8 สุดยอดไอเท็มเด็ดที่ต้องมีก่อนไปเที่ยวญี่ปุ่น
ญี่ปุ่น ประเทศสุดฮิตที่ใครก็อยากไปเยือน แถมหลายคนไปมาแล้วก็กลับมาเฟิร์มว่าอยากไปซ้ำ เพราะแต่ละเมืองมีเสน่ห์ที่โดดเด่นน่าเที่ยวแตกต่างกันไป ยิ่งเดี๋ยวนี้จะไปญี่ปุ่นไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก เพราะเค้าอนุญาตให้เข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าสำหรับระยะเวลาไม่เกิน 15 วัน เรียกว่าซื้อตั๋วเครื่องบินและจองที่พักให้ครบคืนก็พร้อมเยือน Japan ได้ไม่ต้องง้อทัวร์ แต่.. ถึงจะไปง่ายไม่ยุ่งยากยังไงการวางแผนเบาๆ เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมและเลือกพกพา 8 ไอเท็มเด็ดคู่ใจตามที่เราแนะนำ ก็น่าจะช่วยทำให้ทริปการเดินทางเยือนญี่ปุ่นครั้งนี้ของคุณนั้นมันส์ แซ่บ สะใจกว่าที่เคย
1. โหลด App จำเป็นเตรียมพร้อมไว้ในสมาร์ทโฟน
แอปพลิเคชั่นแผนที่ของเมืองต่างๆ ที่เราวางแผนไปเยือน หรือแอปฯ เช็คตารางเวลาเดินรถไฟ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความสะดวกสบายที่จะช่วยทำให้เราประหยัดเวลา และสามารถวางแผนการท่องเที่ยวในเมืองต่างได้แบบคร่าวๆ ว่าในวันนึงเราจะสามารถเดินทางไปเที่ยวที่ไหนได้บ้างต้องใช้เวลาแค่ไหน จะได้ใช้เวลาในการเที่ยวให้คุ้มค่ามากที่สุดค่ะ
ตัวอย่างแอปพลิเคชั่นแนะนำ เช่น Tokyosubway วางแผนการเดินทางค้นหาข้อมูลสายรถไฟในญี่ปุ่น, TABIMORI ฟรีแอปพลิเคชั่นรวมข้อมูลท่องเที่ยวญี่ปุ่นแบบครบวงจร, GURUNAVI แอปฯ แนะนำร้านอาหารโดยเฉพาะ และ Tourist Spots of Japan แอปพลิเคชั่นแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่รอบๆ ตัวในขณะนั้น
Tokyosubway แอปฯ เช็คเส้นทางรถไฟใต้ดินในญี่ปุ่น ใช้งานง่าย แค่เลือกสถานีต้นทาง-ปลายทาง
และกดค้นหา ก็จะแสดงชื่อสถานี เวลา และค่าโดยสารให้เสร็จสรรพ
2. เช่า Pocket WiFi ให้พร้อม Online ได้ทั้งวัน
ถึงญี่ปุ่นจะมี Free WiFi ให้บริการเยอะแยะ แต่ก็ไม่ได้ครอบคลุมทุกสถานที่นะคะ การลงทุนเช่า Pocket WiFi ตัวนึงที่สามารถแชร์สัญญาณให้อุปกรณ์ได้หลายเครื่องเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า คุ้มราคา และตอบสนองความสะดวกสบายให้กับชีวิตในยุคไร้พรมแดน ที่ต้องใช้สัญญาณเน็ตเพื่อเสิร์ชหาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว รันแอพฯ เพือหาร้านอาหารท้องถิ่น เช็คตารางเวลารถไฟ หรืออัพเดทสเตตัสโชว์รูปถ่ายการมาเยือนญี่ปุ่นของเราให้เพื่อนฝูงได้รับรู้ เพื่อนๆ สามารถหาเช่า Pocket WiFi เพื่อใช้บริการได้ทั้งจากผู้ให้บริการที่ไทยและที่ญี่ปุ่น ราคาเฉลี่ย 200-350 บาทต่อวันแล้วแต่แพคเกจการใช้งาน ส่วน Pocket WiFi ที่น่าสนใจก็มีหลายเจ้าค่ะ อย่าง SAMURAI WiFi หรือ SAKURA WiFi ก็ถือเป็นสองผู้ให้บริการที่ราคาน่าสนใจค่ะ
