รีวิว Honor 10 ดีไซน์ไม่ซ้ำใคร สนุกกับการถ่ายรูปในมุมที่แตกต่างด้วย AI Dual camera
Honor 10 สมาร์ทโฟนรุ่นท็อปจาก
Honor (ออนเนอร์) แบรนด์น้องใหม่ไฟแรงในตลาดสมาร์ทโฟนเมืองไทย ที่มาพร้อมจุดเด่นด้านดีไซน์ตัวเครื่อง ด้วยคอนเซ็ปท์การออกแบบ Aurora Design ทำให้ตัวเครื่องดูโดดเด่น ไม่ซ้ำใคร มีกล้องถ่ายรูปความละเอียดสูงแบบ Dual cam ที่ผสานการทำงานร่วมกับ AI ทำให้ทุกการถ่ายภาพสนุกและง่ายมากขึ้น
ในขณะที่ด้านของสเปคตัวเครื่อง รวมไปถึงเทคโนโลยีต่างๆ ทาง Honor ก็จัดมาให้แบบเต็มชนิดที่เรียกได้ว่า ไม่แพ้รุ่นท็อปค่ายดัง เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นหน้าแสดงผลแบบ Notch screen หรือ "หน้าจอแหว่ง" ตามเทรนด์ตลาดตอนนี้, ชิพเสียงระดับ HiFi, ระบบสแกนลายนิ้วมือ UltraSonic หรือจะเป็นระบบชาร์จเร็วก็ใส่มาให้เช่นกัน
โดยทาง Honor วางจำหน่าย Honor 10 ด้วยกัน 2 สี คือ สีน้ำเงิน Phantom Blue และสีดำ Midnight Black ในราคาเพียง 13,990 บาท
อุปกรณ์ที่ให้มาภายในกล่องบรรจุภัณฑ์ของ Honor 10 มีดังนี้
- Honor 10 (Phantom Blue)
- สายชาร์จ USB Type C
- อแดปเตอร์ชาร์จไฟ Honor Super Charge 5V4.5A
- เคสซิลิโคนใส (Soft case)
- เข็มจิ้มซิมการ์ด
- หน้าจอแสดงผล Fullview Display ขนาด 5.84 นิ้ว (Ration 19:9) ความละเอียด 2280x1080 พิกเซล
- CPU AI Chipset with independent NPU
- GPU Mali G72 MP12
- RAM 4GB
- ROM 128GB
- กล้องถ่ายรูป AI Dual Cam ความละเอียด 24+16 พิกเซล (RGB+Monochrome, F1.8)
- กล้องหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล (F2.0)
- Android OS 8.0 Oreo with EMUI
- แบตเตอรี่ขนาด 3400 mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Honor Super Charge
- ดูรายละเอียดสเปก Honor 10 เพิ่มเติม
- 2G : คลื่น 850/900/1800/1900 MHz
- 3G : คลื่น 850/900/1900/2100 MHz
- 4G : คลื่น 850/900/1800/2100 MHz
- Dual SIM, Dual Standby
- WiFi : 802.11 a/b/g/n/ac, Hotsport, WiFiDirect
- USB OTG
Honor 10 มาพร้อมการออกแบบตัวเครื่องภายใต้คอนเซ็ปท์การออกแบบ "Aurora Design" ที่ทาง Honor ใช้เทคนิคการออกแบบด้วยการนำกระจกมาวางซ้อนกันที่ฝาตัวเครื่องด้านหลังมากถึง 15 ชั้น เพื่อให้เกิดเป็นแสงไฮไลท์เหมือนแสงออโรรา (Aurora) ตามชื่อคอนเซ็ปท์การออกแบบ โดย Aurora Design มีความพิเศษที่ไม่ซ้ำใครตรงที่ทุกๆ 5 องศาในการเปลี่ยนมุมมอง ตัวเครื่องจะสะท้อนเล่นกับแสง ทำให้เปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ ดูสวยงามและโดดเด่นพอสมควร
ด้านหน้าตัวเครื่อง มาพร้อมหน้าจอแสดงผล Fullview Display ขนาด 5.84 นิ้ว ความละเอียดระดับ FullHD+ ซึ่งแสดงผลด้วยอัตราส่วน 19:9 ทำให้หน้าจอเป็นแบบ Notch screen หรือ มีรอยแหว่งสามารถแสดงการแจ้งเตือนได้หลายข้อความ โดยถ้าหากใครไม่ชอบ Honor 10 ก็มีโหมดปิดรอยแหว่ง ด้วยการปรับแถบแจ้งเตือนเป็นสีดำ ทำให้ดูกลืนไปกับ Notch screen
