เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม (ประเทศไทย) เดินเกมรุกตลาดแนวราบ พร้อมก้าวสู่การเติบโตที่ยั่งยืน เตรียมลุยตลาดบ้านเดี่ยวเต็มสูบ ส่งโครงการบ้านเดี่ยวแบบใหม่ “แกรนดิโอ” เติมเต็มความแข็งแกร่งทั่วมุมเมืองตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง เน้นเจาะกลุ่ม City Home ปักธงทำเลใจกลางเมือง ดันขึ้นแท่นผู้นำตลาดบ้านเดี่ยว พร้อมเปิดโครงการใหม่ 25 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 29,500 ล้านบาท
คุณแสนผิน สุขี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ปี 2564 ที่ผ่านมา เป็นอีกปีที่ท้าทาย ท่ามกลางสถานการณ์การระบาด COVID-19 ระลอกใหม่ ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจในหลายเซกเตอร์ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่ต้องหยุดชะงัก ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อจีดีพีของประเทศไทย รวมถึงอีกหลายกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทำให้สัดส่วนภาระหนี้สินครัวเรือนปรับเพิ่มขึ้น พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ค่าใช้จ่ายพื้นฐานที่สูงขึ้น ส่งผลให้กำลังซื้อลดลง ซึ่งส่งผลต่อเนื่องมายังธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารปฏิเสธสินเชื่อ ตลาดแนวราบมีการแข่งขันที่สูงขึ้นกว่าเดิม
หากสำรวจความต้องการในตลาดที่อยู่อาศัยกลับพบว่า คนยังต้องการบ้าน โดยเฉพาะบ้านแนวราบ ทั้งทาวน์โฮม และบ้านเดี่ยว จากความท้าทายของปัจจัยต่างๆ ประกอบกับความต้องการที่ยังมีในตลาด ในปี 2565 บริษัทจึงปรับกลยุทธ์ใหม่ด้วยการเพิ่มสัดส่วนเซกเมนต์บ้านเดี่ยวระดับบน ภายใต้แบรนด์ “แกรนดิโอ” (GRANDIO) และ City Home อย่างแบรนด์
เดอะ แกรนด์ วิภาวดี 60 (The Grand Vibhavadi 60) พร้อมปรับแบบบ้านใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้ามีต้องการยกระดับคุณภาพการอยู่อาศัย ขยายตลาดให้กระจายโครงการให้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากที่สุด ทั้งนี้บริษัทก็ยังคงที่จะรักษาจุดเด่นของตลาดโครงการทาวน์โฮมที่บริษัทมีอยู่ ให้เข้าถึงคนอยากมีบ้านควบคู่ไปด้วย”
แบบบ้านใหม่ Milano โครงการ แกรนดิโอ สุขสวัสดิ์-พระราม 3
แบบบ้านใหม่ LUZERN โครงการ แกรนดิโอ สาทร
สำหรับแผนธุรกิจในปี 2565 ตั้งเป้ารายได้ 13,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากโครงการที่เปิดขายแล้ว 62 โครงการ และมีการเปิดโครงการ 25 โครงการ มูลค่า 29,500 ล้านบาท ประกอบด้วย ทาวน์โฮม 10 โครงการ,นีโอ โฮม บ้านแฝด จำนวน 2 โครงการ, บ้านเดี่ยว 10 โครงการ และ โครงการต่างจังหวัด 3 โครงการโดยโครงการบ้านเดี่ยวมีสัดส่วนของ City Home โครงการใหม่ใจกลางเมือง คือ โครงการ
เดอะ แกรนด์ วิภาวดี 60 (The Grand Vibhavadi 60) พร้อมเพิ่มสินค้าระดับบน Super Luxury อย่างแบรนด์ The Royal Residence จากแผนธุรกิจในปี 2565 จะเห็นว่าบริษัทได้มีการเพิ่มสัดส่วนของโครงการบ้านเดี่ยวมากขึ้น และขยายเซกเมนต์ City Home ใจกลางเมือง รุกตลาดแนวราบของบริษัทมากขึ้น
City Home โครงการ เดอะ แกรนด์ วิภาวดี 60
4 กลยุทธ์ก้าวสู่การเติบโตที่ยั่งยืน
1. Land Bank Development - บริษัทมีความได้เปรียบในเรื่องการนำที่ดินเดิมที่ซื้อไว้แล้วมาพัฒนา เพื่อลดความเสี่ยงในการที่มูลค่าของที่ดินเพิ่มสูงขึ้นทุกปี จึงทำให้ได้เปรียบในเรื่องของการควบคุมต้นทุน
2. Portfolio Diversification - การกระจายพอร์ตสินค้า เพิ่มแบรนด์ให้หลากหลาย โดยการปรับสัดส่วนของผลิตภัณฑ์ เพื่อเป็นการกระจายรายได้ และส่วนแบ่งของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัท โดยวางกลยุทธ์ของแต่ละผลิตภัณฑ์ ดังนี้
