รีวิว ZTE AXON 7 Mini สมาร์ทโฟนพรีเมี่ยม สเปคหรู ในราคาเบาๆ 11,990 บาทเท่านั้น
จากใจเลยนะครับ รอบนี้ผมต้องชม
ZTE จริงๆ ทำการบ้านมาดี ปรับปรุงทุกรายละเอียดจากรุ่นก่อน จนมาถึงรุ่นนี้
ZTE AXON 7 และ
ZTE AXON 7 Mini ทำออกมาได้ลงตัวมาก ในส่วนของ Design ดูยอดเยี่ยมและสวยงามมาก พรีเมี่ยมจริงๆ และสเปคที่จัดมาเต็มเหนี่ยวทั้งคู่เลย จนผมแปลกใจในราคา เพราะมันถือว่าถูกมากจริงๆ ครับ เพียงแค่ 15,990 บาท และ 11,990 บาทเท่านั้น แต่กลับให้ความรู้สึกดูหรูหราเกินราคา
สำหรับในวันนี้ผมจะมารีวิว ZTE AXON 7 Mini สมาร์ทโฟนขนาดพกพาสะดวก แต่พรีเมี่ยมไม่แพ้รุ่นระดับบนเลยครับ ในราคาเบาๆ ซึ่งตอนที่ผมได้ยืมเครื่องมาแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหรูๆ แบบนี้ จะราคาเพียงแค่ 11,990 บาทเองเหรอ อารมณ์แบบประมาณรักแรกพบเลยละครับ สำหรับรุ่นนี้นอกจากมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแล้ว ยังมีคำสั่งยืนยันรหัสผ่านด้วยเสียงอีกด้วย แถมสเปคต่างๆ ก็น่าสนใจไม่เบา อาจจะไม่แรงจัด แต่ก็เหลือๆ สำหรับการใช้งาน และเล่นเกมแล้วครับ เพราะมาพร้อมด้วย Snapdragon 617, GPU Adreno 405, RAM 3GB รุ่นนี้มี 2 สีให้เลือก ได้แก่ Ion Gold และ Platinum Gray
ZTE AXON 7 Mini มาพร้อมหีบห่อที่ดูดีมากครับ หรูหราและจัดเต็มทีเดียว แถมมีเคสมาให้ด้วย (เป็นเคสใส TPU ธรรมดาๆ ถ้าอยากได้สวยกว่านี้ก็ต้องหาซื้อเพิ่ม แต่แถมมาแบบนี้ก็ดีกว่าไม่แถมนะครับ) ในกล่องจะมีมาให้ดังนี้
- ตัวเครื่อง ZTE AXON 7 Mini
- อะแดปเตอร์
- สาย USB Type-C
- หูฟัง Earbud
- เข็มจิ้มซิม
- เคสใส TPU
- คู่มือ และเอกสาร มีบัตร VIP มาให้ด้วย
ZTE AXON 7 Mini มาคราวนี้ออกแบบได้สวยมากครับ หรูหราในทุกรายละเอียด โดยเฉพาะการเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ทำออกมาได้น่าประทับใจมาก ถือว่าเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่สำหรับ Design ของสมาร์ทโฟนจาก ZTE
วัสดุตัวเครื่องเป็นโลหะทั้งชิ้นไร้รอยต่อ Unibody สัมผัสเนียนมือดูน่าประทับใจ ตัวเครื่องออกแบบโค้งมนสวย และมีขนาดเล็กมากพกพาสะดวก หน้าจอ AMOLED ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด Full HD 1,080P 1080 x 1,920 pixels (424 ppi) หน้าจอสวยมาก สีสันสดใส แต่ปรับโทนมาดีครับไม่ได้ออกแนวสีสดจนแสบตา แต่ดูเต็มอิ่มสบายตา แนะนำว่าต้องไปลองด้วยตาตัวเองจริงๆ