ตรงบริเวณ Notch screen มีเซ็นเซอร์กล้องหน้าฝังอยู่ ซึ่งให้ความละเอียดมาสูงถึง 24 ล้านพิกเซล (F2.0) โดยมีระบบ AI ช่วยในการถ่ายภาพ และรองรับการบันทึกภาพวีดีโอสูงสุดที่ความละเอียดระดับ FullHD (1080P)
ขยับลงมาบริเวณด้านล่างตรงกลางของหน้าจอแสดงผล เป็นระบบสแกนลายนิ้วมือแบบ Ultrasonic ซึ่งตัวสแกนจะฝังอยู่ใต้หน้าจอแสดงผล ทำให้เราสามารถสแกนนิ้วมือได้ด้วยการทัชลงบนหน้าจอบริเวณนั้นได้เลย และยังสามารถใช้งานได้แม้นิ้วมือเปียก
ในขณะที่ปุ่มปรับระดับเสียงเพิ่ม-ลด (Volume) ถูกวางตำแหน่งไว้ด้านขวาของตัวเครื่อง ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกับปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง ซึ่งใช้งานช่วงแรกใครที่เคยผ่านสมาร์ทโฟนมาหลายแบรนด์อาจจะไม่คุ้นชินเท่าไร เพราะส่วนมากสองปุ่มนี้จะวางกันคนละข้าง แต่ใช้ไปสักพักอาจจะรู้สึกชอบ เนื่องจากเราสามารถใช้งานได้ด้วยมือเดียว
Honor 10 รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด โดยตำแหน่งถาดใส่ซิมจะอยู่ฝั่งซ้ายของตัวเครื่อง
ด้านล่างตัวเครื่อง มีลำโพงเสียงตัวเครื่อง, พอร์ทหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร และเลือกใช้พอร์ท USB-C เป็นพอร์ทในการเชื่อมต่อหลักของตัวเครื่อง
กล้องถ่ายรูปของ
Honor 10 มาพร้อมกล้องถ่ายรูป AI Dual Cam ความละเอียด 24 + 16 ล้านพิกเซล (F1.8 ทั้งคู่) ซึ่งเป็นการทำร่วมกันระหว่างเซ็นเซอร์รับภาพแบบ RGB (ภาพสี) และแบบ Monochrome (ภาพขาวดำ) ทำให้ภาพถ่ายที่ได้ออกมาดูมีมิติ คมชัด มากกว่ากล้องทั่วไป รวมทั้งเรายังสามารถถ่ายภาพขาว-ดำ ได้โดยตรงจากกล้อง
Honor 10 มาพร้อมหน้าจอแสดงผล Fullview Display ที่แสดงผลด้วยอัตราส่วน 19:9 ทำให้ตัวหน้าจอจะมีส่วนที่เป็น Notch display อยู่หน่อย ซึ่งถ้าใครไม่ชอบ มีโหมดปิด Notch screen โดยเป็นการเปลี่ยนแถบแจ้งเตือนข้างบนให้เป็นสีดำ ทำให้ดูกลืนไปกับส่วนแหว่งเข้ามานั้นเอง ในขณะที่ตัว
Honor 10 รันบนระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 8.0 Oreo ครอบทับด้วย EMUI เวอร์ชั่น 8.0
จากหน้า Home เมื่อปัดไปด้านซ้ายสุด จะพบกับหน้าเมนู Hiboard ซึ่งเป็นหน้าเมนูที่เสมือนให้เราโน้ตสิ่งต่างๆ ไว้กันลืม รวมทั้งยังสามารถเลือก Pin หรือปักหมุดไอคอนแอปฯ ทางลัดไว้ได้ด้วย เพื่อให้เราสามารถเข้าถึงหรือเรียกใช้งานแบบเร่งด่วนได้ทันที เช่น Pin การนำทางกลับบ้านผ่าน Google Maps
การเปิด-ปิด Notch screen
สามารถเข้าไปที่เมนูการตั้งค่า (Setting) >> การแสดงผล >> ร่องรอย เลือกเปิด-ปิด Notch screen ได้ตามต้องการ สังเกตแถบแจ้งเตือนด้านบนจะเปลี่ยนเป็นสีดำ
โหมดแอปฯ โคลนนิ่ง (Clone App)
Honor 10 มาพร้อมโหมดแยกบัญชี (ID) การใช้งานของแอปพลิเคชั่นโซเชียลยอดนิยมอย่าง Line, Facebook, Instagram หรือ Facebook Messenger ทำให้สามารถเล่นพร้อมกันได้ โดยที่ทั้งสองบัญชีไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกัน น่าจะถูกใจเหล่าพ่อบ้านทั้งหลายไม่น้อย
ระบบเสียง Easy talk และ Hi-Fi