- บ้านเดี่ยว & City Home พัฒนาแบบบ้านเดี่ยวรุ่นใหม่ให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ามากขึ้น ยกระดับการใช้ชีวิตในสังคมการอยู่อาศัย ทั้งดีไซน์ ฟังก์ชั่น บนทำเลศักยภาพสูง ทั้งแบรนด์ แกรนดิโอ ( GRANDIO) ที่ขยายทั่วมุมเมือง และ City Home อย่างแบรนด์ เดอะ แกรนด์ วิภาวดี 60 (THE GRAND Vibhavadi 60) เพิ่มสินค้าระดับบน Super Luxury อย่างแบรนด์ The Royal Residence
- ทาวน์โฮม รักษาตลาดทาวน์โฮม ในการเป็นผู้นำนวัตกรรมทาวน์โฮมที่มีคุณภาพ โดนเด่นด้วยฟังก์ชั่น ที่ครองใจกลุ่มลูกค้า บนทำเลศักยภาพสูง
- นีโอ โฮม บ้านแฝดที่เน้นสไตล์หรูหรา เทียบเท่าบ้านเดี่ยว เน้นทำเลใกล้เมือง ด้วยราคาที่จับต้องได้
ต่างจังหวัด บุกตลาดใหม่ ในจังหวัดที่มีศักยภาพ และรักษากลุ่มลูกค้าฐานจังหวัดเดิม โดยเปิดโครงการใหม่เพื่อทดแทนโครงการเดิมที่ใกล้จะหมด ด้วยแบบบ้านที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต
- Condo ซื้อที่ดิน และพัฒนาที่ดิน เน้นกลุ่ม Real Demand อยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก
3. Quality - พัฒนาและรักษามาตรฐานการก่อสร้างในทุกโครงการทั้งตัวบ้านและสาธารณูปโภค ด้วยการดูแลจากทีมงานคุณภาพ Quality Development ของบริษัท ถือเป็นการ Double Inspect และเรื่องการบริการ (Service) บริษัทสร้างความประทับใจ ในทุกระดับ พร้อมบริการเดินสาย Fiber Optic ให้ลูกบ้าน
4. Technology - พัฒนาแอปพลิเคชั่นใหม่ HOME+ (โฮมพลัส) ที่จะชวนทุกคนมาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ เหมือนมีผู้ช่วยเรื่องบ้านที่รู้ใจอยู่ใกล้ตัวตลอด 24 ชั่วโมง HOME+ แอปพลิเคชั่นที่มาสร้างสีสันในการใช้ชีวิตมากขึ้น ฟังก์ชั่นพิเศษสะสมคะแนน เพื่อแลกสิทธิพิเศษ ของรางวัลฟรีๆ และส่วนลดมากมาย เต็มอิ่มไปกับสาระน่ารู้ที่สร้างความสนุกสนาน เพลิดเพลิน พิเศษอีกระดับสำหรับลูกบ้านกับบริการครบวงจรและสิทธิพิเศษมากมาย สามารถใช้ได้ทั้งลูกบ้านและประชาชนทั่วไป
นวัตกรรมรูปแบบใหม่ของโครงการบ้านเดี่ยวที่แอบบอก...
1. FRASERS Clean and Cool Air - ที่เป็นเทคโนโลยีอากาศสะอาด เย็นสดชื่น และประหยัดไฟจากประเทศญี่ปุ่น ที่เหนือกว่าระบบทั่วไป มี Filter กรองจับสิ่งแปลกปลอม และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ลดความร้อน และอากาศเสียภายในบ้าน ช่วยทำให้หลับสบายในทุกคืน และสดชื่นในทุกเช้า
2. ระบบกันขโมยแบบเดินสาย เพิ่มระบบความปลอดภัยมากขึ้นอีกระดับ คือการแจ้งเตือนที่แม่นยำ หมดปัญหาสัญญาณรบกวน ควบคุมผ่าน Application
3. Spa & Endless Pool สระว่ายน้ำส่วนตัว ที่มาพร้อมกับระบบคลื่นว่ายน้ำทวนกระแส ออกกำลังกายเบา ๆ ด้วยการว่ายน้ำช้าๆ แบบทวนกระแสน้ำ เหมือนได้ว่ายน้ำอยู่ในสระน้ำที่มีความยาวไม่สิ้นสุด และยังสามารถใช้กระแสน้ำนวดผ่อนคลายแบบสปาได้อีกด้วย
4. EV Charger มีการจัดเตรียมระบบรองรับ EV Charger สำหรับรถยนตร์ไฟฟ้าให้ในทุกหลัง
คุณแสนผิน กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในปัจจุบันยอดขายไม่ได้สำคัญมากนัก เพราะก็ไม่สามารถประมาณการรายได้ แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่า คือ ความมั่นใจในผลิตภัณฑ์ของลูกค้าในการซื้อบ้าน ที่จะทำให้บริษัทก้าวไปสู่ความยั่งยืนได้อย่างแท้จริง จึงเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญมาตลอดในการพัฒนาบ้านให้เป็นบ้านในฝันของลูกค้าทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์ที่โดดเด่นสวยหรูถูกใจ ทำเลที่มีศักยภาพสูง พร้อมฟังก์ชั่นครบคุ้มโดนใจ ที่นับเป็นกุญแจสำคัญในการตัดสินใจซื้อของลูกค้า”