รุ่นนี้มาพร้อมลำโพงสเตอริโอซึ่งอยู่ด้านหน้า เสียงดังอย่างมีมิติ และเพราะใช้ได้เลยครับ โดยรุ่นนี้รองรับระบบเสียง Dolby ATMOS และ Dolby Digital Surround ด้านบนจะมีกล้องหน้าความละเอียด 8 MP ค่ารูรับแสง f/2.2 และมีไฟแจ้งเตือนซ่อนอยู่
รุ่นนี้กล้องด้านหลังจะนูนขึ้นเล็กน้อยต้องระวังซักหน่อยนะครับ ความละเอียด 16 MP ค่ารูรับแสง f/1.9 และตรงเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ออกแบบให้เว้าเล็กน้อยซึ่งนอกจากสวยแล้ว ยังช่วยให้แตะสแกนนิ้วได้แม่นยำยิ่งขึ้น ด้านล่างถัดจาก ZTE จะมีโลโก้ของ Dolby ATMOS อยู่ด้วย
ด้านบนมีไมค์ตัดเสียงรบกวน และพอร์ทหูฟังขนาด 3.5 มม. ส่วนด้านล่างมีไมโครโฟนและพอร์ท USB Type-C
ด้านขวามีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม Power ส่วนด้านซ้ายจะมีช่องใส่ซิม (แบบไฮบริด)
สำหรับ ZTE AXON 7 Mini มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 2,705 mAh รองรับ Quick Charge 2.0 ชาร์จใว 46% ในเวลาเพียง 30 นาที จากการทดสอบใช้งานแบตเตอรี่มีความอึดในระดับปานกลางทั่วไป สามารถใช้งานได้ครบวันสบายๆ อยุ่ได้ถึงช่วงค่ำๆ แต่ถ้าเน้นเอามาเล่นเกมเป็นหลักก็ควรจะต้องมี Power Bank เป็นตัวช่วย
ZTE AXON 7 Mini ทำงานบน Android 6.0.1 Marshmallow ครอบทับด้วย Mifavor 4.0 ซึ่งพัฒนาขึ้นมาจากช่วงแรกมากครับ หน้าตาของ UI สวยงาม แถมยังมีลูกเล่นมากมาย รวมทั้งการใช้งานยังรวดเร็วและลื่นไหลมาก น่าจะถูกใจคนที่ชอบสมาร์ทโฟนระบบ Android ที่มีลูกเล่นเยอะๆ
Mifavor 4.0 นั้นปรับปรุงขึ้นในหลายๆ จุด การปรับแต่งหน้า Home ทำได้หลากหลายและครอบคลุมดีมาก ที่น่าสนใจสามารถเลือกให้แถมปุ่มสัมผัสด้านล่างแสดงผล หรือซ่อนเก็บใว้ได้ โดยการลากนิ้วจากด้านล่างขึ้นมา ซึ่งเป็นไอเดียที่น่าสนใจมากครับ ในส่วนพิ้นหลังสามารถปรับความคมชัดเองได้ เพื่อช่วยให้ไอค่อนเด่นขึ้นมา รวมทั้งสามารถเลือกรูปแบบของไอค่อนได้ด้วย (แต่ตัวเลือกยังไม่หลากหลายนัก) และปรับแต่ง Transition ได้หลายรูปแบบ
นอกจากนี้ ยังสามารถซ่อนแอปพลิเคชั่นที่เราไม่ค่อยได้ใช้งานเอาใว้ได้ด้วย ช่วยให้ดูไม่รกหน้าจอ และสำหรับคนที่กังวลว่าอุตส่านั่งแต่งหน้า Home ขนาดนี้เล่นเอาไม่กล้าเปลี่ยนไปรูปแบบอื่นเลย ก็ไม่ต้องกังวลนะครับ เพราะเราสามารถบังทึกการปรับแต่งเอาใว้ได้ และในส่วนของการตั้งค่าจะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ เมนูแบบที่เราใช้งานบ่อยๆ กับแบบปกติ ซึ่งก็ช่วยให้มือใหม่สามารถทำความเข้าใจสมาร์ทโฟนระบบ Android ได้ง่ายยิ่งขึ้น
