รีวิว Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ ยกระดับความเหนือชั้นในทุกๆ ด้าน
Samsung Galaxy S9 และ
Samsung Galaxy S9+ หากพิจารณาองค์ประกอบโดยรวมมีความก้าวหน้าจากเดิมเพียงเล็กน้อย แต่การอัพเกรดดังกล่าวมีความน่าสนใจมากจนทำให้โทรศัพท์ทั้งสองรุ่นสามารถอยู่ใน 20 อันดับของการจัดเรตติ้งโดย
Consumer Reports Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ ได้รับการยกระดับฟีเจอร์ความปลอดภัย การถ่ายวีดีโอแบบซูเปอร์สโลว์โมชั่น และกล้องที่สามารถเปลี่ยนรูปของคุณให้เป็นอีโมจิ แต่อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติสำคัญอย่างความทนทาน การประมวลผลที่รวดเร็วยิ่งกว่าเดิม และเสียงที่มีคุณภาพสูง คือปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ เหนือกว่าคู่แข่งมากมายในตลาด (ติดในรายชื่อ 20 อันดับสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดของ Consumer Reports)
เมื่อพูดถึงโทรศัพท์มือถือระดับไฮเอนด์ การเลือกใช้จะขึ้นอยู่กับความชื่นชอบส่วนบุคคลอย่างแท้จริง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าโทรศัพท์รุ่นใหม่ของซัมซุงมีความสมบูรณ์แบบ แบตเตอรี่มีระยะเวลาใช้งานที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า กล้องของโทรศัพท์รุ่นใหม่นี้ยังมีประสิทธิภาพด้อยลงเล็กน้อยจากการทดสอบ แต่ก็ยังน่าประทับใจ
Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ มีรูปลักษณ์เหมือนกับ Samsung Galaxy S8 และ Samsung Galaxy S8+ มีขนาดเท่ากัน และมาพร้อมหน้าจออัตราส่วน 18.5:9 เหมือนเดิม ซึ่งทำให้ตัวโทรศัพท์มีขนาดใหญ่แต่ก็ยังถือง่าย ขนาดหน้าจอ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก แต่ซัมซุงได้ปรับขอบจอให้บางขึ้น
ใช้วัสดุกระจกทั้งด้านหน้าและด้านหลังเหมือนเดิม รองรับการชาร์จไฟไร้สาย (แต่ก็เป็นรอยนิ้วมือง่ายมาก) แต่ยังไงซะ กระจกก็ไม่มีทางแข็งแรงเท่าโลหะ งานนี้มีการทดสอบความทนทานของสมาร์ทโฟน ทดสอบการหล่นกระแทกในกล่องหมุนเหวี่ยง 100 ครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าตัวเครื่องกระทบกับพื้นกล่องในหลายมุมเพื่อจำลองการหล่นกระแทกหลากหลายรูปแบบ หลังจากการทดสอบกระแทก 50 ครั้งในกล่องหมุนเหวี่ยง Samsung Galaxy S8 และ Samsung Galaxy S8+ เสียหายอย่างรุนแรงและไม่สามารถใช้งานได้ ในขณะที่ Samsung Galaxy S9 ผ่านการทดสอบแรงกระแทกทั้ง 100 ครั้ง ได้โดยมีรอยขีดข่วนเพียงเล็กน้อย แต่ว่า Samsung Galaxy S9+ ผ่านการทดสอบกระแทก 50 ครั้งแรกโดยไม่มีปัญหา แต่เกิดรอยแตกในการกระแทกอีก 50 ครั้งต่อมา ถึงจะทนทานขึ้นแต่ก็ควรใส่เคสคุณภาพดีด้วยนะครับ
Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ มีลำโพงทีได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี คุณภาพเสียงผ่านการปรับแต่งพร้อมหูฟังโดยบริษัท AKG-Harman ซึ่งซัมซุงเข้าครอบครองกิจการตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2560 แต่ก็ให้ระดับเสียงออดิโอที่ดีและสร้างเสียงเต็มรูปแบบได้อย่างมีคุณภาพ และยังคงมาพร้อมพอร์ทหูฟังขนาด 3.5 มม. เหมือนเดิม
ฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยที่สะดวกสบาย
Samsung Galaxy S8 และ Samsung Galaxy S8+ ออกแบบเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือได้อย่างน่าหงุดหงิดเพราะติดตั้งอยู่ข้างกับกล้องถ่ายภาพ บางคนจึงมักไปแตะถูกเลนส์กล้องโดยไม่ตั้งใจเมื่อต้องการปลดล็อกโทรศัพท์ แต่ปัญหานี้ถูกแก้ไขใน Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ แล้วครับ นอกจากนี้ยังมาพร้อมทางเลือกการสแกนอัจฉริยะที่เปิดโอกาสให้ สามารถผสมผสานการจดจำใบหน้าและการสแกนม่านตาสำหรับเป็นทางเลือกในการปลดล็อกโทรศัพท์ แต่การสแกนอัจฉริยะยังไม่มีความปลอดภัยมากพอสำหรับการใช้กับแอพชำระเงิน (ไม่เหมือนกับเทคโนโลยีจดจำใบหน้าสามมิติใน iPhone X)
