เปรียบเทียบ LG V30 กับ Samsung Galaxy Note 8 สมาร์ทโฟนสุดร้อนแรงของวันนี้!
LG V30 และ
Samsung Galaxy Note 8 สมาร์ทโฟนเรือธงระดับแถวหน้าของวันนี้อย่างแท้จริง แถมเปิดตัวมาในระยะเวลาที่ไล่เลี่ย ทั้งคู่มาพร้อมด้วยดีไซน์สุดพรีเมี่ยม อัดแน่นเต็มเปี่ยมด้วยสเปคสุดแรง รวมทั้งใส่ฟีเจอร์ที่โดดเด่นไม่แพ้กัน สำหรับใครที่สนใจสมาร์ทโฟน 2 รุ่นนี้ วันนี้เรานำมาเทียบให้ดูกันไปเลยว่า แต่ละรุ่นมีสเปคและจุดเด่นอย่างไรบ้าง รวมทั้งฟีเจอร์เด่นที่เป็นจุดขายของทั้งคู่ รุ่นไหนจะตรงใจเพื่อนๆ มากกว่ากัน มาดูกันเลยครับ
ดีไซน์
LG V30 มาพร้อมดีไซน์ขอบโลหะ และด้านหลังเป็นกระจก และด้านหน้าเป็นกระจกโค้ง มาพร้อมหน้าจอ P-OLED ไร้ขอบ FullVision ขนาด 6 นิ้ว อัตราส่วน 18:9 ความละเอียด QHD+ (538ppi) รองรับ Dolby Vision และ HDR10, Always on on Display (AOD), กระจก Corning Gorilla Glass 5
Samsung Galaxy Note 8 จะมีดีไซน์คล้ายกัน แต่รูปทรงจะเหลี่ยมมากกว่า และมาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED โค้งไร้ขอบ Infinity Display ขนาด 6.3นิ้ว อัตราส่วน 18.5:9 ความละเอียด QHD+ (521ppi) รองรับ HDR10, Always on on Display (AOD), กระจก Corning Gorilla Glass 5
จะเห็นว่าดีไซน์มาในแนวทางเดียวกันมากครับ แตกต่างก็ตรงรายละเอียด และขนาดหน้าจอที่ Samsung Galaxy Note 8 เป็นหน้าจอโค้ง และมีขนาดใหญ่กว่า ในส่วนของตำแหน่งการจัดวางด้านหลัง ผมว่าทาง LG V30 ออกแบบมาได้ลงตัวกว่านิดหน่อย เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานสะดวกกว่าชัดเจน ส่วนเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจของ Samsung Galaxy Note 8 อยู่ในตำแหน่งชิดกล้องเกินไป ไม่มีอะไรขั้นเลย เวลาใช้งานนิ้วจะแตะโดนกระจกกล้องได้ง่าย ต้องหมั่นมาคอยเช็ดบ่อยๆ แต่ก็แอบผิดหวังพอสมควรที่แม้จะดีไซน์ออกมาได้สวยงามมากๆ แต่ LG V30 ก็ดูจะคล้าย Samsung Galaxy S8 มากไปหน่อย น่าจะออกแบบให้ดูมีเอกลักษณ์มากกว่านี้
สเปค
LG V30 รองรับ LTE-A (4CA) Cat12 600/150 Mbps, Qualcomm Snapdragon 835, CPU Octa-core (4x2.45 GHz Kryo & 4x1.9 GHz Kryo), GPU Adreno 540, RAM 4GB และจะมีวางจำหน่าย 2 ความจุ ได้แก่ 64GB และ 128GB (รองรับ MicroSD), ทำงานบน Android 7.1.2 Nougat ครอบทับด้วย UX 6.0+ พร้อมด้วยเซ็นเซอร์ Fingerprint (rear-mounted), accelerometer, gyro, proximity, compass, color spectrum, แบตเตอรี่ความจุ 3,300 mAh รองรับ Quick Charge 3.0 และ Wireless charging