Mi-POP เป็นลูกเล่นที่น่าสนใจครับ เราสามารถตั้งปุ่มฟังก์ชั่นขึ้นมาบนหน้าจอได้ และสามารถตั้งค่าปุ่มฟังก์ชั่นให้แสดงคำสั่งต่างที่เราต้องการใช้งานด่วน ซึ่งเราก็เข้าไปตั้งค่าได้เองเลยครับ ว่าต้องการให้แสดงคำสั่งอะไรบ้าง เป็นเมนูลัดที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น
อย่างที่บอกตั้งแต่ตอนต้น ZTE AXON 7 Mini นอกจากจะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแล้ว ยังมีคำสั่งยืนยันรหัสผ่านด้วยเสียงอีกด้วย ซึ่งปรับปรุงให้มีความแม่นยำสูงกว่าสมัยตอน ZTE AXON มากทีเดียวครับ สามารถใช้งานได้จริง
ZTE AXON 7 Mini สามารถเลือกสแกนลายนิ้วมือได้ 5 ลายนิ้วมือ ใช้งานสำหรับปลดล็อกหน้าจอ และปลดล็อกนาฬิกาปลุก รวมทั้งเข้าถึงแอปพลิเคชั่นที่เราล็อกเอาใว้ ความแม่นยำทำได้ดีมากครับ เท่าที่ทดสอบมายังไม่เคยสัมผัสแล้วไม่ตอบสนองเลย นอกจากนี้เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ยังสามารถตั้งให้เป็นปุ่ม Shutter สำหรับตอนถ่าย Selfie หรือสัมผัสเพื่อรับสายโทรศัพท์ได้อีกด้วย
ลูกเล่น Gesture & Motion Gesture ของ ZTE มีมาให้พอสมควร ทั้งใช้นิ้วแตะหน้าจอเพื่อปลุกหน้าจอขึ้นมา หรือใช้สามนิ้วในการจับภาพหน้าจอ รวมไปถึงการเขย่าเครื่องเพื่อเปิดใช้งานไฟฉายให้มีมาให้ด้วย
ปุ่มสัมผัสรุ่นนี้นอกจากซ่อนได้แล้ว ยังสามารถเปลี่ยนได้ด้วยนะครับ เลือกได้ 2 รูปแบบ และหน้าจอสามารถปรับโทนสีได้ (ซึ่งค่ามาตราฐานก็สุดสวยอยู่แล้ว)
ZTE AXON 7 Mini มาพร้อมกล้องความละเอียด 16MP, f/1.9, phase detection autofocus, dual-LED flash บันทึกวีดีโอความละเอียด 1080p@30fps และกล้องหน้าความละเอียด 8MP, f/2.2 บันทึกวีดีโอความละเอียด 1080p
ลูกเล่นการถ่ายภาพครบถ้วน แถมโหมด Beauty Shot รุ่นนี้ยังพัฒนามาได้ถูกทาง คุณภาพดี คมสวยมากทีเดียว กล้องของรุ่นนี้เยี่ยมกว่าที่คิดครับ คมกริบ และสีสด ดูสวยมากๆ ต้องบอกว่าเกินคาดจริงๆ เอาเป็นว่ามาดูตัวอย่างภาพถ่ายกันได้เลย
ZTE AXON 7 Mini สเปคดูดีทีเดียวครับ ชิปเซ็ต Qualcomm MSM8952 Snapdragon 617, CPU Octa-core (4x1.5 GHz Cortex-A53 & 4x1.2 GHz Cortex-A53), GPU Adreno 405, RAM 3GB, หน่วยความจำ 32GB (สามารถเพิ่มได้สูงสุด 256GB) มาดูคะแนนทดสอบกัน
สำหรับรุ่นนี้จากการทดสอบด้วยโปรแกรมทดสอบต่างๆ จะมีอาการผิดเพี้ยนในส่วนของ Multi Touch นะครับ แต่ไม่มีผลต่อการใช้งานจริงแต่อย่างใด ผมลองแล้วก็รู้สึกปกติดีนะครับ ซึ่งทาง ZTE ก็น่าจะมีออกอัพเดตแก้ไขต่อไป