Honor 10 มีการใส่ชิพเสียงระดับ Hi-Fi อย่าง AKM AK4376 ซึ่งเป็น Audio chip ที่รองรับเสียงในระดับ Hi-Fi มาให้ด้วย รวมทั้งยังมีโหมด EQ แบบสำเร็จรูปมาให้เราเลือกปรับให้เข้ากับชนิดของหูฟังที่นำมาใช้ นอกจากนี้ทาง Honor ยังพัฒนาเทคโนโลยีไมค์และลำโพงสนทนาบนตัวเครื่องให้ดีขึ้น และใส่ฟังก์ชั่น Easy Talk ที่เป็นการใช้ไมค์ ทำการตัดเสียงรบกวนรอบข้างให้ดี เพื่อให้เราพูดคุยกับคู่สนทนาด้วยเสียงในระดับเบาก็ได้ยิน
WiFi Bridge
โหมดนี้ผมค่อนข้างชอบเลยทีเดียว เพราะว่าบางครั้งเวลาเพื่อนๆ หรือคนรู้จักมาเยี่ยมที่บ้าน แล้วมาขอยืมใช้ WiFi ซึ่งเราไม่อยากให้รหัส WiFi หรือป้อนรหัสลงไป โหมดนี้ช่วยได้! WiFi Bridge เป็นหนึ่งในฟีเจอร์บน
Honor 10 ที่จะทำให้เราสามารถแชร์ WiFi ที่ใช้งานอยู่ให้กับคนอื่นใช้ได้ โดยไม่ต้องให้รหัสที่แท้จริง เพราะโหมดนี้จะให้เราสร้างรหัสใหม่ขึ้นมาสำหรับการแชร์ครั้งนั้นเท่านั้น และขอย้ำว่าแชร์ WiFi นะครับ ไม่ได้แชร์ Data 3G/4G แบบที่เราใช้งานกัน
Honor 10 เลือกใช้หัวใจในการประมวลผลการทำงานด้วย AI Chipset with independent NPU จับคู่การทำงานร่วมกับ RAM 4GB และหน่วยความจำภายใน 128GB ซึ่งเป็น CPU ระดับ High-end เทียบเท่าสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปของแบรนด์อื่นเลยทีเดียว ทำให้สามารถประมวลผลการทำงานได้ตั้งแต่ระดับกลางจนไปถึงระดับสูงได้สบายๆ
คะแนนทดสอบประสิทธิการประมวลผลด้วยแอปพลิเคชั่น
- ทดสอบด้วยแอปฯ AnTuTu Benchmark ได้คะแนน 202704 คะแนน
- ทดสอบด้วยแอปฯ BaseMark OS II ได้คะแนน 3412 คะแนน
- ทดสอบด้วยแอปฯ GeekBench 4 ได้คะแนน Single core 1894 และ Multi Core 6618 คะแนน
- ทดสอบด้วยแอปฯ MultiTouch Tester รองรับได้ 10 จุด
Honor 10 ประมวลผลการทำงานด้านกราฟฟิกด้วย GPU MaliG72 MP12 ทำงานร่วมกับขุมพลัง
AI Chipset with independent NPU ซึ่งถือว่าเป็นการจับคู่กันได้ดี เพราะรองรับการประมวลผลกราฟฟิกได้ตั้งแต่ระดับกลางจนถึงระดับสูงได้เป็นอย่างดี โดยจากการทดสอบเล่นเกม MOBA ยอดนิยมอย่าง ROV ก็รองรับการปรับแสดงผลกราฟฟิกในระดับสูงได้ ในขณะที่ทดสอบเกม Marvel Future Fight เล่นได้อย่างราบรื่นไม่มีปัญหา
หน้าการตั้งค่ากราฟฟิกในเกม ROV
ทดสอบเล่นเกม ROV
หน้าการตั้งค่ากราฟฟิก Marvel Future Fight
ทดสอบเล่นเกม Marvel Future Fight
Honor 10 มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดความจุ 3,400 mAh มีเทคโนโลยีชาร์จไว Honor Super Charge ที่ทาง Honor เคลมว่าชาร์จ 50% ได้ภายใน 30 นาที ซึ่งจากการใช้งานทั่วไป เล่นโซเชียล Youtube เล่นเกมในหนึ่งวันแบตเตอรี่สามารถอยู่ได้ถึงแค่ช่วงบ่ายๆ เท่านั้น แต่ถ้าเปิดสแตนบายสามารถใช้งานข้ามไปเช้าอีกวันได้เลย
Honor 10 มาพร้อมกล้องถ่ายรูปแบบ Dual cam ที่ผสานการทำงานร่วมกันระหว่างเซ็นเซอร์ RGB (ภาพสี) ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล กับเซ็นเซอร์ Monochrome (ภาพขาว-ดำ) ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซึ่งทำคู่มีค่ารูรับแสงที่ F1.8 ทำให้ภาพถ่ายที่ได้มีความคมชัด มีมิติมากกว่าภาพจากกล้องมือถือทั่วไป รวมทั้งถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ดีจากความกว้างของรูรับแสงที่ให้มา
