รีวิว Vivo V5 Plus อีกระดับของการถ่ายภาพ Selfie ด้วยกล้องหน้าคู่ความละเอียด 20MP

Vivo V5 Plus สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดจากแบรนด์ Vivo ที่ยกระดับการถ่ายภาพ Selfie ไปอีกขั้น สมชื่อ Perfect Selfie ด้วยกล้องหน้าคู่ ความละเอียด 20MP เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่สามารถถ่ายภาพ Selfie ได้ยอดเยี่ยม และน่าทึ่งที่สุดในตอนนี้เลยครับ เป็นจุดขายสำคัญที่ชัดเจนของ Vivo

ที่สำคัญยังมาพร้อมฟังก์ชั่น Face Beauty ที่ยอดเยี่ยม, Auto HDR และพระเอกโหมด Bokeh สามารถเลือกโฟกัสไปที่ใบหน้า หรือฉากหลังได้ตามใจชอบ และปรับฉากหลังให้เบลอได้หลากหลายระดับ เหมือนเราปรับค่ารูรับแสงบนกล้องระดับโปร รับรองว่าถูกใจคนที่ชอบ Selfie อย่างแน่นอน เพราะเป็นความสามารถที่คุณหาในรุ่นอื่นไม่ได้จริงๆ

Vivo V5 Plus เปิดตัวอยู่ที่ราคา 13,990 บาท พร้อมยังได้คุณ "อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ" ซุปเปอร์สตาร์อันดับ 1 ของไทย มาเป็นพรีเซนเตอร์ สานต่อความสำเร็จจาก Vivo V5 สมาร์ทโฟนกล้องหน้า 20MP อีกด้วย โดยในเบื้องต้นจะมีวางจำหน่ายเพียงแค่สีทองสีเดียวครับ

กล่องของ Vivo V5 Plus ดูหรูหราสวยทีเดียว ชูจุดขาย 20MP Dual Front Camera และในกล่องจะจัดชุดมาครบถ้วนเลยครับ ไม่จำเป็นต้องไปหาซื้อเพิ่ม นอกจากนี้ในชุดจำหน่าย ยังแถม V5 Plus Set Box มาให้อีกด้วย ภายในกล่องจะมีอุปกรณ์ดังต่อไปนี้

• ตัวเครื่อง vivo V5 Plus
• อะแดปเตอร์
• สาย Micro USB
• หูฟัง Earbud
• เข็มจิ้มซิม
• เคสใส TPU
• ฟิล์มกันรอย
• คู่มือ

V5 Plus Set Box ในกล่องจะมีหูฟังไร้สายแบบ Stereo และที่ชาร์จในรถ

Vivo V5 Plus มีดีไซน์ที่ดูคุ้นตามากครับ แต่มาตราฐานสูงทีเดียว วัสดุโลหะคุณภาพสูง และงานประกอบไร้รอยต่อ Unibody เก็บรายละเอียดได้เนี๊ยบมากครับ มีการเจียรขอบเครื่องแบบ Diamond Cut ดูแวววาวสวยงาม กระจกหน้าจอโค้ง 2.5D และมีหน้าจอ IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD 1080P ที่คมกริบ และสีสันจัดจ้านมากๆครับ จนตอนแรกผมนึกว่าเป็นหน้าจอ AMOLED เลยนะเนี่ย เป็นสมาร์ทโฟนหน้าจอระดับ Full HD ที่สวยเฉียบขาดมากๆอีกรุ่นนึงเลยครับ มุมมองกว้าง ดูสบายตา แถมยังใช้งานกลางแจ้งสบายๆเพราะหน้าจอมีความสว่างสูงอีกด้วย ส่วนด้านบนมีกล้องหน้าคู่ความละเอียด 20MP + 8MP พร้อมไฟแฟลช Selfie Softlight Flash และมุมซ้ายจะมี Notification Light ซ่อนอยู่ด้วย

