x
icon-filter ค้นหาโทรศัพท์มือถือ
product filter
product filter
product filter
product filter

iPhone X, iPhone 8 และ iPhone 8 Plus เหมือนหรือต่างกันอย่างไร .. มาดูกัน

icon 14 ก.ย. 60 icon 7,092
iPhone X, iPhone 8 และ iPhone 8 Plus เหมือนหรือต่างกันอย่างไร .. มาดูกัน

iPhone X, iPhone 8 และ iPhone 8  Plus เหมือนหรือต่างกันอย่างไร .. มาดูกัน

ในที่สุดก็ได้เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จากค่ายแอปเปิ้ล แม้ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus จะดูเหมือนเป็นรุ่นอัพเกรดจาก iPhone 7 เสียมากกว่าจะเป็นรุ่นใหม่ แต่การข้ามชื่อเลข 7s มาเป็นเลข 8 เลยก็ถือว่าเหมาะสม เมื่อพิจารณาจากคู่แข่ง จะได้มีเลขรุ่นเท่าๆ กัน มันมีผลต่อความรู้สึกที่จะได้ดูไม่ด้อยกว่า ส่วนรุ่นครบรอบ 10 ปีอย่างแท้จริง iPhone X ก็เป็นการใช้ชื่อรุ่นที่ตรงๆ และสอดคล้องดีนะครับ ใช้เลขโรมันแบบนี้ผมว่าดูดีมากทีเดียว
สมาร์ทโฟนทั้ง 3 รุ่น iPhone 8, iPhone 8 Plus และแน่นอนครับว่า iPhone X เป็นรุ่นท็อปและมีราคาสูงที่สุดของ Apple ในปีนี้ หลายคนอาจสงสัยว่าในแต่ละรุ่นนั้นจะมีข้อดีที่แตกต่างกันยังไงบ้าง ใครที่สงสัยเรามาดูไปด้วยกันเลยครับ

ดีไซน์ วัสดุ และงานประกอบ


จากดีไซน์ของตัวเครื่อง จะเห็นว่า iPhone X เป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมหน้าจอไร้ขอบขนาดใหญ่ 5.8 นิ้ว วัสดุจะเป็นกระจกและโลหะที่พรีเมี่ยมมากกว่าอีกสองรุ่น (สแตนเลส) ในขณะที่ iPhone 8 Plus และ iPhone 8 จะมีดีไซน์คล้ายรุ่นก่อนอย่าง iPhone 7 และ iPhone 7 Plus แทบทุกอย่าง ยกเว้นฝาหลังที่เปลี่ยนมาใช้กระจก และขอบด้านข้างเป็นโลหะ (อลูมิเนียม) แม้ว่าจะมีดีไซน์เหมือนเดิม แต่ขนาดตัวเครื่องมีความแตกต่างอยู่นะครับ ทำให้ไม่สามารถใส่เคสของรุ่นก่อนได้

หน้าจอ


iPhone X มาพร้อมหน้าจอไร้ขอบ OLED ขนาด 5.8 นิ้ว ความละเอียด Super Retina 2436 x 1125 pixels มีส่วนเว้าลงมาที่ด้านบนซึ่งเป็นจุดที่หลายๆ คนบ่นกันว่าเกะกะ แต่ออกมาแนวนี้ก็ช่วยให้หน้าจอของ iPhone X ดูไร้ขอบมากยิ่งขึ้น สำหรับหน้าจอของรุ่นนี้จะเป็นครั้งแรกของ Apple ที่ผลิตสมาร์ทโฟนหน้าจอไร้ขอบ แถมยังเป็นหน้าจอ OLED อีกด้วย ส่วน iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ยังคงใช้หน้าจอ IPS ขนาดและความละเอียดเท่ารุ่นเดิม

สเปค และหน่วยความจำ


ทั้ง 3 รุ่นมาพร้อม Apple A11 Bionic Hexa-core เหมือนกัน แต่จะแตกต่างกันในส่วนของ RAM โดย iPhone X และ iPhone 8 Plus จะมาพร้อม RAM 3GB ส่วน iPhone 8 จะมาพร้อม RAM 2GB ขณะที่หน่วยความจำทั้ง 3 รุ่น จะมีความจุ 64GB และ 256GB

กล้อง

iPhone X และ iPhone 8 Plus มาพร้อมกล้องคู่ แต่จะมีความแตกต่างในเรื่องรายละเอียด โดย iPhone X มาพร้อมด้วยกล้องคู่ความละเอียด 12MP ค่ารูรับแสง F1.8 (กล้องมุมกว้าง) + 12MP ค่ารูรับแสง F2.4 (กล้องเทเลโฟโต้) ในขณะที่ iPhone 8 Plus มาพร้อมกล้องคู่ความละเอียด 12MP ค่ารูรับแสง F1.8 (กล้องมุมกว้าง) + 12MP ค่ารูรับแสง F2.8 (กล้องเทเลโฟโต้) พร้อมฟีเจอร์กล้องใหม่ๆ อย่าง Portrait Lighting เป็นการพัฒนาให้ฟีเจอร์ Portrait Mode ดูโปรมากยิ่งขึ้น ด้านรุ่นเล็กสุดอย่าง iPhone 8 จะมีกล้องตัวเดียวความละเอียด 12MP ค่ารูรับแสง F1.8

