นายอาณัติ กิตติกุลเมธี รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แสนสิริมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งในปีที่ผ่านมา สวนกระแสความท้าทายภายใต้สถานการณ์ต่างๆ ประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการครอบคลุมทุกโปรดักส์และเซ็กเมนต์ โดยเฉพาะโครงการแนวราบ ที่ประสบความสำเร็จทั้งในโครงการบ้านเดี่ยวทุกระดับราคา รวมทั้งทาวน์โฮม ราคาเข้าถึงง่าย
ส่งผลให้มียอดขายโครงการแนวราบทะลุเป้าไปถึง 22,400 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 12% และโตขึ้นเกือบ 10% จากยอดขายแนวราบปีก่อน ประสบความสำเร็จ Sold out โครงการแนวราบไปถึง 11 โครงการ มูลค่ารวม 20,700 ล้านบาท โดยยอดขายแนวราบที่ทำได้คิดเป็นสัดส่วนถึง 67% จากยอดขายรวมปี 64 ขณะที่ยอดโอนโครงการแนวราบสูงกว่าเป้าหมายที่ 18,300 ล้านบาท และคิดเป็น 55% จากยอดโอนรวมปี 64 ความสำเร็จมาจากการมีโครงการแนวราบที่ตอบรับทุกความต้องการ กระจายในหลายทำเล และหลายระดับราคา ประกอบด้วย
ทาวน์โฮมแบรนด์ สิริ เพลส ซีรีส์ใหม่ “Dream Destination” ที่รุกเปิดตัวในปีที่ผ่านมาและได้รับความสนใจและกระแสตอบรับที่ดี ตั้งแต่การเปิดตัว สิริ เพลส บางนา-เทพารักษ์ แรงบันดาลใจการออกแบบจากมหานครนิวยอร์ก และสิริ เพลส วงแหวน – ลำลูกกา แรงบันดาลใจการออกแบบจากเสน่ห์แห่งเมืองเกียวโต รวมทั้งในโครงการต่อๆ มา
บ้านและทาวน์โฮมแบรนด์ อณาสิริ ระดับราคา 2 – 6 ล้านบาท ตอบรับแนวคิดการอยู่อาศัยแบบ Feel Just Right “ความพอดีที่ลงตัว” ที่ประสบความสำเร็จ สร้างรายได้ที่โดดเด่นในปีที่ผ่านมา โตขึ้นถึง 120%
บ้านเดี่ยวแบรนด์ เศรษฐสิริ – บุราสิริ ระดับราคา 8 – 20 ล้านบาท ที่ตอกย้ำความเป็นผู้นำการพัฒนาแบรนด์บ้านเดี่ยวระดับบน สร้างรายได้ในที่ผ่านมาไปถึง 7,800 ล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณ 44% จากรายได้รวมแนวราบ โดยปิดการขาย (Sold Out) ไปถึง 4 โครงการ เศรษฐสิริ พัฒนาการ, บุราสิริ พัฒนาการ, บุราสิริ รังสิต และบุราสิริ วงแหวน – อ่อนนุช ขณะที่แสนสิริยังปั้นแบรนด์ “BuGaan” (บูก้าน) เอ็กซ์คลูซีฟ โมเดิร์น เรสสิเดนท์ ระดับราคา 35.9 - 80 ล้านบาท ได้โดนใจลูกค้ากลุ่ม Young Successor ส่งผลให้ Sold Out! ปิดการขายโครงการใน 4 เดือน ตอกย้ำเบอร์หนึ่งผู้นำอสังหาฯ ไทยในตลาดลักซ์ชัวรี่อีกด้วย