3. เลือกรองเท้าผ้าใบคู่ใจแบบสบายเท้า
ข้อนี้ดูเป็นเรื่องง่ายๆ แต่แอบมีความยากอยู่ในตัว เพราะเวลาอยู่ญี่ปุ่นไม่ว่าจะเที่ยว ช้อปปิ้ง ทานข้าว หรือต่อรถเราต้องพึ่งพาสองขาในการเดินแทบจะตลอด รองเท้าผ้าใบคู่ใจซักคู่ที่ใส่เดินได้สบายเท้าจึงจำเป็นค่ะ ทีนี้รองเท้าผ้าใบมีหลายแบบ ทั้งผ้าใบแบบลำลอง รองเท้าวิ่ง และรองเท้ากีฬาแบบต่างๆ ให้เลือกใช้ตามความชอบและความเหมาะสม แต่ตัวเลือกที่อินเทรนด์สุดสำหรับนักเดินทางในยุคนี้ เราขอยกให้ "รองเท้าวิ่ง" มาวินสุด เพราะด้วยเทรนด์รักสุขภาพและการออกแบบที่สวยตรงใจ แถมคุณสมบัติเด่นอย่างน้ำหนักที่เบา และพื้นรองเท้าที่มีวัสดุช่วยลดแรงกระแทก ทำให้สวมใส่ได้สบาย ไม่ปวดเมื่อยเมื่อต้องเดินนานๆ รองเท้าวิ่งคู่ใจจึงกลายเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งที่เหมาะสมค่ะ ถ้าเพื่อนๆ ยังไม่มีก็ลองเลือกซื้อเลือกหากันง่ายๆ แบบออนไลน์หรืออยากจะไปซื้อที่ช้อปก็ได้นะคะ
อยากช้อปรองเท้าผ้าใบ Nike Air Max ที่ตอนนี้ฮอตฮิตสุดๆ
ก็สามารถคลิกที่นี่เพื่อสั่งซื้อออนไลน์กันได้เลย 4. กระเป๋าเป้ ดีๆ เบาๆ ถ้ากันน้ำ กันฝนได้ยิ่งแจ่ม
เลือกหากระเป๋าเป้ขนาดกำลังดีที่สามารถพกพาติดตัวขึ้นเครื่องบิน เพื่อเก็บของใช้จำเป็นและของที่ต้องพกติดตัวตลอดเวลาอย่าง พาสปอร์ต กระเป๋าเงิน บัตรเครดิต นามบัตรโรงแรม ตั๋วรถไฟ ตั๋วเข้าสถานที่ต่างๆ หรือจะเป็นไอเท็มเจ๋งๆ อย่าง Tablet, มือถือ, Pocket WiFi, PowerBank, แว่นตากันแดด หรือครีมกันแดด(ที่ต้องทาซ๊ำในระหว่างวัน) สารพัดสิ่งของจำเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไม่อยากลืมหรือทำหล่นหายเพื่อนๆ ก็ควรรวบรวมใส่ไว้ในกระเป๋าเป้ หรือกระเป๋าสะพายติดตัว เพื่อให้สะดวกและง่ายต่อการพกพา ลองเลือกหากระเป๋าเก๋ๆ ที่มีครบทั้งดีไซน์และฟังก์ชั่น ยิ่งมีคุณสมบัติเทพๆ อย่างกันน้ำกันฝนได้ก็ยิ่งดี เดี๋ยวนี้กระเป๋าเป้ออกแบบให้โดนใจวัยรุ่นเยอะแยะมากมาย แต่ราคาก็ต้องโดนใจด้วยเช่นกัน เราแอบเห็นเซ็นทรัลออนไลน์มีโปรโมชั่นแรงส์ แบรนด์ก็ดัง ราคาก็โดน จากSamsonite ถ้าเพื่อนๆสนใจ กดเข้าไปชมได้เลย
5. แบตหมดเรื่องเล็ก เตรียมพร้อมได้ด้วย PowerBank