สำหรับด้านล่างจะเป็นปุ่มสัมผัส ด้านซ้ายเป็นปุ่ม Recent App ส่วนด้านขวาเป็น Back และตรงปุ่ม Home จะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ โดยเราสามารถกดที่ปุ่ม Home ได้นะครับ แต่ตอนสแกนหรือสั่งงาน แค่สัมผัสเบาๆ ก็ทำงานแล้ว สำหรับในส่วนการสแกนลายนิ้วมือ Vivo เป็นอีกแบรนด์ที่ต้องขอชมครับ เพราะความไวและความแม่นยำทำได้น่าประทับใจมากทีเดียว แถมสามารถตั้งค่าลายนิ้วมือได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ

ด้านหลังเรียบหรูครับ มีการวางเสาอากาศแบบตัว U ซึ่งทาง Vivo บอกว่าทำให้ความสามารถรับสัญญาณทำได้ดีขึ้นกว่าเดิม มาพร้อมชุดกล้องความละเอียด 16MP และไฟแฟลช LED ชุดกล้องค่อนข้างนูนขึ้นมาพอสมควร อาจจะต้องระวังกันหน่อยนะครับ ถัดมาเป็นโลโก้ Vivo

ด้านบนเรียบๆ ส่วนด้านล่างจะมีลำโพง (เสียงดังและเพราะมากทีเดียว)
พร้อมด้วยพอร์ท Micro USB 2.0, ไมโครโฟน และพอร์ทหูฟังขนาด 3.5 มม.

ด้านซ้ายมีช่องใส่ซิม (รุ่นนี้ไม่สามารถเพิ่ม Micro SD Card ได้นะครับ ช่องที่สองใส่ซิมได้อย่างเดียว)
ด้านขวามีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม Power (รุ่นนี้เวลาจับภาพหน้าจอให้กดปุ่ม Power + ปุ่ม Home)

ในกล่องจะมี เคสใส TPU และฟิล์มกันรอยมาให้ โดยที่เจ้า Vivo V5 Plus ก็ติดฟิล์มกันรอยมาให้ตั้งแต่โรงงานแล้วนะครับ แถมหนาดีด้วย ไม่จำเป็นต้องลอกแล้วติดใหม่ ใครที่ซื้อ Vivo V5 Plus ก็ไม่จำเป็นต้องไปติดฟิล์มให้เสียเงินนะครับ ส่วนเคสคุณภาพใช้ได้เลย เนื้อเหนียวไม่ย้วย จะใช้ถาวรเลยก็ได้ หรือใครชอบเคสเท่ๆ หรือน่ารักๆ เอาใว้ค่อยไปซื้อมาเปลี่ยน แต่ที่ให้มาคุณภาพดีทีเดียว

Vivo V5 Plus มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 3,160 mAh รองรับ Fast battery charging จากการใช้งานแบตเตอรี่ช่วงแรกๆ จะดูลดเร็วครับ แต่พอสักพักก็จะนิ่งและลดลงช้ามากทีเดียว สำหรับรุ่นนี้ใช้งานครบวันได้สบาย นอกจากจะชอบเล่นเกม หรือดูคลิปวีดีโอ ถ้าไลฟ์สไตล์เป็นแบบนั้นก็ควรพก Power Bank แต่ถ้าใช้งานปกติก็หายห่วงได้เลย แถมในเครื่องยังมีโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูงมาให้ด้วยนะครับ ในกรณีฉุกเฉิน

Vivo V5 Plus ทำงานบน Android 6.0.1 Marshmallow ครอบทับด้วย Funtouch OS 3.0 รุ่นใหม่ล่าสุด การทำงานดูลงตัวมากกว่าเดิม ความเร็วและความลื่นไหลดีเยี่ยม โดยส่วนตัวผมชอบ Funtouch OS มากอยู่แล้ว ออกแบบมาได้หลากหลายและมีความเฉพาะตัวสูง หน้า Home แตะค้างที่หน้าจอ จะเป็นการเรียกใช้งาน Widget, Transition (มีให้เลือกใช้มากถึง 12 รูปแบบ) และ Hidden Icons (ลากไอค่อนแอปพลิเคชั่นที่ไม่อยากวางใว้บนหน้า Home เอามาเก็บซ่อนเอาใว้ตรงนี้) โดยเราสามารถใส่รหัสผ่านเอาใว้เพื่อความเป็นส่วนตัว

