กองทรัสต์ FTREIT สร้างผลงานปีงบการเงิน 66 (ต.ค. 65-ก.ย .66) ยอดเยี่ยม ตอกย้ำผู้นำกองทรัสต์เพื่ออุตสาหกรรมของไทย ทำรายได้รวม 3,779.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.7% กำไรจากการลงทุนสุทธิ 2,493.5 ล้านบาท ด้วยฟอร์มการบริหารที่แข็งแกร่ง เดินหน้าลงทุนซื้อทรัพย์สินทั้งในและนอกกลุ่มเพิ่มกว่า 120,000 ตร.ม. ดันพื้นที่ภายใต้พอร์ตฯ เกือบแตะ 2.3 ล้านตร.ม. ส่งผลให้เป็นกองทรัสต์อุตสาหกรรมที่มีพื้นที่ให้เช่ามากที่สุดของประเทศ เตรียมจ่ายปันผลไตรมาส 4/2566 (ก.ค.-ก.ย. 66) ที่ 0.1870 บาทต่อหน่วย รวมจ่ายปันผลตลอดปีงบการเงิน 2566 สะสม 0.7480 บาทต่อหน่วย โตจากปีก่อน 5.8%
นายธนะรัชต์ บุญญะโกศล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล รีท แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ “FIRM” ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ หรือ “FTREIT” กล่าวว่า บริษัทฯ สามารถบริหารกองทรัสต์ FTREIT ในปีงบการเงิน 2566 (ตุลาคม 2565 - กันยายน 2566) ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยเก็บเกี่ยวรายได้จากค่าเช่าที่เติบโตดีจากโรงงานและคลังสินค้าที่มีลูกค้าใช้บริการหนาแน่น สะท้อนได้จากความสามารถรักษาระดับอัตราการเช่าโดยเฉลี่ยในระดับสูงถึง 86.2%
นอกจากนี้ FTREIT ยังประสบความสำเร็จจากการลงทุนตามแผนการซื้อทรัพย์สินในกลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย เป็นโรงงานและคลังสินค้า 25 ยูนิต พื้นที่กว่า 57,000 ตร.ม. และนอกกลุ่มจากบริษัท ทิพย์โฮลดิ้ง จำกัด ในโครงการ TIP9 เป็นโรงงานและคลังสินค้า 9 อาคาร พื้นที่กว่า 70,000 ตร.ม. ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถขยายพื้นที่ภายใต้พอร์ตโฟลิโอเพิ่มขึ้นเกือบแตะ 2.3 ล้านตร.ม. นับเป็นกองทรัสต์อุตสาหกรรมที่มีขนาดพื้นที่ให้เช่าสุทธิใหญ่ที่สุด และมีพื้นที่ Freehold มากที่สุดในประเทศไทยด้วยสัดส่วนกว่า 72% ของพื้นที่เช่าทั้งหมด หรือราว 1.63 ล้านตร.ม.
ขณะเดียวกัน กองทรัสต์เดินหน้าปรับปรุงอาคารเพื่อเตรียมความพร้อมด้านการดำเนินงานให้กับผู้เช่า ซึ่งบริษัทฯ มีจำนวนสัญญาเช่าใหม่ระหว่างปีเพิ่มขึ้น และรายได้จากผู้เช่ารายใหม่จะบันทึกในงวดบัญชีปีถัดไป โดยผลการดำเนินงาน FTREIT ประจำปีงบการเงิน 2566 มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,779.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 134.1 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน และมีกำไรจากการลงทุนสุทธิ 2,493.5 ล้านบาท
ทั้งนี้ FTREIT เตรียมจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนประจำไตรมาสที่ 4/2566 (กรกฎาคม-กันยายน 2566) ในอัตรา 0.1870 บาทต่อหน่วยทรัสต์ โดยขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ์ได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 และกำหนดจ่ายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 โดยตลอดปีงบการเงิน 2566 FTREIT ได้จ่ายผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์รวม 0.7480 บาทต่อหน่วย เติบโตประมาณ 5.8% จากปีก่อน
สำหรับปี 2567 FIRM ประเมินว่าธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่ามีทิศทางการเติบโตดี โดยได้รับอานิสงส์จากการย้ายฐานการผลิตอย่างต่อเนื่องของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ อีกทั้งได้แรงหนุนจากการเดินเครื่องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 และโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด เฟส 3 ท่าเทียบเรือ F ซึ่งช่วยเสริมศักยภาพให้อีอีซีเป็นพื้นที่เป้าหมายของนักลงทุนทั่วโลก และเป็นปัจจัยบวกให้กับธุรกิจของ FTREIT ด้วยเช่นกัน โดยทางกองทรัสต์ได้เตรียมงบสำหรับการลงทุนของปีงบการเงิน 2567 (ตุลาคม 2566-กันยายน 2567) มากกว่า 2,000 ล้านบาทในการเดินหน้าขยายพอร์ตโฟลิโอให้เติบโตอย่างมั่นคงและแข็งแกร่งมากขึ้น