เพื่อให้ทุกกิจกรรมที่ต้องใช้สมาร์ทโฟน ทั้งเล่นเน็ต ถ่าย Selfie หรือ Groupie ไม่มีคำว่าสะดุด การเตรียมพลังงานสำรองให้พร้อมด้วยการพกพา Power Bank คุณภาพดีสักเครื่องก็น่าจะเป็นตัวช่วยให้คุณมั่นใจได้ตลอดวัน สำหรับวิธีเลือกเราแนะนำให้เพื่อนๆ เลือกยี่ห้อ Power Bank ที่มีชื่อเสียงในเรื่องคุณภาพ มีบริการหลังการขาย และรับประกันอย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไป ไม่ควรตัดสินใจเลือกซื้อเพราะเห็นแก่ราคาถูก เพราะอาจได้ Power Bank ที่ไม่มีคุณภาพ ส่วนเรื่องความจุไฟเพื่อนๆ ควรเลือกให้ตรงกับลักษณะการใช้งานที่มากน้อยในแต่วันของเราเพราะ Power Bank ยิ่งความจุเยอะก็ยิ่งใช้เวลาในการชาร์จไฟเข้านานขึ้น ราคาก็จะยิ่งสูงและตามมาด้วยขนาดและน้ำหนักที่มากขึ้นด้วยค่ะ
วิธีเลือกความจุไฟ Power Bank เบื้องต้น - ขั้นที่ 1 เพื่อนๆ ต้องรู้ว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะนำมาชาร์จมีแบตเตอรี่ความจุเท่าไหร่ เช่น iPhone 6s แบตมีความจุ 1715 mAh
- ขั้นที่ 2 รู้ความต้องการในการชาร์จ เช่น อยากชาร์จ 3 ครั้งในหนึ่งวัน
- ขั้นที่ 3 นำขนาดแบตมือถือ x จำนวนครั้งในการชาร์จ = เท่าไหร่ให้นำผลลัพธ์มา + 30% (Conversion Loss ค่าการสูญเสียพลังงานเนื่องจากความต่างของแรงดัน) = ผลลัพธ์ของขนาดความจุ Power Bank ที่ตอบโจทย์ความต้องการของเพื่อนๆ
|
ตัวอย่างคำนวณ : iPhone 6s มีแบตเตอรี่ความจุ 1715 mAh x 3 ครั้ง = 5145 mAh + 30% = 6688.5 mAh ดังนั้น ถ้าเพื่อนใช้ iPhone 6s อยากชาร์ต 3 ครั้งในหนึ่งวันก็ควรซื้อ Power Bank ความจุ 7000 mAh ขึ้นไป เพื่อนๆ สามารถเลือกซื้อ Power Bank ที่น่าสนใจได้ที่นี่ค่ะ |
6. แว่นกันแดดเท่ห์ๆ คู่ใจไว้ปกป้องดวงตาและใส่ถ่ายรูปเก๋ๆ
แว่นกันแดดเท่ห์ๆ ที่ใส่แล้วดูดีมีสไตล์เข้ากับเรา เพราะนอกจากเป็นไอเทมสารพัดประโยชน์ที่ช่วยให้เพื่อนๆ ดูช่างแต่งตัวทันยุคสมัยแล้ว ยังช่วยปกป้องดวงตาของเราจากแดดจ้าและป้องกันลม วิธีการเลือกซื้อแว่นกันแดดก็ไม่ยากค่ะ จะเลือกแบบไหนยี่ห้ออะไรก็ขึ้นอยู่ตามความชอบและรูปหน้า แต่ควรเลือกแว่นกันแดดที่ใช้เลนส์คุณภาพเคลือบฟิล์มที่สามารถกันรังสีได้ทั้ง UVA และ UVB แบบ 100% ส่วนตัวกรอบแว่นก็ควรมีน้ำหนักที่เบาเพื่อให้เราสามารถสวมใส่ได้สบาย ตัวเลือกอย่างแว่นกันแดด Rayban ก็ถือเป็นอีกแบรนด์ยอดนิยมที่คุณภาพดี รูปทรงสวย น่าลงทุนซื้อติดตัวไว้ซักอัน เพราะถือเป็นไอเท็มติดตัวที่คุ้มค่ามากสำหรับนักท่องเที่ยวสายฮิพ
