ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยฝั่งตะวันออกของ กทม. ฉายแววสดใส หลังภาครัฐรุกคืบขยายศักยภาพเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ผลักดันไทยให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการบินแห่งภูมิภาค ด้วยการพัฒนาพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ ตัวเร่งหลักให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ดึงดูดคนให้เข้ามาอยู่อาศัยในย่านกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลบวกโดยตรงต่อภาพรวมเศรษฐกิจ และตลาดที่อยู่อาศัยในทำเลดังกล่าว มั่นใจอนาคตทำเลย่านนี้จะกลายเป็น Hub ที่อยู่อาศัย แห่งกรุงเทพด้านตะวันออก
นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” เปิดเผยว่า โครงการของภาครัฐที่เน้นด้านการพัฒนาสนามบินเพื่อเพิ่มศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยว และนักธุรกิจจากทั่วโลก ล้วนสร้างโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าธุรกิจการท่องเที่ยวถือเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญ ที่จะสามารถช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการท่องเที่ยว จะช่วยกระตุ้นให้เพิ่มเงินหมุนเวียนกลับเข้าสู่ระบบ อีกทั้งยังสามารถกระจายไปสู่ภาคประชาชนได้อย่างรวดเร็ว สามารถรองรับการค้า การลงทุน ธุรกิจนำเข้า-ส่งออก ที่เพิ่มขึ้นได้ในอนาคตได้อีกด้วย
“นอกจากการพัฒนาสนามบินให้มีศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวให้มากขึ้นแล้ว ปัจจุบันพื้นที่โซนตะวันออกของกรุงเทพฯ ยังมีโครงข่ายคมนาคมที่ครอบคลุมทั้งถนนมอเตอร์เวย์ วงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก โดยจะเชื่อมไปยังพื้นที่จังหวัดที่เป็นแนวปริมณฑลต่างๆ รวมถึงรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ (สถานีพญาไท-สถานีสุวรรณภูมิ) ที่เป็นโครงการระบบขนส่งมวลชนแบบพิเศษ ซึ่งในอนาคตจะเป็นเส้นทางรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่สามารถเชื่อมต่อได้ถึง 3 สนามบิน (ดอนมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) นอกจากนี้ ยังมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ที่เป็นระบบขนส่งมวลชนประเภทรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Straddle Monorail) ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา โดยปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ล้วนส่งผลบวกต่อภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพราะช่วยกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายตัดสินใจเลือกซื้อที่อยู่อาศัย ตามการเติบโตของระบบคมนาคมที่ได้รับการพัฒนาในทุกรูปแบบมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ทำเลดังกล่าวยังรายล้อมไปด้วยสถานศึกษาชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ,มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตสุวรรณภูมิ (เอแบค บางนา) ,มหาวิทยาลัยรามคําแหง วิทยาเขตบางนา (รามคำแหง2) ,มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ วิทยาเขตบางพลี ฯลฯ และนอกจากนี้ยังใกล้กับแหล่งสถานพยาบาล เพื่อจะช่วยอำนวยความสะดวกในยามเจ็บป่วย อาทิ โรงพยาบาลลาดกระบังกรุงเทพมหานคร สำนักการแพทย์ ,โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต ,โรงพยาบาลบางนา 1 ,โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ฯลฯ
โดยทั้งหมดนี้ยังจะเอื้อต่อการซื้อเพื่อการลงทุน หรือปล่อยเช่าได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งกำลังซื้อส่วนใหญ่ในย่านนี้จะเป็นกลุ่มคนที่อาศัย และทำงานอยู่ในโซนบางนา ,ศรีนครินทร์ ,อ่อนนุช ,สุวรรณภูมิ และลาดกระบัง ดังนั้นการที่ภาครัฐเดินหน้าพัฒนาโครงการต่างๆ เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวที่กำลังฟื้นตัวในไทย จึงส่งผลให้เกิดการสร้างงาน การขยายเศรษฐกิจ และการสร้างกระแสเม็ดเงินให้กลับคืนสู่ระบบ เพื่อเพิ่มศักยภาพกำลังซื้อให้เกิดขึ้นในประเทศ” นายชูรัชฏ์ กล่าวเสริม
ทั้งนี้ ในปัจจุบัน ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ มีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายในโซนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก รวมทั้งสิ้น 7 โครงการ ประกอบด้วย
“การเพิ่มศักยภาพเพื่อรองรับธุรกิจการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นของไทย จะช่วยส่งผลดีต่อภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในโซนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก เพราะอนาคตทำเลในย่านนี้จะกลายเป็น New CBD (Central Business District) หรือ ย่านศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ ของกรุงเทพโซนตะวันออก ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งใน และต่างประเทศ โดยมีการพัฒนาโครงการเมกกะโปรเจคต์ที่หลากหลาย เพื่ออำนวยความสะดวก และรองรับการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็น อาทิ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา (Bitec Bangna) ,ศูนย์การค้าเมกา บางนา (Mega Bangna) ,แบง ค็อก มอลล์ (Bangkok mall) ศูนย์การค้าแห่งใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของตำแหน่งงานในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง สามารถช่วยดึงดูดผู้บริโภครุ่นใหม่ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยในโซนภาคตะวันออกได้เป็นอย่างดี โดยปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้พื้นที่ในย่านนี้ เกิดการขยายตัวของธุรกิจอุตสาหกรรมการบิน และการท่องเที่ยว ล้วนเป็นปัจจัยที่จะช่วยดึงดูดผู้บริโภคให้เข้ามาเลือกซื้อที่อยู่อาศัยในโซนฝั่งตะวันออกได้มากขึ้น ซึ่งอนาคตทำเลในย่านนี้ จะเปรียบเสมือนศูนย์กลางของแหล่งงาน และแหล่งที่อยู่อาศัย ที่รายล้อมไปด้วยคอมมูนิตี้ของกำลังซื้อที่มีคุณภาพ เพื่อเติมเต็มเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในอนาคตได้อย่างแน่นอน” นายชูรัชฏ์ กล่าวสรุป