นอกจากนี้ตัวกล้องของ
Honor 10 ยังมีระบบ AI มาช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพได้สนุกและสวยมากขึ้น โดยที่ไม่จำเป็นต้องเป็นคนถ่ายรูปเก่งแต่อย่างใด เพราะตัว AI จะช่วยประมวลผลจำแนกวัตถุต่างๆ ให้เอง พร้อมทั้งปรับแต่งการตั้งค่า รวมไปถึงปรับไดนามิกของภาพให้เหมาะสมกับวัตถุที่เรากำลังจะถ่ายให้ทันที โดยรองรับหมวดการถ่ายภาพมากถึง 22 หมวดเลยทีเดียว (รองรับการเพิ่มหมวดในอนาคตด้วยการอัพเดท)
หน้าเมนูกล้องถ่ายรูป
โหมดการถ่ายภาพบน Honor 10
ปรับค่าความสว่าง จากหน้าเมนูกล้องได้ทันที เพียงแค่แตะโฟกัสค้าง
ปรับค่ารูรับแสง (F)
เพื่อเลือกระยะหน้าชัด หลังเบลอได้จากโหมดถ่ายภาพรูรับแสง แล้วเลื่อนขึ้น-ลง จากแถบปรับค่าด้านข้าง
ภาพถ่ายตัวอย่างจากกล้อง AI Dual cam
Bokeh (ปรับค่ารูรับแสง)
โหมดภาพขาว-ดำ (Monochrome)
เปิดโหมด AI (บน) และ ปิดโหมด AI (ล่าง)
เปิด AI Mode
ปิด AI Mode
เปิด AI Mode
ปิด AI Mode
เปิด AI Mode
ปิด AI Mode
กล้องหน้า
ด้านกล้องหน้าหรือกล้องเซลฟี่ Honor ก็ใส่กล้องความละเอียดสูง 24 ล้านพิกเซล (F2.0) มาให้ พร้อมระบบ AI สำหรับการถ่ายภาพเซลฟี่โดยเฉพาะ ซึ่ง AI จะช่วยปรับแสง ความสว่างต่างๆ ของภาพเซลฟี่ ให้ออกมาใกล้ความจริงมากที่สุด
ภาพตัวอย่างจากโหมด 3D Portrait Lighting
มีโหมด 3D Portrait Lighting ที่เป็นโหมดปรับโทนสี แสงของภาพถ่ายเซลฟี่มาให้เล่นด้วย
AR Sticker ก็มา
ภาพตัวอย่างจากกล้องหน้า
ภาพตัวอย่างจาก AR Sticker
ข้อดี
- ให้สเปคมาในระดับรุ่นท็อป แต่ราคาอยู่หลักหมื่นกลางๆ
- กล้องถ่ายรูป Dual Cam มีโหมด AI มาให้ ทำให้ถ่ายภาพง่ายและสนุกขึ้น
- กล้องหน้าให้ความละเอียดมาสูง และมี AI ช่วยในการถ่ายทำให้ได้ภาพเซลฟี่ที่สวยกว่าเดิม
- ดีไซน์ Aurora Glass ทำให้ตัวเครื่องดูโดดเด่นและสวย
- หน้าจอแสดงผลแบบ FullView ขนาด 5.84 นิ้ว FullHD+ แสดงผลได้คมชัด และจุใจ
- มีระบบชาร์จไว Honor Super Charge ทำให้ไม่ต้องรอชาร์จแบตฯ นาน
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ให้มาเยอะจุใจ 128GB
ข้อสังเกต
- ด้านหลังตัวเครื่องเป็นกระจกทำให้เป็นรอยนิ้วมือง่าย
- ในกล่องไม่ได้แถมชุดหูฟังมาให้
- แบตเตอรี่ใช้งานจริง หมดไวอยู่เหมือนกัน
- โหมดถ่ายวีดีโอ ตัวกล้องยังจับโฟกัสไม่แม่น
- ปุ่มปรับระดับเสียงอยู่ข้างเดียวกับปุ่ม Power อาจใช้งานงงหน่อย ในช่วงแรก
สมาร์ทโฟน honor 10 จะวางจำหน่ายผ่านทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ Lazada ตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายนเป็นต้นไป นอกจากนี้จะวางจำหน่ายที่ร้าน CSC ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี และร้านทีจีโฟน ตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายนเป็นต้นไป สำหรับใครที่สนใจสามารถสั่งจองล่วงหน้าผ่านตัวแทนจำหน่ายดังกล่าวได้ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.นี้ พร้อมรับของขวัญสุดพิเศษจากออเนอร์ และสำหรับผู้ที่ทำการสั่งจอง 500 คนแรก จะได้รับฟรี! ลำโพงไร้สายไปอีกด้วยครับ