7. งานปกป้องผิวกายต้องมา.. เตรียมพร้อมด้วยครีมกันแดดดีๆ
ปกป้องผิวหน้าผิวกายจากแดดเป็นเรื่องจำเป็นมากค่ะ ถึงแดดญี่ปุ่นจะแรงสู้แดดไทยไม่ได้ หรือเราจะพยายามหลีกเลี่ยงการออกกลางแจ้งแค่ไหน เงื้อมมือของรังสี UV-A ที่ทะลุผ่านชั้นกระจกเข้ามาซอกซอนทำลายถึงผิวชั้นล่างที่มาของผิวหมองคล้ำ ริ้วรอยลึกก็ยังไม่ปล่อยเพื่อนๆ ให้รอดตัวไปได้อยู่ดี ไหนจะรังสี UV-B ที่ทำให้ผิวหนังไหม้อีก ครีมกันแดดที่ดีที่เราควรพกพาและนำไปใช้ทาก่อนออกท่องเที่ยวจึงควรป้องกันได้ครบทั้งรังสี UV-A และ UV-B วิธีเลือกดูได้จากฉลากต้องมีค่า SPF 30 ขึ้นไป และที่สำคัญต้องมีค่า PA เพิ่มมาด้วยอีกหนึ่งตัว ถึงจะมั่นใจได้ว่ากันครบทุกยูวีชัวร์
เลือกซื้อหาครีมกันแดดชั้นนำราคาพิเศษได้ที่นี่ 8. เวลาของเราต่างกัน 2 ชั่วโมง ปรับนาฬิกาข้อมือเตรียมพร้อมด้วยนะ
ญี่ปุ่นเวลาเร็วกว่าเมืองไทยสองชั่วโมงค่ะ เตรียมตัวปรับนาฬิกาข้อมือของเราให้พร้อมตรงกับเวลาท้องถิ่นเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ควรทำเพื่อป้องกันการเผลอเลอเที่ยวเพลินจนลืมเวลาที่แตกต่าง ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ตรงเวลามาก การมาขึ้นรถบัส หรือรถไฟฟ้าช้าไปแค่ 1 นาที ก็อาจจะทำให้เราตกลงรถพลาดการเดินทางรอบนั้น จนต้องรอและเสียเวลาเพิ่มไปอีกเป็นชั่วโมงได้ ดังนั้นเราควรมีนาฬิกาข้อมือดีๆ ที่เชื่อใจได้ติดตัวไปสักเรือน ส่วนจะเป็นสายหนัง สายยาง ซิลิโคนหลากสีสัน หรือจะเลือกแบบล้ำๆ ที่เต็มเปี่ยมด้วยฟังก์ชั่นอย่าง Smart Watch ที่คุณสมบัติครอบจักรวาลทั้งแสดงเวลาได้หลากหลาย หรือจะเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธเพื่อคุยโทรศัพท์ผ่านนาฬิกาข้อมือ ใช้นับก้าวเดินเพื่อคำนวณระยะทางและการเผาผลาญแคลลอรี่ตลอดทริปเที่ยวญี่ปุ่นก็เก๋ไม่เบานะคะ อ่อ! จะเลือกแบบไหนก็อย่าลืมปรับเวลาให้ตรงกับที่ญี่ปุ่นและอย่าเลือกดูเวลาจากสมาร์ทโฟนแค่อย่างเดียวเพื่อความชัวร์นะ .. เป็นห่วง^^
เห็นมั๊ยล่ะคะ ว่าเที่ยวญี่ปุ่นไปไม่ยาก และก็เตรียมตัวไม่มากค่ะ แค่เตรียมตัววางแผนเบาๆ และพกพาของใช้อย่างไอเทมจำเป็น ที่เรายกตัวอย่างมาฝากเพื่อนๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของจำเป็นที่นักเดินทางแซ่บๆ มักเลือกพกพาติดตัวกันเป็นประจำอยู่แล้ว ตังค์พร้อม เตรียมตัวพร้อม จัดของในกระเป๋าพร้อมก็เดินทางเที่ยวญี่ปุ่นกันในแบบมันส์ แซ่บ สะใจ ได้เลย Let's go
ขอขอบคุณภาพประกอบความจาก
central.co.th