“พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น” มองเมกะเทรนด์ Everything at Home และการกลับมาเปิดประเทศของหลากประเทศสำคัญ หนุนโอกาสธุรกิจออกแบบตกแต่งภายในคึก ส่ง “วายด์ อินทีเรีย” เดินหน้าเจาะตลาดทั้งลูกค้าโครงการและผู้บริโภครายย่อยทุกเซ็กเมนท์ทั้งอยู่เองและปล่อยเช่า พร้อมแพ็คเกจหลากรูปแบบตอบโจทย์ซื้ออยู่เอง-ปล่อยเช่าต่างชาติ-เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ชูจุดแข็งบริการ One Stop Service ครอบคลุมต้นน้ำถึงปลายน้ำ ระดมทีมเครือพรีโม ดูแลลูกค้าผู้พัฒนาโครงการ ตั้งแต่บริหารงานก่อสร้าง งานตกแต่ง ถึงงานนิติบุคคล คาดกระแสการแต่งห้อง Double Volume และการตกแต่งด้วยระบบ Automation มาแรง
นางสาวจตุพร วิไลแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ช่วง COVID-19 ที่ผ่านมา ธุรกิจบริการออกแบบและตกแต่งภายใน ได้รับอานิสงส์เป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้บริโภคได้ก้าวเข้าสู่ยุค Everything at Home ทำงาน พักผ่อน และใช้ชีวิตทุกด้านที่บ้าน ผู้บริโภคจึงให้ความสำคัญกับการตกแต่งบ้านและคอนโดมิเนียมของตัวเองมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ขณะเดียวกัน เมื่อสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย หลายประเทศสำคัญของโลกทยอยกลับมาเปิดประเทศหรือรีโอเพนนิ่งอีกครั้งในเดือน ต.ค.นี้ เช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน จึงมีแนวโน้มความต้องการตกแต่งคอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร และเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการกลับมาของพนักงานชาวต่างชาติเข้ามาทำงานในไทย (Expat) อย่างเต็มรูปแบบ
ทั้งนี้ PRI จึงเตรียมส่งบริษัท วายด์ อินทีเรีย จำกัด บริษัทย่อยในเครือซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการออกแบบและตกแต่งภายในแบบครบวงจร ร่วมตอบโจทย์บริการในที่อยู่อาศัยทุกจังหวะของการใช้ชีวิตของผู้บริโภคตามแนวคิด “At Your Service Every Moment” ด้วยการเดินหน้ารุกตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มตลาดผู้พัฒนาโครงการ (Developer) กลุ่มลูกค้ารายย่อย (End User) ตลอดจนกลุ่มเจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย (Project Owner) โดยเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าทุกระดับราคา ทุกเซ็กเมนท์
เบื้องต้น เตรียมเดินหน้าเจาะกลุ่มตลาดสำคัญ เช่น ตลาดตกแต่งปล่อยเช่าห้องพักให้ชาวต่างชาติ ตอบโจทย์นักลงทุนในการปรับปรุงตกแต่งคอนโดมิเนียมให้ดึงดูดชาวต่างชาติที่มองหาที่พักระยะยาว (Long-Stay) ตลาดตกแต่งเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ตอบโจทย์ทั้งผู้พัฒนาเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ และเจ้าของห้องพักในโครงการเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ทั้งกลุ่มอยู่อาศัยเองและกลุ่มลงทุนปล่อยเช่า เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพย์สิน
ด้านนายตนัย ธนะชานันท์ ประธานอำนวยการ บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายด์ อินทีเรีย จำกัด หรือ Wyde Interior กล่าวว่า วายด์ อินทีเรียมีจุดเด่นด้านบริการออกแบบตกแต่งภายในแบบ One Stop Service ตอบโจทย์ได้ทั้ง 1.กลุ่มลูกค้ารายย่อย (End users) ด้วยบริการตั้งแต่การให้คำปรึกษา การออกแบบ การตกแต่งติดตั้ง ทั้งในรูปแบบการออกแบบตกแต่งเฉพาะตัว (Custom-made) และในรูปแบบแพ็คเกจสำเร็จรูป ช่วยให้ลูกค้าสามารถรับบริการทุกอย่างจบได้ในที่เดียว ตอบโจทย์ตั้งแต่ตลาดแมสจนถึงตลาดลักชัวรี่ และ 2.กลุ่มลูกค้าโครงการ (Project owners) นอกจากบริการตกแต่งครบวงจรแล้ว บริษัทในเครือพรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น ยังมีบริการครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งการจัดหานักออกแบบ การบริหารงานออกแบบเพื่อคุมคุณภาพและงบประมาณ ไปจนถึงงานบริการด้านอื่นๆ อาทิ การดูแลและบริหารงานก่อสร้าง งานนิติบุคคลบริหารจัดการโครงการ บริการแม่บ้านและช่างซ่อมบำรุง ช่วยให้กลุ่มลูกค้าโครงการสามารถบริหารจัดการได้ง่ายและครบวงจรในที่เดียว
ทั้งนี้ บริษัทเตรียมใช้จุดแข็งดังกล่าว ผสานเข้ากับเทรนด์การออกแบบภายในที่อยู่อาศัยแห่งอนาคต อาทิ เทรนด์การตกแต่งห้องพักแบบ Double Volume หรือคอนโดมิเนียม 2 ชั้น ที่ผู้บริโภคนิยมมากขึ้น เนื่องจากได้พื้นที่กว้างขวาง โอ่อ่าขึ้น เทรนด์การตกแต่งห้องด้วยระบบ Home Automation เนื่องจากผู้บริโภคต้องการชีวิตที่ทันสมัยและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยบริษัทมีความเชี่ยวชาญในการนำเฟอร์นิเจอร์ Dual-purpose ที่ใช้งานได้มากกว่า 1 ฟังก์ชัน และระบบ Home Automation เข้ามาตอบโจทย์ผู้บริโภค รวมถึงศึกษาเทรนด์การตกแต่งห้องใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
สำหรับบริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI เป็นผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรชั้นนำของประเทศ มีประสบการณ์กว่า 11 ปี และได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ซึ่งเป็นบริษัทแม่ โดยในช่วงที่ผ่านมาได้ขยายบริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์ ให้มีความหลากหลายแบบ One-Stop Service ปัจจุบัน อยู่ระหว่างการพิจารณาแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) โดยสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 80 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้