เลือกซื้อสมาร์ทโฟนให้โดนใจ .. จะเลือกอย่างไรดี? เช็คราคามีคำตอบ
สมาร์ทโฟน (Smartphone) เป็นอุปกรณ์สื่อสาร ใช้สำหรับทำงาน และความบันเทิง ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในปัจจุบัน แทบจะทุกคนจะต้องมีกันอย่างแน่นอน แถมบางคนยังพกทีหลายๆ เครื่องอีกด้วย และสำหรับคนที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่กันอยู่อาจจะลังเลว่าควรจะเลือกรุ่นไหนดี แบรนด์ไหนดี เริ่มต้นกันไม่ถูก ซึ่งเป็นคำถามที่มีเพื่อนๆ ถามกันเข้ามาเยอะมากครับ วันนี้ผมจึงมีคำแนะนำดีๆ มาฝากกัน หวังว่าจะมีประโยชน์ให้กับเพื่อนๆ นะครับ
ราคา
สำหรับราคาสมาร์ทโฟนก็มีตั้งแต่ไม่กี่พันบาทไปจนถึงหลายหมื่น ต้องตั้งช่วงราคาในใจก่อนครับว่าจะยอมเสียเงินให้สมาร์ทโฟนขนาดไหน ซึ่งจะทำให้ตัวเลือกเราแคบลง และตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้น (แนะนำว่าเมื่อตั้งงบในใจแล้ว ควรจะใจแข็งนะครับ ไม่ควรจะเพิ่มงบตามอารมณ์ ไม่อย่างนั้นเเล้วงบบานปลายอย่างแน่นอน)
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการเป็นเรื่องที่สำคัญมากนะครับ สำหรับในตอนนี้สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่แทบจะทั้งหมดในตลาดจะเป็นระบบ Android ส่วน iPhone ที่เรารู้จักกันจะใช้ระบบ iOS ซึ่งทั้ง 2 ระบบนี้มีความแตกต่างกันมากนะครับ
สำหรับในมุมผู้ใช้งานอย่างเราๆ ทาง Android จะยืดหยุ่นกว่า การเชื่อมต่อก็ง่าย ความเสถียรในปัจจุบันนี้ถือว่าดีมาก แตกต่างจากเมื่อก่อนแล้วครับ ถ้าวัดกันในจุดนี้ถือว่าไม่แตกต่างกันแล้ว ส่วนทาง iOS เนื่องจากมีแบรนด์เดียวที่ใช้คือ Apple ประสบการณ์การใช้งานถือว่าแน่นอนกว่า ไม่ว่าคุณจะใช้รุ่นเก่าแต่ถ้ายังอยู่ในระยะเวลาการอัพเดท รับรองว่าได้อัพเดทต่อเนื่องแน่นอน (แต่ก็มีระยะเวลาสิ้นสุดนะครับ) แอพพลิเคชั่นไม่มีปัญหาใช้งานได้แน่นอนแบบไม่ต้องลุ้น
ซึ่งเรื่องการอัพเดทเวอร์ใหม่ๆ นี่ละครับที่เป็นปัญหาของสมาร์ทโฟนระบบ Android เพราะแต่ละแบรนด์มีมาตรฐานการอัพเดทแตกต่างกัน มีทั้งแบรนด์ที่ขยันอัพเดท และแบรนด์ที่มักจะลอยแพ ซึ่งการอัพเดทจริงๆ ก็เป็นดาบ 2 คมนะครับ บางครั้งอัพเดทแล้วมีปัญหา ซึ่งบางทีการไม่อัพเดทแต่ใช้งานเสถียรๆ อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แต่ก็อย่างว่าครับซื้อมาแล้วทั้งทีมีเวอร์ชั่นใหม่ๆ ลูกค้าก็อยากจะใช้ละครับ ซึ่งในจุดนี้ก็ไม่ใช่ทุกคนอีกนั่นแหละที่ต้องการอัพเดท เพราะส่วนมากผู้ใช้ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำครับว่าเราใช้เวอร์ชั่นอะไรแล้ว ถ้าไม่ใช่คนที่ชื่นชอบ หรือติดตามในแวดวงนี้จริงๆ
นอกจาก 2 ตัวเลือกนี้ก็ยังมีระบบ Windows 10 Mobile ซึ่งในตอนนี้มีสมาร์ทโฟนส่วนน้อยมากครับที่เลือกใช้ระบบปฏิบัติการนี้ ก็ต้องรอดูต่อไปครับว่า Microsoft จะสามารถกอบกู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ได้หรือเปล่า โดยส่วนตัวผมเอาใจช่วยจริงๆ นะ ส่วนระบบอื่นๆ มีน้อยมากในทุกวันนี้ บางระบบก็เฉพาะกลุ่มสุดๆ ไปเลย เรียกได้ว่าในตอนนี้สงคราม OS บนสมาร์ทโฟนกลายเป็นเรื่องของ Android และ iOS ไปซะแล้ว
แบรนด์
แบรนด์หรือยี่ห้อ ก็เป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจครับ สำหรับตลาดสมาร์ทโฟนบ้านเรามีแบรนด์หน้าใหม่เข้ามาทำตลาดอย่างคึกคัก และมีหลายแบรนด์ที่ยุติการทำตลาดในบ้านเราไปแล้ว ถ้ามองที่ความน่าเชื่อถือ และจำนวนศูนย์บริการ แน่นอนว่าแบรนด์เก่าแก่ที่คุ้นชินได้เปรียบมากครับ
สำหรับแบรนด์หน้าใหม่นั้นยังต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ ทุกแบรนด์ล้วนมีจุดขายของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการชูสเปค, ดีไซน์ที่โดดเด่น, ลูกเล่นเฉพาะตัวที่หาจากแบรนด์อื่นไม่ได้, ราคาสุดคุ้ม เหล่านี้เป็นต้น อยู่ที่ว่าเราชื่นชอบจุดขายแบบไหน
ดีไซน์ และมาตรฐานของวัสดุ และการประกอบ
ในส่วนของดีไซน์อันนี้ต้องแล้วแต่ความชอบครับ เพราะความชอบของคนเรานั้นมีหลากหลายไม่เหมือนกัน โดยแต่ละแบรนด์ก็มีดีไซน์ที่แตกต่างกัน ส่วนคุณภาพของวัสดุ ในปัจจุบันมีการนำโลหะและกระจกมาใช้ในรุ่นราคาเบาๆ ด้วยนะครับ แต่ก็ต้องบอกก่อนเลยว่ายังมีความแตกต่างกับรุ่นพรีเมี่ยมค่อนข้างมาก งานประกอบส่วนใหญ่ในตอนนี้อยู่ในมาตรฐานที่ดีแทบจะทุกแบรนด์เลยครับ
หน้าจอ
หน้าจอของสมาร์ทโฟนแต่ละแบรนด์แม้จะมีความละเอียดเท่ากัน แต่ความสวยงามก็แตกต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของหน้าจอ โดยในปัจจุบันที่นิยมใช้กันได้แก่หน้าจอ IPS และหน้าจอ OLED
สำหรับความละเอียดหน้าจอที่นิยมใช้ในตอนนี้จะมีความละเอียดอยู่ที่ HD 720P, Full HD 1080P และ QHD (2K) และความละเอียดสูงสุดบนสมาร์ทโฟนในตอนนี้ 4K ซึ่งในตอนนี้มีเพียงรุ่นเดียวที่ใช้นั่นก็คือ Sony Xperia Z5 Premium
สำหรับขนาดหน้าจอที่เป็นที่นิยมที่สุดในตอนนี้ก็คือ 5.5 นิ้ว แต่ก็มีบางคนที่ชอบหน้าจอขนาดใหญ่เต็มตา 6 นิ้วขึ้นไป หรือบางคนที่ชอบหน้าจอขนาดเล็กเพื่อการจับถือใช้งานมือเดียวได้สะดวก ก็จะชอบหน้าจอที่มีขนาดไม่เกิน 5 นิ้ว อยู่ว่าเราชอบการใช้งานรูปแบบไหนครับ
สเปค
สำหรับสเปคของสมาร์ทโฟนยิ่งราคาสูง สเปคก็ยิ่งสูงตามไปด้วย แต่ก็ไม่เสมอไปครับ เพราะในทุกวันนี้บางแบรนด์เอาสเปคเข้าสู้เพื่อสร้างจุดเด่นให้กับตัวเอง โดยการวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนสเปคสูงในราคาที่ถือถูกมากๆ แต่นอกจากสเปคแล้วอย่างที่ผมบอก ต้องมองรายละเอียดอื่นๆ มาประกอบด้วยในการตัดสินใจ
ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของชิปเซ็ต ซึ่งตอนนี้มีชิปเซ็ตจากหลายเจ้าอยู่ในตลาด แต่ที่เป็นที่นิยมมากที่สุดได้แก่ Qualcomm และ MediaTek เป็นเทคโนโลยีขับเคี่ยวกันน่าดูครับ และแต่ละค่ายก็มีตัวแรง ตัวประหยัดออกมาทั้งคู่ กับปัญหาจุกจิกต่างๆที่เคยมีเอาเข้าจริงๆ ก็มีทั้งคู่นั้นแหละครับ ถึงวันนี้ผมรู้สึกว่าไม่ใช่รายละเอียดที่ต้องเลือกค่าย ดูกันที่ความแรงและรุ่นของชิปเซ็ตก็พอ นอกจากนี้ยังมีชิปเซ็ตที่ผลิตขึ้นเพื่อใช้กับสมาร์ทโฟนของตนเองอย่าง Samsung Exyno และ Huawei HiSilicon อีกด้วย