จุดด้อยของ Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+
Samsung Galaxy S9+ เป็นโทรศัพท์ตระกูล Galaxy S Series รุ่นแรก ที่มาพร้อมกล้องคู่ด้านหลังซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ติดตั้งอยู่ใน Samsung Galaxy Note 8 มีความละเอียด 12MP + 12MP ซึ่งมีความละเอียดมากพอสำหรับการถ่ายภาพที่คุณสามารถแชร์และสั่งพิมพ์ออกมา ประกอบด้วยเลนส์มุมกว้างและเลนส์เทเลโฟโต้รองรับ Optical Zoom 2X และกล้องหน้าความละเอียด 8MP
Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ สามารถถ่ายภาพได้ด้วยการใช้รูรับแสงที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นรูรับแสง F2.4 ที่มีขนาดเล็กกว่าสำหรับถ่ายภาพในสภาพแสงสว่างจ้าหรือถ่ายภาพด้วยรูรับแสงที่กว้างกว่า F1.5 ในสภาพแสงน้อย รูรับแสงทั้งสองขนาดให้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นเล็กน้อยในการถ่ายภาพท่ามกลางสภาพแสงน้อยเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าแต่ก็มีความแตกต่างน้อยมาก จะต้องนำภาพถ่ายทั้งสองมาวางเปรียบเทียบเคียงข้างกันจึงจะเห็นความแตกต่าง
ทั้งสองรุ่นสามารถสร้างเอฟเฟ็กต์โบเก้ ทำให้ได้ภาพถ่ายบุคคลที่มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น ซึ่งต้องตัดคะแนนในส่วนนี้ออกไปครับเพราะมีความคมชัดอย่างไม่เป็นธรรมชาติ ความละเอียดที่ไม่สมจริง การสร้างความคมชัดอย่างไม่เป็นธรรมชาติคือการขับเน้นคอนทราสต์ระหว่างวัตถุที่มีความมืดและสว่าง ซึ่งอาจทำให้เกิดแสงรัศมีรอบวัตถุเป้าหมายอย่างไม่เป็นธรรมชาติมากขึ้น ผลก็คือ Samsung Galaxy S9+ อยู่ในอันดับที่ 4 ในการจัดเรตติ้งกล้องสมาร์ทโฟน ตามหลัง iPhone X, iPhone 8 Plus ส่วน Samsung Galaxy S9 อยู่ในอันดับที่ 12 ต่ำกว่า Samsung Galaxy S8 ซะอีก
แต่ว่ากล้องในสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมเกือบทุกรุ่นในปัจจุบันมีคุณภาพดีมาก คะแนนในภาพรวม มีความแตกต่างกันประมาณ 0.5 คะแนนจากทั้งหมด 5 คะแนนเต็ม
ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่
ความจุแบตเตอรี่ของโทรศัพท์รุ่นใหม่นี้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง Samsung Galaxy S9 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 3,000 mAh ส่วน Samsung Galaxy S9+ มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 3,500 mAh ทั้งสองรุ่นมีระยะเวลาใช้งานที่สั้นลงเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
การทดสอบพบว่า แบตเตอรี่ของ Samsung Galaxy S9 ใช้งานได้นาน 22.5 ชั่วโมง ลดลงจาก 26 ชั่วโมงของรุ่นที่แล้วส่วน Samsung Galaxy S9+ ใช้งานได้นาน 24 ชั่วโมง ลดลงจาก 25.5 ชม. ของรุ่นที่แล้วเช่นกัน ระยะเวลาที่ลดลงดังกล่าวถือว่าไม่มากนัก โทรศัพท์ทั้งสองรุ่นยังมีพลังแบตเตอรี่ที่มากเพียงพอต่อการใช้งานโดยเฉลี่ยตลอดทั้งวัน
Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ ตอบสนองต่อใช้งานได้อย่างสนุกสนาน และระบบความปลอดภัยไบโอเมตริกที่ดีขึ้นนั้นทำงานได้รวดเร็วและง่ายดาย แต่ฟีเจอร์ใหม่อื่นๆ เหมือนเป็นลูกเล่นมากกว่าจะใช้งานได้จริง การสร้างอีโมจิแบบสามมิติจากตัวผู้ใช้อาจให้ความเพลิดเพลิน แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผู้ใช้งานหลายคนชื่นชอบได้เสมอไป โหมดกล้องซูเปอร์สโลว์โมใช้ง่ายยากและจำกัดแค่การถ่ายคลิปที่สั้นมาก ขณะที่การทดลองใช้แบบเร็วๆ กับฟีเจอร์การนับแคลอรี่ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ก็ประสบความสำเร็จน้อยมาก สามารถจำแนกภาพกล้วยได้อย่างถูกต้อง แต่สับสนเมื่อให้จำแนกระหว่างเครื่องดื่มโค๊กกับชาเย็น
สรุปก็คือมีความทนทานต่อการแตกร้าวมากขึ้น ทำงานได้อย่างรวดเร็ว และมีคุณภาพเสียงที่รื่นรมย์กว่าเดิม ขณะเดียวกันมาตรฐานประสิทธิภาพในภาพรวมก็ถูกยกระดับให้สูงขึ้นตามที่แฟนๆ ซัมซุงคาดหวังครับ