มาดู 5 ระบบปฏิบัติการ (OS) มือถือที่ไปไม่รอด

ปัจจุบัน หากพูดถึงระบบปฏิบัติการ (OS) บนสมาร์ทโฟนที่นิยมใช้กันอยู่ก็คือ ระบบ iOS และ ระบบ Android แต่หากย้อนไปในอดีตระบบปฏิบัติการ (OS) นั้นถือว่ามีค่อนข้างเยอะอยู่พอสมควร แต่ก็พากันล้มหายตายจากหายไปกันหมด ด้วยเหตุผลต่างๆ นานา วันนี้ เช็คราคา.คอม จะพาย้อนไปดูกันว่า ในอดีตที่ผ่านมาสมาร์ทโฟนเคยมีระบบปฏิบัติการ (OS) อะไรบ้าง แล้วแต่ละชนิดมีข้อดีอย่างไร

เริ่มต้นในปี 2007 เมื่อการถือกำเนิดของ iPhone ทำให้ Palm ต้องรีบดึง Jon Rubinstein หนึ่งในทีมพัฒนา iPod ที่เกษียณแล้วมาช่วยพัฒนามือถือยุคใหม่ที่สามารถเทียบกับ iPhone ได้ หลังจากทุ่มเทพัฒนาอยู่ 2 ปี WebOS ก็ได้เปิดตัวในเดือนมกราคม 2009 บนมือถือ Palm Pre วางจำหน่ายโดย Sprint ในเดือนมิถุนายนปี 2009 แล้วตามด้วย Palm Pixi จากนั้นรุ่นอัพเกรด Palm Pre Plus และ Palm Pixi Plus ก็ได้วางจำหน่ายบนเครือข่ายเวอไรซอนไวร์เลสส์ (Verizon) และ เอทีแอนด์ทีโมบิลิตี (AT & T) จนคิดว่าจะสามารถพลิกเกมวงการมือถือได้เลยทีเดียว ด้วยหน้าจอสัมผัสแบบ multitouch ที่ถือว่าค่อนข้างล้ำ 

จนถึงปี 2010 ยอดขาย Palm ตระกูล Pre เริ่มส่อแววไม่ดี HP จึงโดดมาซื้อกิจการ Palm และเปลี่ยนไปใช้ชื่อแบรนด์ HP แทน แต่ไม่นานหลังจากออกมาได้เพียง 2 รุ่น HP ก็ตัดสินใจยุบโครงการพัฒนามือถือและปิดตำนาน WebOS ไปพร้อมกันเป็นที่น่าเสียดาย

จุดเด่น WebOS

รองรับการใช้งาน gesture ได้หลากหลาย มีพื้นที่สำหรับ gesture พิเศษใต้หน้าจอ และยังเป็น OS มือถือรุ่นแรกๆ ที่รองรับ Multitasking ซึ่งฟีเจอร์นี้ก็ได้กลายมาเป็นมาตรฐานของ OS รุ่นใหม่ๆ และฟีเจอร์ Universal Search ที่สามารถค้นหาผลลัพธ์จากหลายๆ แอปพลิเคชั่นพร้อมกันในคราวเดียว

สำหรับ MeeGo นั้น หลายคนอาจจะพอคุ้นๆ กันบ้าง ซึ่งในปี 2010 ที่เกิดจากการร่วมพัฒนาของ Nokia และ Intel โดยนำ Moblin (Mobile Linux) และ Maemo มารวมกัน ทีแรก MeeGo ถูกตั้งความหวังให้เป็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของ Nokia ในวงการสมาร์ทโฟน ไปๆ มาๆ กลับเป็น Nokia N950 และ N9 ที่ได้ใช้ MeeGo เท่านั้น จนกระทั่งการตกลงซื้อขายกิจการระหว่าง Nokia และ Microsoft ถูกประกาศออกมา Intel จึงถอนตัวออกจากโปรเจ็ค สุดท้ายระบบ MeeGo จึงเหมือนถูกลอยแพและหายไปจากวงการสมาร์ทโฟน

จุดเด่น Meego

ด้วยความที่ MeeGo ไม่ได้เป็น OS สำหรับมือถือโดยตรง จึงมี UX (User Experience) หน้าตาต่างกันไป สำหรับ UX มือถือจะแบ่งเป็นสามหน้าต่าง และควบคุมด้วยการสัมผัส ย่อแอปฯ, ปิดแอปฯ, สลับหน้าจอ และอื่นๆ ด้วยการลากนิ้วจากขอบจอ ส่วนลักษณะการดีไซน์ แอบคล้ายกับระบบปฏิบัติการ Symbian Anna