การลากนิ้วขึ้นมาจากด้านล่างเป็นการเรียกใช้งาน Quick Toggle ต่างๆ มีฟังก์ชั่นปรับแสงหน้าจอ และระดับเสียง ที่น่าสนใจก็คือ Vivo มีในส่วน Recent App แยกออกมาแล้วนะครับ (ก่อนหน้านี้ไปรวมเป็นไอค่อนใว้เหนือ Quick Toggle) ส่วนด้านบนลากนิ้วลงมาจะเป็น Notification ก็ปรับเปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อยครับ แต่การใช้งานให้ความรู้สึกเรียบ และสมูทมากขึ้นเยอะเลยทีเดียว

"ภาพหน้าจอพิเศษ" เป็นฟังก์ชั่นที่รวมเอาการจับหน้าจอแบบพิเศษของ vivo เอาไว้รวมกัน สามารถจับภาพหน้าจอแบบวีดีโอได้ด้วย แถมยังบันทึกเสียงระหว่างการจับภาพหน้าจอแบบวีดีโอได้ด้วย รวมทั้งสามารถจับภาพหน้าจอเป็นรูปทรงแปลกๆ (อย่างรูปหัวใจ หรืออุนจิ) และสามารถจับภาพหน้าจอแนวยาว (จับภาพหน้าจอหลายๆหน้าต่อกันได้) และน่าจะเป็นแบรนด์ที่สามารถจับภาพหน้าจอแนวยาว ได้มากที่สุดในตอนนี้เลยครับ (ฟังก์ชั่น "ภาพหน้าจอพิเศษ" จะอยู่ตรง Quick Toggle นะครับ)

คลังธีม และ Wallpaper รวมทั้ง Lock Screen มีมาให้เลือกเพียบเลยครับ แต่ผมว่ามันดูมีจำนวนน้อยลงกว่าแต่ก่อนนะ?

การที่ปุ่ม Home ของรุ่นนี้สามารถกดได้ทั้งที่แค่สัมผัสก็ทำงานแล้ว เพราะว่ารุ่นนี้มาพร้อมการตั้งค่าปุ่ม Home ให้เป็นคำสั่งลัดครับ โดยสามารถกด 2 ครั้งเร็วๆ เพื่อเปิดใช้งาน กล้องถ่ายภาพ, Facebook หรือเปิด-ปิดไฟฉาย แล้วแต่เราจะตั้งค่า

สามารถใช้งาน 2 หน้าจอได้ในเวลาเดียวกัน แต่ใช้งานได้เฉพาะบางแอพพลิเคชั่นเท่านั้น (เฉพาะที่แจ้งเตือน) รุ่นนี้ยังคงมาพร้อม Gesture และ Motion Gesture แบบจัดเต็มทีเดียว คนที่ชอบลูกเล่นเท่ๆแบบนี้น่าจะชอบใจ มีทั้งโบกฝ่ามือเพื่อปลดล็อกโทรศัพท์ หรือแตะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อปิดหน้าจอเป็นต้น 

ฟังก์ชั่นการใช้งานมือเดียว ซึ่งสามารถเรียกใช้งานได้โดยลากนิ้วจากกลางหน้าจอ เข้ามาที่ขอบจออย่างรวดเร็ว แถมหน้าจอที่เราย่อลงมายังสามารถขยับตำแหน่งไปมา รวมทั้งปรับขนาดได้ตามใจชอบ ยังมีมาให้เหมือนเดิมนะครับ แต่ผมว่ามันทำงานได้ลื่นนิ้วมากขึ้นครับ ย่อหน้าจอได้ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าเดิม