Samsung Galaxy Note 8 รองรับ 4G LTE-A (4CA) Cat16 1024/150 Mbps, Exynos 8895 Octa, CPU Octa-core (4x2.3 GHz & 4x1.7 GHz), GPU Mali-G71 MP20, RAM 6GB, และจะมีวางจำหน่าย 3 ความจุ ได้แก่ 64GB, 128GB และ 256GB (รองรับ MicroSD), ทำงานบน Android 7.1.1 Nougat ครอบทับด้วย TouchWiz พร้อมด้วยเซ็นเซอร์ Iris scanner, Fingerprint (rear-mounted), accelerometer, gyro, proximity, compass, barometer, heart rate, SpO2, แบตเตอรี่ความจุ 3,300 mAh รองรับ Quick Charge 2.0 และ Wireless charging
จากสเปคผู้ใช้ส่วนใหญ่น่าจะชื่นชอบ Snapdragon 835 บน LG V30 มากกว่า แต่จริงแล้ว Samsung Galaxy Note 8 ก็มีรุ่นที่ใช้ชิปเซ็ตตัวนี้เหมือนกัน เพียงแต่วางจำหน่ายแค่ในบางประเทศเท่านั้น ส่วนประเทศอื่นๆ จะใช้ Exynos 8895 Octa ทั้งหมด (รวมถึงประเทศไทยด้วย) ในส่วนของ RAM อันนี้ชัดเจนครับ Samsung Galaxy Note 8 เหนือกว่าด้วย RAM 6GB แถมมีตัวเลือกความจุมากกว่า (ในบ้านเราวางจำหน่ายเฉพาะรุ่นความจุ 64GB เท่านั้น) ซึ่งคาดว่า LG V30 ก็น่าจะเข้ามาทำตลาดบ้านเราด้วยความจุเดียวกัน
ในส่วนของเซนเซอร์ Samsung Galaxy Note 8 จัดเต็มกว่าครับ มีทั้ง Iris scanner และ heart rate มาให้ด้วย แต่ทาง LG V30 ก็แอบเหนือกว่าตรงรองรับ Quick Charge 3.0 (เพราะผลจากการเลือกใช้ชิปเซ็ต) ส่วนความจุแบตเตอรี่เท่ากันครับ
ฟีเจอร์เด่น
LG V30 รองรับมาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP68 และมาตรฐานทางการทหาร MIL-STD 810G, ระบบเสียง 32-bit/192kHz audio มาพร้อม Hi-Fi Quad DAC รุ่น ESS SABRE ES9218P ที่ถูกจูนเสียงโดยทีมวิศวกรของ B & O Play และเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่รองรับเทคโนโลยี MQA (Master Quality Authenticated) สามารถสตรีมเสียงความละเอียดสูงในไฟล์ขนาดเล็ก เพื่อง่ายต่อการสตรีม
Samsung Galaxy Note 8 รองรับมาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP68, ระบบเสียง 32-bit/384kHz audio, จูนเสียงโดย AKG ที่ทาง Samsung เข้าซื้อกิจการ และนำมาเป็นจุดขายครั้งแรกเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และด้วยความเป็น Galaxy Note แน่นอนว่ามีจุดเด่นที่ S Pen โดยในรุ่นนี้มีพัฒนาที่มากกว่าเดิม หัวปากกาขนาดเล็กลงอยู่ที่ 0.7 มม. รองรับแรงกด 4,096 ระดับ แถมหัวปากกาเปลี่ยนมาเป็นยางช่วยถนอมหน้าจอ และให้ความรู้สึกในการเขียน และวาดรูปดีขึ้น มีฟีเจอร์น่าสนใจอย่าง Live Message และ Screen Off Memo ที่พัฒนาให้ดีขึ้น มีฟีเจอร์ระบบแปลภาษา เพิ่มให้รองรับมากถึง 71 ภาษา สามารถแปลงค่ามาตราวัดต่างๆ รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
ที่แจ๋วที่สุดคือ Samsung Dex ที่มีมาตั้งแต่ตอน Samsung Galaxy S8 ช่วยให้เราสามารถใช้งานในโหมด Destop ได้เหมือนมันเป็น Mini PC ระบบ Android เลยครับ และรองรับอุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่วางจำหน่ายไปก่อนหน้านี้แล้วพร้อม Galaxy S8 และ Galaxy S8+