ส่วนระบบปฎิบัติการ Windows Phone เป็นการต่อยอด OS ในเครื่องเล่นเพลง Zune ของ Microsoft โดยมีการนำ Windows CE kernel มาใช้เป็นฐานในการพัฒนา เมื่อ Windows เปิดตัว OS เวอร์ชันใหม่ Windows Phone 8 สมาร์ทโฟนที่วางจำหน่ายอยู่ก่อนแล้ว กลับไม่สามารถรองรับ OS ตัวนี้ได้ แม้ทาง Microsoft จะทุ่มเททำการตลาดอย่างมากก็ตาม แต่ก็ไม่อาจซื้อใจผู้ใช้สมาร์ทโฟนได้ จนกระทั่งถูก Windows 10 Mobile เข้ามาแทนที่ ซึ่ง Windows Phone นั้นก็อาจจะยังมีให้เห็นอยู่บ้าง ไม่ได้ถือว่าหายไปซะทีเดียว

จุดเด่น Windows Phone

จุดเด่นใน Windows Phone ที่เห็นได้ชัดเลยคือ ดีไซน์ที่ดูแปลกตาและเป็นเอกลักษณ์ เน้นความเรียบง่าย แถมยังมีฟีเจอร์ Hubs ที่รวบรวมคอนเทนต์ประเภทเดียวกันเอาไว้ในที่เดียวและเข้าถึงได้ง่าย หลังจากนั้นก็มีการเพิ่ม Cortana เข้ามาให้ทัดเทียมกับคู่แข่งอย่าง Siri ของ iOS และยังมีความพยายามเพิ่มฟีเจอร์อื่นๆ เข้าไปแต่ไม่ก็ยังไม่ได้รับความนิยม

ถ้าพูดถึง BlackBerry ย้อนไปเมื่อ 6 - 7 ปีก่อน ถือว่าฮิตกันมากในหมู่วัยรุ่น ด้วยเอกลักษณ์ในการแลก Pin และแป้นพิมคีย์บอร์ดทำให้ฮิตมากในช่วงนั้น จนกระทั่งมีระบบ iOS และ  Android เข้ามาเบียดจนทำให้ BlackBerry10 หายไปในที่สุด

จุดเด่น BlackBerry10

มาพร้อมกับ BlackBerry Hub ที่รวมข้อความ การโทร และการแจ้งเตือนเอาไว้ในที่เดียวกัน รองรับฟังก์ชัน Multitasking ที่สามารถย่อแอปพลิเคชันให้เป็น Active Frame ได้ สามารถเลือกให้เป็นการย่อหน้าต่าง หรือกลายเป็นวิดเจ็ต

สำหรับระบบปฎิบัติการ Firefox OS หลายคนคงไม่เคยได้ยินอีกเช่นกัน แต่ก็ไม่แปลกเพราะ Firefox OS มีติดตั้งอยู่ในสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตระดับล่างในตลาดบางประเทศเท่านั้น ซึ่ง Firefox OS เปิดตัวออกมาในชื่อ Boot to Gecko ซึ่ง Gecko นั้นเป็น internal web engine ของ Firefox โดยหมายมั่นปั้นมือให้เป็น OS ที่จะมาจุดประกายยุคสมัยของ Web Applications พร้อมกับเตรียมนำไปใช้ในอุปกรณ์ของ ZTE, Alcatel, Huawei และ LG แต่พอถึงต้นปี 2016 ทีมพัฒนากลับหันหัวเรือไปมุ่งเน้นอุปกรณ์ต่อพ่วงและ Smart TV แทน แล้วโปรเจ็คนี้ก็หายไปอย่างเงียบๆ

จุดเด่น Firefox OS

เพราะ Firefox OS เน้นการทำงานกับ Web Applications ที่ใช้ web engine เป็นแพล็ตฟอร์ม ต่างจาก OS มือถืออื่นๆ ซึ่ง Web Applications สามารถเปิดใช้ได้ผ่านเบราเซอร์ทำให้ลดความยุ่งยากในการพอร์ตข้ามแพล็ตฟอร์ม ประกอบกับเป็น open source ทำให้ Firefox OS สามารถต่อยอดไปได้