รีวิว เปรียบเทียบ Samsung Galaxy A8+ กับ Samsung Galaxy S8 รุ่นไหนน่าซื้อกว่ากัน?

Samsung Galaxy A8 (2018) และ Samsung Galaxy A8+ (2018) ได้วางจำหน่ายในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค. 2561 เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนของ ซัมซุง ที่น่าสนใจ เพราะมาพร้อมดีไซน์ที่พรีเมี่ยมมากขึ้นกว่าเดิม ดูคล้ายกับ Samsung Galaxy Note 8 ต่างกันเพียงแค่ขอบจอที่ค่อนข้างหนากว่าพวกรุ่นใหญ่ที่เป็นหน้าจอโค้งไร้ขอบ มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Gold, Black และ Orchid Gray 

โดย Samsung Galaxy A8 (2018) และ Samsung Galaxy A8+ (2018) เปิดราคามาที่ 15,990 บาท และ 18,990 บาท ตามลำดับ เปิดราคามาแบบนี้ทำให้หลายคนที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนตัวให้กับตนเองลังเลว่าจะซื้อ Samsung Galaxy A8+ (2018) ที่เป็นรุ่นใหม่เพิ่งเปิดตัว หรือจะซื้อ Samsung Galaxy S8 สมาร์ทโฟนที่เป็นเรือธงของปี 2017 ดี เพราะราคาของทั้งสองรุ่นตอนนี้ต่างกันไม่มากนัก (ตามราคาขายจริงที่หาได้) วันนี้เราจึงนำทั้งสองรุ่นนี้เปรียบเทียบสเปคให้เพื่อนๆ พิจารณากันครับ ว่าจะตัดสินใจซื้อรุ่นไหนดี

Samsung Galaxy A8+ (2018) มาพร้อมดีไซน์โลหะและกระจกเหมือนรุ่นใหญ่ หน้าจอ Super AMOLED อัตราส่วน 18.5:9 ไร้ขอบ (แต่ไม่ใช่จอโค้ง และขอบจอค่อนข้างหนากว่า) ขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ 3D Touch เฉพาะบนปุ่มเสมือน รองรับ Always-on display กระจก Corning Gorilla Glass

Samsung Galaxy S8 มาพร้อมดีไซน์โลหะและกระจก และจะดูโค้งมนมากกว่า หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.8 นิ้ว ความละเอียด QHD+, 3D Touch เฉพาะบนปุ่มเสมือน, รองรับ Always-on display กระจก Corning Gorilla Glass 5

สำหรับดีไซน์จะเห็นว่า Samsung Galaxy S8 ยังคงสวยกว่าครับ เพราะหน้าจอโค้งนี่ละครับ ทำให้ตัวเครื่องดูพรีเมี่ยมกว่า แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบจอโค้ง เพราะพิมพ์ข้อความยากก็น่าจะชอบ Samsung Galaxy A8+ (2018) แต่ในรุ่นนี้ทาง Samsung ได้ตัดปุ่ม Bixby ออกไปแล้วด้วย (ในเครื่องยังคงติดตั้งมาให้ครับ) รวมทั้งสเปคหน้าจอที่แตกต่างกันมาก ทำให้ในส่วนของดีไซน์ Samsung Galaxy S8 ดูเหนือกว่า Samsung Galaxy A8+ (2018) ครับ

Samsung Galaxy A8+ (2018) รองรับ 4G LTE-A (3CA) Cat11 600/75 Mbps, Exynos 7885 Octa, GPU Mali-G71, RAM 6GB, ROM 64GB (รองรับ MicroSD สูงสุด 256GB), Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0, USB Type-C, NFC, GPS, รองรับมาตรฐานกันน้ำ และฝุ่นระดับ IP68 และรองรับ Samsung Pay, แบตเตอรี่ความจุ 3,500 mAh, รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Fast Charging และรองรับระบบรักษาความปลอดภัยทั้ง Face recognition และ Fingerprint

Samsung Galaxy S8 รองรับ 4G LTE-A (4CA) Cat16 1024/150 Mbps, Exynos 8895 Octa, GPU Mali-G71 MP20, RAM 4GB, ROM 64GB (รองรับ MicroSD สูงสุด 256GB), Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0, USB Type-C, NFC, GPS, รองรับมาตรฐานกันน้ำ และฝุ่นระดับ IP68 และรองรับ Samsung Pay, แบตเตอรี่ความจุ 3,000 mAh, รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Fast Charging และรองรับระบบรักษาความปลอดภัยทั้ง Iris scanner, Face recognition และ Fingerprint