ถือว่าพยายามใส่มาเต็มที่ทั้งคู่ ในส่วนของเรื่องเสียง LG มีความพยายามมากครับในการสร้างแบรนด์ร่วมกับ B & O Play แต่ทาง Samsung ก็มี AKG เหมือนกัน โดยรวมทาง Samsung Galaxy Note 8 ดูจะโดดเด่นกว่าด้วยความเป็น Galaxy Note ซึ่งเป็นจุดขายสำคัญของสมาร์ทโฟนตระกูลนี้ แถมยังมีจุดขายในส่วนอื่นๆ ที่ช่วยเพิ่มความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
กล้อง
LG V30 มีกล้องคู่ความละเอียด 16MP ค่ารูรับแสง F1.6 (เป็นรุ่นแรกของโลก) + 13MP ค่ารูรับแสง F1.9, Crystal Clear Lens, กล้องหน้าความละเอียด 5MP ค่ารูรับแสง F2.2, บันทึกวีดีโอความละเอียด 4K 2160P 30FPS, รองรับระบบกันสั่น OIS และ Laser, Phase Detection Autofocus
นอกจากนี้ยังมาพร้อมความสามารถบันทึกวีดีโอได้ในระดับมืออาชีพ ด้วยโหมด Cine Video mode ซึ่งมาพร้อม Cine Effect สามารถปรับเฉดสีของวีดีโอได้ถึง 15 เฉดสี และ Point Zoom ซึ่งโดยปกติเวลาซูมภาพบนกล้องมือถือรุ่นก่อนๆ เราจะสามารถซูมภาพไปที่กึ่งกลางของภาพที่เราถ่ายเท่านั้น แต่ด้วยความสามารถของฟีเจอร์ Point Zoom ทำให้สามารถเลือกซูมจากจุดไหนบนภาพในขณะที่เราบันทึกได้อย่างอิสระและ Cine Log ทำให้เราสามารถปรับแต่งช่วงไดนามิกของสีบนวีดีโอได้ ทำให้โทนสีของภาพสมจริงมากยิ่งขึ้น
Samsung Galaxy Note 8 มีกล้องคู่ความละเอียด 12MP ค่ารูรับแสง F1.7 + 12MP ค่ารูรับแสง F2.4, กล้องหน้าความละเอียด 8MP ค่ารูรับแสง F1.7, บันทึกวีดีโอความละเอียด 4K 2160P 30FPS, รองรับระบบกันสั่น OIS แบบ 3 แกน และ Phase Detection Autofocus
รองรับ Optical Zoom 2X ซึ่งมาพร้อมฟีเจอร์ Live Focus สามารถปรับเอฟเฟกต์โบเก้ได้ตามใจชอบ และสามารถเก็บภาพพร้อมกัน และบันทึกไว้ทั้งสองภาพภายในช็อตเดียว โดยจะได้ทั้งภาพแบบมุมกว้าง และแบบเทเลพร้อมๆกัน
ทั้ง 2 รุ่น เป็นกล้องคู่ในลักษณะ Wide-Angle Lens + Telephoto Lens เหมือนกันครับ น่าสนใจทั้งคู่เลย ถ้ามีโอกาสได้ทดสอบเปรียบเทียบความพิเศษในฟีเจอร์กล้องคู่ของทั้ง LG V30 และ Samsung Galaxy Note 8 จะนำมาเขียนให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันนะครับ
สรุป
LG V30 และ Samsung Galaxy Note 8 เป็นสมาร์ทโฟนที่มีสเปคที่ดีมากทั้งคู่ แถมจุดขายยังมีความคล้ายกันในหลายจุด แต่ก็มีรายละเอียดที่แตกต่างกันอยู่ไม่น้อย
ล่าสุด Samsung Galaxy Note 8 เปิดจองแล้ว ตั้งแต่วันนี้ - 17 ก.ย. 60 พร้อมของแถมมากมาย ส่วนทาง LG V30 เปิดตัวไปหมาดๆ ในงาน IFA 2017 คาดว่าอีกนานพอดูครับ กว่าที่ทาง LG ประเทศไทย จะนำเข้ามาทำตลาด เพราะเตรียมจะวางจำหน่าย LG G6 ก่อน (จริงๆ อยากให้ลัดคิวเอา LG V30 มาเลย) ยังไงเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบก็อดใจรอกันซักหน่อยนะครับ ถ้ามีความคืบหน้าเราจะรีบนำมารายงานอย่างแน่นอน