บริทาเนีย จับมือ มูลนิธิบ้านนกขมิ้น สานต่อโครงการเหลือ-ขอ ชวนลูกบ้านร่วมแบ่งปันของที่ไม่ใช้ให้มีค่า มุ่งสร้างสังคมที่ดี "B THE GOODNESS"

"บริทาเนีย" จับมือ "มูลนิธิบ้านนกขมิ้น" สานต่อโครงการเหลือ-ขอ เชิญชวนลูกบ้านร่วมสร้างสังคมที่ดี “B THE GOODNESS” ผ่านโครงการ "B SHARE Let’s B GREEN" ส่งทีมสัญจรรับของที่ไม่ใช้แล้วถึงบ้านในโครงการบริทาเนีย นำร่อง 17 โครงการ และตั้งเป้าขยายจำนวนโครงการที่เข้าร่วม เพื่อให้ลูกบ้านได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมแบ่งปันสิ่งดีๆ สู่สังคมไปด้วยกัน 

นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI ผู้นำในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมที่ดีอย่างยั่งยืน กล่าวว่า บริษัทได้ร่วมกับมูลนิธิบ้านนกขมิ้น สานต่อโครงการเหลือ-ขอ จัดโครงการ "B SHARE Let’s B GREEN" จัดทีมงานสัญจร เดินทางไปรับสิ่งของที่ไม่ใช้แล้วถึงหน้าบ้านของลูกบ้านในโครงการในเครือบริทาเนีย ทั้ง 4 แบรนด์ ได้แก่  ไบรตัน, บริทาเนีย, แกรนด์ บริทาเนีย และเบลกราเวีย รวม 17 โครงการ เปลี่ยนของที่ไม่ใช้แล้วสู่โอกาสของน้องๆ เยาวชนบ้านนกขมิ้น สานต่อพันธกิจ "B The Goodness" ของบริทาเนีย มุ่งมั่นเป็นองค์กรที่รับผิดชอบต่อสังคม

"จุดเริ่มต้นของโครงการเริ่มจากมองว่า ในแต่ละบ้านจะมีของที่ไม่จำเป็น ไม่ได้ใช้แล้วอยู่ในบ้าน บางคนเลือกกำจัดด้วยวิธีการนำไปทิ้ง แต่จริงๆ แล้วของเหล่านี้สามารถนำไปซ่อมแซม หรือแปรสภาพให้เป็นของมีค่า ที่เกิดประโยชน์กับคนอื่นได้ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกบ้าน ในการบริจาคสิ่งของเหลือใช้ต่างๆ อาทิ เสื้อผ้า หนังสือ กระเป๋า รองเท้า เครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าหรือเสียแล้ว โดยทางส่วนงานโครงการเหลือ-ขอ ของมูลนิธิบ้านนกขมิ้น ไปต่อยอดในการหารายได้สนับสนุนปัจจัยช่วยเหลือพื้นฐานในการดำรงชีวิตของเด็กๆ เพื่อให้ลูกบ้านได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมแบ่งปันสิ่งดีๆ สู่สังคม" นายสุรินทร์ กล่าว 

โครงการ B SHARE Let’s B GREEN ได้ดำเนินการมาตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2566 และจะสิ้นสุดในเดือนเมษายน 2566 โดยผู้ที่ร่วมบริจาค จะได้รับของที่ระลึกเป็นสินค้า upcycle จากพลาสติก และสินค้าจากฝีมือชุมชนต่างๆ เพื่อช่วยกระจายรายได้ และเพื่อเป็นการส่งต่อการสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนร่วมกัน ซึ่งที่ผ่านมาโครงการฯ ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกบ้าน ทำให้บริษัทตั้งเป้าขยายจำนวนโครงการบ้านและเวลาดำเนินกิจกรรมให้เป็นกิจกรรมที่ทำอย่างต่อเนื่อง 

นายสุรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริทาเนีย ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืน ร่วมกับพนักงาน ลูกบ้าน และพันธมิตรต่างๆ เพราะลำพังบริทาเนียทำคนเดียวคงไม่บรรลุเป้าหมายที่สำคัญทั้งการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม จำเป็นต้องร่วมมือกัน เพื่อวันพรุ่งนี้ เพื่ออนาคต ที่ไม่ใช่แค่ตัวเรา แต่เพื่อให้เกิดสิ่งที่ดีกว่าวันนี้ สำหรับทุกคน 

ด้าน ครูอ๊อด-สุรชัย สุขเขียวอ่อน ผู้อำนวยการมูลนิธิบ้านนกขมิ้น กล่าวว่า มูลนิธิฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งโครงการ B SHARE Let’s B GREEN และขอชื่นชมในแนวคิดดังกล่าว ที่บริทาเนียเป็นสื่อกลางในการเชื่อมโยงผู้ให้และผู้รับได้เจอกัน เพราะจากที่มูลนิธิบ้านบ้านนกขมิ้น ส่วนงานโครงการเหลือ-ขอ ได้ออกรับบริจาคของตามหน่วยงานต่างๆ พบว่าปัญหาสำคัญ คือ ทุกบ้านมีของที่ไม่ใช้อยู่ แต่ไม่รู้ว่าจะนำไปให้ที่ไหน และไม่สะดวกที่จะนำของชิ้นใหญ่ไปให้ตามจุดบริจาคต่างๆ การที่บริทาเนียทำกิจกรรมสัญจรรับของไม่ใช้แล้วตามบ้าน ทำให้เป็นโอกาสของลูกบ้านในการได้แบ่งปัน ซึ่งของใหม่และมือสองสภาพดี จะถูกมอบให้เด็กในอุปการะของมูลนิธิฯ และเด็กยากไร้ทั่วประเทศ รวมถึงการนำของบางส่วนจำหน่ายเป็นทุนการศึกษาให้แก่เด็กๆ ของมูลนิธิฯ  

"ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของมูลนิธิฯ ที่ร่วมกับภาคเอกชนในธุรกิจบ้านจัดสรร ในการจัดโครงการสัญจรรับของตามบ้าน หวังว่าจะเป็นการจุดประกายให้กับลูกบ้านได้เปลี่ยนของที่ไม่ใช้แล้ว นำมาส่งต่อให้กับผู้ที่ต้องการให้ของสิ่งนั้นมีค่าต่อไป" ครูอ๊อด กล่าว