สเปคของสองรุ่นนี้ Samsung Galaxy S8 เหนือกว่าครับ ชิปเซ็ตระดับสูงกว่า รวมทั้งรองรับคลื่นความถี่ระดับ LTE-A (4CA) Cat16 รวมทั้งรองรับสแกนม่านตาหรือ Iris scanner อีกด้วย ดูจะเป็นรองก็แค่ตรง RAM เท่านั้น ซึ่งเมื่อมองโดยรวมแล้ว Samsung Galaxy S8 ก็ยังคงเหนือกว่า Samsung Galaxy A8+ (2018) อยู่มาก

Samsung Galaxy A8+ (2018) มีจุดขายในเรื่องกล้องหน้าครับ เพราะรุ่นนี้เป็นสมาร์ทโฟนกล้องหน้าคู่รุ่นแรกของ ซัมซุง มีความละเอียด 16MP (F1.9) + 8MP (F1.9) มาพร้อมลูกเล่น Selfie ละลายหลัง หรือจะถ่ายภาพมุมกว้างก็ยังได้ ส่วนกล้องหลังความละเอียด 16MP (F1.7) รองรับ PDAF บันทึกวีดีโอ Full HD 1080P 30FPS

ในส่วนของ Samsung Galaxy S8 กล้องความละเอียด 12MP, F1.7 รองรับ PDAF, ระบบกันสั่น OIS, กล้องหน้าความละเอียด 8MP, F1.7 บันทึกวีดีโอ 4K 30FPS

Samsung Galaxy A8+ (2018) น่าสนใจตรงกล้องหน้าคู่ครับ ที่ช่วยให้ถ่ายภาพละลายหลังได้ด้วย Hardware แถมยังถ่ายภาพ Selfie แบบแนวกว้างได้อย่างง่ายดาย ส่วนกล้องหลังสเปคดูดีทีเดียว ค่ารูรับแสง F1.7 เหมือนรุ่นใหญ่ แต่เอาเข้าจริงสเปคกล้อง Samsung Galaxy S8 ก็ยังเหนือกว่า เพราะรองรับการบันทึกวีดีโอระดับ 4K ด้วย โดยส่วนตัวในเรื่องกล้องผมว่ายังดูก้ำกึ่งมาก เพราะจุดขายของรุ่นน้องก็น่าสนใจมากๆ เช่นกัน ต้องดูในส่วนประกอบอื่นมาช่วยในการตัดสินใจอีกที

ขณะนี้ Lazada วางจำหน่าย Samsung Galaxy S8 ในราคา 20,499 บาทเท่านั้นเองครับ (ราคาศูนย์ 27,900 บาท) หรือราคาเครื่องมือ 2 ก็มีราคาต่ำกว่า 18,990 บาทมาซักระยะนึงแล้ว ส่วน Samsung Galaxy A8+ (2018) ราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการที่ 18,990 บาท สำหรับเรื่องราคาผมต้องยอกให้ Samsung Galaxy S8 น่าสนใจกว่าครับ เพราะส่วนต่างที่เพิ่มมันคุ้มค่ากว่าอยู่ดี

จะเห็นได้ว่า Samsung Galaxy S8 แม้จะเปิดตัวมาใกล้จะครบปีแล้ว แต่ก็ยังน่าสนใจกว่ารุ่นใหม่อย่าง Samsung Galaxy A8+ (2018) นะครับ เพราะอย่างไรมันก็เป็นสมาร์ทโฟนที่เป็นเรือธง สเปคต่างๆ ก็ยังระดับแถวหน้า นอกจากเรื่องราคาที่แม้จะไม่ได้ปรับลงมาอย่างเป็นทางการ แต่ก็สามารถหาซื้อกันได้ในราคาที่ถูกลงมามากแล้ว แต่ถ้าใครที่ชื่นชอบความสดใหม่ และไม่ชอบหน้าจอโค้ง แถมได้กล้องหน้าคู่ Samsung Galaxy A8+ (2018) ก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ และด้วยความต่างของราคาเมื่อเทียบกับสเปคที่เพิ่มขึ้นผมว่ารุ่นนี้ ยังคุ้มกว่าเพื่อนร่วมรุ่นตัวเองอย่าง Samsung Galaxy A8 (2018) เสียด้วยซ้ำครับ

ก็หวังว่าจะช่วยเป็นส่วนนึงในการตัดสินใจซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ของเพื่อนๆ นะครับ ถ้ามีข้อคิดคิดเห็นที่แตกต่างไปจากนี้ หรือมีข้อสงสัยอะไร สามารถเข้ามาพูดคุยกันได้ที่แฟนเพจ Mobile GURU Thailand เราพร้อมจะตอบปัญหา และพูดคุยกับเพื่อนๆ ตลอดเวลาครับ

ดูโทรศัพท์มือถือ Samsung Galaxy A8 (2018) เพิ่มเติม

ดูโทรศัพท์มือถือ Samsung Galaxy A8+ (2018) เพิ่มเติม

ดูโทรศัพท์มือถือ Samsung Galaxy S8 เพิ่มเติม

ดูโทรศัพท์มือถือ Samsung ทุกรุ่น