedded SIM)"
eSIM (Embedded SIM) คืออะไร?
eSIM หรือ Embedded SIM จริงๆ แล้วก็คือ ซิมการ์ดที่เรารู้จักกันเนี้ยแหละครับ แต่เป็นซิมการ์ดมาตรฐานใหม่ที่พัฒนาขึ้นไปอีกขั้นจาก NanoSIM ทำให้ตัว eSIM มีขนาดเล็กเพียง 5 x 5 มิลลิเมตร ซึ่งเล็กมากๆ ถ้าเทียบกับ NanoSIM ที่เราใช้กันอยู่จะมีขนาด 12.30 x 8.80 มิลลิเมตร จะเห็นได้ว่าขนาดต่างกันมาก
ดังนั้น ถ้านำ eSIM มาใช้งานทั่วไปแบบที่เราใช้งาน NanoSIM กันอยู่ แน่นอนว่า งานนี้คงต้องเดินเข้าศูนย์บริการกันบ่อยๆ เพราะไม่หายก็หาไม่เจอ eSIM จึงถูกผู้ผลิตด้วยการฝังมากับอุปกรณ์สือสารตั้งแต่โรงงานเลย ไม่สามารถแกะออกได้ แต่ยังคงมีความสามารถ และทำงานได้เหมือนซิมการ์ดทุกประการ
M2M (Machine to Machine) หนึ่งในความสามารถของ eSIM
สาเหตุที่ค่ายมือถือทั้ง 3 ราย ต้องให้ผู้ใช้งานทำการ Pair Number ก่อนนั้น เป็นเพราะ Apple Watch Series 3 ตัวเครื่องมาพร้อม eSIM ดังนั้นจะไม่มีช่องใส่ซิมการ์ดให้เราใช้งานอย่างที่เราคุ้นเคยกัน ดังนั้นการที่จะทำให้ใช้งาน Cellular ได้ก็คือ การนำความสามารถ M2M ของ eSIM มาใช้งานนั้นเอง
M2M เป็นความสามารถในการติดต่อหรือรับ-ส่งข้อมูลระหว่างกันเองของอุปกรณ์ตั้งแต่สองอย่างขึ้นไป และต้องเป็นอุปกรณ์ที่รองรับการใช้งานด้วย ซึ่งในที่นี้จึงใช้ iPhone เป็นอุปกรณ์ในการปล่อยสัญญาณ Cellular ให้กับ Apple Watch Series 3 ทำให้สามารถใช้งาน Cellular ได้ และเมื่อทำการ Pair Number เรียบร้อยแล้ว ก็จะทำให้สามารถโทรออก-รับสาย ด้วยเบอร์เดียวกับที่ใช้งานอยู่บน iPhone ได้ด้วยนั้นเอง
แบบนี้ก็ใช้งานได้แค่เครือข่ายเดียว?
ไม่ได้เป็นแบบนั้นแน่นอนครับ เพราะไม่งั้นถ้าเราต้องการย้ายเครือข่ายขึ้นมาก็ต้องซื้อเครื่องใหม่อย่างเดียวสิจริงไหม? โดย eSIM รองรับการสร้าง Profile การใช้งานได้หลายโปรไฟล์ เพราะฉะนั้น Apple Watch Series 3 หนึ่งในอุปกรณ์ที่ตอนนี้ใช้งาน eSIM ก็รองรับความสามารถนี้ด้วยเช่นกัน
ทำไมคนไทยต้องรู้จัก eSIM
อย่างที่เกริ่นไปครับว่า eSIM เป็นมาตรฐานของซิมการ์ดใหม่ ที่เข้ามาช่วยพัฒนาเทคโนโลยีด้านการสื่อสารให้สะดวกมากยิ่งขึ้น มีคุณสมบัติ M2M ที่จะใช้รองรับการสื่อสารในรูปแบบ IoT ในอนาคต ที่ตอนนี้หลายคนน่าจะเริ่มเห็นแล้วว่า เรื่องของ IoT หรือ Internet of Things เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นเรื่อยๆ และในอนาคต 2-3 ปีข้างหน้านี้ จะมากขึ้นกว่านี้อย่างแน่นอน
ถึงแม้ซิมการ์ดที่ในประเทศไทยใช้งานกันอยู่คือ NanoSIM อาจจะรองรับการใช้งานด้าน IoT ไปได้อีกอย่างน้อยๆ 2-3 ปี ข้างหน้า แต่สุดท้ายแล้วเมื่อถึงจุดหนึ่ง ยังไงเราก็ต้องถูกเปลี่ยนไปใช้ eSIM ตามการเปลี่ยนไปของเทคโนโลยีอยู่ดี และหลังจาก eSIM ยังมีเทคโนโลยีของ SoftSIM ที่มาต่อแถวรอแล้วเช่นกัน ดังนั้นการที่เราเตรียมตัว และทำความรู้จัก คุ้นเคยของ eSIM ก่อนใคร จึงเป็นเรื่องที่ดีที่เราต้องรู้ทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ที่พัฒนาอยู่เรื่อยๆ