สำหรับแผนธุรกิจในการพัฒนาโครงการแนวราบในปี 2565 แสนสิริวางแผนเปิดตัวโครงการแนวราบ รวม 28 โครงการ มูลค่ารวม 39,000 ล้านบาท รุกแนวราบในสัดส่วนถึง 75% จากแผนเปิดตัวโครงการรวมในปีนี้ โดยแบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 11 โครงการ มิกซ์โปรดักส์ 5 โครงการ และทาวน์โฮม 12 โครงการ ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ในสัดส่วน Affordable 45% / Medium 26% / Premium 29% โดยตั้งเป้าหมายยอดขายโครงการแนวราบในปีนี้ไว้ที่ 24,000 ล้านบาท คิดเป็น 70% จากเป้าหมายยอดขายรวมของแสนสิริ พร้อมวางเป้ายอดโอนโครงการแนวราบไว้ที่ 22,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 63% จากเป้าหมายยอดโอนรวมของแสนสิริ เติบโตขึ้น 20% จากยอดโอนในปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 18,300 ล้านบาท นอกจากนี้แสนสิริยังมองถึงความแข็งแกร่งระยะยาวในช่วง 3 ปี ที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยแผนการเปิดตัวโครงการแนวราบมูลค่ารวม 80,000 ล้านบาท พร้อมเป้าหมายยอดขายโครงการแนวราบ 3 ปีที่ 62,000 ล้านบาท สอดคล้องแผนธุรกิจระยะยาวที่เคยประกาศไว้
ตอกย้ำผู้นำตลาดแนวราบด้วย “Home For Everyone”
โดยไฮไลท์การพัฒนาโครงการแนวราบในปีนี้ แสนสิริจะตอกย้ำแนวคิด “Home for Everyone” ด้วยการพัฒนาโครงการแนวราบที่ครอบคลุมทุกโปรดักส์ บ้านเดี่ยว-บ้านแฝด-ทาวน์โฮม ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ความต้องการ ในทุกระดับราคา และทุกทำเล เจาะกลุ่ม Real Demand ได้แก่ เปิดตัว สิริ เพลส 8 โครงการใหม่ ลุยตลาดทาวน์โฮมราคาเข้าถึงง่าย, การสานต่อความสำเร็จของแบรนด์ อณาสิริ ที่ประสบความสำเร็จในปีที่ผ่านมา เพื่อตอบรับความต้องการที่หลากหลาย ด้วยการเปิดตัวอีก 4 โครงการใหม่, การรุกแบรนด์ สราญสิริ และเปิดตัว สราญสิริ 6 โครงการใหม่ ในปีนี้ นอกจากนี้ยังครองความเป็นผู้นำบ้านเดี่ยวระดับบน ด้วยการเปิดแบรนด์ เศรษฐสิริ และ บุราสิริต่อเนื่อง ยังรวมถึงการต่อยอดความสำเร็จในตลาดบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี่ เปิดแบรนด์ บูก้าน ทำเลใหม่ และเปิดตัว DEMI New Residence Product เป็นครั้งแรกด้วยโครงการ DEMI SATHU49 (เดมี่ สาธุฯ 49)
เตรียมพบกับบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์แบรนด์ “นาราสิริ” ในปีนี้ / ปั้น Sansiri Districts
“ในปีนี้ แสนสิริยังมี่ไฮไลท์การเปิดตัวแบรนด์ต้นแบบบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ของแสนสิริที่ทุกคนรอคอย “นาราสิริ” ที่มีแผนเปิดตัว 2 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 8,300 ล้านบาท หลังจากที่แสนสิริไม่ได้มีการเปิดตัวบ้านเดี่ยวแบรนด์ นาราสิริใหม่ออกสู่ตลาดในช่วงที่ผ่านมา จากการที่ทำเลที่ดินส่วนใหญ่ยังไม่เหมาะสมกับการพัฒนาสินค้าระดับไฮน์เอนด์ ขณะที่ความเชื่อมั่นจากลูกค้าในการพัฒนาบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ของแสนสิริ รวมถึงความต้องการบ้านเดี่ยวระดับบนก็ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง จึงเป็นที่มาของการเปิดตัวแบรนด์ นาราสิริ ในปีนี้ นอกจากนี้แสนสิริยังมีแผนพัฒนาเมืองเพื่อการอยู่อาศัย โดยเตรียมพัฒนาที่ดินในทั่วทุกมุมเมือง อาทิ ทำเลกรุงเทพกรีฑา, กรุงเทพ – ปทุมฯ, ราชพฤกษ์ 346 และรังสิต-บางพูน ปั้น Sansiri Districts ดึงลูกค้าดีมานด์จริงเข้าถึงได้ในทุกระดับราคารอบกรุงเทพฯ
พลิกโฉมทุกแบรนด์โครงการแนวราบ เปิดตัว “ดีไซน์” ใหม่
นอกจากนี้ในปี 2565 แสนสิริยังไฮไลท์การพัฒนาโครงการใหม่ภายใต้แนวคิด “YOU-Centric” แสนสิริจะนำเสนอโครงการที่คิดมาจากความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะในด้านดีไซน์และฟังก์ชันใหม่ของโครงการแนวราบ ที่แตกต่างจากคู่แข่ง โดยในปีนี้จะได้เห็นอย่างเต็มรูปแบบในทุกแบรนด์แนวราบ อาทิ สิริ เพลส ซีรีย์ Dream Destination ที่พร้อมเปิดตัว 3 โครงการพร้อมกันในไตรมาสแรก “สิริ เพลส พัฒนาการ - สิริ เพลส เมกาบางนา - สิริ เพลส บางนา - สุวรรณภูมิ”ภายใต้แรงบันดาลใจการออกแบบจากมหานครนิวยอร์ก และปารีส พร้อมจ่อคิวเปิดตัวเร็วๆ นี้อีก 3 โครงการ ภายใต้แรงบันดาลใจในการออกแบบจากเมืองอัมสเตอร์ดัม รวมถึงการสานต่อความสำเร็จของแบรนด์ อณาสิริ แนวคิดการอยู่อาศัย Feel Just Right “ความพอดีที่ลงตัว” เปิดตัว อณาสิริ รามคำแหง กับบ้านที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแถบเมดิเตอร์เรเนียน พร้อมพบกับบ้านเดี่ยวหลังแรกของครอบครัว แบรนด์สราญสิริ กับภาพลักษณ์ใหม่ “WHERE THE LOVE EXPANDS” พร้อมดีไซน์ Modern Farmhouse และฟังก์ชันที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด ครั้งแรกในวงการที่อยู่อาศัย บ้านเดี่ยวแบรนด์บุราสิริ ที่จะยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์ จากความเป็นบ้าน บรรยากาศรีสอร์ท สู่ The Genuine Resort Living รวมถึง การพลิกโฉมดีไซน์ บ้านเดี่ยวแบรนด์เศรษฐสิริและแบรนด์บ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ นาราสิริ ที่ต้องรอติดตามในปีนี้
ไตรมาสแรก รุกแบรนด์ สราญสิริ เปิดตัวรวดพร้อมกัน 5 โครงการ
สำหรับไฮไลท์การเปิดตัวโครงการในไตรมาสแรก แสนสิริจะรุกสร้างแบรนด์ “สราญสิริ” เพื่อสร้างการจดจำในการเป็น “บ้านเดี่ยวหลังแรกของครอบครัว”ภายใต้แนวคิดใหม่ “WHERE THE LOVE EXPANDS” ด้วยบ้านเดี่ยวซีรีย์ใหม่ สไตล์ Modern Farmhouse และฟังก์ชันที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด ซึ่งมีแรงบันดาลใจมาจากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของครอบครัวรุ่นใหม่ ที่โหยหาการใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ จึงเป็นที่มาของดีไซน์ Modern Farmhouse ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและนำธรรมชาติมาอยู่รอบๆ ตัว ผสมกับการออกแบบฟังก์ชัน ใหม่ที่ให้ครอบครัวได้มีพื้นที่ในการใช้เวลาอยู่ร่วมกันทั้งในบ้านและในโครงการ แต่ก็ยังคงมีพื้นที่ส่วนตัวของแต่ละคน โดยไฮไลท์ฟังก์ชันใหม่ ของแบรนด์สราญสิริ ประกอบด้วย
ชั้นหนึ่ง Entrance Foyer โถงทางเดินเข้าสู่ตัวบ้าน ที่มีพื้นที่ให้สามารถตกแต่งเป็นชั้นวางของ หรือที่เก็บรองเท้า เป็นพื้นที่เตรียมความพร้อมก่อน เข้า - ออก จากบ้าน ฟังก์ชัน Family Connecting Area หรือ พื้นที่ห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับส่วนรับประทานอาหาร แบบ Open Plan ไม่มีผนังกั้น ทำให้บ้านกว้างและโปร่งโล่ง พร้อมเปิดรับวิวสวนหลังบ้านผ่านประตูกระจกบานใหญ่ ทำให้สมาชิกในครอบครัว สามารถพักผ่อนร่วมกันแบบเป็นส่วนตัว ฟังก์ชัน Multi-Purpose Room หรือ ห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง ตกแต่งได้ตามไลฟ์สไตล์ ทั้งเป็นห้องทำงาน ห้องดูหนัง หรือเป็นห้องนอนก็ยังได้ ฟังก์ชัน Giant Storage ห้องเก็บของขนาดใหญ่ที่ออกแบบให้เพียงพอต่อการใช้งาน และ Extraordinary Landing Space เพิ่มพื้นที่ชานพักบันไดเป็นมุมพักผ่อน ชมวิวสวนธรรมชาติ ขณะที่พื้นที่ชั้น 2 ของตัวบ้าน ประกอบด้วยฟังก์ชันเด่น Together Space ที่เป็นพื้นที่สำหรับสมาชิกในครอบครัวในชั้น 2 มีควา เป็นส่วนตัว แยกจากพื้นที่ชั้นล่าง ให้สามารถเลือกใช้งาน หรือพักผ่อนร่วมกันบนชั้น 2 ได้ ห้อง Master Bedroom หรือห้องนอนใหญ่พิเศษที่มีความกว้างและโปร่งโล่ง ด้วย Extra High Ceiling ความสูงถึง 4.5 เมตร พร้อม Bay Window ขนาดใหญ่ พร้อม Enclosed Balcony หรือ Terrace ที่เพิ่มพื้นที่ภายในห้องนอนใหญ่ให้เป็นพื้นที่โปรด เปลี่ยนพื้นที่ระเบียงให้ใช้งานได้จริงแบบ Semi Outdoor และสามารถเปิดหน้าต่าง รับอากาศบริสุทธิ์ภายนอกบ้านได้
“แสนสิริเตรียมเปิดตัว สราญสิริพร้อมกัน 5 โครงการ 5 ทำเลครอบคลุมในครึ่งแรกของปีนี้ ได้แก่โครงการสราญสิริ ประชาอุทิศ 90 / สราญสิริ รามคำแหง / สราญสิริ เทียนทะเล 30 / สราญสิริ พระราม 2 / สราญสิริ บางนา ราคาเริ่มต้น 5.69 – 12 ล้านบาท ซึ่งได้เปิดลงทะเบียนออนไลน์ สำหรับผู้ที่สนใจโครงการเป็นที่เรียบร้อยแล้วทั้งนี้ จากแผนการรุกการเปิดตัวโครงการใหม่ที่ตอบรับทุกความต้องการ รวมถึงกลยุทธ์ที่มุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าในกลุ่มเรียลดีมานต์ ทำให้เชื่อมั่นว่า บริษัทจะสามารถสร้างยอดขายและยอดโอนโครงการแนวราบได้ตามเป้าหมายที่วางไว้แน่นอน” นายอาณัติ กล่าว