Vivo V5 Plus มาพร้อมกล้องหน้าคู่ความละเอียด 20MP + 8MP ค่ารูรับแสง F2.0 เซ็นเซอร์กล้อง Sony IMX376 และชิ้นเลนส์ 5 ชั้น และไฟแฟลช Selfie Softlight Flash ซึ่งจะส่องสว่างแบบนุ่มนวล ช่วยให้ผิวกระจ่ายใส ไม่ดูโอเวอร์ สามารถถ่ายภาพ Bokeh Mode ด้วยความสามารถของกล้องคู่ ทำให้เราสามารถเลือกโฟกัสไปที่ใบหน้า หรือฉากหลังได้ตามใจชอบ และปรับฉากหลังให้เบลอได้หลากหลายระดับ เหมือนเราปรับค่ารูรับแสงบนกล้องระดับโปร และมีฟังก์ชั่น Shot Refocus ช่วยให้เราเลือกจุดโฟกัสบนภาพได้ตามใจชอบ และใส่ลายน้ำเท่ๆอวดความเป็นกล้องคู่กันได้ด้วยนะครับ

ส่วนกล้องหลังมีความละเอียด 16MP ค่ารูรับแสง F2.0 รองรับ phase detection autofocus และไฟแฟลช LED มี Auto HDR ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง คุณภาพกล้องหน้า ดูน่าประทับใจมากครับ คมสวยมี Auto Focus ด้วยและมีโหมด Face Beauty ที่ฉลาดเอามากๆ ใครที่กลัวหน้าหวานไปก็สามารถเลือกถ่ายแบบปกติได้ด้วยนะครับ แนะนำเลยสำหรับที่ชอบ Selfie รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน เป็นสมาร์ทโฟนสำหรับ Selfie อันดับ 1 ในตอนนี้เลยครับ นอกจากนี้กล้องหลังก็คุณภาพดีทีเดียว ถ่ายสนุก Auto HDR ช่วยได้มากจริงๆในหลายๆสภาวะแสง แต่แนะนำว่าถ้าไม่ใช่สภาวะแสงที่ยากๆ ให้ปิดใว้ดีกว่าครับ จะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า รวมทั้งมีโหมดถ่ายภาพมาให้เยอะทีเดียว มีโหมดโปรมาให้ด้วย รวมทั้งโหมด Ultra HD ถ่ายภาพความละเอียดสูงๆแบบโอเวอร์ก็มีมาให้เช่นเคย แถมถ่ายง่ายขึ้นซะด้วย ไม่ต้องมือนิ่งมากๆแล้ว และรุ่นนี้รองรับการบันทึกวีดีโอได้สูงสุดถึงระดับ 4K เลยทีเดียว

สำหรับการถ่ายภาพ Bokeh Mode เราไม่จำเป็นต้องถ่ายให้สมบูรณ์ตั้งแต่แรกครับ แต่เรามาปรับค่ารูรับแสงเองได้ภายหลัง โดยเลือกไปที่ภาพที่เราถ่าย แล้วแตะที่เครื่องหมาย Bokeh บนภาพ เราจะสามารถเลือกจุดโฟกัสบนภาพเองได้อย่างอิสระ (Shot Refocus) และสามารถปรับความเบลอได้ตั้งแต่ F0.95-F16 เลยทีเดียว จากนั้นก็เลือกคำสั่งเสร็จสิ้นที่อยู่ทางขวา จะเป็นการบันทึกภาพที่เราปรับขึ้นมาใหม่ครับ จะไม่บันทึกทับของเดิม สนุกและง่ายสุดๆ เลยครับ ลองเล่นกันดูนะ

ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Vivo V5 Plus

ตัวอย่างจากกล้องหน้าคู่ 20MP + 8MP หลากหลายสภาพแสง หลังเบลอได้ใจจริงๆ (ปรับใว้ F2.8 ครับ)

ตัวอย่างภาพที่ปิด และเปิด ไฟแฟลช Selfie Softlight Flash จะเห็นว่าแสงดูนุ่มมากๆ

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังความละเอียด 16MP

Vivo V5 Plus มาพร้อมชิปเซ็ต Qualcomm MSM8953 Snapdragon 625, CPU Octa-core 2.0 GHz Cortex-A53, GPU Adreno 506, RAM 4GB, หน่วยความจำ 64GB (เพิ่มไม่ได้) มาดูคะแนนทดสอบกันครับ