สำหรับ RAM ไม่ควรเลือกสมาร์ทโฟนที่มี RAM น้อยกว่า 2GB แล้วนะครับ สำหรับมาตรฐานสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ในตอนนี้เริ่มจะเป็น 3GB แล้วสำหรับสมาร์ทโฟนระดับกลาง บางรุ่นจัดมาให้ 4GB ด้วยซ้ำ ส่วนรุ่นราคาสูงๆ RAM 6GB ใกล้จะเป็นมาตรฐานแล้ว และ RAM 8GB เตรียมตัวจะมาแล้วนะครับในรุ่นระดับสูงสุด
และหน่วยความจำภายนอกไม่ควรจะเลือกที่น้อยกว่า 16GB ไม่อย่างนั้นการใช้งานมีปัญหาเรื่องหน่วยความจำเต็มแน่นอน ถึงแม้ว่าจะสามารถเพิ่ม Micro SD Card ได้ก็ตาม โดยรุ่นราคาประหยัด 32GB เริ่มเป็นมาตรฐานแล้ว เรียกได้ว่าปีที่ผ่านมาเป็นรุ่งอรุณของสมาร์ทโฟนราคาไม่แพงจริงๆ ราคาไม่เกินหมื่น ก็ได้สเปคที่จุใจเอามากๆ ถือว่าก้าวกระโดดทีเดียวครับ
กล้อง
เรียกได้ว่าเป็นอีกจุดขายสำคัญที่สุดสำหรับสมาร์ทโฟนในตอนนี้เลย จะว่าไปก็เป็นจุดขายใหญ่มาตลอดตั้งแต่สมัยโทรศัพท์มือถือธรรมดาแล้วครับ เมื่อก่อนมีกล้องความละเอียด VGA ก็เดินยืดอวดกันได้แล้ว มาตอนนี้หลังจากผ่านยุคอัดความละเอียดทะลุโลกสำหรับกล้องโทรศัพท์มือถือ ก็มาสู่ยุคเน้นคุณภาพเซ็นเซอร์ คุณภาพของรูปถ่าย ถ่ายแสงน้อยดีแค่ไหน ความเร็วในการจับโฟกัส รวมทั้งการบันทึกภาพเป็นยังไงบ้าง และเลนส์มุมกว้างแค่ไหน มีโหมดโปรหรือเปล่า ล้วนเป็นจุดขายที่มาถูกทาง
จนมาถึงในตอนนี้ที่กระแสกล้องคู่ประสบความสำเร็จจนได้ หลังจากที่หลายแบรนด์พยายามกันมาอย่างยาวนาน ต้องขอชม Huawei ที่นำชื่อของ Leica มาใช้ได้อย่างโดดเด่น จนกล้องคู่กลายเป็นจุดขายสำคัญที่ทำให้หลายคนเลือกซื้อ และต่อจากนี้เราจะได้เห็นสมาร์ทโฟนกล้องคู่ออกมาอย่างต่อเนื่องแน่นอน Apple ก็ตามมาแล้ว และการพัฒนาที่ต่อเนื่องของ LG
พูดถึงเรื่องกล้อง นอกจากกล้องหลังแล้ว กล้องหน้าก็เป็นจุดขายสำคัญ เพราะไม่ว่าใครก็ชอบ Selfie นอกจากกล้องที่ดี ก็ต้องมีซอฟต์แวร์ที่ดีด้วย เพื่อที่จะให้ถ่ายออกมาดูดีกว่าความเป็นจริง ล่าสุดก็มีสมาร์ทโฟนกล้องหน้าคู่ออกมาแล้วครับ นำมาโดย Lenovo และ Vivo โดยเฉพาะ Vivo ถือว่าประสบความสำเร็จในการชูจุดขายกล้องหน้าคู่จริงๆ ต้องขอชมเรื่องการโปรโมทเลยครับ
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ยิ่งให้ความจุมามากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีครับ แต่ตัวเครื่องก็ต้องมีความบางอย่างเหมาะสมด้วย ถ้าอัดแบตฯ มาเยอะๆ แต่เครื่องอย่างหนานี่ก็ไม่ไหวนะครับ