แต่ก็รองรับระบบกันสั่น OIS ทั้ง 3 รุ่น และที่พิเศษมากๆ ก็คือสมาร์ทโฟนทั้ง 3 รุ่น สามารถบันทึกวีดีโอความละเอียด 4K 60FPS ได้ด้วยนะครับ ถือว่าเป็นครั้งแรกบนสมาร์ทโฟนเลยจริงๆ ขนาดกล้องถ่ายวีดีโอยังมีไม่กี่รุ่นที่สามารถทำได้
ในส่วนของกล้องหน้าทั้ง 3 รุ่นมีความละเอียดเท่ากัน 7MP แต่พิเศษตรงกล้องหน้าของ iPhone X จะรองรับ TrueDepth ซึ่งจะช่วยทั้งฟีเจอร์ Face ID สำหรับการปลดล็อกต่างๆ และฟีเจอร์ 3D Sensor ที่จะช่วยให้กล้องสมาร์ทโฟนสามารถสร้างภาพ 3 มิติ ที่ทาง Apple พัฒนา Aniemoji มาให้สนุกกัน เป็นการตรวจจับใบหน้าของเราให้กลายมาเป็นภาพการ์ตูนที่เซ็ตเอาไว้แบบสำเร็จรูป ให้สามารถแสดงอารมณ์ได้อย่างอิสระ

ฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจ


สมาร์ทโฟนทั้ง 3 รุ่นรองรับชาร์จเร็ว และชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi (แต่ไม่รองรับ Wireless Fast Charge) iPhone X นั้นจะตัดสแกนลายนิ้วมือออก และใส่ Face ID มาให้ ซึ่งจริงๆ มันคือเทคโนโลยีเดียวกับ Face Recognition ของคู่แข่งนั่นเอง แต่ทาง Apple บอกว่ามันไม่ใช้แค่การตรวจจับใบหน้าธรรมดา เพราะด้วยเทคโนโลยี TrueDepth ทำให้สามารถตรวจจับความลึกได้ด้วย ช่วยให้แม่นยำมากยิ่งขึ้น เป็นฟีเจอร์ที่โดยส่วนตัวผมอยากทดสอบมากว่าถ้าเป็นในที่แสงน้อยมากๆ มันยังจะสามารถใช้งานได้อย่างแม่นยำหรือไม่

และที่เรียกเสียงเชียร์ได้เป็นอย่างมากก็คือเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) ซึ่งแน่นอนครับว่าไม่ใช่ของใหม่ แต่ที่น่าสนใจก็คือ Apple จะทำให้เทคโนโลยีนี้กลับมาเป็นที่สนใจในวงกว้างได้สำเร็จหรือเปล่า อันนี้น่าลุ้นมากจริงๆ

ในส่วนมาตรฐานกันน้ำและฝุ่นทั้ง iPhone X, iPhone 8 Plus และ iPhone 8 ยังคงรองรับมาตรฐาน IP67 นะครับ

ราคา

  • iPhone 8 ราคาเริ่มต้น $699 หรือคิดเป็นเงินไทย ประมาณ 23,219 บาท

  • iPhone 8 Plus ราคาเริ่มต้น $799 หรือคิดเป็นเงินไทย ประมาณ 26,540 บาท

  • iPhone X ราคาเริ่มต้น $999 หรือคิดเป็นเงินไทย ประมาณ 33,184 บาท

สรุป

ถ้าราคาไม่ใช่ปัญหา แน่นอนว่า iPhone X นั้นน่าสนใจมากที่สุด เป็นสมาร์ทโฟนหน้าจอไร้ขอบที่เครื่องจริงสวยกว่าภาพหลุดมากๆ แม้ว่าสิ่งต่างๆ ที่มีมาในรุ่นนี้อาจจะไม่ถึงกับเรียกได้ว่าล้ำสมัย หรือมีอะไรใหม่ๆอย่างแท้จริง แต่มันก็ยังเป็นสมาร์ทโฟนที่ว้าวมากๆ อีกรุ่นหนึ่งในตอนนี้ รวมทั้ง iPhone 8 และ iPhone 8 Plus อาจจะดูไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมนัก แต่ตัวเครื่องก็สวยขึ้นด้วยกระจก และแรงขึ้นอย่างที่ควรจะเป็น ถือว่าสำหรับสาวกตัวจริงไม่น่าจะผิดหวังกันอย่างแน่นอน โดยเฉพาะหน่วยความจำที่เริ่มต้น 64GB และมีตัวเลือกกระโดดไป 256GB มาให้เลือกกันแบบนี้ ผมว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีครับ จะน่าเสียดายก็ตรงไม่มีหน่วยความจำ 512GB เปิดตัวมาด้วยตามที่ลือกันก่อนหน้านี้ แต่ผมว่าถ้ามีออกมาจริง ราคาน่าจะสูงมากอย่างแน่นอน
iPhone 8 และ iPhone 8 Plus คาดว่าน่าจะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ครับ ส่วนทาง iPhone X น่าจะมาในเดือนธันวาคม ใครที่สนใจอยู่ก็อดใจรอกันนะครับ ล่าสุดเปิดราคา 12 ประเทศแรกแล้ว แต่ไม่มีประเทศไทยครับ

ดูเพิ่มเติม
แท็กที่เกี่ยวข้อง apple iphone iphone 8 iphone x iphone 8 plus
Mobile Guru
เขียนโดย เช็คราคา.คอม Mobile Guru

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)