• ทดสอบด้วยแอปพลิเคชั่น Quadrant Standard ทำไปได้ 40,350 คะแนน
• ทดสอบด้วยแอปพลิเคชั่น AnTuTu Benchmark ทำไปได้ 62,475 คะแนน
• ทดสอบด้วยแอปพลิเคชั่น NenaMark2 ทำไปได้ 57.1 fps
• ทดสอบด้วยแอปพลิเคชั่น MultiTouch Tester รองรับ 10 จุด
• ทดสอบสัญญาณ GPS จับสัญญาณได้อย่างรวดเร็วดี

• 2G GSM 850 / 900 / 1800 / 1900 - SIM 1 & SIM 2
• 3G HSDPA 850 / 900 / 2100
• 4G LTE band 1(2100), 3(1800), 5(850), 7(2600), 8(900), 40(2300) รองรับ VoLTE
• Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, WiFi Direct, hotspot
• Bluetooth 4.0, A2DP
• GPS, A-GPS, GLONASS, BDS
• microUSB 2.0, USB On-The-Go
• พอร์ตหูฟังขนาดมาตราฐาน 3.5 มม.
• เซ็นเซอร์ Fingerprint, accelerometer, gyro, proximity, compass

Vivo V5 Plus มาพร้อมชิปเสียง AK4376 ไม่น่าแปลกใจเลยครับว่าทำไมเสียงถึงได้ดีมากขนาดนี้ ต้องบอกว่าสำหรับ Vivo เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่เสียงดีมากทุกรุ่น แม้แต่รุ่นราคาประหยัด เครื่องเล่นเพลงหน้าตาดี สามารถเปิดใช้งานระบบเสียง Hi-Fi ได้เมื่อต่อหูฟัง (ไม่มีวิทยุมาให้นะครับ)

สามารถเล่นวีดีโอได้อย่างลื่นไหล และมีลูกเล่น Popup Play มาให้ด้วย (รองรับระบบเสียง Hi-Fi เช่นกัน)

ทดสอบด้วยเกม N.O.V.A 3 และ Modern Combat 5
สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุด ใครจะเอามาเล่นเกมด้วยตัวนี้โอเคเลยครับ

Vivo V5 Plus เป็นสมาร์ทโฟนที่ผมแนะนำเลยครับสำหรับคนที่ชอบการ Selfie เพราะมันแจ๋วจริงๆ แถมการใช้งานก็ดีมาก UI ใช้สนุก หลากหลาย และรวดเร็วลื่นไหล งานประกอบเนี๊ยบ ขอบจอบาง ดูพรีเมี่ยมจริงๆ แถมไม่ใช่ว่ามีดีที่กล้องหน้าคู่อย่างเดียว กล้องหลังก็น่าพอใจอีกด้วย สำหรับราคา 13,990 บาท แม้จะมีตัวเลือกมากมาย แต่สำหรับสมาร์ทโฟนที่มีจุดขายชัดเจนขนาดนี้ ผมว่าน่าสนใจมากจริงๆ ครับ ดีทั้งกล้อง และเสียง

ข้อดีของ vivo V5 Plus

• Design สวย และดูพรีเมี่ยม วัสดุโลหะ งานประกอบเนี้ยบมาก
• รองรับ 4G และ VoLTE รวมทั้งใช้งาน 2 ซิม
• การใช้งานรวดเร็ว และลื่นไหล
• UI สวยงาม ลูกเล่นเยอะมากๆ ใช้สนุก
• สแกนลายนิ้วมือรวดเร็ว และแม่นยำ
• กล้องหน้าคู่ ความละเอียด 20MP + 8MP พร้อมไฟแฟลช คุณภาพเยี่ยมมาก เป็นจุดขายที่โดดเด่น
• กล้องหลังความละเอียด 16MP คุณภาพดี
• ชิปเสียง AK4376 เหมาะกับคนที่ชอบฟังเพลงมากๆ

 

ข้อด้อยของ vivo V5 Plus

• ไม่สามารถเพิ่ม Micro SD Card ได้

 

ดูข้อมูลโทรศัพท์มือถือ vivo V5 Plus เพิ่มเติม

ดูข้อมูลโทรศัพท์มือถือ vivo ทุกรุ่น