- ทดสอบด้วยแอปพลิเคชั่น Quadrant Standard ทำไปได้ 24,129 คะแนน
- ทดสอบด้วยแอปพลิเคชั่น AnTuTu Benchmark ทำไปได้ 46,439 คะแนน
- ทดสอบด้วยแอปพลิเคชั่น NenaMark2 ทำไปได้ 59.7 fps
- ทดสอบสัญญาณ GPS จับสัญญาณได้อย่างรวดเร็วดี
- 2G GSM 850 / 900 / 1800 / 1900 - SIM 1 & SIM 2
- 3G HSDPA 850 / 900 / 1700(AWS) / 1900 / 2100
- 4G LTE band 1(2100), 2(1900), 3(1800), 4(1700/2100), 5(850), 7(2600), 8(900), 12(700), 17(700), 20(800), 38(2600), 41(2500), 40(2300)
- ความเร็ว HSPA 42.2/5.76 Mbps, LTE Cat6 300/50 Mbps
- Wi-Fi 802.11 b/g/n, Wi-Fi Direct, hotspot
- Bluetooth 4.1, A2DP, LE
- GPS, A-GPS, GLONASS, BDS
- NFC
- USB Type-C (2.0) 1.0 reversible connector
- พอร์ทหูฟังขนาดมาตราฐาน 3.5 มม.
- เซ็นเซอร์ Fingerprint, accelerometer, gyro, proximity, compass
ZTE AXON 7 Mini เรื่องความบันเทิงจัดเต็มครับรองรับระบบเสียง Dolby ATMOS และ Dolby Digital Surround รวมทั้งมาพร้อม Premium Audio DAC AK4490/AK4961 ของ AKM (Asahi Kasei Microdevices Corporation) ทำให้คุณภาพเสียงของรุ่นนี้ดีมากๆ ครับ ทั้งผ่านหูฟังและลำโพงเครื่อง
สำหรับในส่วนของเครื่องเล่นไฟล์วีดีโอ ทดสอบด้วยไฟล์ความละเอียด Full HD 1080P สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล รวมทั้งรองรับระบบเสียง Dolby ATMOS และ Dolby Digital Surround เช่นกัน
ทดสอบในส่วนของเกม ด้วยเกมอย่าง Implosion: Never Lose Hope เล่นได้อย่างลื่นเลยครับ ไม่เจอปัญหาใดๆ
ZTE AXON 7 Mini เป็นสมาร์ทโฟนขนาดเหมาะมือที่โดยส่วนตัวผมประทับใจมากครับ เพราะราคา 11,990 บาท แต่ได้เครื่องที่สวยและพรีเมี่ยมมากๆ การใช้งานก็ทำได้ดีมาก ลื่นไหล รวดเร็ว ฟังก์ชั่นครบ คุณภาพเสียงดีเยี่ยม แถมกล้องยังดีมากซะด้วย จุดด้อยสำคัญของรุ่นนี้ผมยังหาไม่เจอ นอกจากบักในส่วนของการทดสอบนิดๆ หน่อยๆ เท่านั้น คุ้มมากครับ ใครที่ชอบมือถือขนาดพกพาสะดวก หน้าตาดีๆ แต่มีงบไม่สูงมากรุ่นนี้ผมแนะนำเลย
ข้อดีของ ZTE AXON 7 Mini
- Design สวยงามมาก วัสดุ และการประกอบแข็งแรง ดูพรีเมี่ยม
- สเปคดี การใช้งานลื่นไหล และรวดเร็ว
- Mifavor 4.0 ทำออกมาได้น่าใช้ ดูมีเอกลักษณ์
- คุณภาพเสียงยอดเยี่ยมทั้งผ่านหูฟัง และลำโพง
- กล้องคุณภาพดีมาก ทั้งกล้องหลัง และกล้องหน้า
ข้อด้อยของ ZTE AXON 7 Mini
- ยังมีบักอยู่บ้างนิดหน่อย ไม่มีปัญหาต่อการใช้งาน
- ไม่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่เองได้