ซึ่งมาตรฐานแบตเตอรี่ตอนนี้เริ่มจะอยู่ที่ประมาณ 3,000 mAh โดยรุ่นที่เน้นเรื่องแบตเตอรี่เป็นจุดขายแบตเตอรี่ทะยานไปที่ 5,xxx mAh แล้ว ไม่นับแบรนด์ที่ไม่ได้มาทำตลาดในบ้านเรา แบตเตอรี่ความจุทะลุหมื่นเลยทีเดียว สุดยอดไปเลยยังกะความจุของ Power Bank ซึ่งสมาร์ทโฟนเหล่านั้นก็สามารถใช้งานเป็น Power Bank ได้จริงๆด้วย
นอกจากความจุแล้วก็ต้องมีมาตรฐานชาร์จไวด้วยนะครับ ไม่อย่างนั้นแบตเตอรี่ความจุสูงๆ ชาร์จกว่าจะเต็มรอกันง่วงเลย ซึ่งทุกวันนี้สมาร์ทโฟนส่วนมากจะมาพร้อมมาตรฐานชาร์จไวกันแล้ว ซึ่งถ้าจะให้แน่นอน ก็ต้องอย่าลืมเช็คสเปคก่อนซื้อนะครับว่ารองรับหรือเปล่า ผมว่าเป็นจุดที่สำคัญมากทีเดียว
มาตรฐานป้องกันน้ำ และฝุ่น
สำหรับมาตรฐานกันน้ำและฝุ่น จริงๆ เคยเป็นจุดขายของบางแบรนด์เท่านั้น แต่ในตอนนี้แทบจะทุกแบรนด์ให้ความสำคัญและใส่มาในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่เกือบทั้งหมด อย่างเช่น Samsung นอกจากรุ่นเรือธง และ Galaxy Active ที่ไม่นำเข้ามาทำตลาดในไทยแล้ว ก็เริ่มนำมาใส่ใน Galaxy A Series แล้วนะครับ มีครบทั้ง 3 รุ่นใหม่เลยด้วย
แต่ต้องบอกก่อนว่า สำหรับทุกแบรนด์รวมทั้ง Apple แม้จะรองรับมาตรฐานกันน้ำและฝุ่น แต่ถ้าน้ำเข้าขึ้นมาประกันหลุดทันทีนะครับ ถือว่าเป็นจุดขายที่เอาไว้เผื่ออุบัติเหตุจะดีกว่า และมาตรฐานกันน้ำและฝุ่นจะมีหลายระดับ โดยตัวเลขตัวหน้าจะบอกถึงระดับการป้องกันฝุ่นละออง ส่วนตัวหลังคือความชื้น ต้องดูดีๆ แต่ละแบรนด์รองรับมาตรฐานตรงนี้แตกต่างกัน
สำหรับในตลาดบ้านเราตอนนี้ (สำหรับสมาร์ทโฟนที่ยังทำตลาด) ก็มี Apple ที่รองรับมาตรฐาน IP67 และ Samsung, Sony นั้นจะรองรับมาตรฐาน IP68 ความแตกต่างตัวเลขหน้าจะเหมือนกันครับ เป็นตัวเลขบอกถึงสถานะกันของแข็ง เลข 6 หมายถึง สามารถกันฝุ่นละอองได้ ส่วนเลขตัวหลัง เลข 7 หมายถึง สามารถจุ่มน้ำได้ที่ความลึกตั้งแต่ 15 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร ส่วนเลข 8 หมายถึง สามารถใช้งานใต้น้ำได้ รู้แบบนี้แล้วก็ใช้งานกันให้ถูกต้องตามมาตรฐานนะครับ แต่อย่างที่บอกถ้าน้ำเข้าประกันหลุดนะเออ
การรับประกัน และศูนย์ซ่อม
อยากบอกว่าสำคัญสุดๆ เลยครับ ยิ่งมีศูนย์ซ่อมมากเท่าไหร่ก็ยิ่งได้รับความสะดวกมากเท่านั้น แต่ละแบรนด์ก็มีความพร้อมตรงนี้ต่างกัน และบางแบรนด์ตอนนี้จะมีการรับประกันระดับ VIP ซึ่งจะมีเงื่อนไขที่ดีกว่าปกติ แต่ก็จะรองรับเฉพาะรุ่นระดับสูงเท่านั้น และบางแบรนด์ก็มีเพิ่มประกันเป็นปีครึ่ง และบางแบรนด์ก็จัดเต็มสองปีเป็นกรณีพิเศษด้วยนะครับ น่าสนใจมากทีเดียว เป็นอีกจุดนึงที่หลายๆ คนมองข้าม แต่เวลามีปัญหาขึ้นมารับรองว่าจะเห็นความสำคัญอย่างยิ่งยวดเลยละครับ
หวังว่าจะมีประโยชน์ในการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนของเพื่อนๆ นะครับ ถ้ามีข้อสงสัยก็สามารถเข้ามาสอบถามกันได้ที่แฟนเพจ
Mobile GURU Thailand by CheckRaka.com เรายินดีตอบคำถามเพื่อนๆ เสมอ หรืออยากจะเข้ามาพูดคุยกันก็ยินดีเลยครับ ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะครับ